(0)
@@วัดใจ 100 เดียวปิด **พระกริ่งวัชระ หลวงพ่อหวล รุ่นแรก วัดนิคมวชิราราม ปี2513 สุดยอดเกจิอาจารย์ยุคนั้นร่วมปลุกเสกครับ *หลวงปู่โต๊ะ *หลวงพ่อเงิน *หลวงพ่อแดง ร่วมปลุกเสกครับ สุดยอดเกจิอาจารย์ยุคนั้นครั








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่อง@@วัดใจ 100 เดียวปิด **พระกริ่งวัชระ หลวงพ่อหวล รุ่นแรก วัดนิคมวชิราราม ปี2513 สุดยอดเกจิอาจารย์ยุคนั้นร่วมปลุกเสกครับ *หลวงปู่โต๊ะ *หลวงพ่อเงิน *หลวงพ่อแดง ร่วมปลุกเสกครับ สุดยอดเกจิอาจารย์ยุคนั้นครั
รายละเอียด@@วัดใจ 100 เดียวปิด **พระกริ่งวัชระ หลวงพ่อหวล รุ่นแรก วัดนิคมวชิราราม ปี2513 สุดยอดเกจิอาจารย์ยุคนั้นร่วมปลุกเสกครับ *หลวงปู่โต๊ะ *หลวงพ่อเงิน *หลวงพ่อแดง ร่วมปลุกเสกครับ สุดยอด
เกจิอาจารย์ยุคนั้นครับ**@@
ประวัติ พระญาณโมลี (หลวงพ่อหวล ยติธมฺโม) ปีพ.ศ.2552 อายุ 85 ปีพรรษาที่ 65 เจ้าอาวาสวัดนิคมวชิรา
ราม ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี พระเกจิอาจารย์ไสยเวทย์แก่กล้า บารมีมากล้นสูงส่ง มีปฏิปทาน่าเลื่อมใส เคร่งครัด
ในพระธรรมวินัยบริสุทธิ์ผ่องแผ้วทั้งทางโลกและทางธรรมเป็นที่ยกย่องความดีและความสามารถด้านการปกครองและการ
พัฒนา ทั้งด้านไสยเวทย์ สมถกรรมฐาน วิปัสนากรรมฐาน มีความเชื่ยวชาญคาถาอาคมและเวทย์มนต์ต่าง ๆ เป็นศิษย์ผู้
ได้รับการสืบทอดไสยเวทย์พุทธาคมจากหลวงพ่อทองศุข อินฺทโชโต วัดโตนดหลวง ต.บางเก่า ต.ชะอำ จ.เพชรบุรี
หลวงพ่อนิ่ม วัดเขาน้อย อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ สืบทอดวิชาสายหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ จากพระอธิการสุทธิ
วัดพระทรง จ.เพชรบุรี และหลวงพ่อเช้า วัดชะอำคีรี จ.เพชรบุรี หลวงพ่อหวล ยติธมฺโม เป็นพระสุปฏิปัณโณอีกรูปหนึ่งที่
กราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ
ชาติภูมิ หลวงพ่อหวล ยติธมฺโม มีนามเดิมว่า หวล เสือสะอาด ถือกำเนิดวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ.2467 ที่บ้านชะอำ
ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เป็นบุตรคนที่ 4 ในจำนวนพี่น้อง 7 คนด้วยกันคือ 1.นางปิ่น 2.นางเปลี่ยน 3.นางเปลื่อน 4.
