(0)
เคาะแรกก็แดง เหรียญหลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ ลพบุรี ปี2517 เนื้อนวะ สวยๆเดิม ตอกโค็ตชัดเจน






รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องเคาะแรกก็แดง เหรียญหลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ ลพบุรี ปี2517 เนื้อนวะ สวยๆเดิม ตอกโค็ตชัดเจน
รายละเอียดหลวงปู่คำมี สังขารไม่เน่าเปื่อย ลพบุรี

ปาฏิหาริย์ของหลวงปู่

ร่างไม่เปียกฝน
ขณะที่หลวงปู่ปักกลดเจริญภาวนาอยู่ที่ป่าบ้านหนองปลาดุก(จากบันทึกไม่ทราบว่าเป็นจังหวัดใด) ครั้งนั้นมีหลวงตาทองคำและหลวงพ่อหงษ์ ร่วมธุดงค์ไปด้วย เกิดพายุฝนตกหนักน้ำป่าไหลบ่ามาทางท่านและพระภิกษุทั้งสอง หลวงตาทองคำและหลวงพ่อหงส์ได้หนีน้ำป่าละจากกลดที่ท่านพักอยู่เดินมายังกลดหลวงปู่คำมี ท่านทั้งสองได้พบกับความแปลกใจ น้ำป่ามิได้ไหลเข้ามาบ่าท่วมทำลายกลดของหลวงปู่คำมีแต่อย่างใดไม่ อีกทั้งจีวรของหลวงปู่คำมีก็มิได้เปียกฝนอย่างเช่นพระภิกษุทั้งสอง

ย่นระยะทาง
คราวที่ท่านพำนักจำพรรษาอยู่ที่วัดถ้ำคูหาสวรรค์ใหม่ วัดดงจำปา ได้มานิมนต์ท่านไปฉันท์เพลที่บ้าน หลวงปู่สั่งให้ผู้นิมนต์เดินทางล่วงหน้าไปก่อน เมื่อผู้นิมนต์กลับไปถึงบ้านถึงกับตกตลึงเมื่อเห็นหลวงปู่กำลังตักน้ำล้างเท้า สร้างความสงสัยให้แก่พวกเขายิ่งนัก ว่าท่านมาได้อย่างไรแซงพวกเขาขึ้นมาตอนไหน เพราะทางแถวนั้นเป็นป่าทั้งหมดมีทางเดินเพียงทางเดียว

เสกปูนให้จืด
ทุกครั้งที่ก่อนจะเข้าพิธีหลวงปู่จะขอปูนแดงที่กินกับหมาก ก้อนขนาดเท่าหัวแม่มือมาทำการเสกให้จืดเสียก่อนเพื่อเป็นเคล็ดในด้านแคล้วคลาดปลอดภัย เคยมีผู้ทดลองชิมปูนแดงที่หลวงปู่เสกแล้วปรากฏว่าจืดสนิท

หายตัวได้
พระอาจารย์หวาน หลวงพี่จันทร์ พระทั้งสองซึ่งจำพรรษาอยู่กับหลวงปู่คำมี ที่วัดถ้ำคูหาสวรรค์เล่าให้ฟังว่า ได้มีญาติโยมหลวงปู่และพระในวัดไปฉันท์เพลที่บ้านดงน้อย ทางไปบ้านดงน้อยนั้นต้องอาศัยเพียงการเดินเท้าไปเพราะทางเดินเป็นป่าและทุ่งนา ขากลับจากฉันท์เพลผ่านสระน้ำ อากาศวันนั้นร้อนมาก หลวงปู่ได้บอกกับพระทั้งสองว่า ท่านขอสรงน้ำสักครู่ขอให้ท่านทั้งสองรออยู่ก่อน ในขณะที่ท่านสรงน้ำนั้นปรากฏว่าพระทั้งสองรูปไม่สามารถมองเห็นหลวงปู่ จึงเที่ยวตามหาในบริเวณนั้น เป็นเวลานานแต่ก็ไม่พบ พระทั้งสองรูปจึงปรึกษากันว่าหลวงปู่คงไปจากที่นั้นเสียแล้วจึงได้ชวนกันกลับวัด เมื่อพระทั้งสองรูปมาถึงที่วัดก็ถึงกับตกตลึงเมื่อพบหลวงปู่นั่งอยู่ก่อนแล้ว หลวงปู่บอกพระทั้งสองรูปว่าเห็นพระทั้งสองตามหาท่าน ทั้งที่ท่านก็ไม่ได้ไปไหน
พระอาจารย์หวาน เป็นศิษย์สืบทอดวิชาท่านหนึ่งของหลวงปู่ ปัจจุบันมรณภาพแล้ว ส่วนหลวงพี่จันทร์ได้กลับไปจำพรรษาที่บ้านเกิดของท่านคือ วัดศรีพิมล ต.บ้านโต้น อ.พระยืน จ.ขอนแก่น

