(0)
ธงมหาพิชัยสงคราม ผืนใหญ่ ( เก่าเก็บ) จำนวน 2 ผืน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ( 2)








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องธงมหาพิชัยสงคราม ผืนใหญ่ ( เก่าเก็บ) จำนวน 2 ผืน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ( 2)
รายละเอียดอานุภาพธงมหาพิชัยสงคราม

ถาม : ....................................

ตอบ : เจ้านั่นไปเที่ยวบางแสน ๔ วันหลับมาแอร์เปิดคาอยู่ดีที่ไม่ไหม้แสดงว่ามันอึดน่าดูเลยน่ะ ๔ วัน ๔ คืนเปิดอยู่ได้ยังไง บ้านเขาติด ธงมหาพิชัยสงคราม เลย มั่นใจว่าเป็นอานุภาพของธง ลักษณะเดียวกับตอนที่ไฟมันไหม้ตึกแถว พอไหม้มาถึงบ้านที่เขาติดธงเอาไว้ไม่รู้มันกระโดดข้ามไปได้ยังไงมันไหม้ห้อง ต่อไป เว้นห้องนั้นเอาไว้ ไอ้เราก็ยังงงๆ เลยไม่ว่าจะเป็นกฏฟิสิกส์หรือหลักของอากาศพลศาสตร์อีท่าไหนก็ตาม มันไม่มีทางที่กระโดดข้ามห้องแถวที่ติดกันไปห้องหนึ่งได้หรอก แต่มันไปได้ (หัวเราะ) ไปไหม้ห้องถัดไป ตกลงคนอื่นเขาดำเป็นตอตะโกกันหมด มีขาวอยู่ห้องเดียว

งวดก่อนไปหาดใหญ่ซักสามปีมาแล้วมั้ง ตรงช่วงในเป็นห้องแถวไม้ก็ไฟไหม้ เขาเก็บของหนีกันอลหม่าน พวก ท่านแสงชัย ตอน นั้นยังไม่ได้บวช ก็ไปช่วยเขาเก็บของอะไรด้วย เก็บเสร็จก็มานั่งหอบแฮกๆ อยู่ เราก็ถามว่าที่บ้านติดธงมหาพิชัยสงครามด้วยรึเปล่า ? เขาบอกว่าติด พอถามว่าติดธงไว้รึเปล่า เขาบอกว่าติด เราก็สบายใจ ถ้ามีธงละก็ไม่เป็นไรหรอก ให้มันไหม้ไปเถอะ ไหม้ที่อื่นเดี๋ยวมันไม่มาถึงเราหรอก ปรากฏว่าคุณแสงชัยเขายกพานใส่วัตถุมงคลให้ดูอยู่นี่ครับ ผมถอดมาด้วย (หัวเราะ) แหมมันเก็บเกลี้ยงจริงๆ อยู่นี่ครับผมถอดมาด้วย ยังดีนะที่รถดับเพลิงสกัดเอาไว้อยู่ก่อน ไม่งั้นก็คงมีโอกาสโทษกันให้วุ่นไปเลย ด้วยความหวังดีเก็บให้ก็เลยเก็บมาเกลี้ยงเลย

ถาม : แสดงว่าไฟไหม้นี่ให้เหลือธงไว้ เก็บอย่างอื่นไป ?