หลวงพ่อหวล 5.นางเหลี่ยน 6.นายสมาน 7.นางเสมียร ของโยมพ่อแฮต เสือสะอาด โยมแม่ปุ้ย เสือสะอาด จบการศึกษา
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบำรุงวิทยากรุงเทพฯ อาชีพทำนาและรับจ้าง
อุปสมบท เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ได้อุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดชะอำคีรี อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27
มิถุนายน พ.ศ.2487 โดยมีพระครูพินิจ สุตคุณ (หลวงพ่อทองศุข อินฺทโชโต) วัดโตนดหลวง เป็นพระอุปัชฌาย์ พระ
อธิการสุทธิ วัดพระทรง อ.เมือง จ.เพชรบุรี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการเช้า วัดชะอำคีรี เป็นพระอนุสาวณาจารย์
หลวงพ่อหวล ได้รับฉายาทางภิกษุว่า ยติธมฺโม หลวงพ่อหวล ยติธมฺโม ได้กล่าวตั้งปณิธานไว้ว่าจะทำสิ่งที่ดีทุกอย่างเพื่อ
พุทธศาสนาตลอดชีวิต ครั้นอุปสมบทแล้วได้อยู่จำพรรษาที่วัดชะอำคีรี ศึกษาพระธรรมวินัย เรียนนักธรรม สอบได้
นักธรรมเอก ศาสนศึกษา วัดชะอำคีรี ต่อมาในปีพ.ศ.2546 ได้รับปริญญาศิลปศาสตร์บัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยา
ลัยราชภัฎนครปฐม จ.นครปฐม
การศึกษาพิเศษ
 พ.ศ.2492 เข้ารับการศึกษาอบรมครูวัดสามพระยา
 พ.ศ.2514 สอบได้ประโยชน์ครูพิเศษมูล จ.เพชรบุรี
 พ.ศ.2514 เข้ารับการศึกษาอบรมโรงเรียนพระสังฆาฎิการส่วนภูมิภาครุ่น๑ วัดยาง จ.เพชรบุรี
 พ.ศ.2517 เข้ารับการศึกษาอบรมโรงรียนพระสังฆาฎิการส่วนกลางรุ่น๒ วัดสามพระยา กทม.
 พ.ศ.2537 ผ่านการอบรมหลักสูตร บทบาทพระสงฆ์ผู้นำสังคมในการชี้นำประชาชน ช่วยป้องกันไฟป่า
 พ.ศ.2538 ผ่านการอบรมหลักสูตร การบริหารและการจัดการวัด
 พ.ศ.2544 ผ่านการอบรมหลักสูตร การฝึกอบรมพระวิปัสสนาจารย์
 พ.ศ.2544 เป็นกรรมการ การฝึกอบรมพระนักเทศน์แม่แบบ จ.เพชรบุรี
ศึกษาพุทธาคม หลวงพ่อหวล ยติธมฺโม เมื่ออุปสมบทแล้วได้จำพรรษาอยู่ที่วัดชะอำคีรี ได้ศึกษาเล่าเรียนนักธรรม
แล้ว หลวงพ่อหวล ได้เดินทางไปมาหาสู่หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง อยู่เสมอ ในสมัยนั้นถนนหนทางยังไม่เจริญจะ
เป็นทางดิน ทางเกวียน การเดินทางจากวัดชะอำคีรี ไปยังวัดโตนดหลวงจะต้องใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมง หลวงพ่อหวล จะ
เดินทางไปศึกษาเล่าเรียน สมถกรรมฐาน วิปัสสนากรรมฐาน อีกทั้งไสยเวทย์ พระคาถาอาคมต่าง ๆ จากหลวงพ่อทอง
ศุขอยู่เสมอ การเดินทางไปแต่ละครั้งจะไปพักค้างอยู่ที่วัดโตนดหลวง ครั้งละ 15 วัน หลวงพ่อหวล มีความมานะ และสนใจเวทย์มนต์คาถามาก จนสามารถได้รับการถ่ายทอดวิชาไสยเวทย์ต่าง ๆ จากหลวงพ่อทองศุข จนเชี่ยวชาญ และชำ
