ขอขอบพระคุณข้อมูลและขอให้เครดิตข้อมูล ของท่าน คนคลัง คลังวิชา ครับ ลองอ่านของท่านดู
ร่มโพธิ์ใหญ่แห่งบ้านเสิงสาง ¤
ย้อนไปในราวปี พ.ศ. ๒๕๐๐ เศษ หากกล่าวถึงชื่อ หลวงพ่อสอน พุภะละมะ วัดเสิงสาง (วัดทุ่งสว่างศรีเสิงสาง) ย้อนไปในเวลานั้น วัดเสิงสาง อยู่ในเขตห่างไกลเดินทางลำบาก ถนนหนทางเป็นเพียงทางลูกรังเล็ก ๆ อยู่ลึกเข้าไปในเขตป่าเขา เวลานั้นชื่อเสียงของ หลวงปู่สอน เป็นทีรู้จักในเขตใกล้เคียงเท่านั้น อุปนิสัยส่วนตัวหลวงพ่อสอนท่านพูดน้อย และไม่ชอบฉันเนื้อสัตว์ โดยมากท่านฉันผักหญ้ากับน้ำพริกแบบง่าย ๆ ชาวบ้านเสิงสางในยุคนั้นส่วนมากยากจน อาหารการกินไม่สมบูรณ์นัก สมัยที่หลวงพ่อสอนท่านมาอยู่วัดเสิงสาง ชาวบ้านได้ประจักษ์ในบารมีธรรมของท่าน กล่าวคือสถานที่ตั้งวัดแห่งนี้เดิมเป็นเส้นทางเดินของช้างป่ามาแต่เก่าก่อน เวลานั้นป่าไม้ยังสมบูรณ์มีสัตว์ป่าต่าง ๆ มากมาย
............
❀❀❀❀❀❀❀❀
............
ตกกลางคืนพวกช้างจะพากันเดินผ่านเขตวัด เมื่อเห็นมีสิ่งปลูกสร้างกีดขวางทาง พวกช้างก็มักช่วยกันลื้อเพิงพักของพระสงฆ์เสียราบคาบ บางคราวพี่ช้างเดินผ่านมาเกิดอากาาคันเนื้อตัว พอหาตัวช่วยแก้อาการคันไม่ได้ พี่แกก็จะเอาสีข้างที่คันถูกับกุฏิพระ พอช้างถูตัวกับกุฏิก็สั่นสะเทือนโยกไปมา หวั่นจะพังลงอย่างน่ากลัว สมัยนั้นพระบวชใหม่มาอยู่กับหลวงพ่อสอนได้ไม่นานก็พากันย้ายหนีหมด เพราะยากจนอาหารขบฉันน้อย แถมกลางคืนก็แทบไม่ได้หลับได้นอน เดี๋ยว ๆ ช้างก็มากวนเดินผ่านกุฏิใช้สีข้างเบียดกุฏิ บางทีเดินจงกลมอยู่ดี ๆ มีเสียงเสือร้องแถมเดินผ่านมาให้เห็นอีก คงเห็นมีเพียงแค่หลวงพ่อสอนที่อยู่ได้ไม่สะทกสะท้าน บางคราวพวกช้างส่งเสียงเอ็ดอึงมาก ๆ เห็นท่านเดินออกมาดุเตือนช้าง เขาก็เงียบเสียงลงแล้วเดินเนิบ ๆ จากไปทำอันตรายต่อท่านคล้ายเขารู้
............
❀❀❀❀❀❀❀❀
............
เมื่อหลวงพ่อสอนมาอยู่ท่านแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ เห็นได้จากพวกช้างเลิกเหยียบย่ำทำลายพืชไร่ของชาวบ้าน ว่ากันว่าหลวงพ่อสอนท่านพูดกับช้างและสัตว์รู้เรื่อง ต่อมาเมื่อมีสิ่งปลูกสร้างเช่นกุฏิและมีเขตวัดชัดเจนแล้ว หลวงพ่อสอนท่านจึงลงอาคมในหลักไม้แล้วนำตอกไว้สี่มุมพื้นที่วัด ตลอดจนพื้นที่ปลูกพืชผลของชาวบ้าน แต่นั้นมาพวกช้างจึงเปลี่ยนทางเดินเลี่ยงไปไม่เดินผ่านกลางพื้นที่วัด และไม่ทำลายพืชไร่ของชาวบ้านอีกนับแต่นั้น ชาวบ้านยามเจ็บไข้ห่างไกลเมืองไกลหมอ ต่างพากันมาขอความช่วยเหลือขอหยูกยาพื้นบ้านจากหลวงพ่อสอน ไม่ว่าใครเป็นอะไรต้องมาพึ่งหลวงพ่อสอนทั้งสิ้น นับว่าหลวงพ่อสอนท่านเป็นดั่งร่มโพธิ์ใหญ่ เป็นที่พึ่งของชาวบ้านคงไม่ผิด
............
