.พระอาจารย์โอ เดิมชื่อ ธวัชชัย เป็นคนพื้นเพหล่มสักโดยกำเนิด
พระอาจารย์ โอท่านแก่กล้าวิชาอาคม เคยสยบภูตผีปีศาจที่ออกอาละวาดมานักต่อนัก ก่อนที่ท่านจะเกิดมานั้นมารดาของท่านฝันไปว่ามีคนชรานำทองคำมามอบให้หลายหีบ ต่อมาจึงตั้งครรภ์และคลอดท่านใต้ต้นมะขาม
เมื่อ ปู่ของท่านทราบเรื่องจึงลองคำนวณวัน เดือน ปีเกิดของท่านดูจึงทราบว่าเป็นผู้มีวาสานาบารมีในทางธรรมมาเกิด เพราะความเชื่อในแถบภาคเหนืออีสานนั้น เชื่อกันว่าถ้าผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมรณภาพลงจะกลับมาเกิดทันที เพื่อสั่งสมบุญบารมีต่อ
เมื่อ วัยเยาว์ท่านเป็นที่รักและเอ็นดูของคุณปู่มาก เรียกว่าดูแลจนไม่ยอมให้คลาดสายตาเลย คุณปู่มักจะนำท่านขึ้นขี่คอไปทำบุญที่วัดด้วยกันเป็นประจำ
เสาะแสวงหาพระอาจารย์ดีร่ำเรียนพระเวทย์วิชา
ท่าน ได้บรรพชาเป็นสามเณร โดยมี หลวงพ่ออำพล วัดชลประทาน อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่ออำพลนี้เป็นพระภิกษุทรงวิทยาคุณแห่งหล่มสัก ได้เมตตาถ่ายทอดวิชาตั้งธาตุต่างๆ , วิชาปลุกตัว , วิชารักษาโรค , วิชาแคล้วคลาดกำบัง ให้กับสามเณรโอจนเชี่ยวชาญ ระหว่างนี้เอง สามเณรโอได้มีนิมิตว่า มีดวงวิญญาณโอปาติกะซึ่งเป็นเจ้าของวัดมาบอกให้ท่านไปนำของวิเศษที่เก็บซ่อน อยู่ในเสาเอกของวัด เมื่อลองไปสำรวจดูก็พบตำราวิชามหาเสน่ห์เล่มหนึ่งสภาพเก่าคร่ำคร่า แต่พอยังมองเห็นอักขระเลขยันต์ได้ ซึ่งท่านก็ได้ตั้งหน้าตั้งตาร่ำเรียนและทดสอบด้วยตนเองจนแน่ใจ ปรากฏผลมีอิทธิคุณรุนแรงมาก
ภายหลังเมื่อสึกหาลาเพศจากสามเณรแล้ว ท่านจึงเริ่มสร้างเครื่องรางของขลังให้เพื่อนๆ ทดลองใช้ดู ปรากฏว่าได้ผลชะงัด เพื่อๆจึงพากันเรียกว่า อาจารย์ มาตั้งแต่บัดนั้น และเรียกเรื่อยมาตราบจนกระทั่งท่านอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ช่วงนี้ได้ไปศึกษาวิชาพระธรรมเก้าโกฏิจากพระอาจารย์บัว ที่เป็นชาวจังหวัดอุบลฯ และออกแสวงหาครูบาอาจารย์ร่ำเรียนสรรพเวทวิชาต่างๆ จนกระทั่งได้พบกับพระฤาษี นาม ฤาษีจันทา ศิษย์ผู้สืบทอดพระเวทวิทยามาจากบรมครูฤาษีพูพูอ่อง แห่งประเทศพม่า
บรมครูพูพูอ่อง พระอาจารย์แห่งบุเรงนอง และฤาษีจันทรา
