(0)
ตะกรุด 3 กษตริย์หลวงพ่อทบ +ลูกอบชานหมาก








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องตะกรุด 3 กษตริย์หลวงพ่อทบ +ลูกอบชานหมาก
รายละเอียดตะกรุดหลวงพ่อทบ สามกษัตริย์ ยุคต้น
พระครูวิชิตพัชราจารย์ หรือ หลวงพ่อทบ วัดชนแดน พระคณาจารย์ดังของเมืองมะขามหวานจังหวัดเพชรบรูณ์ ดูจากลักษณะการกลืนตัวของตะกรุดคงบ่งบอกถึงได้ คำอาราธนาหลวงพ่อทบ " นะโม 3 จบ พุทธัง อาราธนานัง หลวงพ่อทบ อุปปะการัง อิติปิโส ธัมมัง อาราธนานัง หลวงพ่อทบ อุปปะการัง อิติปิโส สังฆังอาราธนานัง หลวงพ่อทบ อุปปะการัง อิติปิโส " หลวงพ่อทบท่านเกิดเมื่อปี พ.ศ.2424 ณ บ้านหัวลม ตำบลนายม เพชรบูรณ์ โยมบิดาชื่อเผือก โยม มารดาชื่ออินทร์ หลวงพ่อทบท่านบวชเณรตั้งแต่ พ.ศ.2440 ที่วัดช้างเผือก และอุปสมบท เมื่อปี ราคาเบาหวิวครับ พ.ศ.2445 ที่วัดเกาะแก้ว บ้านนายม เพชรบูรณ์ โดยมีพระครูเมืองเป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ ปานเป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์สีเป็นพระอนุสาวนาจารย์ อุปนิสัยของหลวงพ่อทบท่านเป็นพระที่มีเมตตา สุขุมเยือกเย็น พูดน้อย หลวงพ่อทบท่านได้สร้าง วัดและบูรณะวัดวาอารามไว้หลายวัดด้วยกันในแถบ เพชรบูรณ์ หลวงพ่อทบท่านออกธุดงค์ไปใน สถานที่ต่างๆ มากมาย หลังจากนั้นท่านก็มาจำพรรษาอยู่ที่วัดศิลาโมง วัดเสาธงทองเจริญธรรม วัด เกาะแก้ว วัดสว่างอรุณ วัดพระพุทธบาทเขาน้อย และวัดช้างเผือก เป็นต้น และทุกวัดที่หลวงพ่อทบ ท่านจำพรรษาอยู่ท่านจะบูรณปฏิสังขรณ์ จนวัดมีความเจริญรุ่งเรืองทุกวัด หลวงพ่อทบ ท่านมรณภาพในวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ.2519 ปัจจุบันสังขารของหลวงพ่อทบยังเก็บรักษาไว้ในโลง แก้วภายในมณฑปตามเจตนาของ ท่าน มีประชาชนมามนัสการเป็นประจำมิได้ขาด เรื่องอภินิหารตะกรุดโทนของหลวงพ่อทบนั้นจะยกมาเล่าให้ฟังสักเรื่องหนึ่ง คือในราวปีพ.ศ.2517 ตอนนั้นในอำเภอวิเชียรบุรี มีเรื่องพิพาทเกี่ยวกับที่ดินมาก ผู้ใหญ่ประเสริฐ ได้ถูกคุกคามจากผู้มี อิทธิพลคนหนึ่ง จะฮุบเอาที่ดินของผู้ใหญ่ประเสริฐ แต่ไม่สำเร็จ ผู้มีอิทธิพลคนนั้นจึงสั่งลูกน้องให้ ฆ่าล้างครัว ผู้ใหญ่ประเสริฐจึงพาครอบครัวไปกราบมนัสการหลวงพ่อทบ พร้อมทั้งเล่าเรื่องต่างๆ ให้หลวงพ่อทบฟัง หลวงพ่อทบท่านจึงได้ทำน้ำมนต์อาบให้ทุกๆ คน จากนั้นท่านก็มอบตะกรุดโทนให้กับผู้ใหญ่และ ลูกชาย ส่วนภรรยาและลูกสาวท่านได้มอบเหรียญรูปท่านกับสีผึ้งให้ไป ก่อนกลับผู้ใหญ่ได้ถวาย เงินจำนวน 500 บาทให้หลวงพ่อทบ แต่ท่านไม่รับ ท่านบอกผู้ใหญ่ว่า "เก็บเอาไว้เถอะยังมีความจำ เป็นต้องใช้อีกมาก วันๆ ข้าไม่ใช้เงินอยู่แล้ว" จากนั้นท่านก็ให้พรผู้ใหญ่ และกำชับว่ากลางค่ำกลาง คืนไม่มีธุระจำเป็นจริงๆ แล้ว อย่าออกไปไหนเป็นอันขาด มิฉะนั้นอาจเป็นอันตรายได้ เมื่อกลับจากวัดแล้ว ทุกคนต่างก็มีกำลังใจที่จะต่อสู้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของตนเอง ผู้ใหญ่ได้ บอกกับลูกเมียให้ทำที่กำลังให้มั่นคง กลางคืนหากมีใครมาเรียกอย่าขานรับโดยเด็ดขาด ผู้ใหญ่กับ ลูกชายมีอาวุธครบมือ เพื่อรับกับเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้น เวลาที่ผ่านมานานนับเดือนก็ไม่มีเหตุร้ายใดๆ อยู่มาวันหนึ่งแกรู้สึกตัวในตอนดึก และหิวน้ำจึงลุกขึ้นไปดื่มน้ำ สายตาของผู้ใหญ่ก็เห็นคนกำลัง เดิมจะมาเปิดประตูขึ้นบ้าน ผู้ใหญ่จึงหยิบปืนลูกซองที่เตรียมไว้ยิงทันที เสียงปืนดังแชะ ผู้ใหญ่ยัง ไม่ละความพยายาม ขึ้นนกยิงอีกนัด เสียงปืนดังแชะเหมือนเดิม และแล้วบุรุษผู้มาในยามวิกาลได้ ร้องขึ้นว่า "พ่อทำอะไรนะ ฉันเอง" เท่านั้นเองปืนลูกซองแทบหล่นจากมือ แกรีบเดินไปเปิดประตู และสวมกอดลูกชาย แล้วถามว่า "เอ็งหรอกหรือไอ้ทิด แล้วเอ็งออกไปทำไมตอนดึกดื่มเที่ยงคืน อย่างนี้" ลูกชายก็ตอบว่า "ฉันปวดท้องเบาจึงลุกไปฉี่ข้างนอก" ผู้ใหญ่ยกมือท่วมหัวแล้วพูดว่า "เป็น เพราะบารมีตะกรุดหลวงพ่อแท้ๆ ที่ช่วยไม่ให้พ่อต้องฆ่าลูกในไส้" ในตัวของลูกชายผู้ใหญ่มีตะกรุด โทนของหลวงพ่อทบเพียงดอกเดียวเท่านั้น เหตุการณ์ที่มีผู้ประสบเกี่ยวกับตะกรุดหลวงพ่อทบ ส่วนมากจะถูกยิงแต่กระสุนด้านเป็นส่วนมาก ครับ พวกทหารที่ไปรบที่เขาคล้อ ภูหินร่องกล้าต่างก็มีประสบการณ์เกี่ยวกับตะกรุดของหลวงพ่อ ทบกันมาก ชาวเพชรบูรณ์ต่างก็ห่วงแหนตะกรุดของหลวงพ่อทบมาก
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน1,510 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ10 บาท
วันเปิดประมูล - 09 มี.ค. 2552 - 14:25:47 น.
วันปิดประมูล - 10 มี.ค. 2552 - 18:00:39 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลaek23 (229)(3)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 09 มี.ค. 2552 - 14:27:14 น.
.


