ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : @@>> พระแร่บางไผ่ วัดนครอินทร์ รุ่นแรก ปี 2537 <<@@



(D)


หากเอ่ยถึงพระแร่บางไผ่ ต้องนึกถึงพระปิดตาหลวงปู่จันวัดโมลี ซึ่งสร้างมากว่า 150 ปีมาแล้ว ประสบการณ์หลายท่านคงทราบดีแล้วว่าพุทธคุณยอดเยี่ยม เป็นที่เสาะแสวงหากัน และยากที่จะมีไว้ครอบครอง เพราะของดีเก็บเข้ารังกันหมด
@@ วัดนครอินทร์ จ.นนทบุรี ได้จัดสร้าง พระเนื้อแร่บางไผ่ รุ่นแรก ขึ้นในปี พ.ศ.2537 @@
โดยการค้นพบในครั้งนั้น พระอาจารย์สมศักดิ์ ฐิตสกโข ท่านได้เสาะแสวงหาจนพบแหล่งแร่ ซึ่งก็ได้บังเอิญไปพบที่เดิมกับที่ หลวงปู่จัน ท่านได้พบพอดี เป็นพื้นที่นาของมหาอ้น ซึ่งมีคุณยายท่านหนึ่ง และทราบวัตถุประสงค์ของคณะค้นหาแร่บางไผ่ ของพระอาจารย์สมศักดิ์ ว่าเพื่อจะนำไปสร้างเป็นพระเครื่อง สืบทอดพระพุทธศาสนา จึงได้อนุญาตให้ทำการสำรวจพื้นที่นา และในคลอง
จึงได้สำรวจไปเรื่อยๆ จบพบกองดินลักษณรูปร่างเหมือนเจดีย์ อยู่กลางนาบัว เนื่องจากแถวนั้นจะมีกอบัวขึ้นเต็มไปหมด แต่ก็น่าแปลกที่กองดินรูปทรงเจดีย์ รัศมีประมาณ 1 เมตรกว่าๆ สูงเกือบเท่าศีรษะคนอยู่กลางนา น่าจะเกะกะเวลาทำไร่ไถนาทำไมเจ้าของจึงไม่เอาออก หรือมีความหลังที่มีความหมายอย่างไรจึงไม่กล้ารื้อทิ้ง ที่มุมคันนามองดูคล้ายเกาะร้าง จึงชักชวนกันไปดูว่าเป็นอะไรกันแน่ สภาพที่เห็นเป็นเนินดินสูงจากที่นาประมาณเมตรกว่าๆ มีต้นสะแกใหญ่ขึ้นล้อมรอบเนินดินแห่งนี้ ทั้งยังมีร่องรอยของขี้เถ้าถ่านถูกไฟเผา ทั่วทั้งเนินดินมีเศษอิฐ ดินดิบสีดำ แลดินสีแดงปะปนอยู่ เป็นลักษณเตาเผาโบราณ แต่พังทลายลงมาปะปนกับขี้เถ้า และจากสภาพของพื้นดินมีอายุความเก่าของดินและเศษอิฐ เศษกระเบื้องประมาณ 100 กว่าปี อีกทั้งยังมีเศษดินลูกรัง หรือเศษก้อนแร่เล็กๆ ตกหล่นอยู่บริเวณใกล้ๆ เป็นจำนวนมาก น่าจะเป็นบริเวณที่หลวงปู่จัน มาเก็บแร่และมาถลุงแร่บริเวณนี้ จึงเชื่อว่าน่าจะได้มาอยู่ใกล้บริเวณที่มีแร่บางไผ่แล้ว ซึ่งได้พบก้อนแร่ลักษณะคล้ายก้อนลูกรังจึงนำไปพิสูจน์
พระอาจารย์สมศักดิ์ ได้สอบถามคุณจรูญ เดชขจร อายุ 80 ปี (เมื่อปี 2537 นั้น) ซึ่งบ้านอยู่ใกล้บริเวณเตาเผามากที่สุด ได้บอกว่า ผู้คนแถวนี้เขาเรียก "โคกร้างยายจีน" แต่ไม่มีใครรู้ว่ามีมาตั้งแต่เมื่อไหร่ และมีไว้ทำอะไร เกิดมาก็เห็นตั้งแต่สมัยปู่ ย่า ตา ยาย ก็เห็นมีอยู่อย่างนี้แล้ว ไม่มีใครกล้าขึ้นไปเล่นเพราะเจ้าที่แรง เด็กๆ ขึ้นไปเล่นแล้วชักดิ้นอยู่บนนั้น ไม่มีใครกล้าเดินผ่านในตอนกลางคืน ไม่มีใครกล้ารื้อหรือทำลาย วันดีคืนดี ก็จะมีแสงสว่างจ้าที่เนินดินนั้น ทีแรกคิดว่าไฟใหม้หญ้า แต่พอเข้าไปดูก็ไม่มีร่องรอยเลย ถามผู้คนแถวนั้นว่าเห็นหรือไม่ ต่างก็บอกว่าเห็นเหมือนกันหมด
พระอาจารย์จึงเดินย้อนกลับไปยังเนินดินเจดีย์ที่มีผู้คนเห็นมีกองไฟลุก ว่าน่าจะเป็นนิมิตหมายที่ดีจึงได้ตั้งจิตอธิษฐานขอหลวงปู่จัน และเทพยดาอารักษ์ สิ่งศักดิ์สิทธิ ก็ได้มีฝนตกลงมาปรอยๆ เหมือนปะพรมน้ำพระพุทธมนต์ เกิดแต่เฉพาะบริเวณนั้น จนทุกคนที่ติดตามแปลกใจ ทั้งๆที่ไม่มีเค้าว่าฝนจะตกเลยแม้แต่น้อย แดดก็ยังร้อนจ้าอยู่เลย จึงเก็บดินกับก้อนแร่เล็กกลับไปศึกษาต่อไป
(ยังมีรายละเอียดต่ออีก จะลงถัดไปครับ)