ตอบ : อย่างอื่นเก็บไปเถอะ อันนั้นเขาเอาไว้กันโดยตรง เรื่องอย่างนี้ฟังๆ ดูแล้วเหมือนยังกับว่ามันไม่น่าเชื่อ แต่ว่ามันพิสูจน์ได้เห็นมาเยอะต่อเยอะด้วยกัน เจ้าแข กลับไปแล้วใช่มั้ย ? เจ้า ดวงแข นี่ บ้านเขาอยู่ด่านช้าง เขาทำไร่อ้อยอยู่สองร้อยกว่าเกือบสามร้อยไร่ แล้วก็มีพวกเห็นแก่ตัวมันจะเผาไร่อ้อยกันประจำเลย โดยเฉพาะโรงงานน้ำตาลมันจ้างเผา เหตุที่จ้างเผาเพราะว่า ถ้าโรงงานที่อยู่ไกลๆ ให้ราคาดีกว่าเขาจะขายให้โรงงานที่อยู่ไกลไม่ขายให้ของเขา เขาก็จะมาจ้างคนเผาไร่ อ้อยที่ผ่านการเผาไฟมาจะบูดเร็วมากเลย ไม่เหมือนกับอ้อยที่ตัดสดไป ทิ้งอยู่เป็นอาทิตย์มันอยู่ได้ แต่อ้อยเผาไฟนี่อยู่ได้วันสองวันมันจะบูด ก็เลยต้องเข้าโรงงานใกล้ๆ คือวิ่งไปเข้าโรงงานของมันนั่นล่ะ ยายนี่ประสาทกลับเลยรอบข้างมีแต่ไฟไหม้ไปหมด ก็เลยบอกให้เอาธงไปติดเอาไว้ ขนาดธงไปติดไว้มันก็ยังประสาทกินอยู่นั่นล่ะ ไฟไหม้ล้อมมาทุกด้านเลย แต่ปรากฏว่ามาไม่ถึง ใช้คำว่าบังเอิญดับซะก่อน แต่เรื่องบังเอิญนี่มันบังเอิญบ่อยจังเลย

จริงๆ แล้วธงมหาพิชัยสงครามท่านใช้คำว่าดีทุกอย่าง ตามตำราโบราณสมัย พระร่วง อยู่บอกว่า แม้แต่ถือด้ามธงเข้าป่าไปก็จะไม่อด อานุภาพถึงขนาดนั้น เพียงแต่ว่าของเราเองจิตใจยึดมั่นแค่ไหน ? วัตถุมงคลทุกชนิดเหมือนกับเครื่องส่งกำลังสูงในเมื่อเครื่องส่งๆ เต็มที่ สำคัญตรงเครื่องรับกำลังใจของเรามันเปิดรับเท่าไหร่ ถ้าหากว่ามีจิตเลื่อมใสมีการอาราธนาถูกต้องตามรูปแบบของเขา เท่ากับเอาเปิดรับเต็มที่มันก็จะได้ผลมาก คนที่เขาไม่เลื่อมใสไม่เชื่อถือผลก็จะน้อย เพราะฉะนั้นเครื่องส่ง ๆ แล้วสำคัญตรงเครื่องรับของเรานั่นล่ะ ถึงว่าทุกสิ่งทุกอย่างถ้าหากว่ามันจะดีมันต้องประกอบด้วยศรัทธาก่อน แต่ว่าศรัทธาอันนี้มันต้องมีปัญญประกอบ ไม่ใช่เชื่อหัวทิ่มหัวตำไปอย่างเดียวพิสูจน์ซะก่อน เขาบอกกันไฟได้เราก็เอาน้ำมันราดเผามันซะเองเลย ดูซิมันกันได้จริงมั้ย ? เจอข้อหาวางเพลิงบ้านตัวเองแหงๆ

ถาม : เอาธงไว้ที่ไหนในบ้านหรือเอาไว้หน้าบ้าน ?

ตอบ : ที่ไหนก็ได้แต่ว่าให้หันหน้าไปทิศเหนือหรือทิศตะวันออกผืนเดียวคุ้มได้ทั้ง สถานที่ สมมติว่าบ้านเรามีที่ดินซักพันไร่ก็คุ้มได้ทั้งพันไร่นั่นล่ะ เพียงแต่ว่าเวลาอธิษฐานขอให้ท่านป้องกันให้ครบด้วยนะ ไม่ใช่ประเภทไปถึงแปะฉับก็ทิ้งเอาไว้ทั้งปีทั้งชาติไม่เคยนึกถึงท่านเลย

ถาม : ต้องดูวันปิดมั้ยเจ้าค่ะ ?

ตอบ : ดูจ๊ะ ดูวันที่เรามีธง วันที่ไม่มีติดไม่ได้แน่เลย

ถาม : ต้องดูฤกษ์ ดูยามนี่จริงมั้ยเจ้าค่ะ ?

