(0)
เหรียญรุ่นแรกปี 17 หลวงพ่อทรัพย์ วัดตลุก ชัยนาท บล๊อคเลข1นิยม






รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องเหรียญรุ่นแรกปี 17 หลวงพ่อทรัพย์ วัดตลุก ชัยนาท บล๊อคเลข1นิยม
รายละเอียดด้านหลังยันต์นะมหาอุด อักขระด้านบนสุดเป็นหัวใจพระรัตนตรัย อิ(ย่อเอามาแต่ตัวต้นในบทพุทธคุณคือ อิติปิโสฯ) สวา(ย่อเอามาแต่ตัวต้นในบทธรรมคุณคือ สวากขาโตฯ) สุ (ย่อเอามาแต่ตัวต้นในบทสังฆคุณคือ สุปฏิปันโนฯ) ตรงกลางประทับด้วยนะมหาอุด เริ่มจากขมวดหัวนะแล้วลากเส้นเวียนเป็นตัวนะหางวกกลับเข้ามาบรรจบหัวตัวนะ เข้าตำราที่ว่า ขึ้นด้วยนะลงด้วยนะ เป็นเคล็ดทางมหาอุด มีคาถาบริกรรมว่า นะอุดทัง นะอุดทวารัง ปิดนะ ขมวดหางเข้าไปในหัวตัวนะพอดี ล้อมรอบด้วยหัวใจแก้ว 3 ประการคือ มะอะอุ ล่างสุดลงด้วยหัวใจมหาอุด นะอุดทวารัง ดังนี้แล
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน1,200 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ50 บาท
วันเปิดประมูล - 03 ก.ย. 2552 - 21:45:46 น.
วันปิดประมูล - 11 ก.ย. 2552 - 12:59:25 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลสุญญากาศ (2.2K)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 09 ก.ย. 2552 - 20:59:52 น.
.


ประวัติหลวงพ่อทรัพย์

พระครูทรัพย์ ธมุมโสภโณ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าหลวงพ่อทรัพย์ ท่านเป็นบุตรคนที่ ๖ ของนาย สุ๘ นาง ปราง ขำสุข เกิดวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๔๓๐ ตรงกับวัน พฤหัสบดี เดือน ๖ ขึ้น ๖ ค่ำ ปีกุน ที่บ้านโรงปลา หรือ หัวหาด หมู่ที่ ๒ ต. บางหลวง อ. สรรพยา จ. ชัยนาท ท่านมีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 11 คน คือ
นายจ่าง ขำสุข
นายเจิม ขำสุข
นายปั่น ขำสุข
นางทิม ขำสุข
นายบุญ ขำสุข
นายทรัพย์ ขำสุข (หลวงพ่อทรัพย์)
นางทับ ขำสุข
นางพลับ ขำสุข
นางจีบ ขำสุข
นายลับ ขำสุข
นางจาบ ขำสุข

