ชื่อพระเครื่อง | @@ พระอุปคุตฉกบาตร เนื้อไม้กฤษณา ขนาดหน้าตัก 5นิ้วคริ่ง ฐาน 6นิ้วคริ่ง สูง 9 นิ้วบูชาจากวัดเจดีย์เชวดากอง เมือง ย่างกุ้ง ประเทศพม่า @@ |
รายละเอียด | @@ พระอุปคุตฉกบาตร เนื้อไม้กฤษณา ขนาดหน้าตัก 5นิ้วคริ่ง ฐาน 6นิ้วคริ่ง สูง 9 นิ้ว บูชาจากวัดเจดีย์เชวดากอง เมือง ย่างกุ้ง ประเทศพม่า @@
กฤษณา เป็นไม้ที่กล่าวถึงนับแต่ครั้งพุทธกาลในฐานะ ของที่มีค่าหายาก ราคาแพงดั่งทองคำ เป็นหนึ่งในของหอมธรรมชาติสี่อย่างที่เรียกว่า จตุรชาติสุคนธ์ (กฤษณา กะลำพัก จันทน์ และดอกไม้)ไม้กฤษณาเป็นสินค้าต้องห้ามของประชาชนทั่วไปเพราะมีกฎหมายให้ค้าขายได้เฉพาะกษัตริย์มาตั้งแต่โบราณ ต้นกรุงศรีอยุธยา ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ไม้กฤษณาถูกใช้เป็นเครื่องราชบรรณาการ และเป็นสินค้าไปเมืองจีน สรรพคุณของกฤษณาแพร่กระจายไปถึงคาบสมุทรอาหรับในตะวันออกกลาง อาณาจักรกรีก โรมัน อียิปต์โบราณและ ผลผลิตจากต้นกฤษณามีเฉพาะในเอเชีย โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้น ไม้กฤษณา จึงเป็นสัญลักษณ์ตะวันออกและสุวรรณภูมิหรือประเทศไทยในปัจจุบัน
พระอุปคุต หรือ พระบัวเข็ม เป็นพระภิกษุองค์สำคัญองค์หนึ่งในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช[1] ชื่อ "อุปคุต" แปลว่า ผู้คุ้มครองรักษา
พระอุปคุตเป็นพระที่เป็นที่นิยมนับถือของชาวอินเดีย มอญ และชาวไทยวน และอีสาน สมัยก่อนพระมอญได้นำพระบัวเข็มมาถวายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในตอนที่พระองค์ผนวชอยู่ แม้แต่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็ยังทรงกล่าวถึงความเป็นมาในพระราชนิพนธ์พระราชพิธีสิบสองเดือนด้วย
เชื่อกันมาว่า พระอุปคุตมีอิทธิฤทธิ์ปราบท้าววสวัตตี มีเรื่องเล่ามาว่าประมาณปลายพุทธศตวรรษที่ 2 หลังพุทธปรินิพพาน ณ นครปาตลีบุตราชธานี (ปัจจุบันคือเมืองปัตนะ ภาคใต้ของประเทศอินเดีย) พระเจ้าอโศกมหาราช ผู้ครองราชสมบัติในขณะนั้น ทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง ได้ฉลองสมโภชพระสถูปเจดีย์ทั้งหมดที่พระองค์สร้างอย่างยิ่งใหญ่ ตลอด 7 ปี 7 เดือน 7 วัน แต่ถูกพญามารมาผจญ ท่านจึงนิมนต์พระอุปคุตไปปราบพญามารจนยอมแพ้[1] จากนั้นพระอุปคุตก็มีชื่อเสียงในทางปราบมาร ท่านมีอีกชื่อว่า "พระบัวเข็ม"
ปัจจุบันยังมีความเชื่อในหมู่ชาวไทยวนว่า พระบัวเข็มหรือพระอุปคุตยังมีชีวิตอยู่ ในทุกวันขึ้น 15 ค่ำที่ตรงกับวันพุธ ชาวไทยวนจะเรียกว่าเป็น "วันเป็งปุ๊ด" พระอุปคุตจะออกบิณฑบาตในร่างเณรน้อย และจะออกมาเวลาเที่ยงคืน ด้วยเหตุนี้จึงเกิดประเพณีตักบาตรกลางคืนขึ้น
