(0)
มาแบ่งกันคับ ตะกรุดเนื้อเงินหลวงปู่ทิม ลงจาร ขนาด1.8 ซม สีผึ้งหลวงปู่ทิม และหลวงพ่อทาบยุคแรก เลี่ยมกันน้ำงามๆ








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องมาแบ่งกันคับ ตะกรุดเนื้อเงินหลวงปู่ทิม ลงจาร ขนาด1.8 ซม สีผึ้งหลวงปู่ทิม และหลวงพ่อทาบยุคแรก เลี่ยมกันน้ำงามๆ
รายละเอียดออกมาแล้ว พระบ้าน ต้นฉบับสีผึ้งต้อง สองเกจินี้เลย พร้อมตะกรุดลงจาร
ประวัติเกี่ยวกับตะกรุดหลวงปู่ทิม วัตถุมงคลของหลวงปู่ทิม ที่มีขั้นตอนและกรรมวิธี สุดแสนจะบรรยาย ว่ากันว่า หลวงปู่ท่านม้วนและปลุกเสกใต้น้ำแม่น้ำหลังวัด ตะกรุดโทนครั้งต่อๆมา ทางวัดละหารไร่ได้ซื้อแผ่นทองเหลืองหรือทองแดง มาตัดเป็น๔ชิ้น ม้วนเป็นตะกรุดออกวางให้บูชาดอกละ ๑๐-๒๐บาท หลังจากปี๒๕๑๗ ที่เททองหล่อพระชุดชินบัญชรไปแล้ว จึงได้ทำตะกรุดเป็นขนาดมาตรฐาน ตอกโค๊ตกันปลอมไว้ด้วย ส่วนใหญ่จะทำเป็นตะกรุดโทนออกให้บูชาดอกละ ๕๐บาท มีราคาแพงกว่าเหรียญเจริญพร และพระขุนแผนพรายกุมาร ที่องค์ละ ๑๐-๒๐บาทเสียอีก"" เป็นคำกล่าวจากผู้รู้ครับ

คัดลอกจากหนังสือที่ระลึก ฉลองหอฉัน และฉลองอายุครบ ๘ รอบ พระครูภาวนาภิรัต (ทิม) วัดละหารไร่ ระยอง ๑๐ มิ.ย.๒๕๑๘ จากบันทึกของนายสาย แก้วสว่าง

+++ เสกตะกรุดใต้น้ำ +++

คุณป้าอยู่ งามศรี บ้านอยู่ใกล้ๆ วัดละหารไร่และเป็นหลานของหลวงปู่ทิมได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อสมัยหลวงปู่ทิมอายุประมาณ 60-70 ปี เวลาท่านทำตะกรุดท่านจะลงไปทำใต้น้ำโดยถือตะกรุดแล้วเดินลุยน้ำลงไปจากศาลาหน้าวัด มีผู้เห็นกันหลายคน เมื่อหลวงปู่ทิมทำตะกรุดเสร็จเดินลุยน้ำขึ้นมาทุกคนประหลาดใจ เพราะเนื้อตัวและจีวรของหลวงปู่ทิมหาได้เปียกน้ำไม่