ชอง ได้รับการยกย่องให้เป็นพระอาจารย์ฝึกสอนอบรมวิปัสสนากรรมฐานให้พระสงฆ์บวชใหม่มาหลายสิบปีแล้ว ในการที่
หลวงพ่อหวล ไปศึกษาเรียนวิชาจากหลวงพ่อทองศุข ที่วัดโตนดหลวงนั้นได้รู้จักและสนิทสนมกับหลวงพ่อนิ่ม หลวงพ่อ
นิ่ม ท่านเป็นศิษย์ หลวงพ่อทองศุข พระลูกวัดจำพรรษาอยู่ประจำวัดโตนดหลวง หลวงพ่อนิ่ม เก่งและมีความสามารถด้าน
วิชาไสยศาสตร์มาก ต่อมาภายหลังหลวงพ่อนิ่ม ได้ถูกนิมนต์ไปเป็นเจ้าอาวาสวัดเขาน้อย อ.ปราณบุรี ยามใดที่หลวงพ่อ
ทองศุข ติดภารกิจไม่ว่าง หลวงพ่อนิ่มก็จะช่วยสอนและแนะนำรายละเอียดเพิ่มเติมให้หลวงพ่อหวล จนได้รับความสนิท
สนมกับหลวงพ่อหวลตลอดมา หลวงพ่อหวลยังได้รับการถ่ายทอดวิชาไสยเวทย์สายวิชาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ จาก
พระอธิการสุทธิ วัดพระทรง อ.เมือง จ.เพชรบุรี ได้รับการถ่ายทอดวิชาไสยเวทย์สายหลวงพ่อแก้ว จากหลวงพ่อเช้า วัด
ชะอำคีรี หลวงพ่อเช้าท่านสนิทกับหลวงพ่อจัน วัดมฤคทายวัน มากเคยแลกเปลี่ยนวิชาไสยเวทย์พุทธาคมให้กัน หลวง
พ่อจัน ก็ได้รับวิชาสายหลวงพ่อแก้ว เพราะหลวงพ่อแก้ว เคยอยู่วัดปากทะเล จ.เพชรบุรี ด้วยพระเกจิอาจารย์สายเพชรบุรี
มีปรมาจารย์ไสยเวทย์ดัง ๆ อยู่หลายรูป เช่น หลวงพ่อแก้ว จัดเครือวัลย์ (เดิมอยู่วัดปากทะเล) หลวงพ่อทองศุข วัดโตนด
หลวง หลวงพ่อฉุย วัดคงคาราม หลวงพ่อแช่ม วัดนายาง พระเกจิอาจารย์ที่ได้รับการถ่ายทอดต่อเนื่องกันมา จึงทำให้
เพชรบุรีมีพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงสืบทอดต่อเนื่องมามิขาดสาย เช่น หลวงพ่ออุ้น สุขกาโม วัดตาลกง จึงเป็นเรื่องที่
ไม่แปลกที่หลวงพ่อหวล ย่อมมีวิชาไสยเวทย์ที่เข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ ทั้งด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรี และเมตตามหานิยม เชี่ยว
ชาญการปลุกเสกวัตถุมงคล และเชี่ยวชาญการทำผงพุทธคุณเช่น ผงอธิเจ ผงปทมัง ผงมหาราช ผงหน้าพระภัก และผงอิ
ติปิโสรัตนมาลา
หลวงพ่อหวล ยติธมฺโม จึงเป็นพระเกจิอาจารย์ หรือเรียกว่าเป็นสุดยอดพระเกจิในยุคปัจจุบันก็ว่าได้ เป็นที่ยกย่อง
สรรเสริญว่าท่านเป็นพระดี พระตัวอย่าง แม่แบบ มีบารมีมากล้น มีเมตตาช่วยเหลือสังคม ช่วยเหลือชาวบ้าน สร้างวัด
สร้างศาสนสถาน สร้างโรงเรยน สร้างโรงพยาบาลบริจาคโลหิต น้อมนำชาวบ้านสร้างควมดี เป็นพระสงฆ์ผู้มีความสามารถ
และความดีเป็นที่ยกย่อง จึงได้รับสมณศักดิ์เป็นพระราชคณะในราชทินนาม "พระญาณโมลี" สำหรับงานด้านเกจิ มีความรู้
ด้านวิปัสสนากรรมฐาน การนั่งปรกบรรจุพลังพุทธคุณอธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคล เข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ อยู่ยงคงกระพัน