ตอบ : ไม่ค่อยจะจริงจ้ะ เรื่องของฤกษ์ยามมันเหมือนกับคนข้ามถนนเปรียบให้ฟังง่ายๆ ถ้าข้ามถนนในจังหวะที่ไม่มีรถมันก็ปลอดภัยแน่นอนนะ แต่ว่าคนที่เขาเก่ง ๆ เขาก็ข้ามโดยที่รถเยอะๆ เขาก็ข้ามได้ปลอดภัยดีแต่ว่ามันประมาทเกินไป สักวันหนึ่งอาจจะชราหูตาฝ้าฟางพลาดท่าให้รถชนเดี้ยงไปก็ได้ถ้าไม่เป็นการ ยุ่งยากลำบากเกินไปนักก็อาศัยฤกษ์ยามซะหน่อยหนึ่ง แต่ถ้าหากว่าเห็นว่ามันยุ่งยากมันลำบาก กำลังใจกำลังใจของเราเข้มแข็ง เกิดอะไรขึ้นรับได้อยู่แล้ว ลุยไปเลยวันไหนก็ได้

ถาม : หนูไปติดหนูก็ไม่ได้ดูวัน ?

ตอบ : ก็บอกแล้วไงว่า ถ้าเป็นวันที่มีธงก็ใช้ได้แล้วล่ะจ้ะ

ถาม : ใส่กรอบเสร็จแล้วก็ตอกตะปูแขวนหน้าบ้าน ?

ตอบ : นั่นล่ะ สะดวกที่สุด
ราคาเปิดประมูล400 บาท
ราคาปัจจุบัน500 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ50 บาท
วันเปิดประมูล - 21 ม.ค. 2556 - 19:17:05 น.
วันปิดประมูล - 22 ม.ค. 2556 - 21:41:57 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลศุภกิจอธิคม (2K)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 21 ม.ค. 2556 - 19:21:33 น.



(พล.ต.ยุทธศิลป์ เกสรศุกร์ นั่งเป็นลำดับที่ 2 ทางด้านขวาของหลวงพ่อ)


ในสมัยนั้น ผกค. มีอิทธิพลสูงมาก ได้ยึดเทือกเขาภูพานเป็นฐานใหญ่ของเขา และยังท้าทายฝ่ายทหารว่า หากจะตีเขาได้ จะต้องใช้กำลังหลายกองพล และใช้เวลาหลายเดือนจึงจะสำเร็จ พล.ต. ยุทธศิลป์ เกสรศุกร์ (ยศในขณะนั้น ปัจจุบันมียศ พล.ท.) ซึ่งเป็รองแม่ทัพ จึงได้นำเรื่องนี้มากราบเรียนหลวงพ่อ หลวงพ่อท่านเป็นพระ จะไปรบกับเขาก็ไม่สมควร แต่ท่านก็มีวิธีการให้กำลังให้กับทหารได้ ดังนี้

๑. ท่านเดินทางไปพร้อมกับคณะเพื่อทำพิธีบวงสรวงก่อน ที่ฐานทัพของทหาร

๒. แจก ผ้ายันต์ธงพิชัยสงคราม ให้กับทหารในหน่วยนั้น ทุกคน (ผ้ายันต์สีแดง)

๓. ให้ฤกษ์แก่ฝ่ายทหาร ทั้งนี้หมายถึงให้ฤกษ์ดีว่าเป็นมงคล ไม่ได้ระบุให้เข้าไปตีรบกัน เพราะไม่ใชกิจของสงฆ์ ส่วนเขาจะไปทำอะไรนั้น พระต้องวางอุเบกขา

ผมจำได้ว่า หลวงพ่อทำพิธีตั้งแต่เช้ามาก เพราะจากรูปถ่ายที่ นาวาตรี ประชา สิกขวานิช ร.น. ถ่ายไว้ ปรากฏพุทธนิมิตเป็นฉัตร ๕ ชั้น ทอดมาตามแสงแดดครอบคลุมองคืหลวงพ่อท่านนั้น ยังทำมุมน้อยมาก (มีรูปถ่ายที่บ้านสายลม และที่วัดท่าซุง)