ท่านฤาษีพูพูอ่องนี้กล่าวกันว่า ท่านเป็นพระอาจารย์องค์หนึ่งของพระเจ้าบุเรงนอง (ผู้ชนะสิบทิศ) จอมกษัตริย์ของพม่า ในสมัยนั้นท่านฤาษีพูพูอ่องได้สำแดงฤทธานุภาพเหาะขึ้นไปนมัสการพระมหาเจดีย์ ชเวดากอง ให้ผู้คนชาวพม่าเห็นเป็นอัศจรรย์ จนพระเจ้าบุเรงนองเกิดพระราชศรัทธาถวายตัวเป็นศิษย์ และพระองค์ทรงสร้างพระเครื่องรูปพระมหามัยมุนี ด้านหลังเป็นรูปบรมครูพูพูอ่องกำลังเหาะเหินเดินอากาศ มาให้ท่านฤาษีพูพูอ่องปลุกเสก เพื่อแจกทหารที่ไปราชการสงคราม แล้วส่วนหนึ่งนำไปบรรจุไว้ในถ้ำแห่งหนึ่งในเขตประเทศพม่า ต่อมามีชาวบ้านไปพบพระกรุนี้เข้า จึงมาบอกให้หลวงพ่ออุตตมะทราบ เนื่องจากหลวงพ่ออุตตมะบอกให้ช่วยค้นหามานานแล้ว หลวงพ่ออุตตมะนำพระเครื่องกลับมาเมืองไทยและแจกจ่ายให้ศิษยานุศิษย์จึงเป็น ที่มาของ พระยอดขุนพลบุเรงนอง ที่ทรงอิทธิคุณแรงกล้า เป็นที่เสาะแสวงหาของนักสะสมพระเครื่องทั่วไปอยู่ในเวลานี้
ในปัจจุบัน ยังคงมีหลายท่านเชื่อว่า ท่านฤาษีพูพูอ่องยังมีชีวิตอยู่ยืนยาวในป่าแถบชายแดนพม่า ยังเร้นกายถ่ายทอดวิชาและตามคุ้มครองรักษาว่านยาและเหล่าศิษยานุศิษย์เสมอมา แม้แต่ฤาษีจันทาเองก็บอกว่าตนเองมีชีวิตอยู่หลายร้อยปีแล้วเช่นกัน
ฤาษีจันทา ผู้สืบทอดวิชาจากบรมครูพูพูอ่อง
เมื่อพบกับท่านฤาษีจันทาครั้งแรก ท่านฤาษีได้แสดงฤทธิ์หลายอย่างให้พระอาจารย์โอได้ประจักษ์ในพลานุภาพแห่ง ฤทธิ์อภิญญาและพระเวทมนตรา จนพระอาจารย์โอเกิดความศรัทธา จึงจัดพานครูแต่งขันธ์ห้า ทำการยกครูถวายพระฤาษี เพื่อขอเป็นศิษย์ร่ำเรียนวิชาอย่างจริงจัง ท่านฤาษีจันทาก็เมตตาสั่งสอนให้หมดสิ้นวิทยายุทธ์ ไม่ว่าจะเป็นวิชาวาจาสิทธิ์ (พระยาปากเปิด) , วิชาธรรมธาตุ , วิชาบังบด , วิชากาสะท้อน จนพระอาจารย์โอมีความเชี่ยวชาญชำนาญพระเวทดีแล้ว ท่านฤาษีจันทาก็จากไปจนไร้ร่องรอยจนทุกวันนี้
เป็นศิษย์สำนักกุญแจไสยศาสตร์
ต่อ มาพระอาจารย์โอได้ไปพบกับ ท่านอาจารย์ณรงค์ฤทธิ์ ไชยคีรี บุตรของท่านอาจารย์ชุม ไชยคีรี ปรมาจารย์ผู้สืบทอดวิชาสำนักเขาอ้อและผู้ก่อตั้งสำนักกุญแจไสยศาสตร์ ได้ศึกษาศาสตร์วิชาสำนักเขาอ้อแขนงต่างๆ จากอาจารย์ณรงค์ฤทธิ์จนแก่กล้าขึ้นตามลำดับ สามารถเข้าถึงวิถีพระธรรมราชของปู่คง หรือท่านอาจารย์คง วัดแค (ปรมาจารย์แห่งท่าขุนแผนและอาจารย์ชุม ไชยคีรี) หลังสิ้นบุญท่านอาจารย์ณรงค์ฤทธิ์แล้ว พระอาจารย์โอก็ไปขอต่อวิชาจากคุณแม่บุญสืบ ไชยคีรี ภรรยาผู้สืบสายวิชามาจากอาจารย์ชุม ไชยคีรี
ตำราพระเวทเคลื่อนที่