ชาตรี ทั้งเมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์ ค้าขายและแคล้วคลาด ป้องกันภัยและขับคุณไสย หลวงพ่อได้รับการยกย่องว่าเป็น
"ศิษย์ก้นกุฎิหลวงพ่อทองศุข" เพราะฉะนั้นหลวงพ่อหวลจะถูกนิมนต์ไปนั่งปรกอธิษฐานจิตเสกวัตถุมงคลในพิธีปลุก
เสกและพิธีพุทธาภิเษก แทบทุกงานที่มีก็ว่าได้
ธุดงค์วัตร ในพรรษาที่ 4 พ.ศ.2491 หลวงพ่อหวล ยติธมฺโม ได้ออกเดินธุดงค์ในครั้งนั้นได้มีพระภิกษุร่วมเดินทางไป
ด้วยอีก 2 รูปรวมเป็น 3 รูปด้วยกัน นำโดยหลวงพ่อนิ่ม วัดโตนดหลวง หลวงพ่อชัน วัดเขาพระรอบ และหลวงพ่อหวล ได้
เดินธุดงค์จากชะอำไปสู่ปราณบุรี เขาสามร้อยยอด กุยบุรี ประจวบฯ เข้าทับสะแกที่จังหวัดชุมพรนี้ที่อำเภอฉวี คืนหนึ่ง
หลวงพ่อและคณะเดินทางอีก 2 รูปไปปลักกลดที่เขาถ้ำช้างเล่น มีธารน้ำไหลเล็ก ๆ ไหลผ่าน ตลอดทั้งปีเขาถ้ำช้างเล่นนี้
มีถ้ำอยู่มากมายหลายสิบถ้ำ ในยามค่ำคืนมีเสียงสิงห์สาราสัตว์ หวีดร้องน่ากลัว ได้มีดวงวิญญาณสัมภเวสี ต่าง ๆ มาขอ
ส่วนบุญ หลวงพ่อหวลก็ได้แผ่เมตตาไปให้แล้วก็หายไป หลวงพ่อหวล และคณะพระสงฆ์ได้เข้ากราบนมัสการพบหลวง
พ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย ซึ่งก็ได้รับการอบรมแนะนำการเดินธุดงค์วัตรจากท่าน แล้วก็กราบลา เดินธุดงค์ต่อไปยัง
จังหวัดนครศรีธรรมราช สงขลาและพัทลุง ไปจนสุดแดนใต้แล้วก็เดินทางกลับ
ตำแหน่งสมณศักดิ์
 พ.ศ.2498 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดนิคมวชิราราม
 พ.ศ.2502 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์
 พ.ศ.2515 ได้รับสมณศักดิ์เป็นเจ้าคณะอำเภอชะอำ ถึงพ.ศ.2548 รวมเป็นเจ้าคณะอำเภอถึง 33 ปี
 พ.ศ.2542 ได้รับสมณศักดิ์เป็นพระครูปริยัตยานุโยค
 พ.ศ.2542 ได้รับพระราชทานเป็นพระราชาคณะในพระราชทินนามว่าที่ "พระญาณโมลี" เป็นพระราชาคณะ
สามัญ
 พ.ศ.2549 ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอชะอำ เป็นที่ปรึกษานโยบายการปกครองคณะสงฆ์อำเภอชะอำ
สาธารณสงเคราะห์ ในปีพ.ศ.2546 ดำเนินการสร้างอาคารผู้ป่วยในโรงพยาบาลชะอำ ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
โดยให้ชื่ออาคารว่าอาคาร "พระญาณโมลี" หลวงพ่อหวล ยติธมฺโม ได้มอบปัจจัยให้ในการก่อสร้างรวมเป็นเงิน
1,654,828 บาท พร้อมอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในอาคารผู้ป่วย อาทิเช่น เตียงผู้ป่วย จำนวน 30 เตียง รวมเป็นเงินอีก
820,800 บาท หลวงพ่อหวล ได้มอบเงินเป็นค่าใช้จ่ายในการสร้างอาคารผู้ป่วยในพร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นเงิน
