ประวัติหลวงพ่อชุ่ม
กำเนิดที่ราชบุรี เมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๘ ปีเถาะ จุลศักราช ๑๒๔๑ อันตรงกับวันที่ ๒๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๒๒ ที่ตำบลคุ้งน้ำวน อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี เป็นบุตรคนโตในจำนวนทั้งหมด ๙ คนของนายทุ้ม กลิ่นเทพเกษร และนางลำใย กลิ่นเทพเกษร ในครั้งที่ท่านมีอายุได้ ๙ ปี บิดาได้นำไปฝากเรียนหนังสือขอมและไทยกับหลวงพ่อโต๊ะ วัดราชคาม ครั้งมีอายุได้ ๑๖ ปี จึงบรรพชาเป็นสามเณร จากนั้นได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดท่าสุวรรณ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี เมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๔๑ ตรงกับวันอาทิตย์ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๖ ปีจอ จุลศักราช ๑๒๖๐ โดยมีพระอธิการพู่ วัดราชคาม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า พุทธสโร
จากนั้นจึงจำพรรษาอยู่ ณ วัดราชคาม ได้ศึกษาเล่าเรียนวิปัสสนากรรมฐานจากพระอธิการพู่ และพระอธิการอินทร์ (หลวงพ่อดำ วัดตาลบำรุงกิจ) พระ อนุสาวนาจารย์ และพระกรรมวาจารย์ของท่าน ในปี พ.ศ. ๒๔๔๘ เมื่อพระอธิการพู่ เจ้าอาวาสวัดราชคาม มรณภาพลง หลวงพ่อชุ่ม พุทธสโร ก็ได้รับการนิมนต์จากญาติโยมให้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดสืบแทน ซึ่งเมื่อท่านได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดแล้ว ได้ทำนุบำรุงวัดสุดความสามารถ ได้ดำเนินการบูรณะปฏิสังขรณ์ทั้งในด้านวัตถุ ตลอดจนการศึกษาของพระภิกษุสามเณร ได้จัดสร้างพระอุโบสถ ศาลาการเปรียญ หอสวดมนต์ รอยพระพุทธบาทจำลอง พระประธานประจำพระอุโบสถ ศาลาท่าน้ำ หอระฆัง ฌาปนกิจสถาน และที่สำคัญยิ่งคือ ได้จัดสร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรมสำหรับเป็นสถานที่ศึกษาทางธรรม ซึ่งก็คือการเรียนพระไตรปิฏกนอกจากนั้นยังได้ดำเนินการจัดสร้างโรงเรียน เพื่อเป็นสถานที่ศึกษาของลูกหลานชาวบ้านในละแวกวัด ซึ่งมีชื่อว่า โรงเรียนประชาบาลชุ่มประชานุกูล
นอก จากนั้น ยังได้ช่วยเหลือวัดใหม่ต้นกระทุ่ม จังหวัดราชบุรีในการดำเนินการสร้างพระอุโบสถ ในปี พ.ศ. ๒๔๖๗ หลวงพ่อชุ่ม พุทธสโร ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ และเป็นเจ้าคณะตำบลคุ้งน้ำวน ในปี พ.ศ. ๒๔๗๓ ถึง พ.ศ. ๒๔๗๙ ได้รับสมณศักดิ์เป้นพระครูชั้นประทวน
หลวง พ่อชุ่ม พุทธสโร สมัยหนุ่ม ๆ เคยเดินธุดงค์ข้ามเทือกเขาตะนาวศรีเข้าไปปักกลดบำเพ็ญเพียรภาวนากับพระ อาจารย์ลึกลับในถ้ำมะละแหม่งในเขตพม่ากับหลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ (พระไพโรจน์วุฒาจารย์) และฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เรียนวิชาอาคมต่าง ๆ มาด้วยกัน กรมหลวงชุมพรฯ เคยเสด็จมาเยี่ยมถึงที่วัดราชคาม เพราะเป็นศิษย์พระอาจารย์เดียวกัน
หลวง พ่อชุ่ม พุทธสโร มรณภาพลงเมื่อวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๘ เวลา ๐๔.๓๐ น. มีอายุได้ ๗๗ ปี ๕๗ พรรษา และร่างกายหาเน่าเปื่อยไม่.
วัตถุ มงคลของหลวงพ่อชุ่ม พุทธสโร
1. เหรียญแสตมป์สี่เหลี่ยม ด้านหน้าสกรีนรูปท่าน ด้านหลังเป็นยันต์เนื้ออลูมิเนียม ๒ ชิ้นประกบกัน หาดูได้ยากยิ่ง สร้างในปี พ.ศ. ๒๔๘๔ ประมาณ ๒,๐๐๐ เหรียญออกให้เช่าบูชาเพื่อหาทุนสร้างพระอุโบสถวัดใหม่ต้นกระทุ่ม
2. เหรียญปั๊มรูปเหมือนรุ่นแรก (ออกที่วัดราชคาม) สร้างในปี พ.ศ. ๒๔๘๖ จำนวนการสร้าง ๑๐,๐๐๐ เหรียญ ประกอบไปด้วยเนื้อทองฝาบาตร(สร้างน้อย) เนื้อทองเหลือง เนื้ออัลปาก้า และเนื้อทองแดง มี ๒ พิมพ์คือยันต์อุ (นิยม เพราะสร้างก่อนจนบล๊อกชำรุด ) กับยันต์จุด
3. เหรียญปั๊มรูปเหมือนรูปใข่ขนาดเล็กเป็นรุ่นที่ ๒ สร้างพ.ศ. ๒๔๙๔ มี ๓ เนื้อประกอบไปด้วย ทองเหลือง อัลปาก้า และทองแดง
4. พ.ศ. ๒๔๙๗ ก่อนหลวงพ่อชุ่ม พุทธสโร จะมรณะภาพ ๑ ปี ได้มีการจัดสร้างรูปเหมือนขนาดใหญ่ของหลวงพ่อชุ่ม พุทธสโรขึ้นและได้จัดสร้างรูปหล่อขนาดหน้าตักกว้าง ๑ นิ้ว ขึ้นด้วย เป็นเนื้อโลหะผสมแก่ทองเหลืองจำนวนการสร้าง ๑,๑๐๐ องค์ โดยในการสร้างครั้งแรกนั้น ช่างที่กรุงเทพฯได้ สร้างตัวอย่างมาถวายให้หลวงพ่อเลือกจำนวน ๑๐ องค์ (ภายหลังแจกให้แก่กรรมการวัด)โดยทั้ง ๑๐ องค์มีการตกแต่งมาเรียบร้อยแล้วแต่ด้วยอายุของหลวงพ่อที่มากแล้วทำให้การ สร้างแล้วแต่งองค์พระทำให้เสียเวลารวมทั้งต้นทุนที่แพงเกินไปจึงไม่ได้ ผลิตออกมา แต่ได้เลือกเอาพระที่หล่อเสร็จแล้วไม่ได้ตกแต่งแต่ให้รมดำมาทดแทน และได้ตอกโค๊ตอักษรใต้ฐานว่า พระครูชุ่ม (บางองค์ตอกด้านหน้าที่ฐานก็มี) ซึ่งต้องสังเกตให้ดีเพราะเป็นข้อพิจารณาพระเก๊-แท้ได้เป็นอย่างดี ส่วนพระที่ไม่ได้ตอกก็มีเช่นกันแต่มีจำนวนน้อยแค่ ๑๐๐ องค์ เนื่องจากหลังจากสร้างเสร็จได้มีการออกให้บูชาไปส่วนหนึ่งแล้ว แต่ตัวตอกยังดำเนินการส่งมาไม่ถึงและพระชุดนี้ได้ออกให้บูชาไปก่อนแล้ว
ลักษณะของรูปหล่อลอยองค์ประทับนั่งสมาธิบนฐานเขียง ห่มจีวรพาดผ้าสังฆาฏิเฉียง ด้านหลังเห็นสังฆาฏิ และรอยจีวรอย่างชัดเจน
CR : http://www.baanjompra.com/webboard/forum.php?mod=viewthread&tid=970
ใต้ฐานตรงกลางเยื้องไปด้านหลังมีรอยอุดด้วยทองแดงอย่างเห็นได้ชัด เป็นรอยอุดเม็ดกริ่งและผงพุทธคุณไว้ด้านใน |
|