เก้าพุทธคุณ คุ้มครอง
โทรศัพท์ : 081-0444107 อีเมล : treed2555@gmail.com
ยูสเซอร์เนมของเจ้าของชมรม : ตรีปากน้ำโพธิ์

  ปิดตานางพราย(พลายขาว) หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่


(ดูรูปใหญ่คลิ๊กที่รูป)

(ดูรูปใหญ่คลิ๊กที่รูป)


(ดูรูปใหญ่คลิ๊กที่รูป)


(ดูรูปใหญ่คลิ๊กที่รูป)

 

ประเภท   เครื่องราง
และอื่นๆ
ชื่อพระ   ปิดตานางพราย(พลายขาว) หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
ราคาโชว์ บาท.
สถานะ  
ชมรม   เก้าพุทธคุณ คุ้มครอง
วันที่แก้ไข   14 พ.ค. 2558 20:03:14
รายละเอียด
ปิดตานางพราย(พลายขาว) หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง เนื้อผงพรายกุมารยุคต้น ใต้ฐานจารลายมือหลวงปู่ทิม ฝีมือชาวบ้านแกะ สร้างปี2514 สร้างน้อยมาก องค์นี้ผมได้รับมาจากท่านอาจารย์เพียรวิทย์ ศิษย์เอกของหลวงปู่ทิม ปิดตานางพรายจะมีสองสี คือขาว กะ ดำ หลวงปู่ทิมท่านเรียกพรายขาว พรายดำ...หลวงท่านไม่ค่อยอยากทำให้ใครไม่รู้เพราะอะไร..เอาง่ายๆ พระเครื่อง เครื่องราง ท่านยังมีให้บูชาหาเงินเข้าวัด..แต่ทำไมปิดตานางพรายถึงไม่มี.... สีดำน่าจะทำมาจาก..ไม้จิ้มผี..แต่สีขาวไม่รู้ทำมาจากอะไร คุณเพียรวิทย์ ยังไม่รู้...หรือจะเป็นเหมือนกรามช้างน้ำ...ไม่มีใครรู้ว่าหลวงปู่เอามาจากไหน..ใครเอามาให้..ทั้งที่สัตว์ชนิดนี้มีแต่ในหิมพานต์เท่านั้น... เครื่องรางชนิดนี้เท่าที่ทราบแรงมากจิงๆ..สั่งได้ดังใจ..งานยากเป็นง่ายเหมือนติดปีก..และที่สำคัญถ้าทำบุญให้บ่อย..นั่งกรรมฐานจะยิ่งแรงมากๆครับ..เห็นเป็นตัวตนมาหลายท่านแล้ว..ที่สำคัญหายากมากครับ...บทความจากพิพิธภัณฑ์บุญญาภิรัติ ตอน พรายขาว พรายดำ การสร้างวัตถุอาถรรพณ์ ที่หลวงปู่ทิมได้สร้างและปลุกเสก โดยเรียกรูปนามพร้อมืั้งบรรจุคาถาอาคมลงไปในวัตถุอาถรรพณ์นี้จนเต็มสูตร และเต็มพลังของท่าน ซึ่งผู้ที่ได้รับไปต่างบูชา และเกิดประสบการณ์กับตัวเองและสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น ทุกคนต่างรู้สึกและเข้าใจ จึงไม่แปลากใจเลยว่า ทำไม วัตถุมงคลที่หลวงปู่ทิม ท่านสร้างขึ้นแต่ละอย่าง ถึงมีอานุภาพ และความศักดิ์สิทธิ์สูง อีกทั้งเป็นที่ต้องการของศิษยานุศิษย์เป็นอย่างมาก เพราะวัตถุมงคลของท่านผู้ใช้ถ้าใช้ด้วยความมั่นใจ และศรัทธาท่านอย่างจริงใจ เมื่อยามที่ตนเองตกอยู่ในความลำบาก และนึกถึงหลวงปู่ จะรู้สึกว่าเหตุการณ์ที่เลวร้ายนั้นๆ ผ่านไปอย่างง่ายดาย ซึ่งผมก็ได้ยินจากปากพรรกพวกที่นับถือ เวลาเจอกันก็มักจะคุยให้ฟังเสมอ เหตุนีเองทำให้ผมนึกถึงคำพูดของหลวงปู่ที่เคยพูดกับผมว่า "ถ้านึกถึงนี่ นี่ก็มาช่วย" จากระยะเวลาทีท่านมรณภาพมาแล้วกว่า 30 ปีผู้ที่นับถือ "หลวงปู่ทิม" ก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ เวลาผมจะจัดผ้าป่าไปทอดวัดอื่นๆที่กันดาร เมื่อบอกบุญทางหนังสือ "ร่มโพธิ์" หรือโทรศัพท์ไปหาพรรคพวก มักจะได้กระแสตอบรับมาเป็นอย่างดี เพราะุทุกคนเชื่อมั่นในองค์หลวงปู่ทิม ผู้เป็นอาจารย์ของผม ซึ่งผมก็ได้รวบรวมปัจจัยที่ได้มานำมาสร้างเสนาอาสนะต่างๆ ตามที่วัดนั้นต้องการ บางวัดก็สำเร็จลุล่วงเป็นอย่างดี บางวัดก็ต้องอาศัยระยะเวลานานหน่อย เนื่องจากถาวรพวัตถุที่วัดนั้นสร้างเกินกำลังที่พวกผมจะทำได้ ซึ่งก็ต้องอาศัยผู้ใจบิญร่วมตั้งองค์ผ้าป่าไปทอดที่วัดนั้นๆ หลายครั้ง ซึ่งเรื่องนี้เอาไว้ค่อยคุยกันวันหลัง เพราะรู้สึกมีผู้ใจบุญอยากทำบุญร่วมกับผมในนามของ "หลวงปู่ทิม" มากเหลือเกิน คุณวิเศษที่มีอยู่ในองค์ "หลวงปู่ทิม" ทำให้ผมมานุึกถึงคำพูดของพระอริยะรูปหนึ่ง ซึ่งท่านมียศเป็นถึง "เจ้าพระยา" แต่เมื่อมีผู้มีพระคุณเสียชีวิต ท่านกลับขอบวชหน้าศพ และไม่ยอมสึก โดยบวชตลอดชีวิต ทั้งๆ ที่ท่านอายุยังน้อย และยังก้าวไกลทางราชการอีกมาก พระอริยะรูปนี้คือ "พระภิกษุพระยานรรัตน์ราชมานิต (ธัมมวิตักโกภิกขุ) วัดเทพศิริทราวาส กรุงเทพฯ เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) เสด็จสวรรคต ท่านเจ้าคุณนรฯ สมัยนั้นท่านเป็นมหาดเล็กคอยรับใช้ในหลวง ร.6 และใีลาภถาบรรดาศักดิ์เป็นถึง "เจ้าพระยา" ซึ่งในหลวง ร.6 เอ็นดูเจ้าคุณนรฯ มาก เมื่อ ร.6 เสด็จสวรรคต ท่านเจ้าคุณนรฯ จึงขอบวชหน้าพระศพท่าน และท่านก็ไม่ยอมสึก ท่านมีชีวิตที่เรียบง่ายอยู่ในเพศบรรพชิต ปฏิบัติธรรมจนมีจิตแก่กล้า ครั้งหนึ่งมีคเข้าไปกราบท่าน เพื่อขอวัตถุมงคลจากท่าน ซึ่งท่านก็บอกว่า "ท่านไม่มีวัตถุมงคลไว้แจกหรอก ท่านมีแต่ธรรมะไว้แจก ถ้านึกถึง "ธัมมตักโก" ก็นึกถึงท่าน เพราะ "ธัมมตักโก" แปลว่า ผู้ตรึกในธรรม ถ้าุบุคคลนั้นตรึกในธรรมอยู่เสมอ ชีวิตก็จะมีความสุข ปราศจากความทุกข์ มีจิตใจแจ่มใส