(0)
++Long Live The King++ ตามด้วย Red and White ปฐมกษัตริย์ว่านแดง + มือปราบสิบทิศว่านขาว ขั้นต่ำที่ 598 ครับผม








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่อง++Long Live The King++ ตามด้วย Red and White ปฐมกษัตริย์ว่านแดง + มือปราบสิบทิศว่านขาว ขั้นต่ำที่ 598 ครับผม
รายละเอียดพระอุดมโชค ปฐมกษัตริย์ ศรีวิชัยสุวรรณภูมิ

รุ่น ผู้พิทักษ์ทะเลใต้



จากลายลักษณ์กระเบื้องจาร สู่ลานทรายแก้ว ถึงแล้วแดนอาถรรพ์ เมื่อสองพันสามร้อย ปีเศษ เทศน์ประกาศธรรมสอน ณ ดอนทรายแห่งนี้ เป็นสักขีเมืองธรรมะ พระโสณะเคยนั่ง สั่งสอนทวยราษฎร์ เป็นนักปราชญ์เลื่องลือ คือ “นครดอนพระ”

คาบสมุทรทะเลใต้ เป็นดินแดนอาถรรพ์ ที่ประทับของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อยู่ในอำนาจปกครองดูแลของพระมหาเถรพรหมเทพ หาดทรายแก้วทะเลรอบแห่งนี้ เป็นที่ตั้งของเมืองช้างค่อม และเมืองนี้ครั้งหนึ่งเคยเป็นประตูชัยรับพระพุทธศาสนา เมื่อปลายปีฉลู (ประมาณ พ.ศ.235) พระสมณทูตที่พระเจ้าอโศกมหาราชส่งมาเผยแผ่พระพุทธศาสนาโดยทางเรือ มาขึ้นแผ่นดิน สุวรรณภูมิที่ ตำบลท่าเรือ เมืองช้างค่อม (นครศรีธรรมราช)

ตามคำโสณะทำนาย เมื่อวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 6 พ.ศ.264 กล่าวว่า สุรรณภูมิจะตั้งอยู่ได้แค่ พ.ศ.1040 แล้วจะย้ายไปตั้งอยู่ที่เมืองช้างค่อม เกิดอาณาจักรศรีวิชัย สุวรรณภูมิ

ใน พ.ศ.272 ขุนเดือนเด่นฟ้าสุวรรณภูมิ ได้มาสร้างเมือง สร้างพระธาตุทรงศรีวิชัยไว้ก่อนแล้ว และตั้งเป็นฐานทัพเรือใหญ่ จนเป็นเจ้าสมุทรในสมัยนั้น

กระเบื้องจารแผ่นที่ 74 หน้า 1 กล่าวว่า ขณะสร้างเมืองศรีวิชัย ตรงกับปี พ.ศ.1023 และมาขนคนไปจากสุวรรณภูมิอีก 15,000 คน ในปี พ.ศ.1026 โดย ขุนอินทรไสเรนทร์และขุนอินเขาเขียว โอรสสองพี่น้องของพระเจ้าจันทรภาณุ ครองสุวรรณภูมิ เมื่อ พ.ศ.1000 เป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายของสุวรรณภูมิ (เมื่อตั้งเมืองใหม่ย่อมนำเอาขนบธรรมเนียม ประเพณี และความเชื่อมาด้วย) เพราะคนสุวรรณภูมิมีความเคารพครูบาอาจารย์ ซึ่งเป็นต้นครูในสายวิชาต่าง ๆ และต้นครูนั้นล้วนเป็น ลูกของขุนอินทร์เขาเขียวและขุนหญิงกวักทองมา อันเป็นบรรพบุรุษของคนไทย ท่านท้าวจัตตุคาม ท้าวรามเทพ ได้วางรากฐานความเชื่อ และแนะนำให้ชาวเมืองศรีวิชัยสุวรรณภูมินับถือต้นครู คือ ขุนชายทั้ง 12 นักษัติ และ ขุนหญิง (แม่ซื้อ) ทั้ง 7 วัน ดวงตรานักษัติจึงเป็นตราประจำ เมืองนครศรีธรรมราชในกาลต่อมา และเมื่อสิ้นท่านทั้งสอง ชาวเมืองศรีวิชัยสุวรรณภูมิยกย่องท่านเสมือนเทพเนื่องจากมีบารมีมากเป็นที่นับถือของชาวเมือง จึงปั้นรูปท่านทั้งสองไว้ในวัดมหาธาตุวรมหาวิหาร ถือเสมือนเป็นเสื้อเมืองและทรงเมือง โดยเขียนว่า ฃัตตุคามและรามเทพ เพื่อบอกอนุชนรุ่นหลังให้รู้ว่า ทั้งสองท่านเป็นเชื้อสายกษัตริย์นักปกครอง เป็นผู้ปกปักรักษาลูกหลานเสมือนเทพเจ้า และปั้นเทวรูปพระเทวาธิราชยืน ไว้บนผนังเหนือขึ้นไปจากรูปปั้นของท้าวจัตตุคามและท้าวรามเทพ ในท่าประทับยืนสง่าโดยมีสองมือเท้าสะเอวและอีกสองมือถือจักรเพชรมือขวา ถือตรีเพชรมือซ้าย ถือเสมือนเป็นพระหลักเมืองผู้ประสิทธิประสาทความผาสุกแก่ลูกหลานให้ประสบสุข สำเร็จ ปลอดทุกข์ ปลอดภัย

ในปัจจุบันหลายท่านคงได้ประจักษ์แล้วว่าดินแดนอาถรรพ์หาดทรายแก้วแห่งนี้เป็น ที่ประดิษฐานของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่กล่าวมาเบื้องต้นและประทับอยู่ ณ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารนครศรีธรรมราช
ราคาเปิดประมูล588 บาท
ราคาปัจจุบัน598 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ10 บาท
วันเปิดประมูล - 07 ธ.ค. 2550 - 02:18:38 น.
วันปิดประมูล - 08 ธ.ค. 2550 - 17:27:32 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลcsun138 (1.9K)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 07 ธ.ค. 2550 - 02:19:17 น.
.


