| รายละเอียด | ยุคแห่งความเจริญรุ่งเรืองของวัตถุมงคลทางสายจตุคามฯ ชื่อของ วัดพุทไธศวรรย์ อันเป็นพระอารามหลวง ซึ่งมีเกียรติประวัติอันกระเดื่องเกรียงไกรมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ชื่อของวัดนี้ก็เข้ามาในชีวิตจิตใจของหลายๆ ท่านที่มีความเคารพศรัทธาองค์พ่อจตุคามฯ อันเป็นที่ตั้ง...ในจำนวนวัตถุมงคลในหลายๆ รุ่น ที่ทางวัดพุทไธศวรรย์ได้มีการจัดสร้าง
วัตถุมงคลประเภทเหรียญโลหะ ปี ๒๕๔๗ ได้ถูกนักนิยมชมชอบวัตถุมงคลทางสายจตุคามฯ ต่างให้คำวิจารณ์ถึงความลงตัว ถึงศิลปะตลอดจนความเป็นเอกลักษณ์ที่เฉพาะตัวของการจัดสร้างองค์พ่อจตุคามรามเทพ ทางฝั่งสายวัดพุทไธศวรรย์ ซึ่งตามประวัติการจัดสร้างนั้น เหรียญในปี ๔๗ ของทางวัดพุทไธศวรรย์ ในยุคต้น ๒ รุ่นที่จะกล่าวถึงนี้ ผู้สร้างได้มีการใช้เหรียญแสตมป์ปี ๓๐ จำนวนมากหลอมเป็นชนวนมวลสาร ซึ่งในช่วงปีดังกล่าว เหรียญแสตมป์ปี ๓๐ ราคาค่าเช่าหาบูชายังไม่สูงเหมือนในยุคถัดมา
จึงได้รับความอนุเคราะห์เหรียดังกล่าวจากทางโกผ่อง หรือคุณโกผ่อง สกุลอมร ซึ่งเข้ามาดูแลการจัดสร้างในวัตถุมงคลใน ๒ รุ่นดังกล่าวด้วยดังนั้นจึงขอหยิบยกเฉพาะวัตถุมงคลชนิดที่เป็นโลหะขึ้นมากล่าวอ้าง อันได้แก่ เหรียญปิดตาศรีมหาราชพังพะกาฬ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ เพื่อหาทุนทรัพย์ในการจัดสร้างพระมณฑป วัดพุทไธศวรรย์ ซึ่งมีการอัญเชิญองค์พ่อจตุคามรามเทพ และประกอบพิธีจักรพรรดิเทวาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดพุทไธศวรรย์ เมื่อวันที่ ๕ เมษายน พ.ศ.๒๕๔๗ โดยมีพระคณาจารย์สายกรุงเก่าอยุธยา อาทิ หลวงปู่หวล วัดพุทไธศวรรย์, หลวงปู่ทิม วัดพระขาว, หลวงพ่อรวย วัดตะโก, หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว, หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน, หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติการาม, หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม, หลวงพ่อสวัสดิ์ วัดศาลาปูน และพระอาจารย์อติโชติ วัดพุทไธศวรรย์.. .เหรียญปิดตาพังพะกาฬนี้ เป็นเหรียญที่ออกแบบมาได้อย่างสวยงามมาก
ขั้นตอนในการจัดสร้างค่อนข้างจะพิถีพิถัน เหรียญในรุ่นนี้เรียกได้ว่าได้มาตรฐานทุกเหรียญ แบบแทบไม่ต้องเข้ากล้องส่อง มีผิวเหรียญที่ตึงมีเนื้อหาของประเภทโลหะของแต่ละเนื้อที่ชัดเจน ซึ่งหลายๆ ท่านที่เป็นนักเล่นหรือนักสะสมวัตถุมงคลประเภทเหรียญก็คงจะทราบกันดี เหรียญรุ่นศรีมหาราชพังพะกาฬนี้ เป็นเหรียญที่ประกอบไปด้วยเนื้อชนวนโบราณ ผสมทั้งตะกรุดเก่า และหล่อหลอมเหรียญแสตมป์ปี ๓๐ ใส่ลงไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งจัดได้ว่าเป็นเหรียญโลหะทางสายจตุคามฯ ในรุ่นแรกๆ ของทางวัดพุทไธศวรรย์ ทั้งการออกแบบเหรียญในรุ่นนี้ ท่านพระอาจารย์อติโชติท่านเป็นผู้กำหนดรูปแบบรายละเอียด โดยมีคุณเรือง ภาสุกาญจน์ เป็นผู้ควบคุมการผลิต และออกแบบค่าใช้จ่ายในการจัดสร้างทั้งหมดเป็นจำนวนเงิน ๒,๘๐๐,๐๐๐ บาท
