| ชื่อพระเครื่อง | &&&...(วัดใจ!)..."พิมพ์ใหญ่24 - หัวกะทิ"...@"เปิดบาทเดียว เล่นเสียว เคาะเดียวแดง"@..."ซุปเปอร์ฝอยทอง-9บอลล์นำโชค- เส้นเกศา-ผง97-ใยกล้วยป่า-เกสรศักดิ์สิทธิ์" @ธรรมชาติสร้างสรรค์มงคลศิลป์@ เชิญจ้า...&&& |
| รายละเอียด | *** "ธรรมชาติรังสรรค์มงคลศิลป์ " ***
@ "งดงามดั่งเทวานฤมิต" @
*รวมสรรพมงคลมาไว้ในองค์นี้องค์เดียว*
@...ใช่ แล้ว ค่ะ...ความงดงามอเมซิ่งของพระหลวงปู่ทวดปี24 พิมพ์ใหญ่องค์นี้...ท่านอาจไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน เพราะเป็นพระปี24ที่สวยแปลกแหวกแนวชนิดที่เห็นแล้วต้องตะลึง สะดุด หยุดมอง เพราะความงดงามเช่นนี้เกิดจากการที่ธรรมชาติถักทอ..."ศุภมงคล"...หลากหลายประการรวมมาอยู่ในพระองค์เดียว...ท่านอาจคิดว่าหนูพูดเกินจริงแต่สำหรับหนูแล้วขอพูดจากใจว่า หนูรู้สึกปานประหนึ่ง..."เทวานฤมิต"...ดั่งปฏิมากรรมจากฟากฟ้า...เพราะหนูเคยเห็นพระเนื้อว่านปี24 มาหลายองค์แต่สำหรับองค์นี้แต่ก็ไม่เคยเห็นองค์ไหนสวยวิจิตรบรรจงเท่าพระองค์นี้...ทีแรกเมื่อเจอขอบอกตรงๆว่า..."เห็นแล้วอึ้ง"...ตะลึงงัน ในความงดงามพิสดารซึ่งสวยแปลกแหวกแนว แก่ว่านจัด แก่ผงจัด แก่มวลสารจัด และสารพัดเอนกอนันต์สารพันมงคล....ยิ่งส่อง ยิ่งมอง บอกตรงๆว่าวางไม่ลง...เหมาะสำหรับ..."เก็บไว้เป็นสมบัติล้ำค่าของวงค์ตระกูลได้เลย"...หนูไม่ได้พูดเว่อร์นะคะ....แต่พูดจากความรู้สึก....และเป็นแรงบันดานใจทำให้หนูค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติมถึงมวลสารมงคล และประวัติการสร้างของพระเนื้อว่านปี24 มาเพื่ออธิบายขยายจุดเด่น และจุดสำคัญของพระองค์นี้ เพื่อขยายความให้ท่านได้รับทราบและแลกเปลี่ยนกัน....ดังนั้นจึงขอสรุปจุดเด่นของพระองค์นี้ให้เพื่อนพี่น้องชาวเว็บจีได้รับฟังกันเลยนะคะ...