เป็น ที่รู้กันในหมู่ศิษย์ใกล้ชิดว่าท่านได้ค้นคว้าเรียนรู้พระเวทวิทยาคมจากครู บาอาจารย์ครอบคลุมครบทุกสาย เช่น สำนักเขาอ้อ , วัดประดู่ทรงธรรม , เขาพนมกุเลน , ภูเขาควาย , ปรมาจารย์สายพม่า เป็นต้น ด้วยความที่พระอาจารย์โอเป็นผู้คงแก่เรียน ใฝ่ใจศึกษาในศาสตร์แขนงต่างๆ หากทราบว่าใครมีวิชาดี ท่านก็จะดั้นด้นไปศึกษาเรียนหรือต่อวิชาด้วยทันทีไม่ว่าจะยากลำบากสักปานใด เมื่อได้ยกครูร่ำเรียนวิชาด้วยความเคารพนอบน้อมแล้ว ก็จะขยันหมั่นเพียรร่ำเรียนจนสำเร็จวิชานั้นๆ ทุกครั้งไป และนำสรรพวิชาเหล่านั้นกลับมาสงเคราะห์ช่วยเหลือศิษยานุศิษย์และญาติโยมที่ เดือดร้อนให้คลายทุกข์ใจกันไป เท่าที่ท่านจะทำได้ เมื่อเขาเหล่านั้นพ้นทุกข์แล้ว ท่านก็จะสอนให้ดำรงชีวิตต่อไปในศีลในธรรมตามครรลองของพุทธศาสนา ตามแบบโบราณาจารย์รุ่นเก่าที่นิยมปฏิบัติกันสืบต่อกันมา
ครูบาอาจารย์ผู้ถ่ายทอดวิชา
๑. โยมปู่ (เรียนวิชาสายสำเร็จลุน , พระธรรมเก้าโกฎ)
๒. หลวงพ่ออำพล วัดชลประทาน จ.เพชรบูรณ์ (เรียนวิชาตั้งธาตุ , หนุนธาตุ , แคล้วคลาดกำบัง , รักษาโรค)
๓. ตำรามหาเสน่ห์โบราณที่ซ่อนอยู่ในเสาเอก วัดชลประทาน
๔. พระอาจารย์บัว จ.อุบลราชธานี (เรียนวิชาพระธรรมเก้าโกฎเพิ่มเติม)
๕. ฤาษีจันทา (เรียนวิชาธรรมธาตุ , กาสะท้อน , และพระเวทสายพม่า)
๖. สำนักกุญแจไสยศาสตร์ (เรียนวิชาสายเขาอ้อ จากอาจารย์ณรงค์ฤทธิ์ และคุณแม่บุญสืบ ไชยคีรี)
๗. หลวงพ่อประเทือง วัดหนองยางคอย จ.เพชรบูรณ์ (เรียนวิชาไสยศาสตร์ทั่วไป)
ฯ ล ฯ
ศิษย์ผู้สืบทอดวิชา
มี ศิษย์ทั้งพระภิกษุและฆราวาสมากมาย มาขอกราบเป็นศิษย์เพื่อร่ำเรียนวิชา แต่ท่านจะรับเป็นศิษย์หรือไม่นั้น อยู่ที่ท่านจะพิจารณาเป็นรายๆไป
วิชาที่โดดเด่นเป็นพิเศษ
๑. วิชาเมตตามหาเสน่ห์ ชั้นสูง
๒. วิชามหาโชค มหาลาภ
๓. วิชาเรียกทรัพย์ เรียกลาภ
๔. วิชากลับดวง (เคลื่อนย้ายจักรวาล)
๕. วิชาลงมหาว่านไพลดำ, ลงทองมหาปรารถนา
๖. วิชาสักเสกเลขยันต์
๗. วิชาลงตะกรุดตำรับโบราณ
ผลงานการพัฒนา
ปี พ.ศ. ๒๕๕๑ พระอาจารย์โอได้เดินทางพบสถานที่แห่งหนึ่งดูเงียบสงบร่มรื่น เป็นสถานที่สัปปายะ เหมาะสำหรับสร้างเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม จึงติดต่อขอซื้อที่ดินผืนนั้นจากเจ้าของที่ทันที ซึ่งเจ้าของที่ก็ใจดียอมขายให้ แต่พระอาจารย์โอมีปัจจัยไม่เพียงพอ จึงได้ดำริจัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นมารุ่นหนึ่งในรูปแบบพระพิฆเนศ เทพเจ้าแห่งความสำเร็จ ชื่อรุ่น เคลื่อนย้ายจักรวาล เพื่อเป็นที่ระลึกให้กับลูกศิษย์ลูกหาที่มีความประสงค์จะร่วมบุญในการจัด ซื้อที่ดินสร้างสำนักปฏิบัติธรรมในครั้งนี้ วัตถุประสงค์ เพื่อสมทบทุนซื้อที่ดินก่อสร้างสถานที่ปฏิบัติธรรมในเขตอำเภอหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ |
|