ในส่วนของเนื้อตะกั่วนั้นคุณโสภณ ศรีรุ่งเรือง บริษัทรุ่งเรืองโลหะภัณฑ์ เป็นผู้สร้างถวาย ในเนื้อขนาด ๓.๒ ซม. และเนื้อขนาด ๒.๐ ซม. จำนวนอย่างละ ๒,๕๐๐ เหรียญ ทั้งเหรียญดังกล่าวได้มีการจัดสร้างเป็นหลายเนื้อด้วยกัน และทุกเหรียญจะมีการตอกโค้ดกำกับในแต่ละเหรียญ ซึ่งมีตำแหน่งที่แตกกันออกไปตามประเภทของเนื้อเหรียญ
ส่วนเหรียญในปี ๔๗ อีกรุ่นที่เป็นสุดยอดเหรียญเนื้อโลหะ ได้แก่ เหรียญเทวฤทธิ์ รุ่นมรดกพ่อปี ๔๗ เหรียญรุ่นนี้ทางคณะผู้จัดสร้างได้มีความภูมิใจเป็นอย่างมาก ทั้งเปรียบเสมือนองค์พ่อจตุคามรามเทพ ได้ฝากสมบัติอันล้ำค่าจากศรีวิชัยถึงสุวรรณภูมิ ตกทอดมาเป็นมรดกสำหรับลูกๆ หลานๆ และผู้ที่มีความเคารพศรัทธาในบารมีขององค์พ่อทุกๆ คน ทางคณะผู้จัดสร้างของทางวัดจึงได้มีการตังชื่อรุ่นนี้ว่า รุ่น ”มรดกพ่อ” โดยมีวัตถุประสงค์ของการจัดสร้างเพื่อ ให้ผู้ที่มีความเคารพศรัทธาร่วมทำบุญเพื่อร่วมบริจาคสร้างมณฑปวัดพุทไธศวรรย์ และได้มีการจัดพิธีมหาเทวาภิเษก ตลอดจนพิธีพุทธาภิเษกอย่างยิ่งใหญ่ เมื่อวันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๔๗
โดยมีพระสงฆ์ผู้ทรงอภิญญาหลายรูปเข้าร่วมพิธี อาทิ หลวงปู่หวล วัดพุทไธศวรรย์, หลวงปู่ทิม วัดพระขาว, หลวงพ่อรวย วัดตะโก, หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว, หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน, หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติการาม, หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม, หลวงพ่อประสูติ วัดในเตา จ.ตรัง, พระครูใบฎีกาปรารณนพ วัดคอหงษ์ จ.สงขลา, พระอาจารย์ธรรมนูญ สำนักสงฆ์เขากุน จ.สุราษฎร์ธานี, และพระอาจารย์อติโชติ วัดพุทไธศวรรย์..
รูปแบบของเหรียญเทวฤทธิ์ รุ่นมรดกพ่อนี้ เป็นเหรียญที่มีรูปแบบสวยงามมาก มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ทั้งยังเป็นต้นแบบในเหรียญบางรุ่นต่อๆ มา โดยได้เค้าต้นแบบมาจากรูปเหมือนพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ศิลปะศรีวิชัย ในพิพิธภัณฑ์โซตาบี้ ประเทศอังกฤษ
ชนวนมวลสารที่ใช้ในการจัดสร้างนอกจากเหรียญแสตมป์ปี ๓๐ จำนวนมากที่กล่าวมาแล้ว ยังประกอบไปด้วย ชนวนพระบูชาองค์พ่อจตุคามรามเทพ รุ่นแรกของวัดพุทไธศวรรย์ เหรียญเทวราชโพธิสัตว์ ปี ๒๕๔๒, เหรียญศรีมหาราชพังพะกาฬ วัดพุทไธศวรรย์, ตะกรุดเก่า, แผ่นจารอักขระเลขยันต์ต่างๆ, แผ่นทอง เงิน นาก, เนื้อชนวนเก่า, เนื้อชนวนโลหะจากการสร้างพระของวัดต่างๆ จำนวนมาก ฯลฯ
วัตถุมงคลในรุ่นมรดกพ่อดังกล่าวนี้ นอกจากจะมีการสร้างด้วยความพิถีพิถันแล้ว ยังได้มีการสร้างเหรียญที่มีขนาดแตกต่างกันออกไปหลายขนาด คือ ขนาด ๒.๐ ซม., ๓.๒ ซม. และ ๕.๕ ซม. หรือที่บางท่านมักจะเรียกติดปากกันว่าเหรียญบาตรน้ำมนต์ ซึ่งเหรียญที่กล่าวมานั้น จะมีหลายเนื้อแตกต่างกันออกไป รวมถึงประเภทลงยา และจัดทำเป็นเหรียญสามกษัตริย์อย่างสวยงาม ซึ่งมีการตอกโค้ดแยกตำแหน่งตามประเภทของเหรียญในทุกเหรียญ
แต่ที่ฮือฮาและกล่าวถึงกันอย่างมากสำหรับเหรียญในรุ่นนี้ก็คือ ได้มีการจัดทำเป็นเหรียญประกบหน้าหลัง ภายในบรรจุใส่มวลสารอันเป็นสุดยอดมงคลไว้หลายชนิด ซึ่งจัดทำเฉพาะในเหรียญขนาด ๕.๕ ซม. มีอยู่จำนวนไม่กี่เหรียญ ซึ่งในวงการจะเรียกกันว่าเหรียญเทวฤทธิ์ ผ่าตะวัน ปี ๒๕๔๗ |
