ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : รูปหลวงปู่สินวาระครบ7รอบ ลงหน้าปกพระเกจิ เล่มที่234 พร้อมข้อมูลพระรุ่น7รอบ



(N)
วันนี้ผมขอส่งข่าวให้พี่ๆน้องๆ ได้ทราบว่าหลวงปู่สินได้อนุญาติให้ถ่ายรูปท่านลงหน้าปกพระเกจิเล่มที่234 (รวมกันได้ 9 เป็นเลขมงคล)

รูปแต่ละรูปที่ท่านอนุญาติให้ถ่ายนั้น ถ้าเป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดจะทราบว่า ท่านจะเตรียมตัวห่มผ้าและจัดอย่างปราณีตจึงจะให้ถ่ายรูปได้ รูปท่านจึงออกมาดีทุกภาพ

ในวาระ7รอบ ทางวัดได้สร้างวัตถุมงคลเพื่อให้ประชาชนเช่าบูชาเพื่อนำปัจจัยไปบูรณะวัด ทางวัดได้ส่งข้อมูลให้หนังสือได้นำข้อมูลวัตถุมงคลมาเผยแพร่เพื่อเป็นแนวทางให้นักสะสมทุกท่านได้มีข้อมูลที่ชัดเจนครับ

โดยคุณ Aut_shop (4.1K)  [อ. 07 ก.พ. 2555 - 08:25 น.]



โดยคุณ Aut_shop (4.1K)  [อ. 07 ก.พ. 2555 - 08:26 น.] #2080432 (1/37)


(N)
เหรียญเสมา7รอบ เหรียญแจก

โดยคุณ Aut_shop (4.1K)  [อ. 07 ก.พ. 2555 - 08:26 น.] #2080434 (2/37)


(N)
พระกริ่ง7รอบ

โดยคุณ Aut_shop (4.1K)  [อ. 07 ก.พ. 2555 - 08:26 น.] #2080436 (3/37)


(N)
แพะ

โดยคุณ Aut_shop (4.1K)  [อ. 07 ก.พ. 2555 - 08:26 น.] #2080438 (4/37)
เมื่อหนังสือเผยแพร่ข้อมูลแล้วยังตัดบัตรไปแลกขุนแผนได้อีกด้วย สุดยอดไหมครับ ท่านไหน Like ครับ

โดยคุณ สิงห์บุรี (215)  [อ. 07 ก.พ. 2555 - 08:29 น.] #2080447 (5/37)
สวัสดีครับพี่อรรถพร ตอนนี้มสั่งร้านแถวบ้านไว้แล้ว 20 เล่มครับ...

โดยคุณ Aut_shop (4.1K)  [อ. 07 ก.พ. 2555 - 08:41 น.] #2080465 (6/37)
สวัสดีครับพี่สิงห์บุรี ผมกำลังตามเก็บให้เท่ากับพี่ครับ

โดยคุณ BCC-106 (434)  [อ. 07 ก.พ. 2555 - 08:46 น.] #2080475 (7/37)
กราบนมัสการหลวงพ่อสิน ครับผม

โดยคุณ Ninety-nine (273)  [อ. 07 ก.พ. 2555 - 09:03 น.] #2080509 (8/37)
+Like

โดยคุณ bompboss (794)  [อ. 07 ก.พ. 2555 - 09:11 น.] #2080529 (9/37)
ต้องหาซักเล่มคับ จะเอาขุนแผนแจก

โดยคุณ Aut_shop (4.1K)  [อ. 07 ก.พ. 2555 - 09:14 น.] #2080538 (10/37)
โดยคุณ สิงห์บุรี (100) (223.205.184.*) [7 Feb 2012 08:29] #2080447 (5/8)

สวัสดีครับพี่อรรถพร ตอนนี้มสั่งร้านแถวบ้านไว้แล้ว 20 เล่มครับ...


______________________________

ผมได้ข่าวว่าพี่ที่ระยองสั่งหนังสือเก็บไว้50เล่ม กำลังสืบอยู่ว่าเป็นพี่ท่านไหนครับ

โดยคุณ gotton (1.1K)(1)   [อ. 07 ก.พ. 2555 - 09:16 น.] #2080545 (11/37)

โดยคุณ pramanu (15)  [อ. 07 ก.พ. 2555 - 10:15 น.] #2080650 (12/37)
ชอบครับ

โดยคุณ fontana (24)(1)   [อ. 07 ก.พ. 2555 - 10:38 น.] #2080694 (13/37)

โดยคุณ phoenix (2.8K)(1)   [อ. 07 ก.พ. 2555 - 11:29 น.] #2080787 (14/37)
โดยคุณ Aut_shop (2829) (192.55.18.*) [7 Feb 2012 09:14] #2080538 (10/13)

โดยคุณ สิงห์บุรี (100) (223.205.184.*) [7 Feb 2012 08:29] #2080447 (5/8)

สวัสดีครับพี่อรรถพร ตอนนี้มสั่งร้านแถวบ้านไว้แล้ว 20 เล่มครับ...


______________________________

ผมได้ข่าวว่าพี่ที่ระยองสั่งหนังสือเก็บไว้50เล่ม กำลังสืบอยู่ว่าเป็นพี่ท่านไหนครับ

--------------------------------------------------------------------------------------
จะขอสั่งเพิ่ม อีก 50 เล่มได้ป่าวครับพี่ aut _shop เมื่อสักครู่ผมไปดูที่แผงในระยองมาปรากฏว่าหนังสือยังไม่มาครับพี่ ยังไงเราชาวระยองต้องอดใจกันนิดหนึ่งนะครับ

โดยคุณ rooney99 (267)(3)   [อ. 07 ก.พ. 2555 - 11:29 น.] #2080788 (15/37)
ขอบคุณครับ

โดยคุณ Lerm_kawilo (617)  [อ. 07 ก.พ. 2555 - 11:37 น.] #2080798 (16/37)

โดยคุณ phoenix (2.8K)(1)   [อ. 07 ก.พ. 2555 - 12:05 น.] #2080844 (17/37)
เป็นบทความที่ลงในหนังสือพระเกจิโดย อาจารย์เทียนชัย ทรงบัณฑิตย์ครับ


