(0)
เคาะเดียว พระเนื้อยาจินดามณี หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว พิมพ์ซุ้มเรือนแก้ว หลังยันต์ **ไม่มีกล่องเดิมนะครับ**








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องเคาะเดียว พระเนื้อยาจินดามณี หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว พิมพ์ซุ้มเรือนแก้ว หลังยันต์ **ไม่มีกล่องเดิมนะครับ**
รายละเอียดเคาะเดียว พระเนื้อยาจินดามณี หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว พิมพ์ซุ้มเรือนแก้ว หลังยันต์ **ไม่มีกล่องเดิมนะครับ**

ประวัติหลวงปู่เจือ ปิยสีโล
หลวงปู่เจือ ปิยสีโล ท่านเกิดเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2468 ตรงกับปลายรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธ ฯ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ บ้านท้ายคุ้ง ต.ไทยยาวาส อ. นครชัยศรี จ.นครปฐม บิดา-มารดา ชื่อ นายแพและนางบู่ เนตรประไพ เมื่อครั้นวัยเยาว์ ท่านเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนวัดประชานาถ (วัดโคกแขก) แล้วมาช่วย ครอบครัวทำนา หาเลี้ยงชีพ จนกระทั่งเมื่อมีอายุ 26 ปีจึงกราบลาบิดามารดาไปอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดกลางบางแก้ว โดยมี (พระครูพุทธวิถีนายก (เพิ่ม ปุญญวสโน) เจ้าอาวาสวัดกลางบางแก้ว เป็นพระอุปัชฌาย์, พระธรรมธรมูล วัดกลางบางแก้ว เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูพุทธไชยศิริ (ผูก) วัดใหม่สุประดิษฐาราม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังจากอุปสมบทแล้วท่านก็มา ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมอย่างมุ่งมั่น สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก และได้รับตำแหน่งรอเจ้าอาวาสวัดกลางบางแก้วเมื่อปี พ.ศ. 2528 หลงจากที่ปฏิเสธตำแหน่งเจ้าอาวาสมาครั้งหนึ่ง หลวงปู่ท่านได้สร้างวัตถุมงคลมากมาย มีทั้งเบี้ยแก้ และทางด้านแคล้วคลาด เมตตามหานิยม ป้องกันคุณไสยต่าง ๆ นอกจากนี้ท่านยังสร้างวัตถุมงคลต่าง ๆ แจกให้กับลูกศิษย์ เช่น หลวงปู่เจือ รุ่น 1 พ.ศ. 2534 เนื้อเงิน เนื้อกะไหล่ทอง รูปหล่อลอยองค์ รูปเหมือนบูชา พระพิฆเนศวรบูชา พระกริ่งนเรศวรตรึงไตรภพ พระพิมพ์ปรกโพธิ์เนื้อผง พระนางพญาสะดุ้งกลับเนื้อผงขมิ้นเสก และเนื้อดินเผา พระพิมพ์เศียรโล้น พระพิมพ์ซุ้มแหลม พระขุนแผนเคลือบ เหรียญหล่อหลวงปู่เจือ พระปิดตา เนื้อผง ผ้ายันต์และยาจินดามณี แต่น่าเสียดายที่ท่านได้ถึงแก่มรณภาพอย่างกะทันหันเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2552 รวมสิริอายุได้ 84 ปี 58 พรรษา

วิธีใช้พระผงยาจินดามณี
วิธีใช้และสรรพคุณเม็ดยาวาสนาจินดามณี ตำรับหลวงปู่บุญ ขนฺธโชติวัดกลางบางแก้ว

วิธีใช้และสรรพคุณเม็ดยาวาสนาจินดามณี ตำรับหลวงปู่บุญ ขนฺธโชติวัดกลางบางแก้ว นครชัยศรี นครปฐมเม็ดยาวาสนาจินดามณีของหลวงปู่เจือผู้สืบทอดจากหลวงปู่เพิ่มและหลวงปู่บุญเป็นตำรับเก่าแก่ของวัดกลางบางแก้วที่สืบทอดมาแต่ครั้งสมเด็จพระพนรัตน์แห่งวัดป่าแก้วสมัยกรุงศรีอยุธยาในรัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชแต่ที่เรียกยาจินดามณีว่ายาวาสนามีเหตุสืบเนื่องจากการทำยาจินดามณีมากมายขั้นตอนพิธีกรรมมากมายด้วยตัวยาสมุนไพร เป็นของทำยาก ผู้มีโอกาสได้กินยานี้รักษาโรคจึงเป็นเรื่องของยาวาสนาโดยเหตุนี้บางท่านจึงเรียกขานกันว่ายาวาสนา
มีคำกลอนบ่งบอกถึงตัวยาที่ใช้ในการทำยาจินดามณี ไว้ว่าจินดามณีโอสถอันพิลาสประกอบดอกคราด ดอกจันทร์ เกสรบุษบัน เปราะหอม กำยาน โกฏสอโกฏเขมา น้ำทองประสาน เปลือกกุ่มชนธาร กรุงเขมาเท่าๆกัน ผสมแล้วตำบดพิมเสน ชะมดน้ำผึงรวงรัง กฤษณา น้ำมะนาว น้ำมะเขือขื่นคั้น ผสมเข้าด้วยกันผสมแล้วตำบดตากกินเป็นยาวาสนา เลิศล้ำตำรา ในโลกแดนดิน ผู้ใดได้กิน จะสวัสดิโสภิณกว่าคนทั้งหลายพัสดุเงินทองจักพูนกูนกอง กว่าโลกหญิงชาย นำมาบูชา อภิวาทบ่วายระงับอันตรายทั้งสี่อริยา โทษหนักเท่าหนัก ถึงจักมรณา โทษน้อยถอยคราเคลื่อนคลายหายเอย สรรพคุณเม็ดยาวาสนาจินดามณี(โปรดอ่าน) สิทธิการิยะจะกล่าวถึงวิเศษสรรพคุณบสหอมจินดามณี แก้โรคจักษุ ๖ แก้ในจมูก ๓ ประการ ในลิ้น ๖ประการ ในฟันในท้อง ๔ ประการ แก้ไข้ปั้นปลายก็ได้ แก้ลมมหาสดมภ์ แก้ลมราชยักษ์กุมภกัณฑ์ยักษ์ แก้อ่อนเปลี้ยเพลียใจ คลื่นไส้อาเจียน เป็นยาครรภ์รักษา แก้หัวพิษหัวกาฬ ละลอกน้ำ ละลอกไฟ ผิวเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ตายไปทั้งตัวก็ดี ฝ่ายซ้ายขวาก็ดีตีนมือ คางขากรรไกรก็ดี หาสมประดีไม่ได้ไซร้ให้เอาหญ้าฝรั่น พิมเสน ทองคำบดด้วยยาละลายกรองลงไปได้สติลืมตา