รายละเอียด | พญาคชสีห์ สิงหเดชะ หลวงปู่ทิม วัดพระขาว จ.อยุธยา เนื้อทองแดงสายฟ้า ผสมสัมฤทธิ์ผิวไฟ ปัจจุบันหายากแล้วครับ
หลวงปู่ทิม วัดพระขาวอธิษฐานจิตปลุกเสกให้ถือว่าถูกต้องที่สุดแล้วเพราะในตำราพิชัยสงคราม มีตำรา คชสีห์ มหาอำนาจ ตำรานี้สืบทอดมาตั้งแต่สมัยอยุธยาจนถึงหลวงปู่กลั่น วัดพระญาติ ท่านอาจารย์ เฮง ไพรวัลย์ หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ผู้สร้างสิหดอกบัวโด่งดังในยุคสงคราม หลวงปู่ทิม เป็นศิษย์อาวุโสของหลวงพ่อจง จึงได้วิชานี้มาจริงแท้แน่นอน พิมพ์ทรงก็สวยงามด้วยช่างมือหนึ่งที่แกะองค์มหาเทพเล่นหากันเป็นล้าน การเทหล่อแบบโบราณ ด้วยแผ่นชนวนจารยันต์ลายมือหลวงปู่ทิมล้วนๆ ผสมเนื้อสัมฤทธิ์โบราณอายุเป็นร้อยๆ ปี
ตามตำนาน คชสีห์นี้ถือว่ามีอิทธิฤทธิ์มากที่สุดในกระบวนพญาราชสีห์ทั้งหมดเพราะเป็นที่รวมของพญาสัตว์ที่เป็นเจ้าป่า สองชนิดคือ พญาช้างคชสาร ที่เป็นช้างเผือก ร่างหนึ่งของช้างเอราวัณ ช้างทรงของพระอินทร์ กับ พญาราชสีห์หรือพญาสิงห์ ผู้เป็นเจ้าแห่งมหาอำนาจเหนือหมู่สัตว์ทั้งหลายในป่า พญาคชสีห์ สิงหเดชะ จึงรวมทั้งพละกำลัง อิทธิฤทธิ์ อิทธิเดช น่าเกรงขามของช้างเอราวัณไว้ ผนวกกับความเป็นมหาอำนาจ ตบะ มหาบารมี ของพญาราชสีห์ไว้ด้วยกัน พญาคชสีห์ สิงหะเดชะ ตนนี้จึงอุดมไปด้วยพลัง เข้มแข็ง คงทน มีมหาอำนาจดุจเจ้าป่า มีกำลังดุจช้างสาร มีงวงที่ชูช่อกำชัยชนะ ยกสองขาบันลือสีหนาทเหนือชั้นกว่าอำนาจใดๆ ทั้งปวง
วิภาคตามหิมพานต์ลักษณะของพญาคชสีห์สิงหเดชะ 9 ประการดังนี้ครับ
1. ชูงวงกวักลาภ ม้วนเงินทองให้ไหลเข้ามา
2. งาแก้วชูช่อคอยกำหลาบศัตรู
3. คอตั้งยกสูงข่มภูตผีปีศาจ
4. ยกขาหน้าลักษณะตะปบเหยื่อแสดงถึงการกินที่กุมชัยชนะไว้ได้
5. ขวัญ สามขวัญ แทนกำแพงแก้วเพชรเกราะกำบังเชิญมหาเทพตรีมูลติ (พระศิวะ พระพรหม พระนารายณ์)
6. ขาหลังเหยียบพื้นหนึ่งข้าง แสดงถึง พื้นฐานที่คงมีหลักชัยไม่เอนเอียง
7. ขาหลังอีกข้างแสดงอาการก้าวเดิน เจริญก้าวหน้าไม่หยุดนิ่ง
8. หางยาวคลุมตัวปัดไล่อุปสรรคขวากหนาม
9. ท้องมี 8 ปล้องแทนความหมายมงคลที่โบราณเรียงกันดังนี้ :-
แก้ว, แหวน, เงิน, ทอง, เจริญ, สุข, สด, ชื่น |