พระครูสุภัทราจารคุณ (หลวงปู่สิน) วัดละหารใหญ่ พระบริสุทธศีล ศิษย์สืบทอดตำราหลวงปู่สังข์เฒ่า กันกุฏิหลวงพ่อเพิ่ง (สายหลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า) ศิษย์หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ และหลวงพ่อลัด (สายปู่อ่ำ) วัดหนองกระบอก เทียนชัย ทรงบัณฑิตย์ ฉบับนี้ขออนุญาตนำเรื่องเก่ามาเล่าใหม่อีกครั้ง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2554 (วันลืมตาดูโลกอายุครบ 60 ปี) บก.ท่านโทรมาอวยพร แถมทวงต้นฉบับ แต่พิเศษเพราะท่านกำชับว่า “อาจารย์…ฉบับเดือนธันวาคม ผมขอประวัติหลวงพ่อสิน วัดละหารใหญ่ เขียนให้ได้ 3 ฉบับ เพราะมีผู้อ่านสนใจ อยากทราบประวัติโดยละเอียดของท่าน” ผมเป็นคนตามใจทุกคนอยู่แล้ว ยกเว้นภรรยาที่บ้าน (ถ้าเป็นผู้ช่วยภรรยาที่ 1 ตามใจมากกว่าคนที่ 2) ก็เลยค้นต้นฉบับที่เคยเขียนในหนังสือเล่าเรื่องวัดละหารใหญ่/เคาะระฆัง/และในพระเกจิ ฉบับที่ 205-210 มาเป็นข้อมูล นอกจากนี้ต้องขออนุญาตนาฎเทวี นักเขียนอาวุโส ที่บันทึกเรื่องของหลวงพ่อวงศ์ วัดบ้านค่าย ในหนังสือพระอภิญญา 10 (ฉบับที่ 10 วางตลาดเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2529) ที่มีบางตอนเกี่ยวข้องกับหลวงปู่สังข์เฒ่า บรมครูพุทธาคม สายอำเภอบ้านค่าย พระครูสุภัทราจารคุณ หรือหลวงพ่อสิน แห่งวัดละหารใหญ่ ท่านเป็นศิษย์ที่สืบทอดพุทธาคมโดยตรงของหลวงปู่สังข์เฒ่า หลวงพ่อเพ่ง หลวงปู่ทิมและหลวงพ่อลัด ท่านได้ประพฤติปฏิบัติตามแบบอย่างครูอาจารย์ของท่านอย่างเคร่งครัด ทั้งในเรื่องประพฤติตนและการปฏิบัติแนวสมถกรรมฐาน จนเป็นที่รู้จักและมีลูกศิษย์ลูกหาทั่วประเทศ แถมวัดละหารใหญ่ยังเป็นต้นตำรับการสอนภาษาไทย ภาษาขอม การเรียนแบบมูลกัจจายน์ ที่อดีตเจ้าอาวาสดังๆในสมัยนั้น เช่น หลวงพ่อทอง วัดน้ำคอก หลวงปู่ขาว วัดทับมา หลวงพ่อเอม วัดบ้านเก่า หลวงปู่แอ่ว วัดป่าประดู่ หลวงพ่อวงศ์ วัดบ้านค่ายฯ เดินทางมาเรียนกับเปรียญแตง (แดง) ทั้งนั้น (เปรียญแตง (แดง) พระรูปนี้ คนเฒ่าเล่าว่า เป็นชาวอยุธยา เมื่อกรุงศรีอยุธยาแตก ครั้งที่ 2 ได้อพยพพาผู้คนมาอยู่วัดละหารใหญ่และนำการสอนแบบมูลกัจจายน์มาเปิดสอนขึ้นที่นี่ แต่ก็ไม่ทราบว่าท่านเป็นเพียงพระลูกวัดหรือเจ้าอาวาส ผมขออนุญาตเล่าเรื่องวัดละหารใหญ่เป็นเบื้องต้น ก่อนจะถึงประวัติหลวงพ่อสิน พระครูวิจิตนธรรมานุวัติ (หลวงพ่อลัด) วัดหนองกระบอก อดีตเจ้าคณะอำเภอบ้านค่ายเคยเล่าให้ฟังว่า “วัดละหารใหญ่” เป็นวัดเก่าที่สร้างมานานนับเป็นเวลา 200 กว่าปี สันนิษฐานว่าจะปลายสมัยอยุธยา-ธนบุรี และต้นสมัยกรุงศรีอยุธยา มีหลักฐานอยู่ที่ชื่อพระอุโบสถว่า สร้างเมื่อพ.ศ.1199 ตรงกับปีระกา เดือน 4 แรม 11 ค่ำ วันพุธ (ผู้เขียนได้เทียบ จ.ศ.กับ พ.ศ.จะอยู่ประมาณปีพ.ศ.2380) และในบันทึกของหลวงพ่อเพ่ง สาสโน (อดีตเจ้าอาวาสรูปที่ 8) เขียนไว้ว่า เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2499 ว่า วัดนี้เดิมสมภารคนก่อน ทายก-ทายิกา เรียกกันว่า คุณพ่อเฒ่าจันทร์ (เจ้าอาวาสรูปที่ 2) แต่ปรากฏว่าท่านเป็นแต่เพียงคุณพ่อ ก็หาทราบไม่ว่าท่านเป็นอะไรบ้างหรือเปล่าไม่ทราบ แต่ข้าพเจ้าสันนิษฐานว่าท่านผู้นี้คงเป็นผู้ริเริ่มสร้างโบสถ์ ศาลาการเปรียญ ตลอดจนถาน (ส้วมพระ) ครัวและกุฏิเล็กๆขึ้นก่อน ต่อมาพระสังข์ได้รับตำแหน่งพระอธิการปกครอง ต่อมาจนพระสังข์มีฐานะ ความรู้ อย่างใดอย่างหนึ่งขึ้น เป็นที่นับถือแก่ทายก-ทายิกาทั้งหลาย ตลอดจนพระภิกษุในอาศรมของท่าน ตลอดถึงพระผู้ใหญ่ในท้องถิ่น พร้อมกันยื่นเรื่องราวให้ท่านได้เป็นพระอุปัชฌาย์อยู่ประมาณ 20 ปีเศษ มีข้าราชการในครั้งนั้น ทายก-ทายิกา พระเถรถผู้ใหญ่ได้อาราธนาท่านไปเป็นพระอุปัชฌาย์ ณ ที่วัดหลังเก๋ง (วัดเก๋ง) ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลระยอง วัดป่าประดู่และโรงเรียนวัดป่าประดู่ ในหนังสือประวัติวัดของจังหวัดระยองที่นายวิทยา เกษรเสาวภาค อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ที่ได้จัดทำไว้เมื่อ 11 กันยายน 2514 กล่าวไว้ตอนหนึ่งว่า วัดละหารใหญ่สังฆาราม เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่ง ไม่มีประวัติแน่ชัดว่าสร้างในยุคใด สมัยใด ใครเป็นผู้ริเริ่มสร้าง ใครเป็นผู้ยกที่ดินให้สร้าง ไม่มีการจารึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร คนชราและผู้เฒ่าสูงอายุ ปู่ย่า ตายาย ได้เล่าให้ลูกหลานฟังกันเป็นทอดๆ จนถึงปัจจุบันนี้ วัดระหารใหญ่เป็นวัดเก่าแก่ สร้างขึ้นเป็นวัดที่ 5 ของวััดในพระพุทธศาสนาจังหวัดระยอง ในสมัยก่อนยังไม่มีโรงเรียน ใครต้องการให้บุตรหลานมีความรู้ ทั้งภาษาไทย ภาษาขอมและคาถาอาคมต่างๆ มาเรียนที่วัดนี้ทั้งนั้น ต่อมาเมื่อมีความเจริญมากขึ้น จึงได้สร้างวัดเพิ่มเติม เช่น วัดหวายกรอง วัดหนองกรับ วัดละหารไร่ วัดหัวชวด ซึ่งล้วนแต่แตกแขนงจากวัดระหารใหญ่ นอกจากนี้ยังมีประวัติเก่าแก่บอกเล่าต่อๆมา ในสมัยกรุงศรีอยุธยาเสียเอกราชให้แก่พม่าครั้งที่ 2 ตามประวัติชาติไทย พระเจ้ากรุงธนบุรี (พระเจ้าตากสิน) ได้ยาตราทัพผ่านเมืองระยอง ทำการสะสมรวบรวมไพร่พลและเสบียงอาหาร เพื่อทำการกอบกู้เอกราชจากพม่า ข้าศึก ผู้คนที่มีบ้านเรือนอยู่ใกล้วัดละหาร ต่างได้ขนของมีค่าต่างๆเช่น ขันน้ำ พานรอง เตียง โตก ถาด เชี่ยนหมาก ที่ทำด้วยทองสัมฤทธิ์และของมีค่าอื่นๆไปไว้ในสระน้ำของวัด เพื่อป้องกันศัตรู โจรผู้ร้ายมาแย่งชิงกันเอาไป (ปัจจุบันสระน้ำดังกล่าวได้เป็นพื้นแผ่นดินในบริเวณวัดโดยไม่ใครยืนยันว่า ที่ใดเป็นสระน้ำเก่า) แต่เดิมชื่อวัดว่า วัดละหาร ต่อมาจึงใช้ชื่อหลวงพ่อสังข์ (หลวงปู่สังข์เฒ่า) อดีตเจ้าอาวาสเติมเข้าไป เป็นชื่อใหม่ วัดละหารพระสังฆราม และเมื่อทางราชการเปลี่ยนขื่อวัดไร่วารี เป็นวัดละหารไร่ ทางราชการจึงตั้งชื่อวัดระหารว่า วัดละหารใหญ่ (สังฆาราม) ส่วนใหญ่จะเรียกสั้นว่าวัดละหารใหญ่ ลำดับเจ้าอาวาสวัดละหารใหญ่ 1.