(0)
เหรียญหลวงพ่อสุขสัมฤธิ์ วัดตูม อยุธยา สวยๆค่ะ






รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องเหรียญหลวงพ่อสุขสัมฤธิ์ วัดตูม อยุธยา สวยๆค่ะ
รายละเอียดเหรียญนี้หายากค่ะ..น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์แห่งนครโยเดีย...เกจิยุค๒๕๐๐ร่วมปลุกเสกมากมายค่ะ.
..........หลวงพ่อทองสุขสัมฤทธิ์วัดตูมพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่กรุงเก่า.....
วัดนี้ไม่ปรากฏหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้างและสร้างตั้งแต่เมื่อไร ทราบกันแต่เพียงว่าเป็นวัดโบราณมาตั้งแต่ครั้งเมืองอโยธยา ก่อนที่จะตั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีครับครั้นถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ในสมัยรัชกาลที่ ๑ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก จึงได้มีผู้ปฏิสังขรณ์ขึ้นอีกและเป็นวัดที่มีพระสงฆ์อยู่จําพรรษาจนทุกวันนี้พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกฐานะเป็นพระอารามหลวง ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ได้เสด็จฯ ไปทรงบําเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดตูม หลายครั้งครับ วัดตูม นับเป็นวัดที่สําคัญวัดหนึ่ง กรมศิลปากรจึงประกาศเป็นโบราณสถาน เมื่อ พ.ศ.๒๔๗๘ มีสิ่งที่สําคัญในวัดเฉพาะที่เป็นปูชนียวัตถุ คือ ๑.พระอุโบสถใหญ่ มีทางเข้าออกหน้า-หลัง หน้าบันเป็นเทพนม ๒.พระประธานในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปิดทองปางมารวิชัย จํานวน ๓ องค์ ๓.พระพุทธรูปสัมฤทธิ์ทรงเครื่องปางมารวิชัย ที่เรียกกันว่าหลวงพ่อทองสุขสัมฤทธิ์ หน้าตักกว้าง ๘๗ ซม. สูง ๑๕๐ ซม. พระพุทธรูปองค์นี้สร้างแต่สมัยใดไม่มีตํานานปรากฏ เดิมเคยประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถแถวหน้าพระประธาน สันนิษฐานคงจะมีมาแต่ดั้งเดิม สมัยที่กรุงศรีอยุธยาแตกครั้งสุดท้าย วัดนี้ได้รอดพ้นจากการทําลายล้างผลาญของข้าศึกอย่างน่าอัศจรรย์ นับเป็นพระพุทธรูปสําคัญอีกองค์หนึ่งในสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่ยังคงอยู่ในสภาพบริบูรณ์มาจนถึงปัจจุบันนี้ หลวงพ่อทองสุขสัมฤทธิ์ เป็นพระพุทธรูปที่มีลักษณะงดงามองค์หนึ่งมาก องค์พระทรงเครื่องแบบมหาจักรพรรดิราชาอธิวาส สวมมงกุฎ มีกุณฑลทับทรวง สังวาลพาหุรัด ประดับด้วยเนาวรัตน์ ประทับนั่งขัดสมาธิ ชาวบ้านผู้สูงอายุเล่าให้ฟังว่าเคยเห็นองค์พระพุทธรูปประดับด้วยเพชร พลอย ทับทิม ตามพระอุระ และพระพาหา บนพระอังสาทั้งสองข้างประดับอินธนู แต่ปัจจุบันไม่มีแล้ว ไม่ทราบว่าอันตรธานหายไปตั้งแต่เมื่อใด
