ชื่อพระเครื่อง | น้ำมันพลังมนต์เสน่หา รุ่นแรก อ.ธวร |
รายละเอียด | น้ำมันเสน่หารักซ้อนนี้เป็นน้ำมันที่ทำพิธีในคืนเพ็ญพร้อมด้วยตะกรุดนางรัก
มีอิทธิคุณทางเมตตามหานิยมมหาเสน่ห์อย่างแรง ใช้เจิมคิ้วผู้คนเอ็นดูรักใคร่
เจิมหน้าฝากเป็นเสน่ห์เมตตามหานิยม เจิมเปลือกตาดวงตามีเสน่ห์
เสยผมเป็นสง่าราศรี ทาปากใช้เจรจาพาที เจิมท้องน้อยเป็นมหาเสน่ห์ราคะดึงดูดใจเพศตรงข้าม
หรือแม้กระทั้งใช้ผสมลงในครีมอาบน้ำหรืออาหารให้ผู้ที่หมายปองกิน ผู้นั้นก็จะหลงรักเรายิ่งขึ้นไป
ในกรณีนี้ควรใช้ด้วยความระมัดระวังแก้ไขได้ยากนัก แล้วจะลำบากใจภายหลัง
ควรใช้กับคนที่เราหมายปองเป็นคู่จริงๆเท่านั้น
ใช้พกติดตัวไปเป็นมหาเสน่ห์แก่คนทั้งหลาย
ใช้เจิมวัตถุมงคลใดๆก็ตาม จะทำให้วัตถุมงคลนั้นมีอานุภาพเพิ่มขึ้น
เอาไว้กับหน้าร้านค้าก็จะทำให้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเลยทีเดียว
ทำสิ่งใดอธิฐานต่อนางรักไม้ผู้รักษาขวดน้ำมันนี้ทางค้าขายมหาเสน่ห์จะสำเร็จสมปราถนาทุกประการ
มวลสารพิธีกรรมการปลุกเสก
ว่าด้วยเรื่องของมวลสารนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญในการสร้างวัตถุมงคลเป็นอย่างมาก
ถ้ามวลสารดี การปลุกเสกวัตถุมงคลใดๆก็ตามก็จะดีตามไปด้วย
ครั้นไม่มีมวลสารการปลุกเสกวัตถุมงคลก็เป็นไปได้ยาก
อาจจะต้องใช้เวลานานมากเป็นหลายเท่าทีเดียวถ้าเทียบกับวัตถุมงคลที่ใช้มวลสารดี
เพราะมวลสารนั้นนอกจากจะมีพลังงานของมันเองอยู่แล้วยังมีกายสิทธิ์เทพเทวดารักษาอยู่
อีกทั้งยังมีความสามารถกักเก็บพลังงานได้ดีอีกด้วย มวลสารของอาจารย์ธวรที่นำมาทำวัตถุมงคล มีดังนี้
เถาว์วัลย์หลงคืนเพ็ญ(เถาว์วัลย์หลงคืนจั๋นเป็ง)เป็นของดีครูเฒ่าหนานธรรมปลุกเสกในป้าช้าคืนเดือนเพ็ญ
เมื่อสิบกว่าปีทีีแล้วเป็นการปลุกเสกโดยการอันเชิญเทพเทวาครูเสน่ห์ทั้งครูเก๊าครูป๋ายครูต๋ายครูยัง
(ครูต้นวิชาครูที่สืบทอดขันกันต่อๆมาครูที่สิ้นไปแล้วและครูที่มีชีวิตอยู่)
เชิญครูบาอาจารย์เข้ามาเสกและปลุกเสกลงหัวใจมหาเสน่ห์ทั้ง108ในคืนนั้นสุดท้าย
"ฝากผีเสกให้กำเน้อ" (ขอผีเจ้าป่าช้าเสกให้)
และได้ตัดเป็นท่อนๆลูกศิษย์ลูกหาพกไว้มีประสบการณ์มากมาย
โดยให้คุณทางมหาเสน่ห์คลุ้มคลั่งกระวนกระวายใจ ไม่สบายกายไม่สบายใจ