เปรียญแตงหรือแดง ตั้งโรงเรียนสอนภาษาบาลีแบบมูลกัจจายน์ (ภาษาไทย-ขอม ยุคแรก) 2.คุณพ่อเฒ่าจันทร์ 3.หลวงพ่อสังข์เฒ่า เจ้าตำรับพุทธาคม สายบ้านค่าย 4.พระอธิการหั้น (ก่อนมรณภาพได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์) 5.เปรียญเปียก 6.พระอธิการเกิด 7.พระอธิการเทียน 8.พระอธิการเพ่ง สาสโน (ศิษย์สายหลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า) 9.พระจ้อย ยสินทโร (รับตำแหน่งได้ 1 ปี ย้ายไปอยู่วัดหัวชวด) 10.พระแก้ว อาภาโส (รับตำแหน่งเจ้าอาวาส พ.ศ.0502-2505) ย้ายไปอยู่วัดลุ่มมหาชัยชุมพล 11.พระครูสุภัทราจารคุณ (หลวงพ่อสิน) รับตำแหน่งเจ้าอาวาสตั้งแต่ปีพ.ศ.2506 และรับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสเมื่อวันที่ 20 เดือนมีนาคม พ.ศ.2508 จนถึงปัจจุบัน อดีตเจ้าอาวาสที่เก่งด้านพุทธาคมของวัดละหารใหญ่ หลวงปู่สังข์เฒ่า บนเรื่องเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่บอกว่า เป็นภิกษุผู้คงแก่เรียนในทุกๆด้าน มีอานุภาพและความศักดิ์สิทธิ์อยู่กับตนเอง ดังเช่น ถ่มน้ำลายลงพื้น พื้นจะแตก หรือวัว ควายเป็นโรคห่า หลวงปู่จะหยดเทียนลงในแม่น้ำระยอง เมื่อดอกเทียนไหลผ่านชาวบ้านตักน้ำไปให้วัว ควายดื่ม วัวควายก็จะหายจากโรคห่าดังกล่าว และในหนังสือพระอภิญญา 10 ปี 2529 คุณนาฎเทวีเขียนประวัติหลวงพ่อวงศ์ วัดบ้านค่าย มีข้อความตอนหนึ่งกล่าวว่า “เมื่อปีมะโรง เดือน 8 (แปดสองหน) ตรงกับ พ.ศ.2423 ขณะที่มีอายุ 24 ปี เข้าอุปสมบทที่วัดบ้านค่าย โดยมีท่านพระอุปัชฌาย์สังข์ แห่งวัดบ้านไร่ เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านพระอาจารย์ดี แห่งวัดบ้านค่ายเป็นพระกรรมวาจาจารย์ ท่านพระอาจารย์ห่วง แห่งวัดหนองกระบอกเป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอาจารย์เกิด เป็นพระหัตถบาส บันทึกดังกล่าวเป็นบันทึกที่หลวงพ่อวงศ์ วัดบ้านค่าย เขียนไว้ด้วยตนเอง โดยอุปัชฌาย์ของท่านชื่อสังข์ แห่งวัดบ้านไร่ หรือวัดไร่ ในละแวกนั้นมีพระรูปเดียว คือ หลวงปู่สังข์ อีกตอนหนึ่งเขียนว่า สำหรับครูบาอาจารย์ที่ประสาทวิชาให้หลวงพ่อวงศ์นั้น มีดังนี้ ท่านอุปัชฌาย์สังข์ แห่งวัดบ้านไร่ ท่านมีความชำนาญในการปฏิบัติธรรม กรรมฐานโดยเฉพาะวิชาสมถกรรมฐาน (อุบายทำให้สงบ) และวิปัสสนากรรมฐาน (อุบายแห่งปัญญา) ท่านพระครูสังข์ได้บอกแนวทางกรรมฐานให้ หลวงพ่อวงศ์ประพฤติปฏิบัติอย่างชำนิชำนาญ และเป็นที่ประจักษ์ว่า พระครูสังข์มีคุณวิเศษเป็นอย่างมาก ทางด้านสมถกรรมฐาน นับได้ว่าแก่กล้ายิ่งนัก เวลาท่านถ่มน้ำลายลงพื้นดิน จะทำให้พื้นดินแยกออกเป็นร่อง เวลาฝนตกหลังคารั่วท่านจะเพ่งมอง จนน้ำฝนแข็งตัวหยุดรั่วไหลทันที คำเล่าลือดังกล่าวสามารถชี้ให้เห็นว่า ท่านพระครูสังข์ แก่กล้านการเพ่งกสิน จนมีอำนาจทางใจจะดลสิ่งใดก็ได้ตามใจปรารถนา นอกจากนี้ หลวงพ่อลัด วัดหนองกระบอกเล่าให้ผู้เขียนฟังถึงสาเหตุที่หลวงปู่สังข์ถูกนิมนต์ไปอยู่วัดเก๋ง ตัวเมืองระยอง เพราะเกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ จะดับอย่างก็ไม่มอด ในขณะนั้นมีผู้เห็นพระภิกษุชรานุ่งห่มสีกรักรูปหนึ่ง มายืนบริกรรมและโบกมือไปมา ทำให้ไฟดับอย่างรวดเร็ว ไม่ลามไปไหม้ที่่อื่นอีก ภายหลังข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ตามมาพบหลวงปู่สังข์ที่วัด จึงได้นิมนต์ไปอยู่วัดหลังเก๋ง หรือวัดเก๋ง (ต่อมาเป็นวัดร้าง เมื่อมีการปรับพื้นที่เพื่อก่อสร้างโรงพยาบาลระยอง ได้พบพระกรุเนื้อตะกั่วมากมายในรูปแบบต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นพระประจำวัน นักนิยมพระจะเรียกว่า พระวัดเก๋ง กรุวัดเก๋งจีน โดยสันนิษฐานว่า หลวงปู่สังข์เฒ่าเป็นผู้สร้าง และใส่กรุไว้ อีกส่วนหนึ่งใส่ไว้ใต้ฐานพระประธาน วัดละหารใหญ่ เนื้อตะกั่วเหมือนกัน ผิดตรงพระอุระ (อก) เต็มกับไม่เต็ม (หลวงปู่สังข์วัดละหารใหญ่กับวัดละหารไร่เป็นพระรูปเดียวกัน) ในส่วนของผู้เขียนเองในการเกิดอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์ชนกันเมื่อ 13 ปีที่ผ่านมา หลังผ่าตัดใส่เหล็กขา (ร.พ.ระยอง) เช้ามืดฝันว่ามีพระภิกษุชรา นุ่งห่มสีกรัก รูปร่างสูงใหญ่แบบคนโบราณ มายืนที่หัวนอน ลูบศีรษะ ในฝันท่านบอกว่า หมดเคราะห์แล้วและให้ท่องบ่นคาถามงกุฎพระพุทธเจ้าก่อนนอน ในฝันถามท่านว่า หลวงพ่อมาจากไหนครับ ท่านบอกผมว่า ฉันก็อยู่ที่นี่ แล้วท่านก็หายไป วันรุ่งขึ้น หลวงพ่อสินกับหลวงพ่อเสียน (วัดใหม่) ไปเยี่ยมผมที่โรงพยาบาล ผมเล่าให้หลวงพ่อฟัง หลวงพ่อท่านยิ้มๆและบอกว่า คงเป็นหลวงปู่สังข์ เพราะท่านเคยอยู่ที่นี่ ผมท่องคาถาที่ได้ในฝัน อิติปิโสวิเสเสอิ อิเสเส พุทธะนาเมอิ อิเมนาพุทธะตังโสอิ อิโสตังพุทธะปิติอิ หลวงพ่อสินบอกว่า เป็นคาถาที่อยู่ในผูกโบราณคู่วัด ผมเลยบอกหลวงพ่อสินว่า เมื่อผมหายขอบวชอุทิศกุศลที่วัดละหารใหญ่ 1 เดือน ท่านได้อนุโมทนาและเดินทางกลับ ท่านผู้อ่านอาจจะคิดว่าเป็นเพราะฤทธิ์ยาสลบหรือเปล่า ผมก็ไม่ทราบได้ แต่ภาพที่เห็นชัดเจนมาก นั่งสวดมนต์ภาวนาทุกครั้งยังนึกเห็นหน้าท่านตลอด อยากจะถามคนรุ่นเก่าถึงรูปร่างของหลวงปู่สังข์ ไม่มีใครอยู่ให้ถาม จะตามไปก็ยังไม่ถึงเวลา หลวงพ่อเพ่ง สาสโน อดีตมหาดเล็กสมเด็จกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ตามเสด็จไปเรียนกับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ผู้ถ่ายทอดวิชาภาษาไทย ภาษาขอมและคาถาอาคมต่างๆให้หลวงพ่อสินเป็นครูคนแรกของท่าน หลวงพ่อเพ่ง สาสโน อดีตเจ้าอาวาสรูปที่ 8 ท่านได้บันทึกประวัติของท่านไว้ว่า ลำดับต่อมา พระเพ่ง ฉายา สาสะโน บวชใหม่ บวชมาแต่วัดบ้านโพธิ์ อ.