(0)
เหรียญสีหบรรลือ..หลวงพ่อสาลีโข..






รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องเหรียญสีหบรรลือ..หลวงพ่อสาลีโข..
รายละเอียดหลวงพ่อสมภาพจัดสร้างท่านบอกมีเหรียญนี้ติดตัวติดรถเหรียญเดียวพอแล้ว องค์นี้พิมพ์เล็กขนาดเท่าเหรียญสี่เหลี่ยมทั่วๆไปพิมพ์ใหญ่จะเป็นจัมโบ้เลยครับ
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน550 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ10 บาท
วันเปิดประมูล - 31 ก.ค. 2552 - 12:33:32 น.
วันปิดประมูล - 06 ส.ค. 2552 - 19:10:21 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลมีเงินมีทอง (5.9K)(2)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 02 ส.ค. 2552 - 02:41:24 น.

เหรียญ สีหบรรลือ อัครมังคลาธิคุณวัตถุ สุดยอดแห่งสยาม สร้างปี 2534 ปลุกเสก 3 ปี

เหรียญ สีหบรรลื่อ เนื้อเงินมีจาร หลวงพ่อสมภพ สาลีโข (หายากสุดๆ)

ลักษณะเหรียญ รูปหลวงปู่เผือก ( พระครูธรรมโกศล ) ลักษณะสี่เหลี่ยมจตุรัส ตัดมุม มี 2 แบบ

1. เหรียญ สีหบรรลือ ขนาดใหญ่ ชนิดเนื้อเงินมีจาร ลพ.สมภพ ทุกองค์ และเนื้อทองแดง รมดำ

2. เหรียญ สีหบรรลือ ขนาดเล็ก ชนิดเนื้อทองคำ เนื้อเงินมีจาร ลพ. , และเนื้อทองแดง (รมดำ)

ด้านหน้าเหรียญ รูปหลวงปู่เผือก (พระครูธรรมโกศล) นั่งสมาธิเหนือกอบัวเกี่ยวพันเป็นสายก้านขด ประกอบด้วยก้าน, ใบ และดอก ข้างละ 3 ดอก อุปมาชีวิตของเวไนยสัตว์ที่จะตรัสรู้ธรรม อักขระวงกลมรอบองค์หลวงปู่เผือก เป็นคาถาบารมี 30 ทัศ อักขระบนสุดเขียนว่า อรหํ สุคโต ภควา นโม พุทธายะ ได้แก่ แม่ธาตุใหญ่ หรือหัวใจอดีตพระ พุทธเจ้า 5 พระองค์ นะ หัวใจเทพชุมนุมบนศีรษะพญาราชสีห์ ซ้าย-ขวา เป็นยันต์รูป พระภควัมบดี เป็นลายเส้นสวยงามมาก แท้จริงคือ ฒ้อ ขัดสมาธิ ได้แก่ ศิล สมาธิ ปัญญาล่างเป็น นะพุทธซ้อน หรือ นะทรงแผ่นดิน ซ้าย-ขวา เป็นปถมัง 108 ขวาสุด จารอักขระว่า อรหํ พุทโธ ใต้ฐานพระภควัมบดี ซ้าย-ขวา มี นะ มะ พะ ธะ (ธาตุ 4) ตรงกลาง มี นะ ฤ ฤา, ล่างใต้สุดเป็น นะบิด นะป้อง นะคุ้ม นะกัน, ตัวสุดท้าย พุทธโธคุ้ม จารขมวดเป็นยันต์ไว้ 3 รอบ มีอักษรเขียนว่า พุทธอุทยานธรรมโกศล

ด้านหลังเหรียญ เป็นรูปพระนารายณ์ ทรงครุฑยุดนาค รอบด้านเป็น นะปถมัง 108 ใต้ลงมาเป็น นะ หัวใจเทพชุมนุม ที่จารไว้มี นะบิด นะป้อง พุทโธคุ้ม, ใต้ลงมาเป็น นะ ฤาชา, หัวใจเทพชุมนุน หนุมาน และองคต เป็นพระคาถาพระเจ้า 5 พระองค์ และฐาตุ 4 เขียนยันต์ล้อมตัวอักษรมีระเบียบ ได้สัดส่วน คมชัด อ่อนไหวคล้ายฉัพพัณณรังส่ล่างสุดจารนะปิด นะป้อง นะคุ้ม นะกัน มีอักษร พ.ศ. 2534