หลังพิธีแล้ว ฝ่ายทหารก็นำ หลวงพ่อ หลวงปู่ธรรมชัย และคณะเข้าห้องยุทธการ เพื่อฟังบรรยายสรุปของฝ่ายทหาร เมื่อบรรยายจบ ปรากฏว่ามีนายทหารที่ฉลาดถาม ได้ถามหลวงพ่อกับหลวงปู่ว่า ขณะนี้พวก ผกค. เขาอยู่ที่ไหนบ้าง โดยให้ท่านเอาไม้เท้าช่วยชี้ไปที่แผนที่ทหาร

ปรากฏว่าท่านชี้จุดให้ทันทีทันใด โดยไม่ต้องคิดหรือต้องเสียเวลา เหล่าทหารต่างร้องฮือ พร้อมๆ กันหลายคน และบอกว่าตรงจุดเป๋งเลยครับหลวงพ่อ บางท่านไม่ฉลาดถาม ก็ถามวิธีเข้าโจมตี หลวงพ่อท่านก็ปฏิเสธ เพราะไม่ใช่กิจของสงฆ์ ส่วนวิธีถามที่ฉลาดผมขอสงวนไว้ก่อนครับ...

หลังจากหลวงพ่อและคณะได้เยี่ยมให้กำลังใจกับทหาร ตามหน่วยต่างๆ แล้ว ก็กลับไป กทม. และจากนั้นอีกไม่กี่วัน พล.ต. ยุทธศิลป์ ก็สั่งทหารแค่ ๑ กองร้อยเข้าโจมตีที่มั่นของ ผกค. เป็นการหยั่งเชิง โดยมีตัวท่านเป็นผู้สั่งการอยู่บนเครื่องบิน ผลปรากฏว่าได้ผลดีเกินคาดหมาย แต่มีรายงานทางวิทยุว่ามีทหารเสียชีวิต ๑ นาย

ท่านเกิดสงสัยว่ามันตายได้อย่างไร เพราะท่านมั่นใจว่าทหารของท่านต้องไม่มีใครตาย ท่านให้แค่บาดเจ็บเท่านั้น จึงสั่งลงมาจากเครื่องบินให้ค้นตัวทหารที่ตายว่า พบอะไรติดตัวบ้าง โดยเฉพาะผ้ายันต์แดง ธงพิชัยสงคราม ทหารก็รายงานว่า ไม่พบผ้ายันต์แดงเลยในตัว

ท่านรู้สึกผิดหวังมาก ที่เขาไม่พกผ้ายันต์แดงไปด้วย ทั้งๆ ที่สั่งแล้ว เมื่อถอนตัวจากฐานทัพ ก็สอบข้อเท็จจริงเรื่องพลทหารที่ตายว่าชื่ออะไร อยู่หน่วยไหน ทำไมจึงไม่มีผ้ายันต์แดง ก็พบว่าเป็นทหารที่เพิ่งย้ายกลับมาเมื่อวานนี้เอง จากหน่วยทหารราชบุรี (อ. ปากท่อ) ท่านจึงถึงบางอ้อ

วันที่ ๒ ท่านเพิ่มหน่วยจู่โจมเป็น ๒ กองร้อย ผลปรากฏว่ามีตาย ๒ คน และก็มีสาเหตุ จากไม่มีผ้ายัน์แดงติดตัวเช่นกัน เพราะเพิ่งย้ายเข้ามาจากหน่วยอื่น ความลับไม่มีในโลก ทั่วทั้งกองทัพรู้ข่าว รู้อิทธิปาฏิหาริย์ของ "ผ้ายันต์ธงพิชัยสงคราม" กันหมด

ผลก็คือ ทหารทุกคนที่ไม่มีผ้ายันต์แดงจะไม่ยอมออกโจมตีในวันต่อไป จึงเดือดร้อนถึงท่านรองแม่ทัพ ดังนั้น เพื่อขวัญและกำลังใจของลูกน้อง ท่านรองจึงต้องบินมาหาหลวงพ่อในคืนนั้น เพื่อขอผ้ายันต์แดงไปแจกลูกน้องให้ครบทุกคน....