@@@ "จุดเด่นของพระองค์นี้" @@@
1) เริ่มตั้งแต่เส้นใย..."ฝอยทอง"...ที่ สานศิลป์บริเวณจมูก ใบหน้า และ บริเวณอื่นๆที่กระจายอยู่เต็มองค์ ชนิดที่เห็นแล้วต้อง..."ตะลึง" ...เพราะนอกจากจะมีสีสันแปลกตาเหลืองอร่ามดุจดั่ง..."กระจุกทองคำ"....ประสานเส้นสายเจิดจำรัสแวววาว...ยิ่งมองยิ่งเกิดความเบิกบานใจ สบายอารมณ์ยิ่งนัก...แถมว่านฝอยทองดั่งกล่าวยังกระจายสาดซัดดุจดั่งหว่านเมล็ดพืชพันธุ์สรรพมงคลไปทั่วทั้งองค์... ยิ่งพิศยิ่งงงในความวิจิตรบรรจงที่ธรรมชาติมอบมาให้ในวัตถุมงคลชิ้นงามล้ำค่าองค์นี้...ว่านฝอยทองคืออะไ?...ไปเปิดกูเกิ้ล และวิกิพีเดีย...หาเท่าไหร่ก็หาไม่พบ...หนูก็เลยค้นหาและพบว่า ในมวลสารพระเนื้อว่านปี24นั้น เขาใช้ว่านสด(ว่านเป็น) ดินกากยายักษ์ ผง97 กาบและใบกล้วยป่า เกสรดอกไม่แห้งจากวิหารหลวงปู่ทวดวัดช้างให้ และอื่นๆ...และเมื่อพิจารณาถึงว่านฝอยทองส่องดูด้วยกล้องแล้วมีลักษณะคล้ายผลึก เป็นเกล็ดสีเหลืองทอง มีความมันและแวววาว เข้าใจว่าน่าจะเป็นน้ำจากดินกากายายักษ์ รวมตัวกับยางว่าน และผง97...รวมตัวกันกลายเป็นสารละลายอิ่มตัว(เอาวิทยาศาสตร์เข้าจับเลย...อิ อิ)...เวลาผ่านไปน้ำดังกล่าวจะระเหย ยางว่านและผง97 ตลอดจนมวลสารมงคลอื่นๆก็จะแห้งและกลายเป็นผลึกเป็นเกล็ดแวววาวสีทอง มีลักษณะเป็นฝอยๆเส้นๆสีเหลืองเราจึงเรียกว่า..."ฝอยทอง"...นั่นเอง....สำหรับพระองค์นี้ว่านฝอยทองมีเยอะมาก....ดังนั้นคำว่า..."เงินทองไหลมาเทมา"....จึง น่าจะเป็นนิยามที่อรถาธิบายการกระจุก และกระจายตัวของฝอยทองดังกล่าวได้เป็นอย่างดี...อีกทั้งคำว่า..."ฝอยทอง"...ใน ความหมายแบบตรงไปตรงมาแปลว่า..."พูดจาเป็นเงินเป็นทอง"...จึงเหมาะสำหรับท่านที่ต้องทำงานด้านการใช้วาจาเจรจาต่อรองผลประโยชน์ การจูงใจเพื่อให้เกิดการคล้อยตาม หลงไหล มอบเมตตาและความจงรักภักดีให้ชนิดที่...มีเท่าไหร่ทุ่มให้ได้ไม่อั้น...โดยเฉพาะเมื่อฝอยทองมากระจุกตัวอยู่ที่จมูก จึงยิ่งเป็นโฉลกให้เข้าใจได้ว่า..."ได้กลิ่นเงินกลิ่นทอง"...อยู่เสมอ ความหมายจึงยิ่งดีเข้าไปใหญ่ พี่ๆเห็นด้วยกับหนูมั๊ยคะ...
2) นอกจากนั้นพระองค์นี้มีลูกบอลล์ทั้งเล็กและใหญ่นับรวมได้... "9บอลล์"...พอดี โดยตำแหน่งของลูกบอลล์ใหญ่ๆอยูบริเวณ...บนใบหูขวา 1 ล่างหูขวา1 บนหูซ้าย1 ขนาดกลางบริเวณขอบเท้าซ้าย1 ปลายเท้าขวา1 ข้อศอกซ้าย 1 และลูกเล็กบริเวณปลายนิ้วเท้าซ้าย1 ใต้ข้อเท้าขวา1 ใต้คางขวา1 สิริรวม 9 บอลล์...จึงเป็นเคล็ดให้เกิดความเป็น...มงคล ก้าวหน้า รุ่งเรือง...ขึ้นในชีวิตตามความหมายของเลขเก้า ซึ่งเป็นเลขศุภมงคลที่คนไทยทุกคนปรารถนา....เมื่อพูดถึง..."บอลล์"...ของพระหลวงปู่ ทวดเนื้อว่านปี 24นั้น...