พระพุทธรูปองค์นี้มีลักษณะแปลกประหลาดกว่าพระพุทธรูปองค์อื่นใดในประเทศไทย คือ พระเศียรตอนเหนือพระนลาฏเปิดออกได้ และ พระเกศมาลาถอดได้ เมื่อปิดไว้ตามเดิมแล้วจะแนบสนิทเกือบเป็นชิ้นส่วนเดียวกัน ไม่ปรากฏร่องรอยเลย ภายในพระเศียรเป็นบ่อกว้างลึกลงไปเกือบถึงพระศอ มีนํ้าไหลซึมออกมาตลอดเวลา เหมือนหยาดเหงื่อ เป็นนํ้าใสเย็น บริสุทธิ์ปราศจากมลทิน สามารถรับประทานได้ โดยปราศจากอันตรายใดๆ และไม่ขาดแห้ง
ปรากฏเป็นอัศจรรย์อยู่เช่นนี้ตลอดมาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว แม้จะตักออกมาแล้วใช้สําลีชุบหรือเช็ดให้แห้งหายไปสักกี่ครั้งก็ตาม นํ้านั้นก็กลับมีขึ้นมาอีก
สาเหตุที่เป็นเช่นนี้มีความเชื่อกันว่า พระเศียรของพระพุทธรูปองค์นี้ทำขึ้นจากโลหะอาถรรพณ์หลายชนิด ที่มีธาตุกายสิทธิ์ คือเหล็กไหลชนิดหนึ่งที่เรียกกันว่าเหล็กไหลเปียก มาหล่อหลอมรวมไว้ด้วย ซึ่งเหล็กไหลชนิดนี้มีคุณสมบัติพิเศษ คือ สามารถดูดความชื้นในอากาศให้มารวมตัวกันจนกลายเป็นหยดน้ำได้
ชาวบ้านพากันนับถือนํ้าในพระเศียรของพระพุทธรูปองค์นี้ว่าเป็นนํ้าศักดิ์สิทธิ์ เกิดขึ้นด้วยอํานาจอภินิหารและบารมี สามารถบําบัดและรักษาสรรพโรคภัยไข้เจ็บ และบรรเทาทุกข์ร้อน ให้ความสุขความร่มเย็นได้ ต่างพากันเคารพนับถือว่าเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ และประกอบด้วยอภินิหาร ทําให้พระพุทธรูปองค์นี้มีกิตติศัพท์เลื่องลือไปทั่วเมืองไทย จึงมีสาธุชนพากันเดินทางมานมัสการขอพึ่งบารมีท่าน ทั้งขอพร ขอนํ้ามนต์ และโชคลาภกันมิได้ขาด
อนึ่ง น้ำในพระเศียรของพระพุทธรูปองค์นี้ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เคยใช้ในพิธีชุบพระแสงและเครื่องศัตราวุธในการออกรบ โดยนำมารวมกับน้ำในบ่อพระพุทธมนต์ วัดพระพายหลวง บ่อพระร่วง เมืองเก่าสุโขทัย
ข่าวการพบน้ำในพระเศียรของพระพุทธรูปเป็นที่เลื่องลือกันจนเป็นประวัติการณ์ เกิดขึ้นในสมัยที่ พระอธิการชุ่ม เป็นเจ้าอาวาส ได้มีนายคง ชาวอำเภอบางบาล เป็นคนวิกลจริต ผ้าผ่อนไม่นุ่งเหมือนชีเปลือย ได้ซัดเซพเนจรเข้ามาอาศัยอยู่ในวัดนี้เป็นเวลาช้านาน
วันหนึ่งนายคงได้เข้าไปในพระอุโบสถแล้วปีนขึ้นไปบนฐานชุกชี เอามือจับยอดพระเศียรโยกคลอนไปมา จนยอดพระเศียรหลุดออกมา เห็นภายในพระเศียรเต็มเปี่ยมไปด้วยน้ำ นายคงจึงเอามือวักน้ำขึ้นมาดื่มกินด้วยความหิวกระหาย
จากการดื่มน้ำในพระเศียรนั่นเองทำให้นายคงหายวิกลจริตทันที มองเห็นสภาพตนเองก็นึกสมเพช จึงไปหาพระสงฆ์ในวัดเพื่อขอผ้านุ่ง พร้อมกับเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้ฟัง