ทั้งสิ้น 2,475,628 บาท ในปีพ.ศ.2547 เป็นผู้ดำเนินการจัดหาทุนสร้างอาคารผู้สูงอายุ ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
งบประมาณในการจัดสร้างเป็นเงิน 450,000 บาทปีพ.ศ.2551 หลวงพ่อหวล ได้บริจาคเงินจำนวน 900,000 บาทสร้าง
อาคารศูนย์สุขภาพพร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้เป็นสมบัติของโรงพยาบาลชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และในปีเดียวกัน
นี้ได้สร้างและสนับสนุนอุปกรณ์การศึกษาโรงเรียนนิคมสร้างตนเองเขื่อนเพชร เป็นจำนวนเงิน 1,000,000 บาท หลวงพ่อ
หวล ยติธมฺโม ได้สร้างสาธารณสงเคราะห์อื่น ๆ อีกจำนวนมาก ซึ่งไม่สามารถนำมาเขียนลงได้ทั้งหมด ผู้เขียนจึงขอหยิบ
ยกมากล่าวได้ ณ ที่นี้แต่พอสังเขป
บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ หลวงพ่อหวล ยติธมฺโม เป็นผู้ริเริ่มจัดตั้งโครงการบริจาคโลหิตของคณะสงฆ์อำเภอชะ
อำ ตั้งแต่ปีพ.ศ.2516 จนได้รับเหรียญกาชาดสมนาคุณชั้นที่๑ จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สภานายิกาสภากาชาดไทย มีพระราชเสาวนีย์โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม
ให้ประกาศว่า วัดนิคมวชิราราม ได้เป็นสถาบันที่ให้ความร่วมมือจัดหาผู้บริจาคโลหิตเป็นหมู่คณะเพื่อช่วยเหลือเพื่อน
มนุษย์อย่างสม่ำเสมอนานกว่า 4 ปี รวมปริมาณโลหิตที่บริจาคเกินกว่า ๕,๒๒๐ ขวด สมควรได้รับประกาศเกียรติคุณชั้นที่
๒ เมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๕๒
ทางวัดและพัฒนา พื้นที่สร้างวัดนิคมวชิรารามนี้ แต่เดิมเป็นป่ารกมาก พื้นที่เป็นดินดารเนื้อดินน้อยมาก ไม่มีใครจับ
จองไปทำกิน อีกทั้งเป็นแอ่งลึกก้นกะทะ น้ำหายาก ไฟฟ้าไม่มี ถนนสายใหญ่ สายเพชรเกษม (ท่ายาง-ชะอำ)ยังไม่มี เป็น
ที่ดินที่ทางราชการกรมประชาสงเคราะห์ได้กันไว้สำหรับสร้างวัด ได้มอบให้เป็นที่สำหรับสงฆ์ ด้วยเหตุสืบต่อเนื่องมาจาก
ในปีพ.ศ.2497 รัฐบาลจอมพล ป.พิบูลย์สงคราม มีนโยบายช่วยเหลือคนจน และเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินทำกิน ได้ประกาศ
ให้เกษตรกรและผู้ยากไร้ไม่มีที่ดินทำกินยื่นรายชื่อแจ้งความจำนงประสงค์ต้องการจับจองที่ดินต่อทางราชการ โดยทาง
ราชการจะมอบที่ดินให้ครอบครัวละ 25 ไร่ และเงินสำหรับดำรงชีพในเบื้องต้นอีก 2,500 บาท โดยที่ต้องจดทะเบียนเป็น
สมาชิกคนจนจริงจึงจะได้ที่ดิน ที่ดินส่วนใหญ่เนื้อดินไร้คุณภาพ ป่าก็เป็นป่าไม่มีคุณภาพ ต้นไม้แทบจะไม่มี เพราะดินไม่
ดี ก้นดารมาก ท่านจอมพล ป.พิบูลย์สงคราม ท่านมาเปิดการสร้างนิคมเขื่อนเพชรได้กล่าวกับชาวบ้านว่าอย่าทิ้งพื้นที่นะ