โดยคุณ eed_mc (20)  [ศ. 24 พ.ย. 2549 - 11:43 น.]



โดยคุณ eed_mc (20)  [ศ. 24 พ.ย. 2549 - 11:48 น.] #63143 (1/15)


(D)


ชมภาพพระเครื่องแร่บางไผ่ วัดนครอินทร์

โดยคุณ eed_mc (20)  [ศ. 24 พ.ย. 2549 - 11:52 น.] #63144 (2/15)


(D)


พิมพ์สมเด็จ และพิมพ์พระพุทธชินราช ก็ได้จัดสร้างด้วยเนื้อแร่บางไผ่ เช่นกัน

โดยคุณ eed_mc (20)  [ศ. 24 พ.ย. 2549 - 13:36 น.] #63148 (3/15)


(D)


ประมวลภาพการค้นหาแร่บางไผ่ และการสร้างพระแร่บางไผ่

โดยคุณ eed_mc (20)  [ศ. 24 พ.ย. 2549 - 13:50 น.] #63150 (4/15)
พระแร่บางไผ่มีเอกลักษณ์ ที่พิสูจน์ได้ไม่ยาก
00> จะมีคุณสมบัติในการที่แม่เหล็กดูดติดได้อ่อนๆ ถ้าชอบทางนี้ควรมีแม่เหล็กเล็กๆ ติดตัวไว้เสมอ หากพบเจอพระแร่บางไผ่ ก็นำมาลองดู ถ้าแม่เหล็กดูดติดได้อ่อนๆ ล่ะก็ควรพิจารณา แต่ถ้าดูดติดแบบแรงๆ วางไว้ที่เดิมเลยครับ(เหล็กชัดๆ หรือปลอมนั่นเอง)
00> แม้จะสร้างโดยผสมผงพุทธคุณ ก็จะมีคุณสมบัติแม่เหล็กดูดติดได้เพียงอ่อนๆ เช่นกัน