เมื่อความทราบถึงท่านเจ้าอาวาส ซึ่งท่านรู้จักบ้านของนายคงดี จึงเรียกมาสอบถาม นายคงสามารถตอบตามคำที่ถูกถามได้ทุกถ้อยความ แสดงว่านายคงได้หายจากอาการวิกลจริตแล้ว ที่สำคัญคือทำให้ทราบกันว่ายอดพระเศียรของพระพุทธรูปองค์นี้เปิดออกได้และมีน้ำศักดิ์สิทธิ์บรรจุอยู่ภายในพระเศียรท่านด้วย จึงเกิดเป็นข่าวใหญ่เลื่องลือไปทั่ว เป็นเหตุให้ชาวบ้านเกิดความเชื่อมั่นเลื่อมใสศรัทธา พากันมาสักการะมิได้ขาด
เรื่องราวของหลวงพ่อทองสุขสัมฤทธิ์ในด้านอภินิหารต่างๆ ทำให้สมัยหนึ่งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้อัญเชิญพระพุทธรูปองค์นี้ไปจากวัดตูมเพื่อไปประดิษฐานไว้ ณ สถานที่แห่งหนึ่งที่เกาะเมืองตัวจังหวัด ตั้งแต่นั้นมาข้าราชการท่านนั้นก็เกิดอาการไม่สบายกายไม่สบายใจ เกิดความเดือดร้อนต่างๆ นานา ทั้งตัวเองและครอบครัว ตลอดจนผู้คนที่มีส่วนในการแบกหามเคลื่อนย้ายท่านไปนั้น มีอันต้องเจ็บป่วยกันทุกคน ถึงกับฝันตรงกันว่า ให้นำท่านกลับไปไว้ที่วัดตูม ตามเดิม ข้าราชการท่านนั้นจึงต้องปฏิบัติตาม
เหตุที่เป็นเช่นนี้ จึงเชื่อกันว่า หลวงพ่อทองสุขสัมฤทธิ์ เป็นพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ที่วัดนี้มาช้านาน คงไม่ประสงค์ที่จะจากวัดตูมไปอยู่ที่อื่น ต่อมา พระอธิการชุ่ม จึงได้อัญเชิญท่านขึ้นจากพระอุโบสถ มาประดิษฐานไว้ที่บนหอสวดมนต์ ปัจจุบันทางวัดได้จัดสร้าง หอพระพุทธรูปหลวงพ่อทองสุขสัมฤทธิ์ ขึ้น เพื่อใช้ประดิษฐานโดยเฉพาะ ทั้งยังเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนได้มีโอกาสเข้ามานมัสการและปิดทองได้ทุกเวลา
ในด้านวัตถุมงคลของ หลวงพ่อทองสุขสัมฤทธิ์ วัดได้จัดสร้างขึ้นหลายประเภท อาทิ ภาพถ่ายบูชา ธง รูปเหมือนบูชา รูปเหมือนห้อยคอ ล็อกเกต เหรียญ ฯลฯ เหรียญที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ เหรียญรุ่นแรก พ.ศ. ๒๔๙๖และรุ่นสองปี๒๕๐๐ ซึ่งค่อนข้างหายาก เพราะมีประสบการณ์เป็นที่เลื่องลือในทุกๆ ด้าน จนเป็นที่เสาะหากันอย่างกว้างขวาง..ที่เห็นเป็นเหรียญรุ่นสองของหลวงพ่อค่ะสภาพสวยมากๆสนใจอยากได้ไว้บูชาทักมาค่ะ
ราคาเปิดประมูล450 บาท
ราคาปัจจุบัน550 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ50 บาท
วันเปิดประมูล - 23 ก.ค. 2559 - 14:25:51 น.
วันปิดประมูล - 24 ก.ค. 2559 - 20:01:43 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลบารมีญาณ (479)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     550 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     50 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    แจ๋วจริง (212)(1)

 

Copyright ©G-PRA.COM