+++ เสกตะกรุดลอย +++

ท่านอาจารย์รัตน์เจ้าอาวาสวัดหนองกระบอก อ.บ้านค่าย จ.ระยองเล่าให้ฟังว่า หลวงปู่ทิมเป็นพระที่มีพลังจิตกล้าแข็งมากสามารถเสกจนตะกรุดลอยได้ ท่านเล่าว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งได้นิมมนต์พระอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดระยองมา 4 รูปด้วยกัน มีหลวงพ่อหอม หลวงพ่ออ่ำ หลวงพ่อชื่น และหลวงปู่ทิม ให้หลวงพ่อที่มาทั้ง 4 รูปนำตะกรุดสาริกามาด้วย แล้วนำลงใส่บาตรให้หลวงพ่อทั้ง 4 องค์นั่งล้อมรอบบาตร และขอให้ท่านทุกองค์เรียกตะกรุดให้ลอยขึ้นจากบาตร หลวงพ่อหอมเป็นผู้เรียกก่อนโดยนั่งบริกรรมอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่ปรากฏว่าตะกรุดลอยขึ้นมา จากนั้นหลวงพ่ออ่ำ และหลวงพ่อชื่อก็ได้นั่งบริกรรมทำนองเดียวกัน ตะกรุดก็ไม่ยอมลอยขึ้น จนถึงองค์สุดท้ายคือหลวงปู่ทิม ท่านนั่งบริกรรมอยู่สักครู่ก็ปรากฏว่าตะกรุดลอยขึ้นมาจากก้นบาตร หลวงพ่อหอมและเจ้าอาวาสวัดหนองกระบอกเห็นเช่นนั้นก็ตกใจแลบอกว่า ขอให้ช่วยทำให้วิ่งรอบบาตรด้วย หลวงปู่ทิมก็นั่งหลับตาภาวนา ตะกรุดก็วิ่งอยู่รอบๆ บาตรท่ามกลางความตื่นตะลึงของพระสงฆ์ทุกองค์ และเรื่องนี้ได้เป็นที่โจษขานกันทั่วไปในจังหวัดระยอง"
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน5,700 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ100 บาท
วันเปิดประมูล - 03 ส.ค. 2557 - 15:44:49 น.
วันปิดประมูล - 05 ส.ค. 2557 - 15:33:05 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลคนไกลแผ่นดิน (865)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 03 ส.ค. 2557 - 15:47:58 น.



สีผึ้งพ่อทาบ แท้ มาแบ่งไปคับ
ของแท้ๆ เชิญคับ
สีผึ้งเขียว หลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง จ.ระยอง สีผึ้งอันดับหนึ่งของเมืองไทย ขนาดเท่าหัวไม้ขีดไฟ

เซียนทั้งหลายต่างยกย่องให้เป็นสีผึ้งอันดับ 1 ของประเทศไทย
ประสบการณ์ไม่ต้องให้บรรยายอะไรมากครับ เล่ากัน 7 วัน 7 คืน ยังไม่หมดเลยครับ *ตามคำบอกเล่าในพื้นที่*
"เสน่ห์เมตตามหานิยม" เน้นๆ
ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้
"ใช้หนึ่งครั้งได้เมียหนึ่ง ใช้ครั้งที่สองได้ควบอีก 2 ใช้มากกว่านั้นคิดเอาเองครับผม" *ตามคำบอกเล่าในพื้นที่นะครับ*
หรือจะใช้ด้านเจรจาพาที ติดต่องานชิ้นใหญ่ๆ ตามหนี้ ทวงสิน ค้าขาย พ่อค้าแม่ค้าวณิชย์ หรืออื่นๆใช้ได้ทุกอย่างครับ
### แต่อย่าไปผิดลูกเมียชาวบ้านก็แล้วกันนะครับ ###

ถ้าอยากรู้ประสบการณ์แบบชัดเจน ลองเสิร์จ ใน Google.com ได้เลยครับ
จะได้เข้าใจว่าทำไม? สีผึ้งหลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง จ.ระยอง ถึงถูกยกย่องให้เป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย
ว่ากันว่าถึงขนาด มีผู้ยอมเอารถแลก สีผึ้งหลวงพ่อทาบตลับหนึ่ง ก็ยังมีมาแล้วเลย คิดดูครับ

แค่หัวไม้ขีด เล่นกัน"หลายพัน" ทั้งนั้น
ชมหลักฐานการประมูลล่าสุดได้เลยครับ (สีผึ้งเท่าหัวไม้ขีด)
http://www2.g-pra.com/auction/view.php?aid=6448276
http://www2.g-pra.com/auction/view.php?aid=6431325
http://www2.g-pra.com/auction/view.php?aid=6603590 (ล่าสุด)
อ้างอิงมานะครับ (ขออนุญาติเจ้าของด้วยครับ)