โดยคุณ eed_mc (20)  [ศ. 24 พ.ย. 2549 - 16:00 น.] #63171 (5/15)
@@ เนื้อความต่อ @@
หลังจากได้ก้อนแร่เล็กๆ กลับไป พระอาจารย์สมศักดิ์ ได้ฝันว่า
"ได้เดินทางไปหาแร่บางไผ่ที่เดิม และได้พบแร่บางไผ่อยู่ในที่นาแถวนั้นมากมายหลายก้อน เป็นก้อนกลมสีน้ำตาลเหมือนดินลูกรังข้างถนน กลิ้งไปมาได้เอง โดยกลิ้งไปพร้อมๆกันหลายเป็นระเบียบเรียบร้อย เหมือนมีชีวิต จึงรู้ว่าก้อนแร่บางไผ่เป็นเช่นนี้เอง"
พอตื่นเช้าจึงเล่าเรื่องความฝันให้ลูกศิษย์ฟัง หลายคนต่างลงความเห็นว่าเป็นนิมิตที่ดีว่าคงจะได้พบแร่บางไผ่แน่ๆ มีลูกศิษย์คนหนึ่งที่ไปด้วยกัน ก็ฝันว่าพบเจ้าที่เป็นชายแก่อายุประมาณ 90 ปี นุ่งห่มชุดขาว ผมยาวถึงหลัง ถือไม้เท้า ยืนอยู่บนกองดินเจดีย์ ตะโกนร้องบอกด้วยเสียงดังว่า "กูอนุญาตให้พวกมึงมาเก็บแร่บางไผ่ได้ ถ้าพวกมึงจะเอาไปทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติ เพื่อศาสนา กูอนุญาตให้พวกมึงเก็บเอาไป ถ้าพวกมึงจะนำไปสร้างประโยชน์จริง พวกมึงจะทำสำเร็จสมตามความปรารถนา จำไว้กูอนุญาตให้เก็บเอาไป"
คณะสำรวจจึงมีความเห็นว่าความฝันของพระอาจารย์และลูกศิษย์ น่าจะเป็นไปได้ จึงเดินทางไปยังที่เดิมอีกครั้ง และได้อธิษฐานจิตบอกกล่าวหลวงปู่จัน และเจ้าที่ เทพาอารักษ์ ขอให้ได้พบแร่บางไผ่ เพื่อจะได้นำไปทำประโยชน์ให้กับวัด ให้ศาสนา ก็แบ่งพวกกันออกสำรวจค้นหา บ้างก็ลงไปในคลองบางคูลัด บ้างก็ลงไปตามท้องนา แต่ก็ยังไม่พบ ซึ่งก็ยังไม่หมดความพยายาม
พระอาจารย์สมศักดิ์เห็นว่าทางที่ค้นหายังไม่พบ จึงย้ายไปค้นหาในร่องสวนของนายช่วย พวงแพ อายุ 66 ปี (ในปี 2537) ได้พบก้อนแร่อยู่บนร่องสวนดอกไม้ที่เจ้าของขุดดินยกร่อง เกลื่อนกระจัดกระจาย มีลักษณะเป็นก้อนสีน้ำตาล จึงได้ใช้เหล็กแหลมแทงสำรวจชั้นล่างของดิน บริเวณแถวนั้น พบว่ามีก้อนแร่เกาะตัวกระจายทั่วไปอยู่ใต้ดินลึกลงไปประมาณ 2 ศอก ใต้ร่องสวน จึงเก็บแร่ขึ้นมาล้างน้ำ เชื่อว่าน่าจะเป็นก้อนแร่บางไผ่แน่ๆ จึงให้คณะช่วยกันงมแร่อยู่ลึกใต้ร่องสวนที่เป็นดินเหนียว ใช้มือคลำหาก้อนแร่ด้วยความยากลำบากเพราะจมดินอยู่นาน ได้ก้อนแร่ประมาณ 10 ถัง โดยนำไปใส่ตุ่มแช่น้ำเลี้ยงไว้ และได้ไปงมแร่อีกเพื่อจะได้จำนวนมากพอที่จะทำพระ

โดยคุณ eed_mc (20)  [ศ. 24 พ.ย. 2549 - 16:29 น.] #63175 (6/15)


(D)


พระอาจารย์สมศักดิ์ และลูกศิษย์ ในการงมค้นหาแร่บางไผ่

โดยคุณ eed_mc (20)  [ศ. 24 พ.ย. 2549 - 16:43 น.] #63176 (7/15)
@@ ความเชื่อมั่นทำให้ประสบผลสำเร็จ @@
เหตุผลสนับสนุน คือ
1. แร่บางไผ่มีอยู่ที่คลองบางคูลัดเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย
2. บริเวณที่เก็บแร่อยู่ในบริเวณใกล้กับที่พบเตาเก่าที่หลวงปู่จันเคยใช้ถลุงแร่ เมื่อกว่า 150 ปี
3. ข้อสำคัญ คือ บริเวณนั้นเป็นไร่นาไม่มีถนนที่จะทำให้รถยนต์วิ่งนำลูกรังไปทิ้งไว้ได้

เมื่อความเชื่อมั่นประกอบกับเหตุผลดังกล่าว จึงได้ทดลองนำก้อนแร่ซึ่งเดิมลองเอาแม่เหล็กดูดยังไม่ติด ไปเผาไฟจากสีน้ำตาลกลายเป็นสีดำ ทิ้งใว้จนเย็น ลองนำแม่เหล็กไปดูด ปรากฎว่าแม่เหล็กสามารถดูดติด และมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น เป็นที่ปลื้มใจแก่คณะทำงานยิ่งนัก ท่านพระอาจารย์จึงกล่าวว่า "เป็นอันว่าเราได้ค้นพบแร่บางไผ่ที่หลวงปู่จันเคยพบมาแล้วในแหล่งเดียวกัน"