เมื่ออายุได้ ๑๐ ขวบ บิดามารดาได้นำไปฝากหลวงพ่ออ่ำ วัดอินทราราม โดยให้อยู่กับหลวงพ่ออยู่ ซึ่งเป็นลูกผู้พี่ หลวงพ่อทรัพย์ เป็นผู้ที่มีความสนใจในการศึกษาเล่าเรียนมาตจั้งแต่ท่านยังเป็นเด็กเล็ก ๆ และมีความจำเป็นเลิศ ท่านเรียนหนังสืออยู่ที่วัดอินทรารามประมาณ ๓ ปี ก็อ่านออกเขียนได้ทั้งหนังสือไทยและหน้งสือชอม นับว่าเก่งกว่าเด็ก ๆ รุ่นเดียวกันมาก ต่อมาหลวงพ่ออยู่ย้ายจากวัดอินทาราม ไปเป้นเจ้าอาวาสวัดดักคะนนท์ อ. เมือง จ. ชัยนาท ท่านได้ย้ายตามไปด้วยกับหลวงพ่ออยู่ และได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดดักคะนนท์ ท่านอยู่ที่วัดดักคะนนท์ระยะหนึ่งไม่นานนัก หลวงพ่ออยู่ก็นำท่านไปฝากเรียนบาลีในสำนักของพระสุนทรมุนี (ใจ) วัดทุ่งแก้ว อุทัยธานี ท่านอยู่วัดทุ่งแก้ว เรียนนักธรรม เรียนบาลี และฝึกหัดเป็นนักเทศน์เจริญรอยพระสุนทรมุนี (ใจ) ซึ่งเป็นนักเทศน์ที่มีชื่อเสียงอยู่ในสมัยนั้นอีกด้วย ต่อมา ลาท่านลาจากสำนัก วัดทุ่งแก้ว กลับมาอยู่วัดอินทาราม อุปสมบทที่วัดอินทาราม หลวงพ่อทรัพย์อุปสมบทได้ ๑๕ พรรษา ก็ลาหลวงพ่ออ่ำ ลาสิขา เมื่อลาสิขาไปแล้ว ตัวท่านก็อยู่กับพี่น้องที่ยังไม่ได้แต่งงาน ตัวท่านเองไม่ยอมแต่งงานชีวิตของท่านตอนนี้สนุกมาก เครื่องดองของเมาเอาทุกอย่าง แต่ท่านมีสัจจะของท่านว่า อาจารย์ทรัพย์ดื่มครั่งเดียวมากหรือน้อยดื่มให้พอเลย บ้วนปากแล้ววันนั้นไม่ดื่มซ้ำอีก ท่านมักพูดว่า ข้าสนุกกับมันทั้งนั้น ท่านมีชีวิตโสดอยูาอย่างนี้หลายปี คราวหนึ่งนางจาบน้องสาวคนเล็ก ป่วยมาก รักษาอย่างไรก็ไม่หาย มีแต่ทรงกับทรุดท่านจึงบนครูหลวงพ่ออ่ำ (ตอนนั้นหลวงพ่ออ่ำ มรณภาพแล้ว) ว่า ถ้าให้ยาตามตำราหลวงพ่อแล้วน้องสาวหายป่วย จะบวชถวาย ๑ พรรษา พอสึกออกมาตอนนี้ ท่านจึงได้แต่งงานกับ น.ส. น้อม เมื่อแต่งงานแล้ว ท่านมีบุตรหญิงหนึ่งคน คือ น.ส. ฉลอง ขำสุข ถึงปี พ.ศ. ๒๔๘๐ หลวงพ่อบุญ (พระครูบุญวิทยโสภณ) มรณภาพ บรรดาท่านที่เคยร่วมสำนักเรียนกันมาเช่น หลวงพ่อ หลิน (พระวิชัยวุฒาจารย์) วัดสมอ ได้ขอร้องให้ท่านกลับมาบวชใหม่ เพื่อช่วยหลวงพ่อเทียบปกครองวัดอินทารามต่อไป หลวงพ่อเทียบเป็น เจ้าอาวาสวัดอินทาราม เมื่อ พ.ศ.๒๔๘๐ ต่อจากหลวงพ่อบุญในการบวชครั้งหลังนี้ ท่านบวชเมื่อวันขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๘ พ.ศ๒๔๘๑ โดยมีพระชัยนาทมุนี (หรุ่น ) วัดบรมธาตุ เป็นพระอุปํชฌาย์พระครูสรรพยานกิจวิชัย (หลิน) วัดสมอ เป็น พระกรรมวาจาจารย์พระวินัยธรทรัพย์ (หลวงพ่อทรัพย์) วัดกำแพง เป็นพระอนุสาวนาจารย์