พระบัวเข็ม หรือ พระอุปคุต ในทางพระเครื่องมีประวัติว่า "พระบัวเข็ม" เดิมเป็นพระพุทธรูปมอญ เข้ามาแพร่หลายในไทยช่วงสมัยรัชกาลที่ 3 โดยพระรามัญได้นำมาถวายพระวชิรญาณภิกขุ (ต่อมาคือ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4) โดยเชื่อในพุทธคุณว่าเป็นพระศักดิ์สิทธิ์ ก่อให้เกิดลาภผล ความมั่งมี ขจัดภยันตราย และมีอิทธิฤทธิ์ในทางขอฝนอีกด้วย
จากหนังสือประวัติพระพุทธศาสนา โดยเสถียร โพธิ์นันทะ ได้กล่าวถึงประวัติพระอุปคุตเถระว่า พระอุปคุตเกิดในสกุลวาณิช เป็นบุตรพ่อค้าเครื่องหอม เมืองมถุรา ซึ่งเป็นนครตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำยมนา มีพี่น้องร่วมครรภ์ 3 คน คือมีพี่ชาย 2 คน เดิมบิดาของท่านได้ให้สัญญากับพระสาณวารีว่า ถ้าตนมีบุตรชายก็จะให้บรรพชาอุปสมบท ครั้นภริยาคลอดบุตรชายคนแรกก็หายอมถวายไม่ อ้างว่าจะต้องเอาไว้ช่วยดูแลทรัพย์สินให้เหย้าเรือน จักถวายบุตรชายคนที่สอง แต่เมื่อภริยาคลอดบุตรชายคนรอง บิดาก็คงบิดเบือนอีกว่า ต้องเอาไว้สำหรับวิ่งเต้นเก็บหนี้เก็บสินเขาตามหัวเมือง ได้มีบุตรชายคนที่สามเถอะเป็นต้องถวายให้ไปบรรพชาอุปสมบทเด็ดขาด
ครั้น ต่อมาภริยาก็คลอดบุตรชายมีลักษณะงดงามยิ่งนัก บิดาจึงตั้งชื่อว่า อุปคุต แต่บิดาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับสัญญา ข้างพระสาณวารีพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่ถึงเวลาสมควรก็นิ่งเสีย จนกระทั่งอุปคุตเจริญวัยเป็นหนุ่ม บิดาก็ให้เป็นคนดูแลขายเครื่องหอมที่ในร้าน ปรากฏว่า เครื่องหอมขายดีเป็นเทน้ำเทท่า (นี่เป็นคุณวิเศษสร้างเสน่ห์นิยมของอุปคุตประการหนึ่ง) ต่อมาวันหนึ่งพระสาณวารีได้แวะเข้าไปในร้านและกล่าวธรรมกถาแก่อุปคุต ชายหนุ่มเกิดความสลดสังเวชมีดวงตาเห็นธรรม คราวนี้พระสาณวารีจึงได้ไปทวงสัญญา บิดาพระอุปคุตอับจนจึงได้ตัดใจอนุญาตให้อุปคุตออกอุปสมบทได้
จำเดิม แต่อุปสมบทพระอุปคุตได้เจริญวิปัสสนาญาณโดยลำพัง ก็ได้
บรรลุแก่พระอรหัตผล และได้เป็นคณาจารย์สั่งสอนทางสมถกัมมัฏฐาน เป็นสำนักวิปัสสนากัมมัฏฐานที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในอโศกอวทานว่า มีพระอรหันต์ซึ่งเป็นศิษย์พระอุปคุตถึง 18,000 องค์