❀❀❀❀❀❀❀❀
............
¤ พิธีปลุกเสกยิ่งใหญ่สุดเข้มขลัง ¤
ในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลของ วัดประสาทบุญญาวาส ในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๐๕ ๒๕๐๗ เวลานั้นผู้ฅนในเมืองหลวงแทบไม่มีใครรู้จัก หลวงพ่อสอน วัดเสิงสาง แล้วเหตุใดพระสมุห์อำพล พลวฒฺฑโน อดีตเจ้าอาวาส วัดประสาทบุญญาวาส ผู้จัดสร้างพระเครื่องรูปหลวงปู่ทวด และพระเครื่องรูปพระอาจารย์สำคัญท่านอื่น ๆ ที่ล้วนเป็นที่รู้จักโดยทั่วไป เช่น สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) วัดระฆัง, หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า, หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก, หลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด, หลวงพ่อแทน วัดธรรมเสน, หลวงพ่อเทียม วัดกษัตริย์ตราธิราช ที่กล่าวนามมานี้นับเป็นพระอาจารย์ผู้มีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไป อยากเล่าสาเหตุที่ต้องสร้างรูปพระอาจารย์สำคัญดังที่กล่าวไปนี้ ก็สืบเนื่องจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในวัดแห่งนี้ จึงจำเป็นต้องระดมปัจจัยเพื่อมาบูรณะ พระสมุห์อำพลจึงตัดสินใจจัดงานยิ่งใหญ่เพื่อระดมทุน
............
❀❀❀❀❀❀❀❀
............
¤ หนึ่งในพระอาจารย์สำคัญ ¤
หลายท่านคงสงสัยว่าเหตุใด พระสมุห์อำพล จึงจัดสร้างพระเครื่องรูป หลวงพ่อสอน วัดเสิงสาง ทั้งที่เวลานั้นผู้ฅนในส่วนกลางแทบไม่มีใครรู้จักเลย สืบเนื่องมากจากเมื่อสร้างรูปหลวงปู่ทวดเนื้อผงสำเร็จแล้ว ต่อมาพระสมุห์อำพลได้รู้จักหลวงพ่อสอน ทราบว่าท่านเป็นผู้มีญาณวิถีแก่กล้า จึงคิดทดสอบดูว่าเก่งจริงหรืออย่างไร ? ในเวลานั้นหลวงพ่อสอนมาที่วัดประสาทเพื่อร่วมพิธี ภายหลังเสร็จพิธีพระสมุห์อำพลจึงเข้ากราบ และเรียนถามหลวงพ่อสอนว่า
--
#พระสมุห์อำพล :
อยากทราบว่าใต้ฐานพระในโบสถ์นี้มีอะไรอยู่ ขอหลวงพ่อช่วยดูให้ผมหน่อย หลวงพ่อพอทราบได้หรือไม่ครับ ?
--
หลวงพ่อสอนนั่งฟังเฉยไม่ตอบอะไรนิ่งอยู่แล้วหลับตาลง ท่านนั่งนิ่งครู่หนึ่งสังเกตท่านหลับตาปี๋ คล้ายตั้งใจหรือสำรวมจิตตรงดิ่งไปยังโบสถ์ตามที่ถาม อึดใจเดียวหลวงพ่อสอนก็พูดอธิบายในสิ่งที่ท่านเห็น โดยขณะที่พูดนี้ท่านยังหลับตาอยู่ตลอดแล้วว่า
--
#หลวงพ่อสอน :
ผมเห็นว่าใต้ฐานพระพุทธรูปมีพระเครื่องอยู่ พระนี้เป็นรูปพระสงฆ์มีเนื้อสีดำออกเทา ๆ จำนวนมากอยู่ใต้ฐานพระ พระสงฆ์ที่เป็นเจ้าของรูปนี้ ท่านเป็นพระที่มีบารมีสูงมาก มีอายุและพรรษาสูงผิวกายดำถือไม้เท้า ตอนนี้ท่านก็อยู่และยังฝากให้ผมบอกพระสมุห์ว่า #ไม่ต้องเป็นห่วงท่านจะช่วยสร้างวัดให้สำเร็จ
--
พระสมุห์อำพลได้ฟังถึงกับขนลุก เกิดความปีติใจขึ้นทันทีว่า #หลวงพ่อสอนรูปนี้ไม่ธรรมดาแน่แล้ว เพราะท่านพึ่งมาจากบ้านนอกบ้านนาไม่เคยรู้เหตุการณ์ภายในวัด แต่ท่านสามารถรู้ว่าในฐานพระพุทธรูปนี้ มีพระรูปของหลวงปู่ทวดอยู่ ซึ่งพระนี้สร้างและบรรจุไว้ก่อนหลวงพ่อสอนมา เป็นไปไม่ได้ที่ท่านจะรู้เรื่องเหล่านี้ ที่สำคัญท่านยังบอกรูปร่างลักษณะของหลวงปู่ทวดได้ถูกต้อง (เวลานั้นหลวงพ่อสอนไม่รู้จักหลวงปู่ทวด) ที่สำคัญพระสมุห์อำพลเคยอธิษฐานบอกขอบารมีหลวงปู่ทวด
--
โดยขอท่านช่วยบูรณะโบสถ์และเสนาสะภายในวัดที่โดนไฟไหม้เสียหาย เรื่องนี้หลวงพ่อสอนท่านต้องทราบจากหลวงปู่ทวดได้จริง หาไม่แล้วท่านจะไม่มีทางตอบหรือบอกเรื่องเหล่านี้ได้ถูกต้อง นับแต่นั้นมาพระสมุห์อำพลจึงให้ความเคารพนับถือ หลวงพ่อสอนเป็นครูบาอาจารย์ของท่านนับแต่นั้น สำหรับพระอาจารย์ที่พระสมุห์อำพลในความเชื่อมั่นเรื่องทางในหรือดูด้วยจิต มีอยู่ด้วยกันสองรูป คือ หลวงพ่อเทียม วัดกษัตริย์ตราธิราช กับ หลวงพ่อสอน วัดเสิงสาง
............