วันที่ ๓ ทุกคนมีขัวญกำลังใจเต็ม ๑๐๐ % ใช้กำลังเป็น ๓ กองร้อย ปรากฏผลว่า สามารถยึดฐานใหญ่ และฐานย่อยของภูพานได้ทั้งหมด ชนิดที่ ผกค. ขัวญกระเจิงไม่ยอมสู้ด้วย เพราะวันที่ ๓ นี่ ทหารทุกคนถือปืนวิ่งเข้ายึดฐานโดยไม่มีใครยอมหมอบ หรือวิ่งเข้าหาที่กำบังเหมือน ๒ วันแรก ทุกคนดาหน้าเข้ายึดเอาดื้อๆ โดยไม่กลัว ไม่ยอมหลบลูกปืนสักคน จึงยึดได้ด้วยช่วงเวลาอันสั้น และไม่มีใครเสียชีวิตเลย

ผมนึกภาพเอาเองนะครับว่า หากผมเป็น ผกค. ผมก็คงต้องวิ่งหนีเอาตัวรอด เพราะยิงเท่าใดก็ไม่โดนตัว หรือโดนก็ไม่เข้า คงดาหน้าเข้ามาเต็มไปหมด เหมือนกับยิงทหารที่มาจากหุ่น (เหมือนในสมัยขุนแผน ท่านเป็นแม่ทัพ เสกหุ่นให้เป็นทหารรบที่ไหนก็ชนะหมด) พอหลวงพ่อทราบข่าวจากท่านรองแม่ทัพ ท่านพร้อมคณะก็ไปเยี่ยมทหารหน่วยนั้นในวันต่อมา

หลังจากได้คุยกับทหารหน่วยรบพิเศษนี้แล้ว ผมพอสรุปย่อๆ ได้ดังนี้

๑. ขณะที่ฝ่าย ผกค. ยิงปืนเข้าใส่พวกเรานั้น ส่วนใหญ่บอกว่าไม่โดน แต่เฉี่ยว หรือเฉียดตัวไป รู้สึกว่าลูกปืนมันวิ่งมาเต็มไปหมด แต่ไม่ยักโดนตัว

๒. บางคนบอกว่า บางครั้งก็โดน แต่ไม่เข้า ไม่รู้สึกเจ็บ มีความรู้สึกคล้ายๆ มีแมลงหรือผึ้งบินเข้ามาชนตัวเท่านั้น

๓. มีอยู่ ๑ ราย ที่เล่ว่า ขณะที่ดินไปบ้าง วิ่งไปบ้าง ยิงปืนใส่ข้าศึกบ้าง รู้สึกหิวจึงเอามือล้วงมาม่า (เส้นหมี่) กินไปด้วย แต่แปลกใจว่า ทำไมมาม่ามันถึงแข็งและเหนียวนัก เลยคลายออกมาจากปากดู ปากฏว่ามันไม่ใช่มาม่า แต่เป็นลูกปืนที่ข้าศึกยิงมาโดนตัวต่ไม่เข้า ลูกกระสุนแบนเหมือนถูกบี้ แล้วจึงหล่นลงไปในกกระเป๋าเสื้อที่มีมาม่าอยู่

๔. บางคนเล่าว่า ขณะวิ่งไปยิงไปนั้นบางครั้ง ก็มองเห็นข้าศึก ที่ซุ่มอยู่ข้างทาง แต่มันไม่ยักยิง เห็นมันตาค้างคล้ายกับหุ่นหรือคนตกใจ ข้อนี้ขออนุญาตวิจารณ์ว่า คงเป็นเพราะอานุภาพของผ้ายันต์แดง ทำให้เกิดอาการ "นะ จัง งัง" ขึ้น หรือเพราะมันตกใจจริงๆ ที่ไม่เคยเห็นคนที่ไม่หลบลูกปืน จึงมีสภาพคล้ายเห็นผี แล้วตกใจตาค้าง