มันเกิดจากดิน(มวลสาร)ที่ปูดออกมาจากรูรั่วของแม่พิมพ์ยางที่ใช้ในการปั้มพระ ตรงไหนที่มีรอยรั่วของแม่พิมพ์ดังกล่าว เมื่อกดพิมพ์แรงกระแทกในการกดจะทำให้ดินปูดออกมาเป็นก้อนกลมๆขนาดต่างๆ...ว่ากันว่าความเชื่อเรื่องลูกบอลล์...สอดคล้องกับความเชื่อในตำนานหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ที่เชื่อว่าบอลล์มีลักษณะคล้ายๆกับ..."ลูกแก้วศักดิ์สิทธิ์"...วัตถุ มงคลคู่กายของหลวงปู่ทวดซึ่งเกิดจากพญางูจงอางเทพ ได้นิรมิตกายมาปกป้องคุ้มครององค์มหาโพธิสัตว์ขณะที่ท่านเกิดในดินแดนทักษิณ...สถานที่ดังกล่าวปัจจุบันเป็นที่ตั้งของ..."สำนักสงฆ์บ้านนาเปล"...อำเภอสะทิ้งพระ จ. สงขลา ...และลูกแก้วศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวก็ได้รับการเก็บรักษาสืบทอดกันมา ปัจจุบันประดิษฐานไว้ที่..."วัดพะโคะ" ...ในจังหวัดเดียวกัน...ดังนั้นพระเนื้อว่านปี 24องค์ใดที่มีลูกบอลล์ จึงถือได้ว่าเป็นสิ่งมงคลของผู้ที่ครอบครองพระองค์นั้น...และยังมีผลทำให้ เกิดความนิยมของพระลักษณะดังกล่าวเพราะเชื่อกันว่าจะได้โชคได้ลาภนั่น เอง....สำหรับพระพิมพ์ใหญ่องค์นี้ มี 9 บอลล์จึงถือว่ายิ่งเป็นมหามงคลอันยิ่งใหญ่เพราะเป็น..."มงคลซ้อนมงคล"...นะคะ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะ อิ อิ ...
3) พระองค์นี้ยังมี..."ผงพระหลวงปู่ทวดปี 97"...ปรากฏเป็นคราบสีเหลืองหรือน้ำตาลนวลๆ ผง97เป็นมวลสารสำคัญที่ใช้ผสมไว้ในพระปี24 ด้วยเกจิอาจารย์ผู้จัดสร้างได้ตระหนักถึงความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ของผงพุทธคุณดังกล่าวที่..."พระครูวิสัยโสภณ"(อาจารย์ทิม ธัมมธโร) ...ผู้ซึ่งเป็น..."ปฐมปรมาจารย์"...ท่านได้ริเริ่มสร้างวัตถุมงคลหลวงปู่ทวด และได้ทำการปลุกเสกผง97ไว้เพื่อใช้เป็นมวลสารสำคัญสำหรับผสมในวัตถุมงคลหลวงปู่ทวดรุ่นแรกเมือปี พ.ศ. 2497 ...ผง97ที่เหลือในครั้งนั้นทางวัดช้างให้ได้เก็บรักษาไว้ และใช้เป็นส่วนผสมในการสร้างวัตถุมงคลรุ่นหลังๆ ที่สำคัญผง97ที่ใช้ผสมในพระเนื้อว่านปี24มีสัดส่วนที่เยอะมาก เพราะถือเป็นพระเนื้อว่านรุ่นที่3ของวัดช้างให้ และยังสื่อว่าการใส่ผงดังกล่าวลงไปนั้นเปรียบเสมือนการที่ท่านอาจารย์ทิมได้ มาร่วมสร้างพระรุ่นนี้ด้วยตัวท่านเอง......สิ่งที่สำคัญที่เป็นเกล็ดประวัติศาสตร์ในพิธีกรรมของพระรุ่นนี้ยังเล่าขานสืบทอดกันมาว่า...ตามมงคลฤกษ์เสาร์ห้าของ ปีพ.ศ. 2522 ซึ่งเป็นปีที่มีการจัดสร้างพระรุ่นนี้นั้น พิธีพุทธพิเษกได้ทำขึ้นในพระอุโบสถวัดช้างให้ตามโบราณประเพณี โดยมีหลวงพ่อดำ นันทิโย (พระราชพุทธิรังสี) วัดตุยง จอมขมังเวทย์แห่งดินแดนลังกาสุกะ(ปัตตานี) เป็นผู้จุดเทียนชัย....