❀❀❀❀❀❀❀❀
............
¤ ล่วงรู้มรณกาล ¤
พระสมุห์อำพลเคารพหลวงพ่อสอนมาก ได้นิมนต์ขอหลวงพ่อสอนให้อยู่ช่วยท่านก่อน ขอท่านให้อยู่นาน ๆ อย่าด่วนมรณภาพไปก่อน ซึ่งหลวงพ่อสอนท่านก็มิได้ตอบรับคำหรือปฏิเสธ คือ ท่านเฉยเสีย ต่อมาราวปี พ.ศ. ๒๕๐๙ พระสมุห์อำพลได้นิมนต์หลวงพ่อสอนมา ในคราวนี้หลวงพ่อสอนท่านมาแปลกกว่าทุกครั้ง คือท่านนำตำรับตำราของท่านมาถวายให้พระสมุห์อำพล แล้วกล่าวว่า
#ตัวท่านแก่แล้วเหมือนขอนไม้ผุ #จะอยู่ได้นานแค่ไหนก็ไม่แน่นอน #ขอมอบตำรานี้ให้พระสมุห์นำไปสร้างพระโยชน์เถิด
หลวงพ่อสอนพักอยู่วัดประสาทบุญญาวาสราว ๒-๓ วัน เมื่อจะเดินทางกลับ ท่านเดินมาลาพระสมุห์อำพลโดยการมาลานี้มีความแปลกกล่าวคือ ขณะที่หลวงพ่อสอนก้าวขาขวาข้ามธรณีประตูกุฏิ แล้วเห็นท่านยืมคร่อมอยู่อย่างนั้นไม่ยอมเดินก้าวขาข้ามมา ขณะยืนคร่อมธรณีประตูหลวงพ่อสอนได้พูดขึ้นว่า
--
#หลวงพ่อสอน :
พระสมุห์ผมกลับก่อนนะ งานที่ท่านนิมนต์ไว้คงมาให้ไม่ได้แล้ว กลับไปคราวนี้ผมกลับแล้วกลับเลยคงไม่ได้มาหาท่านอีก
--
พูดจบหลวงพ่อสอนก็เดินหันหลังกลับออกไปทันที โดยไม่สนใจหันหลังมาลาหรือรับฟังใด ๆ เลย ซึ่งในขณะที่หลวงปู่สอนมาลาพระสมุห์อำพลกำลังรับแขกอยู่หลายฅน เมื่อเห็นท่าที่หลวงพ่อสอนรีบร้อนเดินกลับออกไป พระสมุห์อำพลได้แต่ตะโกนตามหลังว่า #หลวงพ่อขอโทษทีผมติดแขกอยู่ #อย่างพึ่งรีบไปเดี๋ยวผมไปส่งครับ เมื่อเห็นหลวงพ่อสอนไม่สนใจรีบเดินไป ท่านได้แต่สั่งให้ลูกศิษย์นำปัจจัยวิ่งตามไปถวายหลวงพ่อสอน พระสมุห์อำพลท่านเล่าว่าเวลานั้นเห็นหลวงพ่อสอนแข็งแรงดี ไม่มีท่าที่ว่ามีอะไรผิดปกติ ตัวท่านจึงมิได้เฉลียวใจ แต่มาอีกราว ๒-๓ เดือน จึงได้รับข่าวจากทางวัดเสิงสางว่า #หลวงพ่อสอนมรณภาพ เช่นนี้แสดงว่าหลวงพ่อสอนท่านรู้มรณกาลล่วงหน้าก็คงไม่ผิด |
|