พระราชวังบางปะอิน ได้เข้าไปอยู่กรุงเทพฯ เป็นมหดเล็ก (ตัวหนังสือในบันทึก) ของกรมหมื่นชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ได้ทูลลาเจ้านายของท่าน บวชเป็นพระภิกษุ เพื่อออกเยี่ยมเยือนญาติยังจังหวัดระยองได้มาพำนักอยู่อารามนั้นด้วย เพื่อจำพรรษาอยู่ที่วัดนั้นด้วย และมีพระภิกษุและครูวงศ์ (หลวงพ่อวงศ์) เจ้าคณะแขวงบ้านค่าย ตั้งให้พระเพ่ง สาสะโน รั้งอธิการรับหน้าที่เรื่อยมา จนถึงเจ้าคณะเจ้าคุณพิศาล ที่ย้ายมาจากวัดไผ่ล้อม จังหวัดจันทรบุรี (ตามคำเดิม) ได้มารับหน้าที่เจ้าคณะจังหวัดระยอง ได้จัดการแต่งตั้ง พระภิกษุเพ่ง สาสะโน เป็นเจ้าอาวาสวัดนี้มาจนทุกวันนี้ (พ.ศ.2474-2501) พระเพ่ง สาสะโน 2494 ปีบันทึก ดูตามบันทึกของท่าน หลวงพ่อเพ่งเป็นพระที่มีความรู้ดี ประสบการณ์ดี แต่ท่านไม่อวดดี ถ้าใครอยากจะลองท่านมีของดีให้ลอง หลวงพ่อเพิ่งเกิดในตระกูลแก้วสว่าง (ตระกูลแก้วสว่างเป็นตระกูลเก่าแก่ของชาวตำบลหนองบัว ตำบลตาสิทธิ์ โยมสาย แก้วสว่าง โยมวัดที่เป็นลูกศิษย์ก้นกุฏิหลวงปู่ทิม ผู้ใหญ่เสริม แก้วสว่าง เป็นญาติและลูกหลานหลวงพ่อเพ่งป โยมบิดาชื่อพัน โยมมารดาชื่อพันเช่นกัน การเรียนเบื้องต้นไม่ทราบแต่คงจะเข้าไปเรียนหนังสือในกรุงเทพตั้งแต่เยาว์วัย เพราะลายมือที่ท่านบันทึกไว้สวยงาม อักขระชัดเจน เมื่อกลับมาอยู่วัดละหารใหญ่ไม่นาน ท่านตั้งโรงเรียนประชาบาล สอนภาษาไทยแก่เด็กในตำบลละหาร คู่กับโรงเรียนวัดไร่ ภายหลังเมื่อมีโรงเรียนวัดหัวชวดเกิดขึ้นจึงยุบโรงเรียน นำเด็กไปรวมกับโรงเรียนวัดไร่และโรงเรียนวัดหัวชวด เนื่องจากขาดครูสอนและขาดงบสนับสนุน ในสมัยที่ท่านรับราชการเป็นมหาดเล็ก ของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ท่านได้ตามเสด็จไปศึกษาวิชาต่างๆกับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า (ประมาณ พ.ศ.2458-2460) หลายๆวิชา อักษรขอมที่ท่านลงในแผ่นตะกรุดเป็นคำว่า “เฑาะ” (ปัจจุบันหลวงพ่อสินใช้อักษรตัวเฑาะที่รับจากหลวงพ่อเพ่งเป็นยันต์ประจำตัวท่าน) หลวงพ่อเพ่ง สาสะโน เป็นพระที่อายุและพรรษาจะน้อยกว่าหลวงปู่ทิม หลวงปู่ทิมท่านให้การยกย่อง แนะนำให้ลูกศิษย์ไปกราบและขอเรียนวิชาจากท่าน (หลวงพ่อสาคร มนุญฺโญ เป็นศิษย์หลวงพ่อเพ่งอีกรูปหนึ่ง) โยมหน่าย วิเชียรเสนาะ ศิษย์หลวงพ่อเพ่งที่ยังมีชีวิตอยู่เคยเล่าให้ฟังว่า หลวงพ่อมีดีด้านคงกระพัน ผีครูวาว บุญปลื้ม สอนอยู่วัดไร่ มากราบหลวงพ่อแล้วพูดทำนองว่า หลวงพ่อ ใครว่าหลวงพ่อมีดี ผมไม่เห็นมีอะไร ผมว่าหลวงพ่อไม่แน่จริง หลวงพ่อท่านนั่งยิ้ม เขียนคำว่า “เฑาะ” ลงในกระดาษตะกั่วซองบุหรี่ ปากท่านก็พูดคุยเป็นปกติ เมื่อได้เวลาส่งให้ครูวาว และบอกให้เอาไปยิง ครูวาวยิงเท่าไรก็ยิงไม่ออก จึงกลับมาขอขมาท่าน ท่านจึงสอนว่า “อย่าพึงประมาทว่ามืด ที่อยู่ฝักมันจะไม่คม ถ้ายังไม่ได้ทดลอง” จากนั้นลูกหลานบริเวณใกล้เคียง ใครจะไปทหาร ต้องหาทองเหลือง ทองแดง มาให้หลวงพ่อเพ่งลงตะกรุดติดตัวไว้ตลอด อีกเรื่องหนึ่ง ลุงติ้น วิรัติพันธ์ เล่าให้ฟังว่า งานวัด จะมีเทศน์มหาชาติ ต้องทำประตูป่าด้วยไม้ไผ่ ญาติโยมตัดไม้มากองไว้ ใช้มีดผ่าทีละลำ หลวงพ่อลงมาเห็นบอกว่าช้า หลวงพ่อทำให้ ท่านใช้มีดผ่าทางปลายไม้ไผ่ แล้วใส่ไว้ตรงบริเวณเอว ให้ลูกศิษย์ลากลำไม้ไผ่ผ่ากับตัวท่าน นับเป็นสิบๆลำ จนไม้ไผ่หมดกอง ผิวไผ่จะแหลมคมอย่างไรก็ไม่ระเคืองผิวหนังของท่าน อีกเรื่องหนึ่ง ในขณะมีงานวัด แม่ครัวเก็บจานกระเบื้องไปล้างที่ท่าน้ำวัดชายคลอง ทีละใบ หลวงพ่อไปเห็นเข้า บอกว่าช้า ท่านให้เอาจานใส่หลัว ท่านถือลงไปเขย่าในคลอง บรรดาแม่ครัวคิดว่าแตกหมดแน่ๆ เมื่อหลวงพ่อยกหลัวขึ้นมาจานอยู่ในสภาพคงเดิม แถมสะอาดยิ่งกว่าเดิม ลุงหน่ายเล่าว่า หลวงพ่อเพ่งเป็นภกษุเจ้าระเบียบ เคร่งครัด อยู่ในพระธรรมวินัย ใจดี แต่ดู ซึ่งบุคลิกดังกล่าวนั้น ได้ถ่ายทอดให้กับหลวงพ่อสินไว้ครบถ้วน ทั้งด้านปฏิบัติตน ด้านคาถาอาคมต่างๆ จะเรียกว่าเป็นศิษย์รูปเดียวหรือคนเดียวกน่าจะใช่ และเมื่อมรณภาพลง หลวงปู่ทิมให้คณะกรรมการวัดจัดทำเหรียญที่ระลึกขึ้น 1 ชุด ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อเพ่งครึ่งองค์ ด้านหลังเป็นยันต์สามของหลวงปู่ทิม ท่านอธิษฐานจิตให้ นับเป็นเหรียญรุ่นแรกของวัดละหารใหญ่ ถึงวันทำพิธีฌาปนกิจศพ (วันเผา) ลูกศิษย์จะเผาอย่างไรก็ยังเหลือก้อนเนื้ออยู่ก้อนหนึ่ง ไม่ไหม้ไฟ ต้องนิมนต์หลวงปู่มาทำน้ำมนต์ประพรมให้ จึงเผาได้ไหม้หมดร่าง หลวงพ่อเพ่งมรณภาพเมื่อพ.ศ.2501 จากนั้นมีผู้รั้งตำแหน่งเจ้าอาวาสอีก 2 ท่าน จึงถึงหลวงพ่อสิน (คำว่ารั้งตำแหน่งเจ้าอาวาส ตรงกับคำว่ารักษาการในปัจจุบัน) วัดละหารใหญ่ปัจจุบัน การทำวัตร-สวดมนต์ ยังเหมือนเดิมในสมัยที่หลวงพ่อเพ่งสอนไว้และมีบันทึกคู่วัด (อ่านต่อฉบับหน้า)