เอกลักษณ์สำคัญ สูงสุด การสร้างเหรียญ สีหบรรลือ

ความมุ่งหมาย การสร้างเหรียญ สีหบรรลือ อัครมังคลธิคุณ สุดยอดแห่งสยาม อาศัยพุทธจริยวัตนในข้อทีว่า เมือพระพุทธองค์จะทรงตรัสอะไรในที่ประชุมพุทธสาวกและพุทธบริษัท แม้ที่สุดท่ามกลางเจ้าลัทธิทั้งหลาย พุทธดำรัสเปรียบดังบันลือมหาสุรสิงหนาท ดุจพญาราชสีห์ ที่ไม่มีผู้ใดอาจสามารถโต้แย้งแข่งกับพุทธองค์ได้เลยแสดงถึงพุทธบารมี ปรากฎหลักฐานใน อาฏานาฏิยสูตร โดยละเอียด แม้พุทธองค์เสด็จประทับนั่งก็ดุจพญาราชสีห์ มีความสง่างาม เช่น พุทธศิลป์ในรูปแห่งพุทธปฎิมา สมัยเชียงแสนเรียกว่า พระสิงห์ หรือแม้พุทธงอค์จะเสด็จบรรทม ก็บรรทมแบบ สีหไสยาสน์ คือมีสติกำหนดจะทรงลุดขึ้นตลอดเวลา

เหรียญ สีหบรรลือ สี่เหลี่ยมจตุรัส ตัดมุม มีความหมายลึกซึ้งเกี่ยวแก่รูปธรรมและนามธรรม อันหลวงพ่อสาลีโข ได้ถ่ายเทความรู้สึกที่แฝงอยู่ในจิตของท่านให้เห็นเด่นชัดแห่งสภาวธรรมที่เป็น โลกิยะ และ โลกุตตระ ประเภทโลกิยธรรมนั้น สำหรับผู้ยังปรารถนาเกี่ยวข้องอยู่กับโลก ยังไม่เบือหน่ายต่อการเวียนว่ายตายเกิด จึงต่างกันโดยการพ้นทุกข์ชนิดหยาบ ชนิดกลาง และชนิดละเอียด แต่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ประการสุดท้ายคือ พ้นจากทุกข์ หรือความหลุดพ้น นับว่าหลวงพ่อสาลีโข เป็นพระเถระผู้ชาญฉลาดจึงใช้คติธรรมอันมีอยู่สั่งสอนตามขั้นตอน ดังกล่าว

ส่วนที่หลวงพ่อสาลีโข ให้ความหมายด้วยการตัดที่มุมทั้ง 4 ของเหรียญ หรือสร้างเป็นรูปเหรียญกลม 3 รอบ ดังได้กล่าวไว้แล้วข้างต้น ส่วนความหมายที่ลึกซึ้งคือ อริสัจจ์ 4 อันได้แก่ทุกข์ สมห์ทัย นิโรธ และมรรค และตัดกิเลสอีก 4 ตัว โลภะ , โทสะ , โมหะ และ อวิชชา เสียได้ ชีวิตก็จะเป็นอนันตสันติ เป็นความปรารถนาสูงสุด

อีกประการหนึ่ง หลวงพ่อสาลีโข ท่านให้ความว่า เมือตัดกเลส 4 กองได้แล้ว ก็จะมี พรหมวิหารธรรม 4 หรือ พรหมธรรม มีธรรมเป็นเครื่องอยู่อันประเสริฐหรือที่อยู่อันประเสริฐของใจ

ปฎิมากรรมสูงสุด เหรียญ สีหบรรลือ เป็นประติมากรรมปั้นนูน โดยปฏิมากรผู้มีชื่อเสียงของประเทศไทย คือ คุณแหลมสิงห์ ดิษฐพันธุ์ ย่อส่วนให้เล็กตามขนาดของเหรียญ จึงคมชัด มีความงามเป็นเอก เป็นมงคลอิทธิวัตถุที่ทรงคุณค่ายิ่ง จัดเป็นเหรียญ สุดยอดแห่งสยาม สำเร็จเป็น ธาตุกายสิทธิ์ จัดหายากยิ่งในอนาคต