ขโมยของไม่ได้
จ่าสำราญ (ขอสงวนนามสกุล) ท่านเป็นทหารปืนใหญ่อยู่ในจังหวัดลพบุรี เล่าให้ฟังตอนไปทำบุญที่วัดถ้ำคูหาสวรรค์ เพื่อสมทบทุนสร้างพระอุโบสถ จ่าสำราญแกได้รับแจกเหรียญหลวงปู่คำมีมาเหรียญหนึ่ง เมื่อกลับถึงบ้านได้วางเหรียญของหลวงปู่ไว้บนหลังโทรทัศน์และลืมสนิทเนื่องจากแกไม่ได้ให้ความสนใจเรื่องเครื่องรางของขลังใดๆ เวลาต่อมาหลายวันหลังจากนั้น ได้มีขโมยได้งัดบ้านแกเข้าไปขโมยของภายในบ้าน ขโมยคนนั้นได้เข้าไปพยายามยกโทรทัศน์แต่ยกไม่ขึ้น โดยช่วยกันยกทั้งสองคนแต่ก็ยกไม่ขึ้น จ่าสำราญแกรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเห็นขโมยทั้งสองกำลังพยายามยกโทรทัศน์กันเป็นสามารถแต่ยกไม่ขึ้น ทั้งที่ความจริงโทรทัศน์เครื่องนั้นไม่ได้หนักมากแต่อย่างใด ลำพังคนเดียวก็สามารถยกขึ้นได้ และเมื่อขโมยเห็นเจ้าของบ้านตื่นขึ้นมาจึงชักปืนยิงจ่าสำราญ โดยยิงเท่าไรก็ไม่ออก เสียงดัง แชะ แชะ อยู่อย่างนั้น จ่าสำราญได้สติจึงชาร์จเข้าไปหวังจะจัดการเจ้าขโมยสองคนนั้น ขโมยทั้งสองคนเห็นว่าจ่าสำราญยิงไม่ออกจึงขวัญหนีโกยแน่บโดยไม่ได้อะไรไปแม้แต่ชิ้นเดียว ถ้าถามว่าจ่าแกมีอะไรดีปืนถึงยิงไม่ออก ก็ขอบอกว่าทั้งเนื้อทั้งตัวแกนอกจากเสื้อผ้าแล้วไม่มีอะไรเลย นอกจากเหรียญหลวงปู่คำมีที่วางอยู่บนหลังโทรทัศน์ที่เจ้าขโมยสองคนนั้นพยายามยกอยู่เท่านั้น

ศึกษาวิชากับหลวงปู่ศรีทัต
เมื่อหลวงปู่กลับมากราบพระครูพล อาจารย์องค์แรกของท่านและโปรดญาติโยมที่วัดชุมพรพิสัยได้ระยะหนึ่ง ท่านได้เกิดความตั้งใจที่จะเดินทางไปไหว้พระธาตุพนมที่ฝั่งไทย จึงลาพระครูพลเพื่อเดินทางมาทางฝั่งไทย พอข้ามฝั่งโขงเหยียบถึงแผ่นดินไทย เกิดได้ทราบข่าวบารมีความเก่งกล้าของพระครูศรีทัต แห่งอำเภอท่าอุเทน เมื่อนมัสการพระธาตุพนมเสร็จท่านจึงยังไม่กลับไปสุวรรณเขต แต่มุ่งหน้าสู่อำเภอท่าอุเทนเพื่อไปกราบนมัสการพระครูศรีทัตและขอฝากตัวเป็นศิษย์ เมื่อพระครูศรีทัตทราบความเป็นมาของหลวงปู่คำมีจึงรับสามเณรคำมีไว้เป็นศิษย์ หลวงปู่คำมีเล่าว่าได้อยู่รับใช้และศึกษาธรรมจากหลวงปู่ศรีทัต ที่เมืองไทยถึงสามพรรษา หลวงปู่ศรีทัตนั้นมีความเข้มงวดมากตั้งแต่เรื่องพระธรรมวินัย จนไปถึงการศึกษาวิชาต่างๆท่านมีความเคร่งครัดมาก จนเมื่อหลวงปู่คำมีอายุครบบวชท่านจึงลาหลวงพ่อศรีทัตกลับไปยังฝั่งลาวเพื่อทำการอุปสมบท
ราคาเปิดประมูล20 บาท
ราคาปัจจุบัน600 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ20 บาท
วันเปิดประมูล - 26 พ.ย. 2557 - 23:16:28 น.
วันปิดประมูล - 27 พ.ย. 2557 - 23:24:30 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลsiriyukol (1.5K)(1)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 26 พ.ย. 2557 - 23:26:52 น.

ศึกษาวิชากับหลวงปู่ศรีทัต

เมื่อหลวงปู่กลับมากราบพระครูพล อาจารย์องค์แรกของท่านและโปรดญาติโยมที่วัดชุมพรพิสัยได้ระยะหนึ่ง ท่านได้เกิดความตั้งใจที่จะเดินทางไปไหว้พระธาตุพนมที่ฝั่งไทย จึงลาพระครูพลเพื่อเดินทางมาทางฝั่งไทย พอข้ามฝั่งโขงเหยียบถึงแผ่นดินไทย เกิดได้ทราบข่าวบารมีความเก่งกล้าของพระครูศรีทัต แห่งอำเภอท่าอุเทน เมื่อนมัสการพระธาตุพนมเสร็จท่านจึงยังไม่กลับไปสุวรรณเขต แต่มุ่งหน้าสู่อำเภอท่าอุเทนเพื่อไปกราบนมัสการพระครูศรีทัตและขอฝากตัวเป็นศิษย์ เมื่อพระครูศรีทัตทราบความเป็นมาของหลวงปู่คำมีจึงรับสามเณรคำมีไว้เป็นศิษย์ หลวงปู่คำมีเล่าว่าได้อยู่รับใช้และศึกษาธรรมจากหลวงปู่ศรีทัต ที่เมืองไทยถึงสามพรรษา หลวงปู่ศรีทัตนั้นมีความเข้มงวดมากตั้งแต่เรื่องพระธรรมวินัย จนไปถึงการศึกษาวิชาต่างๆท่านมีความเคร่งครัดมาก จนเมื่อหลวงปู่คำมีอายุครบบวชท่านจึงลาหลวงพ่อศรีทัตกลับไปยังฝั่งลาวเพื่อทำการอุปสมบท


 
ราคาปัจจุบัน :     600 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     20 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    anutat (170)(4)

 

Copyright ©G-PRA.COM