และพ่อท่านเนื่อง วัดนาประดู่ (พระราชปัญญารังษี) ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานของอาจารย์ทิม ธัมมธโร เป็นผู้ดับเทียนชัย อีกทั้งอาจารย์นอง วัดทรายขาว(พระครูธรรมกิจโกศล) ผู้เป็นสหธรรมิกของอาจารย์ทิม และมีไสยเวทย์วิทยาคมอันแก่กล้า ได้เข้าร่วมปลุกเสกด้วย นอกจากนั้นยังมีพ่อท่านพล อาสโภ วัดนาประดู่(พระครูอาทรศุภการ) ลูกศิษย์ครอบครูของอาจารย์นอง และยังเป็นหลานตาของอาจารย์ทิมอีกคน(ปัจจุบันท่านยังมีชีวิตอยู่) ...นอกจากนั้นยังมีเกจิอาจารย์สายเขาอ้อ และสายปัตตานีเข้าร่วมในพิธีดังกล่าว...ในครั้งนั้นได้มีการประทับทรงหลวงปู่ทวดเพื่อให้ท่านได้เข้ามาร่วมปลุกเสกวัตถุมงคลรุ่นนี้ด้วยตัวของท่านเอง พิธีเริ่มตั้งแต่หัวค่ำยันสว่าง ผู้ที่เป็นร่างทรงหลวงปู่ทวดในขณะนั้นคือ..."หลวงปู่หมุน"...วัดเขาแดงตะวันออก เกจิอาจารย์ผู้เรืองเวทย์สายเขาอ้อ จ.พัทลุง หลังจากประทับทรงแล้ว หลวงปู่ทวด(ในร่างทรงหลวงปู่หมุน)ได้สั่งการเป็นพิเศษให้คณะผู้จัดสร้าง..."จัดหาธรรมาสน์"....อีกชุดหนึ่งเพิ่มขึ้นมาเพื่อให้ อาจารย์ทิม(ดวงจิต) เข้าร่วมในพิธีปลุกเสกครั้งนั้นด้วย...นอกจากนั้นในพิธีดังกล่าวมีอภินิหารที่องค์หลวงปู่ทวด..."พระศรีอริยเมตไตรยโพธิสัตว์ แห่งอโยธยาศรีรามเทพนคร"...ได้สำแดงปาฏิหาริย์ให้หลายๆคนที่อยู่ร่วมในพิธีมองเห็นแบบเดียวกันคือ..."มองเห็นชายคนหนึ่งแต่งชุดพราหมณ์เดินไปเดินมาในพิธี"...ทั้งๆที่ขณะนั้นไม่มีพิธีพราหมณ์เกี่ยวข้องอยู่เลย แต่ไม่มีใครกล้าพูดอะไรเสร็จพิธีแล้วก็ได้รับคำบอกเล่าเหมือนกัน....จากความคิดคำนึงของหลายๆท่าจึงเข้าใจว่าหลวงปู่ทวดอาจเชิญเทพยาดาเข้าร่วมพิธีดังกล่าวด้วย...จากเรื่องเล่าดังกล่าวเราจะเห็นได้ว่า ขนาดหลวงปู่ทวดยังให้ความสำคัญกับอาจารย์ทิมมากๆ ดังนั้นการใช้ผง97 ที่เหลือจากท่านอาจารย์ทิมสร้างพระปี97 จึงต้องถือเป็นความเป็นมงคลสูงสุดของพระรุ่นนี้ตามเหตุผลที่ได้กล่าวมาแล้วทั้งหมดนะคะ...
4) เมื่อส่องกล้องพิจารณาอย่างละเอียดจะพบมวลสารสำคัญที่ถือว่าเป็นมงคล และขวัญกำลังใจแก่ชนรุ่นหลังนั่นคือ.."เส้นเกศาบูรพาจารย์"...ซึ่ง เป็นครูบาอาจารย์ที่มีคุณูปการในวงการวัตถุมงคลหลวงปู่ทวดรุ่นแรกๆ สำหรับองค์นี้เส้นเกศาปรากฏให้เห็นตรงยอดกลับบัวบนของบัวบนกลีบที่3จากซ้าย มือ หลายท่านที่เก็บสะสมวัตถุมงคลสายนี้ถือว่าเป็นสิ่งสูงค่าที่ควรค่าแก่การ กราบไหว้บูชา ดังนั้นถ้าพระองค์ใด มีเส้นเกศาจึงได้รับความนิยม และเป็นสิ่งหวงแหนที่ส่งมอบจากชนรุ่นหนึ่งไปสู่รุ่นหนึ่งด้วยความภาคภูมิใจ ในฐานะที่เป็น..."มรดกทางวัฒนธรรม"...ที่ทรงคุณค่าทางจิตใจของสังคมไทยนะคะ...