อุปเท่ห์การใช้เหรียญ สีหบรรลือ และมงคลวัตถุต่างๆ

อัครมังคลาธิคุณวัตถุ สุดยอดแห่งสยามที่สร้างขึ้น เป็นเหรียญรูปหลวงปู่เผือก (พระครูธรรมโกศล) และเหรียญรูป หลวงพ่อสาลีโข (พระอาจารย์สมภพ เตชปุญโญ) จัดเป็น เตโชปุญญากร เพื่อความเป็นสิริมงคล คุ้มครองป้องกัน แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง บังเกิดความสุขด้วยโภคทรัพย์ ลาภ ยศ บริวาร และเมตตามหานิยม เป็นที่รักแห่งเทพยดาทั้งหลาย ทุกท่านที่นำไปใช้จะต้องมีศิล มีสัตย์ ไม่นำไปเพื่อเบียดเบียนผู้อื่น ของดีมีคุณค่าจะรักษาไว้ได้ จะอยู่กับคนที่ดีนอกและดีใน

อาราธนาวิธี ก่อนจะใช้เหรียญ สีหบรรลือ และมงคลวัตถุต่างๆ ให้อาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และบารมีหลวงปู่เผือก และหลวงพ่อสาลิโข และคุณครูบาอาจารย์ แล้วตั้ง มโน (3 จบ) จากนั้น จึงภาวนาปริกรรมคาถา 9 จบ ดังนี้

- อะระหัง สุคะโต ภะคะวา

- นะโม พุทธายะ

- สีหะนาทัง ทะทันเต เตฯ

ปฏิบัติได้ดั่งนี้อยู่เสมอมิให้ขาด เป็นนิรันตราย เป็นโภคทรัพย์ มหาอำนาจ เป็นปสิทธิ นักแลฯ