โดยคุณ phoenix (2.8K)(1)   [อ. 07 ก.พ. 2555 - 12:16 น.] #2080870 (18/37)
หลวงปู่สิน ถือเลข ๘ เป็นเลขมงคล เทพระกริ่งชินบัญชร ๗ รอบ ๘๔ ปี พระครูสุภัททาจารคุณ (หลวงปู่สิน) แห่งวัดละหารใหญ่ ศิษย์พุทธาคมสายหลวงปู่สังข์เฒ่า ศิษย์ก้นกุฏิหลวงพ่อเพ่ง สาสโน หลวงปู่ทิม อิสริโก และหลวงพ่อลัด วัดหนองกระบอก ถือฤกษ์มงคล ๘ มกราคม ๒๕๕๕ เป็นฤกษ์เทพระกริ่ง ๗ รอบ ๘๔ ปี เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๘ มกราคม ๒๕๕๕ ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนยี่ (๒) ปีมะโรง หลวงปู่สินพระคณาจารย์ชื่อดัง แห่งเมืองระยองได้ถือเลข ๘ เลขมงคลของชาวจีน เทพระกริ่ง ๗ รอบ ๘๔ ปี ที่ถือว่าการทำกิจการใดๆก็ตาม ที่มีเลข ๘ นำ จะเป็นกิจการที่ร่ำรวย มั่งคั่ง ทำมาหากินอุดมสมบูรณ์พูนสุข คล่องตัวทั้งด้านการงาน การเงิน นอกจากนี้ ในวันดังกล่าว ยังตรงกับวันพระขึ้น ๑๕ ค่ำ เป็นวันสมบูรณ์ทางศาสนา เดือน ๒ หรือเดือนยี่ เป็นเดือนที่เป็นเดือนคู่ เดือนมงคล ที่ชาวไทยนิยมทำงานมงคลสมรสอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข นับว่าเป็นสิ่งดีงามความมหามงคลในทุกๆด้าน หลวงปู่สินจึงนำมาเป็นพิธีฤกษ์แห่งการเทพระกริ่งชินบัญชร ๗ รอบ ๘๔ ปี วันเททอง หลวงปู่สินได้ทำพิธีตามตำรับตำราที่ได้เรียนจากครู-อาจารย์ และตำราคู่วัดสมัยหลวงปู่สังข์เฒ่า โดยเริ่มจากการทำพิธีทักษิณานุปทานบอกกล่าวครูบาอาจารย์ พราหมณ์สุข ซึ่งเป็นศิษย์หลวงปู่ทิม ได้รับการถ่ายทอดพิธีพราหมณ์ไว้ทำพิธีบวงสรวงเทพยดา อารักษ์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หลวงปู่สินได้ประกอบพิธีจุดเทียนชัยและเมื่อได้เวลา ๑๕ นาฬิกา ๔๘ นาที หลวงปู่สินประกอบพิธีเททองนำฤกษ์ พระกริ่ง ๗ รอบ ๘๔ ปี พระคณาจารย์นั่งปรกอธิษฐานจิตในพิธีทั้ง ๔ ทิศ ประกอบด้วยพระครูพิพัฒน์ชยาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอบ้านค่าย วัดบ้านค่าย พระครูวิจิตรธรรมมาภิรัติ (เชย) วัดละหารไร่ พระครูประภัศร์โพธิคุณ (รัตน์) วัดป่าหวาย และพระสมุห์ทองสุข ลัทธเมโธ วัดหนองฆ้อ นับว่าเป็นพิธีที่สมบูรณ์ในปัจจุบัน (พิธีเทพระกริ่งชินบัญชรของหลวงปู่สิน ทำเหมือนกับพิธีเทพระกริ่งชินบัญชรเมื่อปี ๒๕๑๗ ของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่) คณะกรรมการที่เป็นศิษย์ของหลวงพ่อกระซิบว่า พระกริ่งชุดนี้ หลวงพ่อนำชนวนพระกริ่งชินบัญชรของหลวงปู่ทิม ชนวนพระกริ่งรุ่นแรกของหลวงปู่สินและทองล้นเบ้าที่หลวงพ่อไปนั่งปรกอธิษฐานจิตจากวัดต่างๆ นำมาเป็นชนวนหล่อพระกริ่งชินบัญชร ๗ รอบ ๘๔ ปี ใครยังไม่ได้จองเป็นเจ้าของพระกริ่งชินบัญชร ๗ รอบ ๘๔ ปี ของหลวงปู่สินที่จัดสร้างในครั้งนี้ ท่านอาจจะเสียโอกาส เหมือนสมัยปี ๒๕๑๗ ในการหล่อพระกริ่งชินบัญชรของหลวงปู่ทิมที่ปัจจุบันเป็นของมีคุณค่าหายากยิ่ง ของดีๆมีคุณค่า ช้าหมด แล้วท่าน