โดยคุณ eed_mc (20)  [ศ. 24 พ.ย. 2549 - 17:39 น.] #63187 (8/15)
@@ เมื่อพระอาจารย์สมศักดิ์ได้นำแร่บางไผ่ที่ค้นพบ ไปให้ท่านเจ้าอาวาสวัดโมลี (พระปรีชานนทโมลี) ในสมัยนั้น (ปัจจุบันท่านได้มรณะไปแล้ว) ช่วยดูให้ เนื่องจากว่าท่านเคยรู้เรื่องราวเกี่ยวกับประวัติของแร่บางไผ่ดี ครั้นเมื่อท่านได้เห็นก้อนแร่ ท่านก็พูดยืนยันว่า "ใช่แล้ว ใช่แร่บางไผ่จริงๆ ด้วย ฉันจำได้" ทั้งยังสั่งกำชับให้เก็บแร่ให้ดีใส่ตุ่มแช่น้ำเอาไว้ อย่าเอาไปกองตากแดดหรือไว้กับพื้นเด็ดขาด เดี๋ยวเหล็กในก้อนแร่จะหนีไปหมด
@@ ท่านยังได้กล่าวกับพระอาจารย์สมศักดิ์ว่า "ท่านนี่ยอดจริงๆ ได้พบครจริง พระจริงแล้ววันนี้ เพราะเคยมีคนมาถาม รวมทั้งพระและหนังสือพิมพ์หลายฉบับต่างก็มาสอบถามเรื่องแร่บางไผ่ ก็ได้แต่เล่าให้เขาฟัง แต่ไม่เห็นมีใครไปเก็บแร่บางไผ่มาได้สักราย ก็มีท่านองค์แรกนี่แหละที่สามารถไปหาแร่บางไผ่มาให้ดูได้ ท่านนี่ยอดจริงๆ เป็นคนจริงพระจริง .........
และยังได้ให้กำลังใจว่า "ท่านพยายามสร้างพระแร่บางไผ่ให้สำเร็จนะ พยายามเข้า สร้างให้สำเร็จเป็นองค์พระ จะหมดเงินกี่หมื่นกี่แสนก็ตาม จงสร้างให้สำเร็จให้ได้ จะหมดถ่านกี่กระสอบก็ตามถ้าสตางค์ไม่พอมาเอาได้เลย จะช่วยออกให้เป็นหมื่นเป็นแสนก็ได้ ขอให้ได้พระแค่องค์เดียวก็พอ หรือหลอมได้เป็นก้อนเดียวก็คุ้มเอาไว้ใช้ติดตัว" และหันไปกล่าวกับคณะลูกศิษย์ที่ติดตามว่า "พวกคุณต้องช่วยกันนะช่วยอาจารย์ท่านสร้างพระแร่บางไผ่ให้สำเร็จ อย่าเลิก อย่าถอย สร้างพระให้สำเร็จ"
พระอาจารย์สมศักดิ์จึงได้ถามถึงวิธีการหลอมพระแร่บางไผ่ ว่าทำอย่างไร หลวงพ่อท่านบอกว่า "อาตมาก็ไม่รู้เหมือนกัน ในสมัยนั้นเป็นเด็กอยู่ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เคยแต่ช่วยหลวงตาเชื้อสุมไฟให้เท่านั้น เลยไม่รู้ว่าหลอมกันอย่างไร ผสมอะไรบ้างก็ไม่รู้"

โดยคุณ eed_mc (20)  [ศ. 24 พ.ย. 2549 - 18:02 น.] #63190 (9/15)
@@ ผลของการทดลองหลอมแร่บางไผ่ @@
- ถ้าหลอมนานเกินไป ไฟแรงเกินไป แร่เหล็กจะหายไปหมด คงเหลือแต่ขี้แร่ ซึ่งแม่เหล็กดูดไม่ติด มีลักษณะไหม้ไฟกรอบแข็ง เหมือนขี้เหล็กอ๊อก แต่ถ้าหลอมนานๆ ต่อไปอีกยิ่งขึ้น จะลุกติดไฟ และระเบิดหายไปในอากาศ ไม่มีเหลือแม้แต่ขี้แร่ให้เห็น
-ต้องหลอมให้ได้พอดีๆ ลักษณะเป็นเหมือนกล้วยตำ แล้วจึงนำมากดพิมพ์พระ