พระพิมพ์มือปราบสิบทิศ

-วัตถุประสงค์การจัดสร้าง

กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึก เนื่องจาก พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช เป็นผู้เอ่ยพระนาม แนะนำให้คนได้รู้จักท้าวจตุคาม ท้าวรามเทพ และการสร้างพระผงสุริยันจันทรา ท้าวจตุคาม ท้าวรามเทพในครั้งแรกนั้น ได้ดำเนินการสร้างโดยใช้บริเวณหลังกองบังคับการ โดยพล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช เป็นเจ้าพิธีกรรมจนเสร็จการ กองบังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราชต้องการรายได้มาสร้างอนุเสาวรีย์ ท้าวจุคาม ท้าวรามเทพ โดยรวมอยู่ในองค์เดียวกัน และสร้างอนุเสาวรีย์ พล.ต.ต.ขุนพันธ์รักษ์ราชเดช ไว้ที่บริเวณหน้ากองบังคับการ รายได้ที่เหลือวัดนำไปจัดซื้อรถนำเสด็จ 2 คัน รถตามเสด็จ 1 คัน รถปฏิบัติการพิเศษอีก 2 คัน ปรับปรุงห้องประชุม และตั้งกองทุนพล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ไว้ช่วยเหลือครอบครัวตำรวจต่อไป

-รูปแบบและความหมาย

รูปแบบท้าวจตุคาม ท้าวรามเทพ รุ่นมือปราบสิบทิศ มีรายละเอียดและความหมายดังนี้
-ด้านหน้า
1. ตรงกลาง มีรูปท้าวจตุคาม ท้าวรามเทพ รวมในองค์เดียว
2. พื้นที่ด้านขวาขององค์เทพ มีอักขระ นะ มะ และอักขระเขียนว่า จันทรภาณุ ชื่อพระบิดาของท่านทั้งสอง ด้านล่างองค์เพ มีอักขระเขียนว่า ขะตุคาม พื้นด้านซ้ายขององค์เทพ มีอักขระ พะ ทะ และอักขระเขียนว่า รามเทพ
3.รอบองค์เทพ เป็นรุปกงจักร บนพื้นกงจักร เป็นดวงตรา 12 นักษัติ
4. รอบกงจักร มีพระคาถาประจำทิศทั้งแปดทิศ ระหว่างพระคาถามีอักขระตัวสำเร็จคั่นพระคาถา 8 ตัว
5. รอบะระคาถาประจำทิศ มีพระราหูอมจันทร์ 8 ตน ตามที่นั่งพระราหูจรใน 1 วัน
6. รอบพระราหูมีอักขระกำเนิด กำกับระหว่างตัวพระราหู

-ด้านหลัง
1. ตรงกลาง เป็นรูป พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราฃเดฃ ถือดาบด้วยมือขวา อยู่ในท่าฟัน สวมเสื้อยืด เหน็บกริช มีผ้าคาดพุง (ก้อง) แบบนักรบโบราณ
2.พื้นที่เหนือไหล่มีอักขระกำเนิด 2 ตัว
3.ถัดจากกำเนิดอักขระแถวแรกใกล้ลำต้ว มีอักขระ อิฃะตะมะ เป็นหัวใจ อิธิเจ และพานมานาอุกะสะนะทุ เป็นหัวใจพาหุงทั้งแปดบท แถวที่สอง มีอักขระ นะโมพุทธายะ เป็นหัวใจพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ และคาถาพุทโธทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา คือคาถามิให้หลงทาง
4. ถัดจากอักขระกำเนิดด้านซ้าย แถวแรกมีอักขระ อะอิสุ อิสวาสุ คือหัวใจเทพอาวุธ และหัวใจแก้ว 3 ประการ แถวที่สองที่สันดาบ มีอักขระ จะภะกะสะ คือหัวใจพระกรณี ที่ใต้มือจับดาบใหล้กับด้ามดาบ มีอักขระ กะขะชะนะ คือหัวใจของการชนะ แถวมี่สามรอบนอกสุด จากด้านบนเวียนขวา มีอักษรไทย ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ มือปราบสิบทิศ ที่คมดาบมีอักขระ อะมะนุสสันติ เป็นคาถาปราบมนุษย์ ถัดจากคาถาปราบมนุษย์ มีอักษรไทยเขียนว่า ที่ระลึก พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ต่อท้ายด้วคำอวยพร อยู่เย็นเป็นสุข ปลอดทุกข์ ปลอดภัย และมีอักขระอีก 4 ตัว นะอะระหัง เป็นหัวใจ พระยอดนิพพาน
พระคาถาและหัวใจเหล่านี้ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ได้นำไปใช้เป็นประจำเวลาปฏิบัติหน้าที่และมีความเจริญมาตลอด


 
ราคาปัจจุบัน :     598 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     10 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    supachai2007 (188)(2)

 

Copyright ©G-PRA.COM
www1