โดยคุณ phoenix (2.8K)(1)   [อ. 07 ก.พ. 2555 - 12:18 น.] #2080873 (19/37)
หลวงพ่อสิน วัดละหารใหญ่ ศิษย์ 3 บรมครู 1 ตำราคู่วัด คนโบราณว่า “แก่เฒ่าชอบเล่าความหลัง” ชะรอยว่าจะจริง พออายุย่างเข้า 60 ปี มีอะไรแปลกๆ เมื่อก่อนเหล้าเข้าปากต้องออกไปดูไฟแสงสีในตัวเมือง เดี๋ยวนี้กลายเป็นคนดื่มยาดอง นั่งส่องพระ หยิบองค์นั้นมาดูว่าได้มาเมื่อไร รุ่นไหน ใครสร้าง จำได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็แลว่ามีความสุขดี วันไหนไม่นั่งส่องพระ ก็หยิบหนังสือพระเครื่องที่เหลือจากอาหารปลวกมาหาข้อมูลเขียนหนังสือกันสมองฟ่อ บางครั้งนึกไม่ออกก็มองก้อนเมฆสวยๆ ยกมาเขียนบ้างตามแบบของนักเขียนรุ่นบรมครู ต้องบอกก่อนว่า เรื่องของหลวงพ่อสิน วัดละหารใหญ่ ท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อตอนที่ผมบวชแก้บนจากการถูกรถชน จึงพยายามเก็บเรื่องราวต่างๆของหลวงพ่อให้ละเอียดที่สุด อาจจะใกล้เคียงกับผู้อื่นเขียนไว้ หรืออาจจะแปลกออกไป ผมเขียนเพื่อเทิดทูนและเผยแพร่เกียรติคุณของท่าน หากผิดพลาดขออภัยหลวงพ่อและศิษย์ของหลวงพ่อทุกท่าน ผมย้ายไปรับราชการที่โรงเรียนวัดไร่ (หลวงปู่ทิม) ตั้งแต่ปีพ.ศ.2526 ลุงติ้น วิรัติพันธ์ ลุงธง สุขเทศน์ ลุงหน่าย-ลุงแหนง วิเชียรเสนาะฯ ให้มาช่วยเป็นโฆษกวัดงานทำบุญเดือน 3 ที่เปิดวิหารให้ปิดทองรอยพระบาทไม้กันเกราอายุ 200 กว่าปี ของคู่วัด ในสมัยโบราณมีการเผาข้าวหลามมาถวายพระกองใหญ่ มีการส่งนิสัย (กลับไปหาพ่อแม่โดยนำสำรับกับข้าว คาว-หวาน ดอกไม้ ธูปเทียน และเงินไปกราบพ่อ-แม่ นิยมทำกลางคืน 3 มากกว่าปีใหม่) และการทำบุญในวันนั้นทำกลางแจ้ง ไม่ได้ขึ้นไปทำบนวัด เสร็จแล้วรับประทานอาหารร่วมกันทั้งครอบครัว หลวงพ่อท่านแสดงธรรมน่าฟังถึงเรื่องความกตัญญู โยมวัดทุกคนยืนยันกับผมว่า หลวงพ่อสิน เป็นพระบริสุทธิศีล กราบไหว้ได้สนิทใจ จากวันนั้นมา เมื่อกลับจากโรงเรียนจะแวะมากราบหลวงพ่ออยู่เสมอ หลวงพ่อเล่าเรื่องต่างๆให้ฟังบ่อยๆ วันไหนถ้ามีโยมผู้หญิง (สาวแก่-แม่ม่าย) มานั่งคุยกับหลวงพ่อ ท่านจะให้ผมนั่งอยู่ด้วย จนโยมผู้หญิงเหล่านั้นลากลับ ยิ่งเป็นคณะทรงที่เป็นผู้หญิงส่วนใหญ่ หลวงพ่อจะระวังตัวมาก นั่งคุยห่างๆ โดยมีพระหรือเณรอยู่เป็นเพื่อนด้วย เช้า-เย็น ในพรรษา เมื่อพระลงทำวัตรจะมีแขกนั่งอยู่หรือไม่ก็ตาม หลวงพ่อจะครองผ้าลงทำวัตรตลอด ยกเว้นวันไหนที่หลวงพ่อไม่สบาย จะทำวัตรในห้องของท่าน หลวงพ่อสินท่านทำตนเสมอต้นเสมอปลายกับญาติโยมทุกคน ทั้งฆราวาสและพระภิกษุ เมื่อมีโยมมาถวายฟักทอง พระและเณรอยากทำฟักทองแกงบวช หลวงพ่อจะร่วมด้วยให้เงินไปซื้อกะทิบ้าง น้ำตาลบ้าง มีส่วนร่วมทุกครั้งเช่นกัน ถ้าโยมนำมาถวายเฉพาะหลวงพ่อรูปเดียว หลวงพ่อจะตักไว้เพียง 1-2 ช้อน แล้วส่งเวียนให้พระในวัดได้ขบฉันด้วย ที่ผมเล่ามาคือปฏิปทาของหลวงพ่อสิน เจ้าอาวาสวัดละหารใหญ่ ขออนุญาตนำประวัติของหลวงพ่อมานำเขียนไว้เป็นสังเขป หลวงพ่อสินเป็นบุตรของคุณพ่อเซี๊ยะ คุณแม่จันทร์ สุขมาก เกิดที่บ้านหัวชวด หมู่ 1 ต.หนองบัว เกิดเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2471 แต่เล็กหลวงพ่อจะตามโยมพ่อ-โยมแม่ไปทำบุญที่วัดทุกวันพระ เมื่ออายุได้วัยเรียนก็มาเรียนหนังสือกับหลวงพ่อเพ่ง สาสโน ทั้งภาษาบาลี ไทย และขอม คาถาอาคมต่างๆที่หลวงพ่อเมตตาสอนให้ หลวงพ่อเป็นพระที่สนใจ ใฝ่รู้ ค้นคว้าตำราเก่าคู่วัด ซึ่งสันนิษฐานว่า เขียนไว้สมัยหลวงปู่สังข์เฒ่า ท่านเล่าท่องด้วยตนเอง หากสงสัยตรงไหน จะสอบถามครูของท่าน (หลวงพ่อเพ่ง) ชีวิตฆราวาสเข้าออกอยู่กับวัดตลอดจนถึงปีพ.ศ.2492 ถูกเกณฑ์เข้าเป็นทหาร 2 ปี พ้นเกณฑ์จึงขอให้โยมพ่อ-โยมแม่ พาไปฝากไว้กับวัดละหารใหญ่ และพิธีอุปสมบทเมื่อปีพ.ศ.2494 โดยมีพระครูวิจิตรธรรมานุวัติ (หลวงพ่อลัด) วัดหนองกระบอก เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการเพ่ง สาสโน (ครูของท่าน) วัดละหารใหญ่ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูเกลี้ยง ธมฺมทีโย วัดหนองกรับ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า ภทฺทจาโร หลังจากอุปสมบทแล้ว นอกจากปฏิบัติครูของท่านในฐานะพระบวชใหม่ หลวงพ่อสินได้ขอเรียนด้านสมถกรรมฐาน คู่ไปกับการเรียนด้านพระธรรมวินัย จากหลวงพ่อเพ่งจนสามารถปฏิบัติได้จริง ในส่วนวิชาอาคมต่างๆ ท่านขอเรียนจากหลวงพ่อเพ่งและตำราเก่าคู่วัดจนจำได้หมด ด้านพระธรรมวินัยสอบได้นักธรรมเอกในปีพ.ศ.2501 เมื่อมีพื้นฐานด้านวิปัสสนากรรมฐาน หลวงพ่อเพ่งจึงให้ท่านไปเรียนด้านกรรมฐานและวิชาอาคมต่างๆกับหลวงปู่ทิม หลวงพ่อสินรับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดละหารใหญ่ ตั้งแต่พ.ศ.2508 วันที่ 4 พฤศจิกายน 2521 รับการแต่งตั้งเป็นฐานานุกรมที่พระใบฎีกาสิน วันที่ 5 ธันวาคม 2525 ได้รับพระราชทานแต่งตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ที่พระครูสุภัททาจารคุณ (ขณะนั้น 31 พรรษา อายุตัว 54) วันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ.2539 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลหนองบัว และเมื่อวันที่ 28 มกราคม พ.ศ.2542 ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ ทำหน้าที่อุปสมบทให้กุลบุตรที่ปรารถนาเข้าสู่ร่มพระพุทธศาสนาจนถึงทุกวันนี้ เรียนวิชากับหลวงปู่ทิม ก่อนที่จะเล่าเรื่องหลวงพ่อสินไปเรียนกับหลวงปู่ทิม ผมขออนุญาตพูดถึงวัดละหารไร่นิดหนึ่ง วัดละหารไร่ เดิมชื่อวัดไร่วารี ที่ก่อนจะเป็นวัด เป็นขนำไร่ (ขนำคือที่พักที่มีหลังคา ใช้วัสดุง่ายๆ เช่น ทางมะพร้าวหรือใบตองตึง เป็นฝากันลมกันแดด หรือภาษากลางเรียกเพิงพักชั่วคราว) วัดละหารใหญ่ตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำระยอง น้ำแรงแทงพื้นดินไปงอกอีกฝั่งหนึ่ง หลวงปู่สังข์จึงข้ามน้ำไปทำไร่ ปลูกพริก มะเขือ และผักต่างๆไว้ขบฉัน โดยทำขนำไว้พักตอนแดดร้อน และฉันภัตตาหารเพล ต่อมามีชาวบ้านมาช่วยหลวงปู่สังข์หลยคน จึงขยายขนำเป็นที่พักสงฆ์และสร้างเป็นวัดในที่สุด โดยตั้งชื่อว่า วัดไร่วารี ในสมัยก่อนการข้ามฝั่งจากวัดละหารใหญ่ไปวัดละหารไร่ลำบากมาก