โดยคุณ eed_mc (20)  [ศ. 24 พ.ย. 2549 - 18:08 น.] #63191 (10/15)


(D)


@@ จึงเป็นที่มาของการฝังตะกรุดในพระเนื้อโลหะได้เป็นครั้งแรก @@
- ในขณะก่อนกดพิมพ์พระ นำตะกรุดวางบนแม่พิมพ์
- ตักเนื้อแร่ที่หลอมวางลงบนพิมพ์
- กดแม่พิมพ์ลงให้สนิทแน่น
- ตะกรุดจะแทรกตัวอยู่กับเนื้อแร่บางไผ่ สนิทแน่นไม่มีหลุด
อันนี้แหละ ที่ใครคิดจะปลอมของบอกไว้ก่อนเลยว่า ไม่มีทาง....

โดยคุณ eed_mc (20)  [พฤ. 30 พ.ย. 2549 - 18:08 น.] #64142 (11/15)


(D)


@@>> การดูเสี้ยนของพระแร่บางไผ่ <<@@
- พระแร่บางไผ่มีเสี้ยนที่ปรากฎอยู่ 2 แบบ
1. เสี้ยนแตง ลักษณะจะดูเหมือนเป็นเหมือน เนื้อแตงโมที่เป็นแบบเนื้อทราย เป็นเม็ดเล็กๆขรุขระ
2. เสี้ยนเส้นก่ายกัน ลักษณะจะเป็นเส้นเล็กๆ สั้นๆ ก่ายกันบาง เรียงกันบ้าง
เสี้ยนอาจจะไม่มีทุกองค์ เนื่องจากการเกิดเสี้ยนนั้น เป็นการหดตัวของเนื้อแร่บางไผ่ ในขณะที่กดพิมพ์ ตัวอย่างองค์ที่ลงให้ดูนี้ เป็นพิมพ์พิเศษ ด้านหลังไม่มียันต์ เจตนาให้เห็นเนื้อแร่ที่เย็นตัวลงเองโดยไม่ได้กดพิมพ์ เพื่อนสมาชิกลองพิจารณาดูนะครับ
หมายเหตุ- องค์นี้เป็นองค์ลองพิมพ์ครับ มีความมันส์ ตรงได้ดูเสี้ยนแบบเต็มๆตา ครับ

โดยคุณ eed_mc (20)  [ศ. 01 ธ.ค. 2549 - 17:11 น.] #64261 (12/15)


(D)


องค์นี้เป็นองค์ที่ทดลองพิมพ์ หล่อโบราณแบบพระแร่บางไผ่ของหลวงปู่จัน
มีจำนวนแค่ไม่ถึง 10 องค์ หายากครับ ท่านพระอาจารย์สมศักดิ์ ฐิตสกโข ได้เมตตาให้ผมไว้เพื่อเป็นที่ระลึก 1 องค์ครับ เนื้อหาก็มีเสี้ยนให้ดูได้จุใจเช่นกันครับ

โดยคุณ tg22070 (96)  [พฤ. 07 มิ.ย. 2550 - 16:31 น.] #105832 (13/15)
เยี่ยมครับ มีใครเอาไปเช็คอิทธิคุณแล้วยังครับ แรงดีไหมครับ แล้วใครมีประสบการณ์บ้างครับ

โดยคุณ sukij (792)(3)   [จ. 16 ก.ค. 2550 - 15:56 น.] #121815 (14/15)
ดีครับผมเป็นคนนนท์แท้ๆยังอยากได้เลยแต่ไม่มี ปี 37 ครับ มีรุ่นหลังแล้ว

โดยคุณ eed_mc (20)  [ศ. 14 ต.ค. 2554 - 22:15 น.] #1907642 (15/15)
ปัจจุบันนี้ พระอาจารย์สมศักดิ์ ฐิตสกฺโข ได้สร้างพระแระบางไผ่ วัดนครอินทร์ ขึ้นมาอีกหลายรุ่น มีลูกศิษย์ของท่านได้ลงบทความรายละเอียดที่น่าอ่านเพื่อเพิ่มความรู้ แบบ แน่นๆ ผมขออนุญาตนำเสนอให้เพื่อนๆได้ติดตามดู อย่าพลาดนะครับ รับรองจุใจ ได้สาระ ครับ..........
http://www.pantown.com/board.php?id=35272&area=4&name=board10&topic=35&action=view

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!


Copyright ©G-PRA.COM