5) ประการสุดท้ายยังปรากฏมวลสารคล้าย..."ดอกไม้แห้งจากวิหารหลวงปู่ทวด"...วัดช้างให้และ..."ใยของกาบและใบกล้วยป่า"...เป็นขุยๆกระจายตัวอยู่ทั่วองค์...เกสรดอกไม้แห้งจากวิหารหลวงปู่ทวด เป็นมวลสารศักดิ์สิทธิ์ที่นิยมใช้ผสมในวัตถุมงคลของวัดช้างให้ ถือเป็นของสูงที่มีคนนำมาถวายหลวงปู่ทวด....ดังนั้นเมื่อนำมาผสมในวัตถุมงคล ก็จะทำให้จิตใจของผู้ครอบครองวัตถุมงคลจะเป็นผู้มีจิตใจสูง ทำอะไรก็จะสำเร็จเป็นใหญ่เป็นโต ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน...ส่วนมวลสารอีกชนิดหนึ่ง..."กล้วยป่า"...เป็นเคล็ดทำให้ได้อะไรมาแบบกล้วยๆ.....ท่านที่ทำงานใหญ่วางเป้าหมายไว้สูงๆนั้นเหมาะนัก เพราะเท่ากับเป็นการขจัดปัดเป่าอุปสรรค์ และทำสรรพกิจให้สำเร็จได้โดยง่าย...ข้อสังเกตุอีกประการหนึ่งคือพระพิมพ์ใหญ่ปี24องค์นี้เป็นพระแก่ว่านที่แปลกมาก เพราะโดยทั่วไปพระแก่ว่าน จะไม่ค่อยมีความสมบูรณ์คมชัด เนื่องจากถูกไขว่านขึ้นบดบังร่องรอยเส้นสายให้เลอะเลือนไป แต่สำหรับองค์นี้เส้นสายลายศิลป์ยังคงสวยงามคมชัดลึก..."จมูกโด่ง"...แบบจมูกสิงห์ จึงเหมาะสำหรับผู้นำ ผู้บริหาร....อีกทั้งใบหูโดยเฉพาะใบหูซ้ายงดงามคมชัดมากๆ ขอบใบหูคม เข้าลักษณะของ..."คนเจ้าปัญญา"...ท่านที่ทำงานด้านวิชาการ ผู้ที่เรียนต่อสูง จึงพลาดไม่ได้...นอกจากนั้นพระองค์นี้ยังสมบูรณ์จนหาที่ติแทบไม่ได้...จึงนับว่าเป็นพระงามที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เหมาะสำหรับเก็บไว้เพื่อ..."ประดับบารมี" ...เป็นอย่างยิ่ง เพราะสวยๆแปลกๆแบบนี้คงมีโอกาสน้อยมากที่จะหลุดมาให้ท่านได้ชมกันในโอกาสต่อไป...นะคะ
...กล่าวโดยสรุปพระงามองค์นี้จึงเปรียบเสมือน..."ศูนย์รวมสรรพมงคลลักษณะ"...ดังกล่าวบรรยายมาแล้วข้างต้นค่ะ...ความงามประเภทสวยแปลกและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเช่นนี้จึงเหมาะที่จะเก็บไว้เพื่อส่งมอบแก่ลูกหลานไว้สืบทอดเป็นมรดกวัฒนธรรมของชนจากรุ่นสู่รุ่นด้วยความภาคภูมิใจต่อไปค่ะ...@
@@@ "จุดอ่อนของพระองค์นี้" @@@
- พระองค์นี้มีรอยรานบางๆแบบธรรมชาติ บริเวณองค์พระกับพื้นพระ ซึ่งทำใหดูง่ายเพราะเป็นรอยที่เกิดจากการแห้งหดตัวและเป็นเอกลักษณ์ของพระรุ่นนี้ แต่รอยดังกล่าวมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าเพราะเล็กมากๆค่ะ
*** "รับประกันตามกฏ" ***
@@@ "มีบัตรรับรองพระแท้จากเว็บจีเรียบร้อยแล้วนะคะ" @@@ |
| ราคาเปิดประมูล | 1 บาท |
| ราคาปัจจุบัน | 30,001 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!) |
| เพิ่มขึ้นครั้งละ | 500 บาท |
| วันเปิดประมูล | - 11 ก.ค. 2556 - 20:20:49 น. |
| วันปิดประมูล | - 12 ก.ค. 2556 - 20:31:50 น. (ปิดประมูลแล้ว) |
| ผู้ตั้งประมูล | มงคลวัตถุ์ (514)   
|