ส่วนใหญ่ใช้การเดินข้ามน้ำหรือลุยน้ำข้ามไป ปี 2526 ผู้เขียนไปเป็นครูใหญ่วัดไร่ ถนนลูกรังน้ำท่วมทาง สะพานใช้ไม้ซุง 2 แผ่น รถสวนไม่ได้ต้องไปทีละคัน หลวงพ่อสินเล่าให้ฟังว่า เวลาไปหาหลวงปู่ทิมต้องลุยน้ำข้ามคลองไปหลังฉันเพลแล้ว กราบท่านเสร็จท่านจะสอนคาถาให้ 1 บท โดยให้จำและท่องให้ได้ วันรุ่งขึ้นไปใหม หลวงปู่จะให้ท่องบทที่ให้ไปจึงจะต่อบทใหม่ให้ ทำอย่างนั้นทุกครั้ง จนจำขึ้นใจ แล้วนำมาจดกันลืมไว้ที่วัด วันใดฝึกกรรมฐานต้องนอนค้าง เพราะหลวงปู่จะให้ฝึกตอนกลางคืน นี่อายุแก่กว่าท่านคร (หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ) เรียนกับหลวงปู่ทีหลังท่าน ท่านเรียนและอยู่กับหลวงปู่ตั้งแต่ยังหนุ่ม แต่ท่านมาเรียนกับหลวงพ่อเพ่งทีหลัง หลวงปู่ทิมท่านจะสอนวิชาให้เหมือนกัน อยากเรียนเพิ่มเติมไปทางใดต้องขอท่าน ถ้าไม่ขอหลวงปู่ทิมจะไม่ให้ หลวงพ่อสินท่านจึงเรียนสรรพวิชาของหลวงปู่ทิมไว้ทั้งหมด การเรียนวิชากับหลวงพ่อลัด วัดหนองกระบอก พระครูวิจิตรธรรมานุวัตร หรือหลวงพ่อลัด วัดหนองกระบอก ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่ออ่ำ เจ้าของแพะมหาลาภ พระคณาจารย์ร่วมสมัยกับหลวงพ่อวงศ์ วัดบ้านค่าย หลวงปู่แอ่ว วัดป่าประดู่ หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ หลวงพ่อลัดเป็นพระอุปัชฌาย์ของหลวงพ่อสิน หลวงพ่อลัดนอกจากจะสำเร็จกสิณไฟ แพะมหาลาภ แล้วยังมีตำรับการทำสีผึ้ง 7 จันทร์ ที่ท่านถ่ายทอดตำราไว้ให้หลวงพ่อสิน พร้อมการปลุกเสกแพะตามตำรับของวัดหนองกระบอก ในการทำพิธีปลุกเสกวัตถุมงคล 80 ปี ของหลวงพ่อลัด ในวันนั้น ที่มีหลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกระเฌอ ท่านพ่อคร่ำ วัดวังหว้า หลวงพ่อติ๊ด วัดหนองสะพาน หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ และหลวงพ่อสิน วัดละหารใหญ่ นั่งปรกเสร็จ มีการหยดเทียนน้ำมนต์ลงโอ่งที่เตรียมไว้ หลวงพ่อพ่อสินกับหลวงพ่อลัด จะอยู่คู่กัน หลวงพ่อลัดจับมือหลวงพ่อสินหยดน้ำตาเทียนในกำมือผ่านมือหลวงพ่อสินลงโอ่ง ปากท่านบอกว่า ท่านสิน ฉันให้นะ หลังพิธี ผมถาม (ผู้เขียน) หลวงพ่อสินว่าร้อนไหม หลวงพ่อบอกว่า อุ่นๆเท่านั้น ภายหลังผมถามหลวงพ่อลัด ท่านบอกว่าเรียนแล้วก็ต้องครอบครู นับว่าเป็นวิธีครอบครูรับศิษย์ที่แปลกอย่างหนึ่ง หลายๆคน เคยถามหลวงพ่อลัดว่า สิ้นบุญหลวงพ่อแล้ว ผมจะไปหาใครครับ ท่านตอบว่า ให้ไปหาหลวงพ่อวัดละหารใหญ่ พระสินท่านเป็นพระบริสุทธิ์ มีดีในตัว เรียนวิชาไว้มาก การยืนยันจากพระเถราจารย์ที่ทรงพุทธาคมในภาคตะวันออก ท่านพ่อคร่ำ วัดวังหว้า ในครั้งพุทธาภิเษก กริ่งสร้างกำแพงในครั้งนั้น มีหลวงพ่อบุญ วัดบ้านนา หลวงพ่อหร่วน วัดวังล่าง หลวงพ่อสวัสดิ์ วัดกระแสร์บน ท่านพ่อคร่ำบอกกับผมว่า องค์นี้เก่งนะ หลวงพ่อหร่วนถามว่า ไอ้หนูองค์นั้น (หลวงพ่อสิน) ลูกศิษย์ใคร ผมบอกเป็นศิษย์หลวงพ่อเพ่ง หลวงปู่ทิมท่านบอกว่า องค์นี้เก่ง อนาคตไกล หลวงพ่อหร่วนท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อโต (พุทธาคมสายอำเภอแกลง) ทั้งสองรูปยืนยันอย่างนั้น หลวงพ่อสินท่านเป็นพระสมถะ ทำตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์ คนแถบวัดละหารใหญ่จะถือว่าใครก็ตามถูกหลวงพ่อดุด่าว่ากล่าวอย่างรุนแรง คนนั้นจะซวยตลอดชาติ เพราะหลวงพ่อเป็นพระเมตตาสูง ใครขอให้ทำพิธีอะไรท่านจะทำให้ อักขระที่่สวยงามและการบรรจงเขียนให้กับรถยนต์ใหม่ๆที่นำมาให้ท่านเจิมให้ การถวายสังฆทาน การทำพิธีให้คนที่ดวงดับ โดยใช้ผ้าขาวคลุมร่าง แล้วสวดบังสุกุล หลวงพ่อจะทำให้ด้วยตนเองทั้งสิ้น การอธิษฐานจิตวัตถุมงคลของท่านทุกชุด ทุกรุ่น หลวงพ่อจะพิถีพิถันทำอย่างประณีต ตามตำรับของครูบอาจารย์ที่ท่านศึกษา และครอบครูไว้ จึงส่งผลให้มงคลวัตถุมงคลดังกล่าว คุ้มครองป้องกันภัยผู้ที่นำติดตัวไว้และประพฤติปฏิบัติตามทำนองครองธรรม หลวงพ่อสินท่านเป็นพระบริสุทธิ์ บางคนจ้องจะขอเลขดี เลขเด็ดจากท่าน อาจจะผิดหวัง เพราะหลวงพ่อไม่เคยให้หวยใคร และไม่ซื้อหวย ทั้งรัฐบาลหรือใต้ดิน ศิษย์หลายคนที่เคยเข้าไปทำความสะอาดห้องหลวงพ่อ จะแปลกใจ เพราะซองปัจจัยต่างๆที่ถวายส่วนตัวหลวงพ่อจะวางไว้ระเกะระกะทั้งห้อง เพราะหลวงพ่อเป็นพระที่ไม่ติดยึดกับปัจจัยที่ถวาย จะเห็นตู้บริจาคตู้ใหญ่อยู่ใกล้ที่รับแขกของวัด ใครมาทำบุญเจิมรถถวายสังฆทานหรือให้หลวงพ่อสงเคราะห์ในด้านต่างๆ หลวงพ่อจะให้อธิษฐานและนำซองไปใส่ไว้ในตู้ เวลาจ่ายค่าแรงช่างสร้างอุโบสถ หลวงพ่อจะไขตู้ นำเงินมาจ่ายค่าสร้างโบสถ์ ผมขออนุญาตเล่าเรื่องของหลวงพ่ออยากได้รถยนต์สักคัน ไว้ส่งพระหรือไปกิจนิมนต์ตางๆ ใช้ของโยมบ่อยๆก็เกรงใจ โยมวัดบอกจะเบิกเงินวัดซื้อให้ หลวงพ่อบอกไม่รบกวน เงินมี ท่านเข้าห้องหยิบเงินใส่ย่ามให้โยมและคนขับรถไปส่ง ไปถึงบริษัท บอกพนักงานมาขอซื้อรถ ทางพนักงานถามเงินสดหรือผ่อน หลวงพ่อบอกซื้อเงินสด และพร้อมจ่าย ทำสัญญาเสร็จ หลวงพ่อยกย่ามลงมาให้นับ พนักงานต้องระดมพนักงานเกือบ 20 คน เพราะเงินแสนที่หลงพ่อจ่าย มีตั้งแต่แบงก์ 20 แบงก์ 100 แบบเก่า (ใหม่) แบงก์ 500 แบงก์ 1,000 บาท มีน้อยมากใช้เวลานับประมาณ 3 ชั่วโมงจึงเสร็จ โบราณบอกพริกยิ่งแก่ยิ่งเผ็ด พุทธาคมของหลวงพ่อสินและการปฏิบัติตนของหลวงพ่อก็เป็นเช่นนั้น แม้วัยของหลวงพ่อจะถึง 84 ปีแล้วก็ตาม หลวงพ่อก็ยังแข็งแรงเหมือนคนหนุ่มๆ หลวงพ่อสินเป็นพระบริสุทธิศีล เป็นพระที่คงแก่เรียน คงความรู้ ทรงพุทธาคมตามตำรับหลวงปู่สังข์ ( เฒ่า) เจ้าพุทธาคม อดีตเจ้าอาวาสวัดละหารใหญ่ ใครเดินทางไปกราบรูปหล่อหลวงปู่ทิม ครูของท่านที่วัดละหารไร่ ขากลับแวะนมัสการหลวงพ่อสินที่วัดละหารใหญ่ ดูปูชนียวัตถุอายุ 200 ปี ที่ยังเหลืออยู่คู่วัดร่วมสร้างวัด สร้างอุโบสถกับหลวงพ่อหรือจะบูชาวัตถุมงคลของหลวงพ่อ ที่มีประสบการณ์ช่วยหลายๆคนรอดชีวิต มีชีวิตเจริญรุ่งเรือง มีความเจริญก้าวหน้า รุ่งเรืองร่ำรวยมาหลายคนแล้ว ทีมงานพระเกจิพร้อมนำเสนอเรื่องดีๆ พระดีๆ ที่กราบไหว้ได้สนิทใจ ให้คุ้มกับที่ท่านให้การอุปการะเรามาตลอด ติดตามกันต่อไปนะครับ ขอขอบคุณท่านอาจารย์เทียนชัย จากบทความที่ลงในหนังสือพระเกจินะครับ