และครั้งเมื่อเขียนระลึกอดีตที่หลวงพ่อสาลีโขสร้างขลังปลูกศรัทธาในผมแลหมู่คณะกับทั้งแนะนำ “ตะกรุดมหาระงับ” สุดวิเศษให้ท่านผู้อ่านรู้จัก ก็มีกระแสตอบรับมากมายจนผมรู้สึกผิด “ผิด” ที่ไม่ได้บอกรายละเอียดของราคา “ผิด” ที่ไม่ได้บอกทางไปวัด...ที่ไม่ได้แนะนำรายละเอียดประดามีที่ควรแนะนำ และอีการพัด “ผิด” ซึ่งผมสมควรรับโทษ แต่ขอเรียนว่าทุกท่านเข้าใจผม “ผิด”
คอลัมน์นี้มีขึ้นด้วยวัตถุประสงค์จะชี้นำให้ทราบชัดถึงที่มาของมงคลวัตถุ โดยเฉพาะบรรดาลูกหลานผู้ได้รับมรดกขลังสืบทอดจากรุ่นปู่ ตา พ่อ ซึ่งปราศจากคำบอกเล่า แนะนำว่า พระนี้เครื่องรางนี้คืออะไร เป็นของท่านผู้ใด และมีความสำคัญอย่างไร
ผู้ไม่รู้เมื่อได้เห็น ได้อ่าน ก็จะทราบว่าของขลังที่ตนครอบครองมีความเป็นมาเช่นไร แลเป็นของใคร จะให้ความสำคัญสักการบูชาไม่ทอดทิ้งก็ตรงนี้ ผมไม่เขียน คอลัมน์นี้เพื่อหลอกล่อให้ใครเช่าพระ เพียงอยากให้รู้จักของดี และคนทำเท่านั้นเอง จะหาบูชาก็คราวนี้เอง
หลายท่านขวนขวายอยากพบหลวงพ่อสาลีโข ผมว่าอย่าดีกว่า บอกดังๆ เลยว่า ท่านดุเหลือใจไม่ใช่ไร้ความเมตตาแต่จริตนิสัยท่านเป็นเช่นนั้น รวดเร็วแต่ต้องเรียบร้อย ว่องไว แต่ต้องเงียบสนิท อันนี้เป็นสิ่งที่ศิษย์ทุกคนรู้ดี เข้าพบท่านต้อง 6 โมงเช้า ถึง 11 โมงตรง ก็ไม่ได้ หลังก็ไม่ได้ มาพบต้องมีดอกบัว ธูป เทียน ถ้าไม่มีอย่าเข้าไป
มีนายทหารอากาศยศนายพัน 2 ท่าน หิ้วถังสังฆทานมา 4 ถัง วางแล้วกราบอย่างงามเรียนท่านว่า “พวกผมผ่านมาทางนี้พอดี เลยอยากแวะถวายสังฆทานกับหลวงพ่อครับ”
ท่านเพ่งตามองแล้วถามว่า “ดอกไม้ธูปเทียนไปไหน” 2 นายพันพนมมือเลิ่กลั่ก
“มาทำไม ดอกไม้ ธูป เทียนไม่มี กลับไปก่อน พรุ่งนี้มาใหม่ เอาดอกไม้ธูปเทียนมาด้วย ถ้ายังไม่เอามาอีกก็ไม่ต้องมา” กราบลาทันที
ดุไหม? ให้สังเกตคำพูดนายพันที่ว่า “ผ่านมาพอดี” แสดงให้เห็นว่าปราศจากความตั้งใจมาจริงๆ เพียงแค่มาธุระแล้วผ่านจึงแวะเสียหน่อยไม่ให้เสียเที่ยว สมควรถูกดุหรือเปล่า ดอกไม้ธูปเทียนนั้น หลวงพ่อถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญในการเข้าพบท่าน เท่ากับว่ามีความจริงใจที่มา มีความเคารพในหลวงปู่เผือก เคารพในครูอาจารย์ของท่านและองค์ท่านแท้จริง ถ้าคิดไปก้ออย่าลืม
หากมีโอกาสเข้าพบท่านแล้ว กรุณาอย่าชักชวนให้ท่านเสกนั่นเป่านี้ หรือทำอะไรดังต้องการ ท่านจะพิจารณาของท่านเมื่อเห็นควร ท่านก็ทำให้เอง โดยเฉพาะการลงทอง เหล่านี้เป็นเรื่องที่ควรทราบไว้ก่อน เพื่อความไม่ลำบากใจกับทั้งหลวงพ่อ และท่านที่จะไปกราบ
ข้อคำนึงอันหนึ่งที่ท่านฝากไว้คือ “หากจะมาเพื่อเช่าวัตถุมงคล ก็เช่าได้ตามต้องการแต่ไม่ต้องเอามาให้ฉันเสกเป่าอะไรอีก เพราะฉันทำไว้อย่างดีที่สุดแล้ว” นี่ก็ประกาศนียบัตรหนึ่งในหลายใบ “สีหบรรลือ” เป็นเหรียญรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสตัดมุม สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2534 มีเนื้อทองคำเงิน ทองแดง วัตถุประสงค์ที่จัดสร้างขึ้นเพื่อ
1. เป็นอนุสรณ์ระลึกถึงพระคุณของหลวงปู่เผือก และทำบุญอายุสรงน้ำ
2. ก่อสร้างและปฏิสังขรณ์เสนาสนะ