มีน้ำตาไหล น้ำลายยืด แล้วหายแลถ้าคนไข้บีบมือเหมือนจะออกคำ แต่ออกมิได้ให้เอาดีหมีก็ได้ ถ้าไม่มีดีงูก็ได้ต้มน้ำให้ละลายประมาณครึ่งถ้วยพริก ใส่เหล้าครึ่งหนึ่งให้กินเถิดถึงเสลดหางวัวตีขึ้นก็จักกลับหาย หายมามากแล้ว ถ้าผู้บ่าวสาวชักดิ้นชักงอหมดสติตีนมือเกร็ง มีมายาต่างๆ เหมือนผีเข้าสิงก็ดีกัดฟันหน้าเบี้ยวให้เอาพิมเสนบดด้วยยาฝิ่นรำหัสให้ต้มน้ำขิงทุบเอาน้ำอุ่นเยี่ยวหนูให้กิน ถ้ามิฟังให้เอาหัวหอม ๓-๔หัวตำคั้นน้ำบดยาให้กินแก้กำหนัดกามราคะขึ่น เป็นลมเบื้องสูง สงบแลเลือดระดูทำพิษให้เอาเสนียดคำฝอยต้มแก้สวิงสวาย หน้ามืดตาลายกระวนกระวายเป็นทุกข์ระส่ำทรวง ละลายน้ำพ่นชโลมตัวหายแลแก้เลือดตก น้ำมะขามเปียกครึ่งชามแกง แทรกเกลือตัวผู้ แก้ลมบ้าหมู น้ำมะนาวแก้ไอน้ำมะนาวแทรกเกลือ ตกลมป่วง ลงรากโรคห่า ละลายน้ำยา ด้วยน้ำฝนกินให้อิ่มหายพลันถ้ามิฟัง เอาเปลือกมะม่วง ๓ เปลือก ต้มใส่ปูนน้อยหนึ่ง ต้ม๓ เอา ๑ละลายกินเถิดหายแก้บิดมูก เลือกขมิ้นชัน ๓ แว่น ทายาฝิ่นหรือขี้ยากรอบโรยลงปิ้งไฟเกรียมบดด้วยน้ำปูนใสใส่ยา ๑ เม็ด กิน๓ ที หายดีนัก แก้จุกเสียดแน่นเฟ้อใช้น้ำขิงต้มแก้โรคอุปทม ทุเลาวสา มุตกิดมุตฆาต ยักน้ำกระสาย ธาตุ ๔ ต้ม ให้ถ่ายใช้เกลือหนัก ๑ชั่งธาตุหนักก็เพิ่มขึ้น ใบมะขามต้ม เป็นกระสาย องคชาตปวดแสบในลำปัสสาวะเมื่อปัสสาวะปวดเป็นกำลัง ต้นบานไม่รู้โรยขาว ทั้ง ๕ ต้นแทรกสารส้มรำหัสละลายยากินเถิดเหาย มักหนักถ่วงท้องน้อย บางครั้งมีแน่นให้เอาใบมะดัน ๙ ใบลงด้วยนวหรคุณต้มแทรกสารส้มกินหาย เมื่อทุเลาแล้วแต่งยาชื่อกษัยองคสูตรกินเสียหายแลแก้หัวพิษฆ์ หัวกาฬ หัวละลอก ใช้น้ำครำฝนยาทา ใช้น้ำขี้เถ้าดินเผาไฟก็ได้ใบมหากาฬต้มก็ได้ แก้บาดทะยัก เอาฝักปราบตำใส่ปูนน้ำมะนาวบีบลงในยานี้ทาหายถ้าชักกระตุกแล้วให้รีบทาเถิดยักยาอื่นตายแล อนึ่งทารกแรกเกิดให้เอายาฝนกับน้ำผึ้งรวง แล้วหยอดให้ทารกนั้นกิน ๓ วันแรกเสียงจะดีนักแลเลี้ยงง่ายปัญญาดีแล ถ้าให้มีปัญญาพาทีให้เสกด้วยคาถานี้ ๓ จบ แล้วอมยาไว้จะเล่าบ่นมนต์ถาคาสารวิชาจำได้สิ้นที่เลือนลืมหลงก็จะรำลึกได้แลให้เสกด้วยมนต์มหาจินดาติดตัวไปเป็นเสน่ห์ บังเกิดลาภผล ที่ตนปราถาแลให้เสกด้วยพัสมิงกิเนนโตฯสู้ความชนะ ให้เสกด้วย เอกํ จินดา นาคามนตํงูไม่กัดให้ภาวนาเอกํ จินดา นาคามนตํติดตนไปเป็นมหานิยม ภาวนา ?