โดยคุณ DEERAYONG (1K)  [อ. 07 ก.พ. 2555 - 12:26 น.] #2080890 (20/37)

โดยคุณ Aut_shop (4.1K)  [อ. 07 ก.พ. 2555 - 12:30 น.] #2080901 (21/37)
ผมและพี่ๆในweb ขอขอบพระคุณพี่phoenix ที่กรุณานำประวัติมาเผยแพร่ให้ลูกศิษย์ได้ทราบครับ

โดยคุณ jaroen (275)  [อ. 07 ก.พ. 2555 - 12:32 น.] #2080908 (22/37)
ช่วงนี้แวะถามที่แผงหนังสือทุกเช้าก่อนไปทำงาน แต่หนังสือก็ยังไม่มาสักที.....

โดยคุณ Aut_shop (4.1K)  [อ. 07 ก.พ. 2555 - 12:38 น.] #2080928 (23/37)
โดยคุณ phoenix (664) (223.207.139.*) [7 Feb 2012 11:29] #2080787 (14/21)

โดยคุณ Aut_shop (2829) (192.55.18.*) [7 Feb 2012 09:14] #2080538 (10/13)

โดยคุณ สิงห์บุรี (100) (223.205.184.*) [7 Feb 2012 08:29] #2080447 (5/8)

สวัสดีครับพี่อรรถพร ตอนนี้มสั่งร้านแถวบ้านไว้แล้ว 20 เล่มครับ...


______________________________

ผมได้ข่าวว่าพี่ที่ระยองสั่งหนังสือเก็บไว้50เล่ม กำลังสืบอยู่ว่าเป็นพี่ท่านไหนครับ

--------------------------------------------------------------------------------------
จะขอสั่งเพิ่ม อีก 50 เล่มได้ป่าวครับพี่ aut _shop เมื่อสักครู่ผมไปดูที่แผงในระยองมาปรากฏว่าหนังสือยังไม่มาครับพี่ ยังไงเราชาวระยองต้องอดใจกันนิดหนึ่งนะครับ
______________________________________________________________

ตอนนี้หนังสือออกจากโรงพิมพ์ไปหมดแล้วครับ ผมติดต่อไปที่โรงพิมพ์เขาไม่มีให้ครับ จึงฟันธงว่าหาจำนวน 50 เล่ม ไม่ได้แน่ครับ รอซื้อที่แผงอย่างเดียวครับพี่

โดยคุณ phoenix (2.8K)(1)   [อ. 07 ก.พ. 2555 - 13:20 น.] #2081005 (24/37)
เมื่อวันอาทิตย์ 2 อาทิตย์ที่แล้ว มีชายคนหนึ่งพูดภาษาไทยชัดมากแต่ออกจีนนิดหนึ่งโทรมาถามหา ขุนแผนและเสมา 7 รอบ ผมถามพี่เขาว่าโทรมาจากไหน พี่เขาตอบว่าสิงคโปร์ ถามว่าเขารู้จักหลวงปู่สินได้อย่างไร พี่ท่านตอบว่าอ่านจากหนังสือพระเกจิ พอดีผมนั่งอยู่กับบรรณาธิการหนังสือพระเกจิพอดี พี่เปี๊ยกเล่าให้ฟังว่า หนังสือพระเกจิไปถึงสิงคโปร์ มาเลเซียเลย เพราะมีคนไทยที่นั่นสั่งไป ผมได้แต่

โดยคุณ Zspionkop (43)  [อ. 07 ก.พ. 2555 - 14:06 น.] #2081061 (25/37)
อ่านบทความแล้วรู้สึกชุ่มช่ำใจยังไงไม่รู้ ขนรุกซู่ๆๆ [ผมคิดไปเองเป่าไม่รู้งืมๆๆ]

ขอบคุณสำหรับบทความประวัติของหลวงพ่อ ที่ลูกหลานรุ่นหลังจะได้เก็บไว้เป็นข้อมูลครับ

โดยคุณ Hippy_chon (1.8K)  [อ. 07 ก.พ. 2555 - 17:08 น.] #2081304 (26/37)
ต้องไปสั่งจองที่ร้านหนังสือไว้เลยครับ

โดยคุณ worarit (4.9K)  [อ. 07 ก.พ. 2555 - 17:37 น.] #2081360 (27/37)
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ


โดยคุณ supap (1.6K)  [อ. 07 ก.พ. 2555 - 18:30 น.] #2081461 (28/37)
ขอบคุณครับพี่ทนาย สำหรับข้อมูลดีๆ แก่เพื่อนสมาชิก

โดยคุณ โลมาสีขาว (5.6K)  [อ. 07 ก.พ. 2555 - 19:01 น.] #2081508 (29/37)

โดยคุณ icebandon (668)  [อ. 07 ก.พ. 2555 - 19:18 น.] #2081537 (30/37)
แจ่มเลยครับพี่ๆ

โดยคุณ เปี๊ยกระยอง (2.5K)  [อ. 07 ก.พ. 2555 - 20:01 น.] #2081627 (31/37)
สุดยอดเลยครับในวาระ. 7. รอบหลวงปู่สินนี้ใช่แต่ว่าจะได้รู้ประวัติที่ดีๆเท่านั้น. หรือได้ชมภาพสวยๆกันอยู่ในขณะนี้
เพราะท่านเป็นพระเกจิที่มีชื่อเสียงและโด่งดังมานานแล้วครับ. อีกทั้งยังมีลูกศิษย์ลูกหาและเคารพนับถือท่านเป็นจำนวนมาก
วัตถุมงคลของท่านแต่ละรุ่นมักจะได้รับความนิยมเช่าหาสะสมเก็บบูชาเหมือนหลวงปู่ทิมอาจารย์ของท่านและสิ่งที่สำคัญ
วัตถุมงคลของท่านแต่ละรุ่นออกมาให้เช่าบูชาในราคาไม่แพงเหมาะกับการเก็บสะสมไว้บูชาเพื่ออนาคต. เกจิดีมีลูกศิษย์
เคารพนับถือไม่ต้องโม้. ไม่ต้องเชียรและไม่ต้องปั่นครับ. บารมีท่านจะแสดงให้เห็นว่าอนาคตของท่านจะเป็นเช่นใด
ถ้าทุกท่านมีความเคารพนับถือท่านๆก็จะมีบารมีเกิดขึ้นแล้วครับ

โดยคุณ เปี๊ยกระยอง (2.5K)  [อ. 07 ก.พ. 2555 - 20:18 น.] #2081636 (32/37)
คุณโลมาสีขาวครับ. นิ้วมืออักเสบหรือเปล่าครับ เห็นพักนี้เข้ามาทำตาแหกบ่อยๆ ระวังหลานที่เลี้ยงอยู่จะทำตามนะครับ เดี๋ยวตาจะอักเสบทั้งยายและหลาน. คือว่าเป็นห่วงนะจ๊ะเราคนระยองด้วยกันฮิๆๆๆๆๆๆๆ

โดยคุณ plasaithong (331)  [อ. 07 ก.พ. 2555 - 22:22 น.] #2083272 (33/37)
วาระแบบนี้ หายากครับ เหรียญเสมา 7 รอบ...

โดยคุณ โลมาสีขาว (5.6K)  [อ. 07 ก.พ. 2555 - 22:26 น.] #2083293 (34/37)


(N)
โดยคุณ เปี๊ยกระยอง (945) (125.27.90.*) [7 Feb 2012 20:18] #2081636 (32/32)

คุณโลมาสีขาวครับ. นิ้วมืออักเสบหรือเปล่าครับ เห็นพักนี้เข้ามาทำตาแหกบ่อยๆ ระวังหลานที่เลี้ยงอยู่จะทำตามนะครับ เดี๋ยวตาจะอักเสบทั้งยายและหลาน. คือว่าเป็นห่วงนะจ๊ะเราคนระยองด้วยกันฮิๆๆๆๆๆๆๆ


//

จะไม่ให้เข้าไปทักทายเหรอ ลองไปสังเกตดูสิคะ ทุก ๆ กระทู้ ที่เข้าไปทักทาย ไม่ว่ากระทู้ของใคร ๆ ก็จะเข้าไปทำตาวาว ๆ ทั้งนั้น เพราะไม่ค่อยมีเวลาจะพิมพ์ข้อความ โปรดเข้าใจด้วยค่ะ ไม่เคยคิดไม่ดีกับใครเลย เพราะเป็นคนระยองเหมือนกัน ฮิ ๆๆๆๆๆ

ครูหนุ่ย

โดยคุณ โลมาสีขาว (5.6K)  [อ. 07 ก.พ. 2555 - 22:29 น.] #2083302 (35/37)
เมื่อวันที่ 3 ก.พ. ก็เพิ่งเข้าไปบูชาพระปิดตา ที่วัดละหารใหญ่ มา 200 องค์ พร้อมทั้ง สาริกาเขาควายแกะ ตะกรุด ค่ะ


โดยคุณ kwwee (2.4K)  [อ. 07 ก.พ. 2555 - 23:16 น.] #2083633 (36/37)

โดยคุณ COWBOYCM (1K)  [พ. 08 ก.พ. 2555 - 12:55 น.] #2085413 (37/37)


(N)


ภูมิใจ ที่นับถือหลวงพ่อ เลยเข้ามาทำตาโต้ ตาโต


ท่านAut_shop และทีมงานทุกๆท่านครับ ผมเป็นกำลังใจให้ทุกๆท่านครับ

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!


Copyright ©G-PRA.COM