หลงไหลต้องมาหาให้ได้ พ่อหนานธรรมรู้ในข้อนี้ดี จึงเลือกคนที่จะให้คือให้เฉพาะเป็นบุคคลไป
ดังนั้นเมื่อเวลานานเข้าเถาว์วัลย์หลงนี้มีเหลืออยู่ก็มาก จะเอาไปให้ใครก็กลัวเขาจะเอาไปใช้ในทางไม่ดี
จึงยกให้อาจารย์ธวรเพื่อใช้ในการสร้างวัตถุมงคลในกาลสืบไป
ดอกรักซ้อนตายพราย เมื่อถึงคราวออกดอกบ้างก็บานแล้วบ้างก็ยังไม่บาน
ก็พากันแห้งเหี่ยวตกลงพื้น อาจารย์เห็นเป็นของดีจึงเก็บเอาไว้
เพราะดอกรักซ้อนนั้นเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งมีเทวดารักษา
เพียงแค่พกดอกรักซ้อนติดตัวไปในที่ต่างๆโดยไม่ต้องเสกใดๆ
ก็สามารถให้คุณทางเมตตามหาเสน่ห์เจ้าชู้ อยู่ไหนไม่ร้างคู่นานนัก
และเมื่อกล่าวถึงดอกรักซ้อนตายพรายยิ่งแล้วเปรียบเสมือนดั่งนิมิตหมายว่า
เทวดายกให้เพื่อเอามาใช้ประโยชน์ แก่คนทั่วไป นี่จึงเป็นของดียิ่งอีกอย่างหนึ่ง
ซึ่งจะมีอิทธิคุณมากกว่าดอกรักซ้อนธรรมดาทั่วไปหลายเท่าตัวนัก
ไม้รักตายพราย ไม้วิเศษมีอาถรรพณ์แฝงอยู่ในตัว คนสมัยก่อนนิยมเอามาทำปลัดขิก
ให้มีเมตตามหาเสน่ห์ค้าขายดี ไม้รักนี้เป็นไม้รักที่ยืนต้นตาย
ต้นไม้ชนิดนี้จะมีเทพเทวดารักษาหรือเรียกได้ว่ามีรุกขเทวดาสิงสถิตอยู่
ออกดอกมีทั้งตัวผู้และตัวเมียเทพเทวดาทิพยาธรทั้งหลายจะพากันมาสิงสถิตอาศัยอยู่ตามดอกนี้ด้วยกันทั้งสิ้น
คนโบราณนิยมเอาดอกมาเป็นมวลสารมหาเสน่ห์ไม่แพ้ว่านดอกทองเลยทีเดียว
แต่ต้องระวัง เพราะต้นไม้ชนิดนี้มีพิษหากใครเข้าไปใกล้จะแพ้พิษรัก
ตามลำตัวและใบหน้าจะคันและบวมบางคนถ้าแพ้เอามากๆถึงตายก็มี
บ้างก็ว่าเป็นอาถรรพณ์ของเทพเทวดาที่รักษาต้นไม้ ซึ่งตัวของอาจารย์ธวรเองก็เคยโดนมาแล้ว
ซึมไปหลายวันทีเดียว ไม้รักตายพรายนี้จึงเป็นไม้รักที่มีอาถรรพณ์ความเป็นมหาเสน่ห์แรง
ไปไหนคนก็รักใครเมตตา จะรักใครเขาก็จะรักตอบ จะเห็นได้ว่าชื่อว่าต้นรัก
คำว่ารักคนสมัยก่อนไม่ได้ตั้งขึ้นมามั่วๆ
ไม้มะยมตายพราย เป็นของดีที่หาได้ยากยิ่งอีกอย่างหนึ่ง
โดยไม้มะยมที่ตายพรายยืนต้นย่อมมีอาถรรพณ์อยู่ในตัวทางด้านเมตตามหานิยมผู้คนชมชอบ
ครั้นเมื่อพกไว้กับตัวจะทำให้บุคคลผู้นั้นเป็นคนที่มีออร่าความดึงดูดใจของคนทั้งหลาย
กาฝากมะยม กาฝากเป็นของดีอีกอย่างหนึ่งมีอาถรรพณ์