๕. เรายึดได้ฐานใหญ่มาก จนไม่น่าเชื่อ เพราะฐานนี้ มีโรงพยาบาลแลเวชภัณฑ์มากมาย มีโรงพลศึกษา สนามบาส โรงรัวขนาดใหญ่ พร้อมเสบียงกินได้เป็นปี อาวุธมากมาย เครื่องปั่นไฟและน้ำมัน โดยเฉพาะราวตากผ้า ท่านรองบอกว่า ต้องใช้รถ ๑๐ ล้อทั้งคันอาจจะขนไม่หมด แสดงว่ามันมีกำลังพลไม่ใช่น้อยเกินกว่าที่เราคาดคะเนไว้อีก และมีการทดน้ำไว้ใช้ด้วย แสดงว่าเขาอยู่มานานหลายปี

๖. เนื่องจากเราใช้กำลังพลน้อยแค่ ๓ กองร้อย หากยึดพื้นที่ไว้ ก็เสี่ยงเกินไป เพราะตอนกลางคืน มันอาจหวนกลับมาใหม่ก็ได้ จึงสั่งทำลายและเผาให้หมด สำหรับผมคิดเอาเองว่าหากผมเป็น ผกค. ก็ไม่ขอยอมหันหลังกลับมาตียึดคืนแน่ๆ เพราะเข็ดไปจนตาย จะไม่ขอพบทหารผี (ทหารหุ่น) เหล่านี้อีก

๗. เป็นจริงตามคาดหมาย เพราะตั้งแต่รั้งนั้นเป็นต้นมา ผกค. ก็หายซ่าไปเลย...

เรื่องของหลวงพ่อท่าน ยังมีอีกมากยากที่ผมจะเล่าให้ฟังทั้งหมดได้ และโดยธรรมแล้ว อะไรก็ตามที่มันมากเกินไป ผลมันแทนที่จะมากตามส่วน กลับไม่ได้ผล หรือกลับเป็นผลเสีย เช่น ยาทุกชนิดหากใช้เกินขนาดล้วนเป็นโทษแก่ผู้ใช้ทั้งสิ้น ร่างกายของคนก็เช่นกัน หากส่วนใดเจริญมากไปก็กลายเป็นมะเร็ง

สมจริงตามคำสอนของพระพุทธองค์ที่ตรัสไว้ใน "ปฐมเทศนา" ความว่าอย่าตึงไป (เครียดเกินไป) อย่าหย่อนเกินไป (อยากมากเกินไป ขี้เกียจมากเกินไป) จะไม่มีผลให้เดินสายกลาง ผมจึงขอจบเรื่องไว้อีกตอนหนึ่งเพียงแค่นี้ แต่ก่อนจะจบขอสรุป เรื่องผ้ายันต์แดง ธงมหาพิชัยสงคราม ไว้เพื่อเตือนความจำดังนี้

๑. ความศักดิ์สิทธิ์ ของธงมหาพิชัยสงครามมีมากมาย เขียนอีก ๒-๓ ตอนก็ไม่จบ ที่เล่าให้ฟังนี้ เป็นเพียงตัวอย่างบางเรื่องเท่านั้น

๒. ผู้นำไปใช้ หากนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง เช่น เป็นโจร - ปล้น - ฆ่าเขา - ขโมยเขา ธงนี้จะไม่คุ้มครอง ซ้ำยังให้ผลร้ายกับผู้นั้นด้วย หากถูกยิง ลูกปืนจะเข้าแสกหน้าทะลุท้ายทอยทุกราย (เรื่องนี้ลุง. ศ ก็ได้ยินหลวงพ่อพูดด้วยกับหูครับ)

๓. ธงมหาพิชัยสงคราม ไม่ใช่ ไสยศาสตร์ แต่เป็นพุทธศาสตร์ จึงไม่เสื่อม (หากใช้ในทางที่ดี)

๔. เวลาทำ พิธีพุทธาภิเษกนั้น ธงแดงมหาพิชัยสงคราม กับผ้ายันต์เกราะเพชรซึ่งมีรูปหลวงพ่อปาน และรูปยันต์เกราะเพชรนั้นทำเหมือนกัน มีคุณภาพ (อานุภาพ) เหมือนกันทุกประการใช้แทนกันได้