อุกากะสะ ทำการไร่นามิเหนื่อยแลให้ภาวนาด้วยบทยันทุนนิมิตตังจบหนึ่งเอายาติดตัวไว้ กลัวรางนิมิตร้ายแลอมยาแล้วนั่งเหนือลมภาวนา อิตถีจิตตํ ปิยํ มม รักและหลงเราจากไปมิได้แลเมื่อเดินทางไปสารทิศ เข้าหาเจ้านายผู้ใหญ่ ให้เอายานี้แช่น้ำใช้น้ำนั้นสระหัวอมยาแล้วภาวนา สัตถา เทวมนุสสานัง พุทโธภควาติ ๗ ที ผู้ใหญ่เจ้านายหายโกรธช่วยเหลือเราทุกทางเลย ถ้าเผชิญด้วยหมู่ศัตรูหมู่ร้าย ให้อมยาแล้วภาวนา พา มา นา อุกะ สะ นะ ทุ ๘ คาบ ชนะศัตรูทำร้ายมิได้ แคล้วคลาดสารพัดแลเอายาติดตัวไปป้องกันสรรพโรคภัยป้องกันเสนียดจัญไร กันย่ำยี ด้วยคุณไสย คุณผี คุณคนสารพัดพิษ ผิดสำแดง เมื่อต้องยาเบื่อมาเอา รากมะปรางหนึ่ง หัวหนุมานกระทืบแท่นหนึ่งฝนทำน้ำกระสาย หรือเอาแต่อย่างหนึ่งก็ได้กินเถิดมิเป็นไร อย่าประมาทเลย เคยแก้ยาสั่งมาแล้ว ถ้าติดตัวไปมิต้องเราแล ให้มีติดตัวถึงคราวอับจนจะได้ใช้ ตามืด หูมืดใช้ได้ทุกเมื่อ มีอำนาจคุณวิเศษมากนัก ตีค่าไว้ถึง ๘ ชั่งทองแลจะกล่าวถึงกระบวนการทำยาวาสนาจินดามณีที่มากมายขั้นตอนพอสังเขปดังนี้.-หากแต่เมื่อได้ตัวยามาแล้ว ตัวยาเหล่านั้นยังมีการแยกไว้อย่างละเอียดทีเดียวว่าตัวยาสมุนไพรชนิดใดจะเอาส่วนไหนประกอบกับอะไรบดเป็นผงละเอียดเคล้ากับตัวประสานใช้แต่ละส่วนของสมุนไพรเท่าใดและให้ลงหรือเสกด้วยคาถาอย่างใดบ้าง(ยากเกินบรรยายได้)เมื่อปลุกเสกเครื่องยาแต่ละส่วนตามคาถาที่กำกับแล้วการลงลูกหินและแม่หินที่จะใช้ในการบดยา ยังมีกระบวนการแลขั้นตอนแม่หินจะต้องลงอักขระเลขยันต์ชนิดหนึ่ง ลูกหินตัวบดจะต้องลงอักขระเลขยันต์อีกแบบหนึ่งและมีคาถาประกอบขณะบดยาเพื่อให้ภาวนา บริกรรมขณะบดยาด้วย การจัดพิธีได้เลือกเอาวันเพ็ญ ขึ้น ๑๕ ค่ำ กลางเดือน ๑๒ ซึ่งหากปีใดได้ราชาฤกษ์หรือเพชรฤกษ์จัดว่าดีเยี่ยมยิ่งนัก ให้จัดเครื่อง สังเวยเทวดาบัดพลีต่างๆ รวมทั้งราชวัตร ฉัตรธงภายในพระอุโบสถและมีสายสิญจน์รอบพระอุโบสถแต่ละทิศให้ลงยันต์ประจำทิศด้วยผ้าแดงเอาไว้ ด้านหน้าพระอุโบสถให้ลงยันต์ตรีนิสิงเห และยันต์จินดามณี?