ต่อไปจะมีน้ำ มีไฟ ได้มีคนยากจนมาจากทางภาคอีสานมากมาย ที่มาจับจองที่ดินในส่วนที่ทางการได้จัดไว้ให้สร้างวัด ก็
ยังเป็นป่ารกร้าง ต่อมาปีพ.ศ.2498 ทางคณะสงฆ์โดยมีเจ้าคณะจังหวัดเพชรบุรีได้นิมนต์หลวงพ่อหวล ยติธมฺโม ซึ่งจำ
พรรษาอยู่ที่วัดชะอำคีรี ให้มาสร้างวัดนิคมวชิรารามและเป็นเจ้าอาวาสในเบื้องต้น หลวงพ่อหวล ได้มาทำการหักล้างถาง
พงด้วยตนเอง และต่อมาก็ได้มีพระภิกษุสงฆ์จากวัดชะอำมาช่วยอีก 2 รูป เมื่อได้หักล้างถางพงแล้ว ก็ได้สร้างหอสวดมนต์ขึ้น 1 หลังโดยใช้สำหรับทำบุญและสวดมนต์ ในขณะเดียวกันหลวงพ่อได้เศษไม้ที่เหลือจากการสร้างนิคมมาทำกุ
ฎิหลังเล็ก ๆ เฉพาะพระอยู่อาศัยได้หลังละเพียง 1 รูปจำนวน 6 หลังในสมัยนนั้นไม้ต่าง ๆ บนภูเขามีมากหาง่าย หลวงพ่อ
หวลท่านเล่าให้ฟังว่าพื้นที่กันดารมาก แห้งแรงน้ำก็หายาก ไฟฟ้าก็ยังไม่มี ชาวบ้านยากจนข้าวไม่มีจะกิน ลำบากมาก
ส่วนพระภิกษุจำต้องฉันหัวบุก หัวมันขุดหาตามภูเขาไหล่เขา เวลากลางคืนสวดมนต์ต้องใช้ลังผึ้งล้าง เอาผึ้งล้างมาหุง
เอาขี้ผึ้งมาฟั่นกับด้ายดิบปั่นทำเป็นเทียนจุดไฟ ท่านนำหินมาฝนให้เกิดประกายไฟ ยามไม่ใช่ไฟแล้วก็นำแก้วมาครอบไฟ
ก็ดับ ไว้ใช้จุดไฟในครั้งหน้า
สำหรับชาวบ้านต้องอาศัยกินเนื้อแย้ ไก่ป่า เพราะมีไก่ป่ามากเป็นหมื่น ๆ ตัว ตอนนั้นถนนสายเพชรเกษมซึ่งเป็นสาย
ใหญ่ท่ายาง-ชะอำ ยังไม่มีเหมือนปัจจุบันนี้ ในครั้งที่หลวงพ่อหวล สมัยยังเป็นฆราวาส ท่านได้เคยรับจ้างเป็นหัวหน้าคน
งานเดินป่าวางหมุดแนวเขตเส้นทางสำหรับทำการก่อสร้างถนนเส้นท่ายาง-ชะอำ ปัจจุบันก็คือถนนเพชรเกษมนั่นเอง เป็น
เวลาผ่านมาแล้วมากกว่า 65 ปี สมัยนั้นผู้คนและชาวบ้านยากจนมาก เพราะความเจริญยังมาไม่ถึง ในปีหนึ่งกฐินจะได้ปี
ละ 10,000 บาท บางปีก็ได้ 20,000 บาทเท่านั้น หลวงพ่อหวล ยติธมฺโม มิเคยนำเอาเงินกฐินมาใช้จ่ายในการก่อสร้าง
เลยตลอดมาจนถึงปัจจุบันนี้ เงินกฐินทั้งหลายหลวงพ่อได้ฝากเข้าบัญชีของวัดไว้ทั้งหมด การสร้างวัดของท่านด้วยแรง
ศรัทธาของชาวบ้านและเงินส่วนตัวของท่าน หลวงพ่อหวล ยติธมฺโม มีอุตสาหะมานะอดทน ฝ่าฟัน ตั้งใจพัฒนา สร้างสม
บารมีจนได้รับแรงศรัทธาจากชาวบ้านให้ความร่วมมือ หลวงพ่อหวล ใช้ชีวิตจิตใจ แรงกาย แรงแห่งปัญญาและความ
สามารถสร้างความดีเพื่อพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง จนถึงปัจจุบันนี้ วัดนิคมวชิรารามได้รับการยกย่องให้เป็นวัดพัฒนา
ตัวอย่างดีเด่น กรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.๒๕๓๖
วัตถุมงคล หลวงพ่อหวล ยติธมฺโม ได้สร้างวัตถุมงคลรุ่นแรกออกให้บูชาในงานผูกพัทธสีมา ในปีพ.ศ.2513 เป็น