ตะกรุดยาว ประมาณ 15 นิ้ว คับ

ชานหมากของหลวงพ่อทบ นับว่าเป็นยอดวัตถุอาถรรพ์ อีกอย่างหนึ่งที่ศิษย์ และผู้ที่เคารพนับถือท่านต่างก็มีความต้องการมาก เพราะพวกเขาถือว่าขณะที่หลวงพ่อท่านกำลังเคี้ยวหมากพร้อมกับหลับตาอยู่นั้น หลวงพ่อกำลังเข้าฌาณและบริกรรมพระเวทย์ไปด้วย ทำให้ชานหมากที่ท่านกำลังเคี้ยวอยู่นั้นพลอยศักดิ์สิทธิ์ไปด้วย ด้วยเหตุนี้ชานหมากจึงเป็นที่ต้องการของคนจำนวนมาก แต่อย่างว่าของดีมีน้อย ใครก็ตามที่ได้รับชานหมากและสีผึ้งจากมือของหลวงพ่อพร้อมกันทั้งสองอย่างนี้ นับได้ว่าผู้นั้นเป็นผู้ที่มีบุญและวาสนาจริงๆ ส่วนมากแล้วชานหมากนี่ถ้าไม่ขอ ท่านก็จะกลืนหมดเพราะฉนั้นเวลาที่ท่านกำลังเคี้ยวหมาก ลูกศิษย์จึงจ้องดูให้ดีเรียกว่าตาไม่กระพริบกันเลยทีเดียว ถ้าหากว่าท่านคายชานหมากลงในกระโถน รับรองได้เลยว่าลูกศิษย์ต้องเข้าแย่งชานหมากกันจนกระโถนกระจายเป็นแน่ ชานหมากที่ท่านเคี้ยวอยู่นั้นบางทีท่านก็จะไม่กลืน ถ้าหากว่าท่านฉันในเวลาตอนกลางคืน หรือเวลาดึก ท่านก็จะคายออกมาโดยวางไว้ข้างฝา พอหลายๆวันเข้ามีจำนวนมากหน่อย ท่านก็จะเรียกลูกศิษย์ที่ใกล้ชิด เช่นท่านอาจารย์เพ็ง หรือ พระอาจารย์สุรชัย ได้นำเอาชานหมากเหล่านี้ไปถัก เพื่อที่จะเอาไว้แจกกับลูกศิษย์ ที่เดินทางมากราบท่านจากที่ไกลๆ ต่อมาชานหมากของท่านได้สร้างปาฏิหาริย์ไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นทางด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี มหาอุด เมตตามหานิยม ผู้คนจึงเล่าลือแตกตื่นเสาะแสวงหากันจ้าละหวั่น ใครที่เดินทางมากราบท่านก็มักจะขอกันแต่ชานหมากของท่านแทบทุกคน ทีนี้ก็เกิดปัญหาขึ้นมาอีกว่าชานหมากจริงๆนั้นมีน้อยเพราะหลวงพ่อท่านฉันเพียงองค์เดียว แต่ความต้องการของผู้ที่ศรัทธาท่านนั้นมีจำนวนมากกว่าหลายสิบเท่า ทำอย่างไรดีถึงจะให้ญาติโยม ผู้ที่เคารพนับถือหลวงพ่อได้ไว้บูชากันทุกคน เพราะบางคน บางคณะเดินทางมาจากที่ไกลๆ วัตถุประสงค์ก็เพื่อจะมาขอชานหมากของหลวงพ่อโดยเฉพาะ ทางวัดจึงได้หาวิธีการมาใช้เพื่อฉลองศรัทธาของญาติโยมที่เดินทางมากราบ และขอชานหมากของหลวงพ่อจะไม่ต้องผิดหวังกลับไป โดยการนำเอาวัสดุที่ใช้ในการเคี้ยวหมากทั้งหมดได้แก่ หมาก พลู ปูน ยาฉุน ฯลฯ นำมารวมกันไว้ในถาดจากนั้นก็ได้นำไปให้หลวงพ่อทบปลุกเสกเป็นปฐมเสียก่อน แล้วจึงนำมารวมกันในครกขนาดใหญ่ให้พระและเณรช่วยกันตำ เมื่อตำจนวัสดุต่างๆแหลกละเอียดเข้ากันดีแล้วจึงนำออกมาจากครกเอาใส่พานที่ปูผ้าขาวรองไว้ เสร็จแล้วจึงนำไปให้หลวงพ่อทบปลุกเสกเป็นครั้งที่สอง จนท่านแน่ใจว่าเข้มขลังดีแล้ว ท่านจึงเรียกให้ลูกศิษย์นำเอาออกมาถักเชือกหุ้มไว้เพื่อให้คงทนถาวร และนำติดตัวไปไหนได้สะดวก เมื่อถักชานหมาก(ความจริงน่าจะเรียกว่าหมากคำ) เสร็จแล้วก็ได้นำชานหมากทั้งหมดกลับไปให้หลวงพ่อปลุกเสกซ้ำอีกเป็นครั้งที่สาม จากนั้นจึงนำออกแจกญาติโยมได้ ทีนี้มาถึงการถักชานหมากของหลวงพ่อ แต่เดิมนั้นถ้าผู้ใดได้รับชานหมากของท่านไปแล้ว บางคนก็นำไปตากแดดให้แห้งเสร็จแล้วก็ใช้ผ้าเช็ดหน้าห่อติดกระเป๋าเสื้อไปไหนต่อไหนด้วย ถ้าวันไหนลืมเอาออกจากกระเป๋าเสื้อตอนซักผ้าก็จะต้องซักชานหมากไปด้วย บางคนที่ได้รับชานหมากมาก็จะเจาะหวายให้เป็นรูแล้วเอาชานหมากเก็บไว้ข้างใน จากนั้นก็อุดรูด้วยครั่ง หรือ เทียน หรือ ยางไม้ แล้วนำไปเลี่ยมเงินเลี่ยมทองตามแต่ฐานะของแต่ละคน บองคนเมื่อได้รับชานหมากมาก็ปั้นให้เป็นก้อนกลมๆ เล็กๆ จากนั้นจึงเอาครั่งไปลนไฟให้อ่อน เสร็จแล้วจึงนำมา ห่อหุ้มชานหมากไว้ให้สนิทโดยไม่มีรูให้น้ำหรือแมลงเข้าไปได้ แล้วจึงนำไปถัก ต่อมาครั่งขาดแคลนและหายากขึ้นทางวัดจึงใช้ขี้ผึ้งบริสุทธิ์ วัสดุที่ใช้ในการหุงสีผึ้งแทน โดยนำขี้ผึ้งไปลนไฟให้อ่อน จากนั้นจึงได้นำเอามาห่อหุ้มชานหมากให้สนิทแล้วจึงถัก มาตอนหลังๆนี่ครั่งหมด ขี้ผึ้งที่ใช้หุงสีผึ้งก็หมด ทางวัดก็แก้ปัญหาโดยการนำเอาชานหมากของหลวงพ่อมาปั้นให้เป็นก้อนๆ จากนั้นก็จะนำด้ายมาถักหุ้มให้เรียบร้อย เมื่อถักได้เป็นจำนวนพอสมควรแล้ว ศิษย์ก็จะนำเอาเทียนไขและเทียนขี้ผึ้งใส่กะทะแล้วเอาไปตั้งไฟบนเตา พอเทียนละลายหมดแล้วจึงยกกะทะลงมาจากเตา เอาชานหมากที่ถักไว้แล้วจุ่มลงไปในน้ำเทียน ทีละก้อนๆ จนกว่าจะหมด น้ำเทียนก็จะเข้าไปห่อหุ้มชานหมากรวมทั้งด้ายที่ถักไม่ให้แมลงและน้ำเข้าได้


ข้อมูลเพิ่มเติม 2 - 09 มี.ค. 2552 - 14:28:38 น.
.


ตะกรุด 3 กษตริย์หลวงพ่อทบ +ลูกอบชานหมาก


ข้อมูลเพิ่มเติม 3 - 10 มี.ค. 2552 - 07:20:52 น.

ตะกรุด 3 กษตริย์หลวงพ่อทบ ยาว 1.5 นิ้วคับ ต้องขออภัยที่ลงผิด เป็น 15 นิ้วคับ


 
ราคาปัจจุบัน :     1,510 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     10 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    ศิษย์มีวีด (1.7K)

 

Copyright ©G-PRA.COM
www1