ประกอบไว้เป็นพิเศษด้วย เมื่อได้ฤกษ์ให้ชุมนุมเทวดา แล้วให้พระภิกษุและฆราวาสที่ร่วมในพิธีพร้อมกันโดยเฉพาะฆราวาสนั้นหากเป็นหญิงให้ใช้สาวพรหมจารีซึ่งรักษาศีลอุโบสถมาแล้ว ๓ วัน ส่วนชายก็ให้รักษาศีลอุโบสถเช่นเดียวกันผู้ซึ่งร่วมพิธีปันเม็ดยานั้น ก็จะต้องท่องคาถาปั้นเม็ดยาได้ เพื่อใช้ในการภาวนาตลอดระยะเวลาปั้นยา และยาที่ป้นสำเร็จเป็นเม็ดในพิธีแล้วจะต้องนำไปปลุกเสกอีกอย่างน้อง ๗ เสาร์ ๗ อังคารการสร้างเม็ดยาวาสนาจินดามณีของหลวงปู่บุญ ขนฺธโชติเท่าที่ทราบมีเพียง ๒ ครั้งเท่านั้นในช่วงชีวิตของหลวงปู่บุญ จากคำบอกเล่าของ ผู้ร่วมในการปั้นยาครั้งหลังว่าการสร้างครั้งแรกเมื่อประมาณปีพ.ศ. ๒๔๓๕และส่วนครั้งสุดท้ายของหลวงปู่บุญเมื่อปีพ.ศ. ๒๔๗๖ อุปเทห์ในการใช้ยาวาสนาจินดามณีถ้าท่านจะรักษาโรค ก่อนอื่นควรจะบูชาพระรัตนตรัย เมื่อจุดธูป เทียนบูชาพระรัตนตรัยแล้ว จึงอธิษฐานจิตระลึกถึงเจ้าตำรับยาจินดามณี มีสมเด็จพระพนรัตน์พระพรหมมุนี หลวงปู่บุญ ขนฺธโชติ หลวงปู่เพิ่ม ปัญญวสโน พระอาจารย์ใบ คุณวีโรหลวงปู่เจือ ปิยสีโล แล้วจงทำใจให้แน่วแน่ เสกยานี้ด้วยคาถานี้ ตั้งนะโม ๓ จบพุทธังระตะนัง ธัมมะระตะนัง สังฆะระตะนัง โอสะนัง อุตตมัง วะรัง สัพพะทุกขังสัพพะโรคัง วินาเสสิ อะเสสะโตนะโมพุทธายะ แล้วจงฝนยากับน้ำรับประทานเถิดจะหายจากโรค(เว้นไว้แต่โรคบุพกรรมเท่านั้น)ถ้าท่านจะใช้ในทางเมตตามหานิยม ก่อนออกจากบ้านควรจุดบูชา ธูป เทียน บูชาพระรัตนตรัยแล้วทำจิตให้แน่วแน่หยิบเอาเม็ดยาจินดามณีหรือพระจินดามณีขึ้นมาบริกรรมด้วยคาถาดังนี้ มหามณีจินดาปิยัง มะมะ วิจะสตรี ทาสี ทาสา จะโตมัง เสน่หา ภิริยา ปิโย อิตถีโย อิตถีโยมะมังรักขันตุ สัพพะธา สิทธิเตชัง มหาลาภัง มหาสิธิโยจะท่านจะเป็นที่รักของคนทั้งปวงแลฯเมื่อสัมฤทธิ์ผลอันใดให้ท่านจงทำบุญใส่บาตรให้แก่เจ้าของตำรับยาอาทิหลวงปู่บุญขนฺธโชติ เป็นต้น











**โอนเงินแล้วกรุณาแจ้ง วันที่ที่โอน พร้อมยอดเงินที่โอน ทาง mail .box ด้วยนะครับ*
ราคาเปิดประมูล230 บาท
ราคาปัจจุบัน250 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ20 บาท
วันเปิดประมูล - 19 ส.ค. 2566 - 18:46:20 น.
วันปิดประมูล - 21 ส.ค. 2566 - 07:50:45 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลrewildy (3.8K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     250 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     20 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    Kratai (477)

 

Copyright ©G-PRA.COM