เมื่อโยมทั้งสองของท่าน ถึงแก่กรรมแล้ว และน้องสาวของท่านแต่งานแยกครอบครัวแล้ว ท่านได้รื้อฝากระดาน ซึ่งเป็นเรือนหอของโยม กระดาน ซึ่งเป็นเรือนหอของโยม แล้วเป็นสิทธิของท่านถวายวัดมาปลูกไว้ในวัดอินทารามเมื่อบวชครั้งหลังนี้ ท่านก็อยุ่กุฏิที่เป้นของโยมหลังนี้ และท่านได้ยกที่นาของท่านจำนวน 30 ไร่เศษ ถวายวัด ทำงานรานถึงกรมศาสนา แต่มีข้อแม้ว่าถ้าท่านยังมีชีวิตอยู่ท่านจะขอเก้บค่าเช่าเป็นส่วนตัวก่อน เพื่อใช้จ่ายไม่ลำบากใจว่าจะเป็นเงินวัด ท่านสนใจในการศึกษามากพระรูปใดเป็นครูสอนนักธรรม-บาลี ท่านจะมีรางวัลให้ แม้พระเณรที่เป็นนักเรียน ท่านจะเอาใจใส่ดูแล อุปการะช่วยเหลือ ให้ได้รับความสดวกในการเรียนแล้ะท่านจะบอกว่า เงินที่ใช้นี่ของข้า และพระเณรหรือคฤหัสถ์ที่ทำงานให้วัดท่านจะเป้นห่วงมากคอยดูแลให้การช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา ในย่ามท่านจะมีห่อผ้าเช็ดปากอยู่ห่อนึง นั่นคือห่อเงินส่วนตัว ถ้าท่านจ่ายเงินไปแล้วรับเงินทอนมาเผลอใส่
ย่ามโดยไม่ใด้ใส่ห่อส่วนตัวของท่านท่านจะถือเป้นเงินวัดแล้วรวมยอดเข้าวัด เงินเทสมหาชาติทั้งหมด ที่ท่านเทสเองหรือท่านให้พระรูปอื่นเทศแทน ถ้าท่านใดนำไปถวายท่านท่านจะถือว่าเงินวัดทั้งหมด และเงินที่ได้จากการสวดมนต์-บังสุกุล ในระหว่าปีท่านจะใช้ตามปกติธรรมดาของท่านแต่พอถึงวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 8หรือวันเข้าพรรษา ท่านจะรวมยอดถวายวัดทั้งหมด ท่านทำอย่างนี้ตั้งแต่ บวชครั้งแรกกับหลวงพ่ออ่ำ ในด้านความรู้ส่านตัวของท่าน การแปลหนังสือ ท่านจำได้แม่นยำ อ้างคำภีร์ คาถา วรรคตอนถูกต้อง จนขนาด เปรียญ 6 ประโยค ยอมรับท่านแม่นจริงๆๆ ในการเทศไม่ว่าคู่หรือเดี่ยว ท่านไม่ชอบเยิ่เย้อ ท่านชอบพูดสั้นๆๆ กระทัดรัดแต่ได้ใจความชัดแจ้ง เรื่องเทศนี้ครั้งนึงท่านอยู่วัดมหาธาตุ กรุงเทพ พอถึงฤดูร้อนท่านกลับมาพักผ่อนที่วัด อินทาราม งานศพ ขุนไชยสุภาที่วัดพยาตาก เจ้าภาพนิมนต์ หลวงพ่อบุญ แต่ไม่พบ จึงนิมนต์ใว้กลับหลวงพ่ออ่ำ หลวงพ่ออ่ำท่านจึง รับใว้ ให้ไปเทศกลับอาจารย์ บุญ วัดงิ้วงาม ต.ท่าชัย อ.เมืองชัยนาท อาจารย์บุญท่านนี้เป็นพระนักเทศรุ่นใหญ่ ชอบเทศหักนักเทศด้วยกัน หลวงพ่ออ่ำรับนิมนต์ใว้ให้หลวงพ่อ บุญ วัดตลุกไป แต่พออาจารย์ฟู โพธิ์เทพรู้เรื่องเข้าไม่ยอมให้หลวงพ่อบุญไปจึงบอกกับหลวงพ่ออ่ำ ว่า”งานนี้หลวงพี่บุญไปไม่แหมาะแน่ต้องเจอกับหลวงพี่ทรัพย์จึงจะเหมาะกว่า” และเมื่อถึงวันเทศหลวงพ่อทรัพย์ไปเทศ ก็เป็นความจริง พระอาจารย์บุญ ท่านเล่นลูกนอก หลวงพ่อทรัพย์ พระหนุ่ม ศิษเอกหลวงพ่อใจ(พระสุนทรมุนี) วัดทุ่งแก้ว แก้เสียพูดไม่ออกเลยยอมกันตั้งแต่นั้นมา อาจารย์สวัสดิ์ อินทร์มา บ้านข้างวัดตลุกด้านเหนือ เล่าว่า บางคนเรียกท่านว่าท่าน แขก เพราะมีเรื่องอยู่ว่า เป็นธรรมเนียมของพระวัดตลุก เวลาเย็นพระผู้ใหญ่จะมาคุยกับหลวงพ่ออ่ำ ที่หอนกเป็นประจำทุกวัน เย็นวันหนึ่งของเดือนตุลาคม พ.