เหรียญสีหบรรลือ มีด้วยกัน 2 พิมพ์ คือ พิมพ์ใหญ่ยาว 4.5 ซม. กว้าง 4 ซม. และพิมพ์เล็ก ยาว 3 ซม. กว้าง 2.5 ซม. ด้านหน้าเป็นรูปหลวงปู่เผือกนั่งสมาธิเหนือกอบัว ล้อมด้วยพระคาถาบารมี 30 ทัศ ซ้าย-ขวา เป็นยันต์พระภควันบดี ข้างใต้เป็นนะทรงแผ่นดิน เหนือศีรษะสิงห์ราชเป็นยันต์หัวใจเทพชุมนุม พร้อมด้วยนะปถมัง 108 ด้านหลังรูปพระนารายณ์ทรงครุฑยุดนาค ให้ผลทางมหาอำนาจปราบภัยพาลทุกสิ่งรอบด้านเป็นนะปถมัง 108 ใต้ลงมาเป็นหัวใจเทพชุมนุมลงมาอีกเป็นนะฤาชา ซ้าย เป็นรูปหนุมานถือพระขรรค์ขวาเป็นองคต ทั้ง 2 ล้อมด้วยอักขระพระเจ้า 5 พระองค์ และธาตุ 4 ดิน น้ำ ไฟ ลม เพื่อหนุนให้มีชีวิตเป็นตัวเป็นตนขึ้นในนิมิต
ตั้งแต่เห็นรูปเหรียญพระคณาจารย์ทั้งหลายมา “สีหบรรลือ” ได้ชื่อว่าถูกบรรจุอักขระเลขยันต์ วิชาสำคัญๆที่เจียนสูญหายไว้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะเหรียญทองคำ และเหรียญเงิน หลวงพ่อจะใช้เวลาทำสมาธิลงเหล็กจากเขียนอักขระเรียกสูตรไปตามขั้นตอนแบบโบราณประเพณีอย่างแท้จริง ทีละตัว...ทีละตัว...อย่างตั้งใจ
ท่านเล่าว่า เมื่อกำหนดจิตภาวนาสูตรนั้น พลังทั้งหมดจะมารวมอยู่ที่กลางอกเมื่อจิตนิ่ง มีกำลังถึงที่สุด ท่านก็ถ่ายปราณให้แล่นไปตามแขนและวิ่งเข้าเหล็กจารออกไปเป็นอักขระเลขยันต์ที่เขียนขึ้นยิ่งเขียนมากเท่าไรพลังยิ่งรวมตัวมาก กระทั่งชาไปทั้งแผ่นอก และแขนขวาจนปราศจากความรู้สึกใดๆ ต่อเมื่อเขียนเสร็จจึงรับรู้ว่าปวดแขนและมือเหลือกำลัง
ดังนั้นเหรียญที่ท่านลงจาร จึงไม่ได้หมายถึงมีรอยขีดเขียน ให้ดูดีมีราคาแต่เป็นความตั้งใจจริงของครูบาอาจารย์ที่ประสงค์จะทำของให้คุ้มชีวิตผู้เลื่อมใสในท่านคุ้มได้พอๆ กับที่ท่านคุ้มตัวเอง
“สีหบรรลือ” ไม่ได้มีแต่เพียงรูปสวย หากเนื้อแท้ถูกหล่อหลอมจากแผ่นโลหะต่างชนิด ทั้งทางทอง เงิน ทองแดง ซึ่งถูกลงพระยันต์ศักดิ์สิทธิ์บรรจุวิทยาคุณแบบเต็มสูตร จำนวนนับสิบกิโล หลอมแล้วนำมาลงอีกแล้วนำไปหลอมอีกซ้ำซ้อนเช่นนี้หลายครั้งจนดูยุ่งยาก หากนี่คือนิสัยท่านเป็นความรับผิดชอบต่อชีวิตของศิษย์ และผู้เลื่อมใสที่จะนำไปแขวนอย่างหาได้ยาก
ทั้งที่กำหนดในปี 2534 แต่ถูกนำมาแจกจ่ายในปี 2536 เพราะหลวงพ่อเข้าที่ภาวนาปลุกเสกอย่างสุดกำลังท่าน ถึง 3 ปี จนท่านปรารภถึงการเข้าสมาธิปลุกเสกและการจารว่า “ไม่สะดุดเลย”
ใครที่บ่นอยากได้เหรียญหลวงปู่เผือกรุ่นแรกจงเบาใจเถิด ด้วยหลวงพ่อพูดถึงสีหบรรลือภายหลังการเสกว่า “ไม่ต้องไปหาเหรียญขี่สิงห์หรอก เอาเหรียญนี้ไปใช้แทนกันได้เลย” นี่คือประกาศนียบัตรโบว์แดง
มั่นใจของท่านขนาดที่ว่ารถเบนซ์ประจำวัดที่นายทหารผู้ใหญ่ถวายมาให้หลวงพ่อใช้พร้อมกับพลขับนั้นไม่ปรากฏการเจิม มีเพียงเหรียญสีหบรรลือ เนื้อเงินเลี่ยมแขวนติดกระจกหน้ารถอยู่เหรียญเดียว ลงคนเสกมั่นใจ คนแขวนอย่าสงสัยเลย
เมื่อวันไหว้ครูต้นเดือนเมษายน ศิษย์คนหนึ่งเปิดเสื้อให้ผมดูรอยถูกแทงที่ฟกช้ำอยู่ถึง 8 จุด ผู้แทงที่กะเอาชีวิตเขาก็ไม่ได้สมใจ เพราะคมมีดไม่อาจกรีดหนังเขาได้ และทั้งตัวเขามีเพียงเหรียญสีหบรรลือเนื้อทองแดงแขวนที่คออยู่เหรียญเดียว


ข้อมูลเพิ่มเติม 2 - 02 ส.ค. 2552 - 18:27:25 น.

ผมปิดไว้ 550 บ.ครับใครเคาะปิดผมลดให้ห้าสิบบาทละกันครับ


 
ราคาปัจจุบัน :     550 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     10 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    Hennessy (91)

 

Copyright ©G-PRA.COM
www1