ซึ่งแค่นี้ก็เป็นความสุขที่ทุกคนอยากจะได้อยู่แล้ว ไม่ต้องไปดิ้นรนให้เกิดทุกข์ในใจ ถ้าทุกข์ในใจเกิด ความสุขก็หายไป และเราอยากได้อะไรลองถามตัวเองดู ผมได้รับคำบอกเล่าจาก คุณศศิพร ซึ่งเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่วิทยาลัยมีชื่อแห่งหนึ่งแถวจรัญสนิทวงศ์ ได้โทรมาคุยกับผมอย่างตื่นเต้นว่า ได้บูชา “พรายขาว และ พรายดำ” ไปจากผมนานแล้ว และก็นำติดตัวอยู่เสมอ แต่ทุกอย่างก็ราบรื่นไม่เกิดอะไรขึ้น ต่อมาได้ไปดูงานที่ห้างแห่งหนึ่ง และได้ถูกคนร้ายล้วงกระเป๋า มารู้สึกตัวตอนที่ล้วงกระเป๋าหยิบสตางค์มาจ่ายให้คนขาย ปรากฏว่ากระเป๋าสตางค์หายไปแล้วจึงรีบแจ้งตำรวจ เพราะในกระเป๋ามีเอกสารสำคัญหลายอย่าง เมื่อแจ้งตำรวจเสร็จแล้วก็กลับบ้าน แต่ยังรู้สึกไม่สบายใจ เนื่องจากมีเอกสารสำคัญเกี่ยวกับบัตรเครดิต และบัตรเอทีเอ็มอยู่ในนั้น รวมทั้งบัตรข้าราชการและบัตรประชาชน ซึ่งถ้าจะทำใหม่ก็คงใช้เวลานานพอสมควร ตอนนั้นรู้สึกกลุ้มใจมาก ตกกลางคืนนอนไม่หลับ เหลือบไปเห็น “พรายขาย” และ “พรายดำ” วางอยู่หัวเตียง จึงค่อยๆ หยิบ “พ่อพราย” ทั้งสอง บรรจงใส่พานทองและจุดธูป 16 ดอก สวดมนต์อาราธนาบอกหลวงปู่ และตั้งจิตอธิษฐานบอก “พ่อพราย” ทั้งสองให้ช่วยดลจิตดลใจให้ผู้ที่หยิบกระเป๋าไปช่วยนำมาคืนด้วย และอย่าหยิบสิ่งของภายในกระเป๋า นอกจากเงินที่มีอยู่ ถ้าจะเอาก็จะให้ และถ้า “พ่อพราย” ทั้งสองศักดิ์สิทธิ์จริง ก็ขอให้ผู้ที่ล้วงกระเป๋าไปช่วยนำมาคืนให้ภายใน 3 วัน จึงจะเชื่อว่า “พ่อพราย” ศักดิ์สิทธิ์จริง หลังจากอธิษฐานเสร็จ คุณศศิพร ก็ไม่คิดอะไร คิดว่าคงสูญหายไปแล้ว อยู่ๆ มีคนโทรศัพท์มาจากตำรวจท้องที่ที่ตนเองไปแจ้งความบอกว่า มีคนส่งกระเป๋าคืนอยู่ที่โรงพักให้คุณศศิพรไปรับคืน ซึ่งคุณศศิพรทราบเช่นนั้นรู้สึกดีใจรีบไปโรงพักทันทีและเมื่อได้กระเป๋าคืนก็รีบตรวจดู ปรากฏว่าเอกสารอยู่ครบไม่สูญหายนอกเสียจากเงินซึ่งมีอยู่ประมาณพันกว่าบาทได้หายไป คุณศศิพรขนลุกซู่นึกถึง “พ่อพราย” ทั้งสองทันที และเมื่อนับวันดูวันที่ ที่คุณศศิพรจุดธูปบอก “พ่อพราย” ทั้งสองจนถึงวันที่ได้กระเป๋าคืนก็นับได้ 3 วันพอดี ทุกวันนี้คุณศศิพร นำ “พ่อพราย” ทั้งสองบูชาติดตัวอยู่เสมอและหมั่นบอกให้ “พ่อพราย” ทั้งสองช่วยคุ้มครองเวลาเดินทางไปไหนๆ
  ยอดจอง 0  คน สมัครสมาชิก


 


Copyright ©G-PRA.COM