ทำให้บุคคลผู้ที่ครอบครองไปไหนชีวิตมีแต่คนอุปถัมภ์ค้ำชูช่วยเหลือยิ่งมาเป็นกาฝากมะยมด้วยแล้ว
ก็ยิ่งเป็นเมตตามหานิยมตามไปด้วย
มวลสารทั้งหมดนี้ อาจารย์ธวรนำมาเขี้ยวในน้ำมัน
ซัดผงอิทธิเจและสีผึ้งมหาเสน่ห์ของครูบาอาจารย์ที่เก็บเอาไว้เอา
โดยจัดตั้งขันธ์บูชาครูบาอาจารย์ มีฤาษีหน้าวัว(องค์ที่แสดงปาฏิหารย์)เป็นประธาน
โยงสายสิญผูกด้วยกิ่งไม้รักตายพรายหย่อนแช่ลงในหม้อทองเหลืองแม่ม้าย
ใช้ไม้ตายพรายอันได้แก่ไม้รักและไม้มะยมเป็นฟืน
ทำพิธีปลุกเสกอันเชิญครูเก๊าครูป๋ายครูต๋ายครูยังมาเสกอธิษฐานจิต
นั่งบริกรรมคาถาตำหรับพื้นเมืองให้มีอิทธิคุณทางเมตตาเสน่ห์และค้าขายอย่างถึงที่สุด
จึงนำมากรองด้วยผ้ายันต์ม้าเสพนางของครูเฒ่า และเก็บไว้เพื่อรอวันเพ็ญ
วาระที่2เมื่อมาถึงคืนเพ็ญหรือที่เรียกว่าคืนจันทร์เป็ง
คืนที่ปลุกเสกวัตถุมงคลทางเมตตามหานิยมมหาเสน่ห์โชคลาภได้ขลังเป็นที่สุดในตำราครูเฒ่า
และต้องเป็นฤกษที่พระจันทร์อยู่ตรงกลางศรีษะเท่านั้นวัตถุมงคลจึงจะได้รับพลังอิทธิคุณอย่างสูงที่สุด
เมื่อตั้งขันทำพิธีอันเชิญครูบาอาจารย์และปลุกเสกวัตถุมงคลให้มีอิทธิคุณทางเมตตามหาเสน่ห์โชคลาภ
อย่างที่ผ่านมาเป็นการใช้คุณอำนาจของเทพเทวดาครูบาอาจารย์พ่อปู่ฤาษีเจ้าทั้งหลายเป็นคุณเบื้องบน
ปิดท้ายด้วยการอันเชิญผีเจ้าป่าช้ามาเสกเป็นคุณเบื้องล่าง
เมื่อได้ทั้งคุณเบื้องสูงและคุณเบื้องล่าง
วัตถุมงคลจะมีฤทธิ์เพิ่มขึ้นมีความรุนแรงและใช้ในทางเสน่ห์ได้ทุกทางไม่มีข้อยกเว้น
(แต่บาปกรรมจะตกแก่ผู้ใช้ในทางอันไม่ควรเอง)
ปิดท้ายโดยการสวดยัดกันเสื่อมกันถอนเป็นก็เป็นอันเสร็จพิธี
จะเห็นได้ว่า วิชามหาเสน่ห์สายเหนือตามตำหรับนี้ ไม่ใช้ส่วนผสมของซากศพใดๆทั้งสิ้น
จึงไม่มีพิษมีภัยไม่เข้าตัว เป็นแต่เพียงวิชาของครูฤาษีโบราณถ่ายทอดกันมา
ตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวีมาจนถึงปัจจุบัน |
ราคาเปิดประมูล | 489 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 519 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 10 บาท |
วันเปิดประมูล | - 21 ส.ค. 2554 - 12:55:31 น. |
วันปิดประมูล | - 23 ส.ค. 2554 - 01:13:58 น. (ปิดประมูลแล้ว) |
ผู้ตั้งประมูล | กุเพนทรา (552)
|