พระกริ่งแบบหล่อฉีดเรียกพระกริ่งวัชระ สร้าง 2 เนื้อ เนื้อนวะ สร้างจำนวน 1,250 องค์และ เนื้อทองแดงรมดำ สร้าง
จำนวน 5,000 องค์ปัจจุบัน เนื้อนวะได้รับความนิยมเล่นหากันราคาประมาณ 3,000-4,000 บาท เนื้อทองแดงรมดำ
ราคาเล่นหาประมาณ 1,500 บาท และต่อมาในปีพ.ศ.2539 ได้ออกเหรียญรูปไข่รุ่น๑ ขึ้นเป็นแบบห่มคลุมสร้าง 3 เนื้อ
เนื้อทองคำ สร้างจำนวน 100 เหรียญ เนื้อเงิน สร้างจำนวน 100 เหรียญ เนื้อทองแดง สร้างจำนวน 10,000 เหรียญ
สำหรับเนื้อทองคำและเงินได้ถูกจัดบรรจุในกล่องจัดเป็นชุดใน 1 ชุด มีเหรียญรุ่น๑ 3 เนื้อ ในพ.ศ.2542 ได้สร้างวัตถุ
มงคลแจกพุทธศาสนิกชนและศิษย์ยานุศิษย์ เนื่องในงานฉลองสมณศักดิ์เป็นเจ้าคุณพระราชาคณะสามัญได้รับพระ
ราชทินนามว่าที่ "พระญาณโมลี" วัตถุมงคลที่สร้างในการครั้งนั้นมีจำนวน 3 อย่างด้วยกันคือ 1. เหรียญรุ่น๒ สร้างเนื้อ
ทองแดงเนื้อเดียว จำนวน 5,000 เหรียญ 2. สร้างรูปเหมือนหล่อรุ่น๑ เนื้อทองเหลืองเนื้อเดียว จำนวน 1,000 องค์ 3.
พระกริ่งวัชระรุ่น๒ เป็นแบบพระกริ่งจีนใหญ่ สร้างเนื้อทองแดงเนื้อเดียว จำนวน 800 องค์ และต่อมาในต้นปีพ.ศ.2552
ได้จัดสร้างเหรียญรูปไข่แซยิด ๘๕ ปีเป็นเนื้ออัลปาก้าเพียงเนื้อเดียว จำนวน 2,551 เหรียญ ๆ รุ่นนี้หมดไปจากวัดอย่าง
รวดเร็ว ได้รับความนิยมมากและในวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ.2552 ได้ออกเหรียญรุ่นโภคทรัพย์เศรษฐีและล็อคเก็ตต่าง ๆ
ให้บูชาเพื่อนำปัจจัยไปสมทบทุนช่วยสร้างโรงเรียนและโรงพยาบาลชะอำ เหรียญโภคทรัพย์เศรษฐี สร้างเนื้อเงิน จำนวน
99 เหรียญ เนื้ออัลปาก้า จำนวน 7,400 เหรียญ เหรียญรุ่นนี้การติดต่อขอบูชาของนักสะสมค่อนข้างร้อนแรงเพราะเนื้อ
เงินหายากมาก และทางวัดได้สร้างสมเด็จวัชระเนื้อผงสำหรับแจกเป็นพระของขวัญวัดนิคมวชิราราม จำนวนประมาณ
10,000 องค์ วัตถุมงคลหลวงพ่อหวลกำลังได้รับความนิยมและต้องการของนักสะสมต่อตามวัตถุมงคลหลวงพ่ออุ้น ใน
อนาคตวัตถุมงคลหลวงพ่อหวลจะได้รับความนิยมมากและในปีพ.ศ.2552 นี้(ข้อมูลจากเว็บไซด์วัดหัวหิน)
ราคาเปิดประมูล90 บาท
ราคาปัจจุบัน400 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ10 บาท
วันเปิดประมูล - 08 มี.ค. 2556 - 12:17:33 น.
วันปิดประมูล - 09 มี.ค. 2556 - 13:44:30 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลaorha (4.5K)(2)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     400 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     10 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    watanyoo (541)

 

Copyright ©G-PRA.COM
www1