๕. เรื่องป้องกันหรือบรรเทาอุบัติเหตุ ไฟไหม้บ้าน พายุใหญ่หรือวาตภัย มีผู้เล่าเสมอว่ามีผลดีอย่างอัศจรรย์ ส่วนเรื่องอื่นๆ ต้องอธิษฐานขอ และผลขึ้นอยู่ที่ความมั่นคงของจิตแต่ละคนด้วย

หมายเหตุ : ที่ลง.ศ นำเรื่องนี้มาลงมีจุดประสงค์เพื่อ เพิ่มความมั่นคง - ศรัทธาที่ดี ซึ่งมีอยู่แล้ว ของบรรดาลูกศิษย์หลวงพ่อ (และผู้ศรัทธา) ให้มั่นคงยิ่งๆ ขึ้น ซึ่งจะส่งเสริมผลดีต่อการปฏิบัติอีกด้วย อย่างน้อยก็เป็นพุทธานุสติกรรมฐาน สังฆานุสติกรรมฐาน กสิณ ฯลฯ


ข้อมูลเพิ่มเติม 2 - 21 ม.ค. 2556 - 19:27:49 น.

เพิ่มเติมเรื่องเล่าประสบการณ์จากลูกศิษย์ท่านหนึ่ง

มีเรื่องมาเล่าให้ฟังกันครับคือรุ่นพี่ผมคนหนึ่งเขาอยากได้ของดีไว้ป้องกันตัวครับ
ผมเลยแนะนำให้พี่เขาไปเช่าเหรียญกูผู้ชนะไพรีพินาศ+ผ้ายันต์พิชัยสงครามแบบเลี่ยมเดิมจากวัดมา 1 องค์
เรื่องมีอยู่ว่าน้าชายของพี่เขาเลี้ยงกุมารทองครับ น้าบอกกุมารตนนี้แสบจริง
น้าชายเคยเอาพระเครื่องที่ว่าแรงๆ มาลองหมดแล้ว
กุมารทองไม่กลัวเลยครับพอดีวันนั้นรุ่นพี่ผมคนนี้เขาไปเยี่ยมบ้านน้าชายเขา
ตอนที่น้าไม่อยู่บ้านครับพี่เข้าไปในห้องเค้ารู้สึกว่ามีเด็กไหว้เขาอยู่ไกลๆแต่ข้าวของกระจัดกระจาย
ไปหมดพี่เขาเก็บของเสร็จก็กลับบ้านไป พอตกเย็นน้าชายกลับมาห้องแล้วโทรมาบอกว่า
เฮ้ยนายห้อยพระอะไรวะทำไมกุมารทองน้ากลัวจังเลยแต่ไหนแต่ไรไม่เห็นมัยจะกลัวพระขนาดนี้
กุมารบอกพี่เค้ามากะเทวดาชั้นผู้ใหญ่มาไล่หนู (กุมารทอง) ไม่ให้หนูอยู่ที่บ้านนี้หนูสู้เทวดาไม่ได้
อย่าให้พีคนนั้นเขามาอีกนะกุมารทองกลัวมากครับน้าชายรุ่นพี่ผมโทรมาถามใหญ่เลย
ว่าพระองค์นี้บูชาได้จากที่ไหนเลยบอกไปที่วัดท่าซุงและบ้านสายลมครับ
พระหลวงพ่อพุทธานุภาพรุนแรงมากครับภูตผีปีศาจเจอเข้าไปจังๆเป็นต้องหงายท้องไม่เป็นท่าทุกรายเลย


ข้อมูลเพิ่มเติม 3 - 21 ม.ค. 2556 - 19:38:43 น.



ภาพหลวงพ่อฤาษีลิงดำ มอบวัตถุมงคลให้แก่ทหาร....


 
ราคาปัจจุบัน :     500 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     50 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    pukpao (272)(2)

 

Copyright ©G-PRA.COM