จากหนังสือพระปฐมสมโพธิกถา พระนิพนธ์กรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส ในปริเฉทที่ 28 "มารพันธปริวรรถ" ได้กล่าวถึงพระอุปคุตว่า "พระอุปคุตนั้นท่านจุติต่อเมื่อพระพุทธศาสนาล่วงไปได้ 218 พระวัสสา และพระบรมศาสดากาลเมื่อยังทรงพระชนมายุอยู่ ก็ได้ตรัสพยากรณ์ไว้ว่า สืบต่อไปภายหน้าจะมีพระภิกษุรูปหนึ่งนามว่า อุปคุตเถระจักได้ทรมานพญามารให้เสื่อมพยศอันร้ายพ่ายแพ้อานุภาพแล้วจะกล่าว ปฏิญาณปรารถนา ซึ่งพุทธภูมิ" หนังสือปฐมสมโพธิฯ นี้สมเด็จพระสังฆราช วัดโพธิ์ ได้ถอดความนิพนธ์ไว้ในหนังสือแจกเป็นกรรมการในงานฉลองพระพุทธมงคลนิมิต ตั้งตรงจิต อภิปูชนีย์ พระประธานประจำพระอุโบสถ วัดคะตึกเชียงมั่น จ.ลำปาง ซึ่งกล่าวถึงอภินิหารต่างของพระอุปคุตไว้ ตอนทรมานพญามารจนละพยศ
จากความเชื่อว่าพระอุปคุตท่านจำศีลอยู่ท่ามกลางมหาสมุทร จึงมีผู้สร้างรูปเคารพเป็นรูปท่านถือดอกบัวอยู่ภายในหอยบ้างเป็นพระบูชา มีดอกบัวปิดอยู่ที่ศีรษะและมีกุ้งหอยปูปลาอยู่ที่ฐานบ้าง ประทับนั่งอยู่บนใบบัวบ้าง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกว่าเป็นพระอุปคุตนั่นเองครับ พระอุปคุตที่เป็นพระเครื่องของเก่าจะเป็นเนื้อโลหะสัมฤทธิ์ มีรูปแบบไม่ค่อยจะซ้ำกัน เนื่องจากเป็นการปั้นหุ่นเทียนทีละองค์ครับ และส่วนที่เป็นพระบูชามักเรียกกันว่า พระบัวเข็ม มักจะสร้างจากไม้แกะ พุทธานุภาพของพระอุปคุตนั้นเชื่อกันว่าบูชาไว้จะทำให้มีโชคลาภโภคทรัพย์ และคุ้มครองภยันตรายต่างๆ
ตามตำนาน
พระอุปคุตต์ จากเรื่องเล่าที่เล่าสืบทอดต่อกันมาเชื่อกันว่า
วันนี้เป็นวันที่พระอุปคุตต์มีอิทธิฤทธิ์จะขึ้นมาจากทะเลโดยแปลงกาย
มาเป็นสามเณรน้อยออกมาโปรดสัตว์ ถ้าผู้ใดได้ใส่บาตรกับพระอุปคุตต์แล้ว
บุคคลนั้นจะเกิดร่ำรวยเป็นเศรษฐี บังเกิดแต่สิ่งที่เป็นสิริมงคลในชีวิตได้อานิสงส์แรง
ซึ่งชาวบ้านจะจัดเตรียมข้าวปลาอาหาร หรือข้าวสารอาหารแห้งไว้รอใส่บาตรเวลากลางคืน
พอใกล้จะถึงเที่ยงคืนก็จะพากันออกมายืนเรียงรายตามท้องถนนในหมู่บ้าน หรือในเมือง
พอหลังเที่ยงคืนผ่านไป (ย่างเข้าวันพุธ) พระจากหลายวัดในตัวเมืองและวัดตามท้องถิ่นก็จะออกมาบิณฑบาตกัน
ปัจจุบันเป็นการรู้กันเองโดยอัตโนมัติ
ตามความเป็นจริงแล้ววัฒนธรรมประเพณี
ที่มีการตักบาตรเที่ยงคืน ก็เป็นของประเทศพม่า
ไม่ใช่ของประเทศไทย ถ้าของประเทศไทย
โดยก่อนหน้านี้ทางมติคณะสงฆ์ จังหวัดเชียงราย
ก็ได้มีการสั่งห้ามแล้ว แต่เนื่องจากประเพณีดังกล่าว
เป็นประเพณีความเชื่อที่สืบทอดกันมานาน
การห้ามความเชื่อแรงศัทธา ถือได้ว่าเป็นเรื่องยาก
ดังนั้น หากไม่เชื่อก็อย่าไปลบหลู่ |
ราคาเปิดประมูล | 100 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 4,000 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 100 บาท |
วันเปิดประมูล | - 10 ม.ค. 2558 - 22:27:19 น. |
วันปิดประมูล | - 20 ม.ค. 2558 - 12:34:55 น. (ปิดประมูลแล้ว) |
ผู้ตั้งประมูล | แฟรงค์ตาทิพย์ (2.5K)
|