๒๔๕๐ หลวงพ่ออ่ำ หลวงพ่อบุญ หลวงพ่ออยู่ พระอาจารฟู หลวงพ่อเทียบ และพระอาจารสวาสดิ์นั่งคุยกันอยู่ที่หอนก ในขณะนั่งคุยกันอยู่นั้นได้มีพระลังกาเดินทางมาหาหลวงพ่อ อ่ำ เพื่อขอพักอาศัย และพระลังกาพูดไทยไม่ได้ หลวงพ่ออ่ำท่านได้แต่ยิ้มๆ มองตาหลวงพ่อบุญหลวงพ่อบุญจึงให้คนไปตามหลวงพ่อทรัพย์มา เมื่อหลวงพ่อทรัพย์มาแล้ว ก็พูดกับพระรังกาเสียงดัง และรู้เรื่องกันดี มีตอนนึงพระลังกาพูดแล้วชี้ไปที่นกหลายตัวบนต้นไม้ หลวงพ่อทรัพย์ก็ตอบเป็นบาลีแล้วชี้มือไปอีกทางนึงแล้วนกที่อยู่ที่ต้นไม้ก้บินไปทิศที่หลวงพ่อทรัพย์ชี้ พระลังกาปรบมือพร้อมหัวเราะเสียงดังชอบใจที่หลวงพ่อทรัพย์ รู้ภาษานก นี่แหละที่ทำให้ผู้คนล่ำลือว่าหลวงพ่อรู้ภาษานก ดังนั้นจึงทำให้ท่านโด่งดังเรื่องของ นกคุ่ม หรือ นกคุ้มและที่หลวงพ่อบุญให้เณรไปตามหลวงพ่อทรัพย์มาความจริง คือหลวงพ่อบุญก็รู้แล้วรู้ดีกว่าหลวงพ่อทรัพย์เสียอีก แต่หลวงพ่อบุญต้องการยกย่องหลวงพ่อทรัพย์ให้ปรากฏเกียตินั่นเอง เรื่องนั่งทะนานอันลือลั่นของท่าน เมื่อท่านเป็นฆราวาสท่านเรียนมาจาก ปู่เครือน และรับปฏิญาณว่าจะต้องมีเมตรตา ทำคนแตกร้าวให้ดีกันเพียงอย่างเดียว ทำคนดีกันให้แตกกันไม่ได้ ทำคนผิดให้ถูกไม่ได้ และไม่ยอมมอบวิชานี้ให้ใครมา ๓๗ ปี เพราะกลัวจะไปทำผิดตามคำปฎิญาณ เพิ่งมาถ่ายทอดให้ เจ้าอธิการ บุญคง โชติธม.โม เจ้าอาวาสวัดโพธิ์มงคล ( บ้านอ้อย )เมื่อปีพ.ศ. ๒๔๙๖และได้มรณภาพไปแล้วเช่นกัน เรื่องรูปเหรียญ มีผู้เคารพนับถือท่านจำนวนมากมาขอเอารูปท่าน ออกเป็นเหรียญแต่ท่านไม่ยอมเมื่อพ.ศ.๒๔๙๓ หลวงพ่อทรัพย์ กับเจ้าอธิการบุญคง ไปปั้นรูปหล่อหลวงพ่อเทียบในปีนั้นสุขภาพท่านไม่ดี เจ้าอธิการ บุญคง จึงขออนุญาตปั้นรูปท่านด้วยท่านก็ยอมให้ปั้นแต่ไม่ยอมให้ทำเหรียญ ท่านให้เอารูปหลวงพ่ออ่ำบ้าง หลวงพ่อบุญบ้างไปทำเหรียญ ต่อมาผู้รบเร้ามากๆๆเข้าท่านจึงยอมแต่ต้องมีรูปของอาจารย์ท่านอยู่ด้วย คือหลวงพ่ออ่ำและหลวงพ่อบุญ อยู่อีกด้านนึงจึงยอมไห้ไปทำเหรียญได้ปี พ.ศ. ๒๔๙๒ หลวงพ่อเทียบ เจ้าอาวาสวัดอินทาราม มรณภาพ หลวงพ่อทรัพย์จึงเป็นเจ้าอาวาสสืบต่อมาจนถึงปี ๒๕๒๑ท่านจึงมรณภาพ


ข้อมูลเพิ่มเติม 2 - 09 ก.ย. 2552 - 21:01:56 น.

ข้อมูลจากเวปวัดอินทาราม(ตลุก)ครับ


 
ราคาปัจจุบัน :     1,200 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     50 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    itsaredh (1.3K)

 

Copyright ©G-PRA.COM