สีผึ้งเขียวหลวงพ่อทาบมีคาถาใช้ดังนี้
""จิตติ มิตติ อะระหัง ปิยังมะมะ"" ใช้ภาวนาเป็นเมตตามหานิยม และใช้ภาวนาเวลาใช้ขี้ผึ้งทาปากเมื่อใช้นิ้วมือแตะขี้ผึ้งแล้วให้ว่า นะโม 3 จบ ก่อน แล้วภาวนาคาถา พร้อมกับทาขี้ผึ้งที่ริมปาก จนทาปากเสร็จ
การใช้นิ้วมือแตะขี้ผึ้งทาปากนั้น ให้ใช้ดังนี้..
1.เมื่อจะไปหาผู้ใหญ่ หรือผู้มียศ ให้ใช้นิ้วหัวแม่มือแตะขี้ผึ้งทาปาก
2.เมื่อจะไปหาคนรุ่นราวคราวเดียวกัน หรือคนรับใช้ ให้ใช้นิ้วชี้แตะขี้ผึ้งทาปาก
3.เมื่อจะไปหาผู้สูงอายุ หรือแม่หม้าย ให้ใช้นิ้วกลางแตะขี้ผึ้งทาปาก
4.เมื่อจะไปหาสาวๆหนุ่มๆให้ใช้นิ้วนางแตะขี้ผึ้งทาปาก
5.เมื่อจะไปหาสาวน้อย หรือคนที่มีอายุน้อยกว่า ให้ใช้นิ้วก้อยนแตะขี้ผึ้งทาปาก...

หากใช้ขี้ผึ้งอารธนาติดตัว....นะโม 3 จบ ""อุกาสะ สัมปะติ จิตติ มิตติ อรหัง""

ชิ้นนี้แบ่งมาจากสีผึ้งตลับเก่าตามรูปด้านซ้ายมือครับ แบ่งได้ไม่กี่ชิ้น เพราะได้มาน้อยมากๆ ตลับเดิมผมเช่าต่อจากคุณลุงชาวจังหวัดระยองด้วยเงินถึง 6000 บาท และพระเครื่องมูลค่ากว่า 3000 บาท แลกเปลี่ยนกันมาครับ เอามาแบ่งใส่หลอดให้ท่านที่สนใจได้บูชาของดีกันคนละนิดละหน่อยครับ ท่านที่ได้ไปอาราธนาพกติดตัวก็เมตตามหาเสน่ห์สุดยอดแล้วครับผม หรือท่านสามารถนำไปเลี้ยงต่อได้ กล่าวคือนำสีผึ้งหัวเชื้อไปผสมกับขี้ผึ้งแท้ซื้อตามร้านขายเครื่องบวช นำมาผสมกันใส่ตลับไว้ สีผึ้งเขียวจะค่อยๆกลืนสีผึ้งธรรมดาจนเขียวเหมือนกัน แต่ใช้เวลานานเป็นปีๆคือเลี้ยงจนลืมเลยครับ ท่านจะมีสีผึ้งเขียวไว้ใช้ตลอดไปครับ สีผึ้งเขียวของหลวงพ่อทาบ บางทีคนบูชาดีเลี้ยงดีสามารถงอกและเพิ่มขนาดเองได้ด้วยครับ ท่านบูชาดีๆอาจจะเต็มหลอดก็เป็นได้นะครับ ของดีหายากสุดๆแบ่งให้ใช้ไม่แพงครับ

อ่านประวัติหลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง แบบเต็มอิ่มได้ที่ http://thepprasitt.tarad.com/product.detail_667544_th_4560265


ข้อมูลเพิ่มเติม 2 - 03 ส.ค. 2557 - 15:48:52 น.



ส่วนสีผึ้งหลวงปู่ทิม จะออกเหลืองใสคับ


ข้อมูลเพิ่มเติม 3 - 03 ส.ค. 2557 - 15:50:43 น.



ตะกรุดเก่าๆ รับประกันความประทับใจ โทรมาสอบถามได้คับ 0870016332 แชร์ความรู้กันคับ


ข้อมูลเพิ่มเติม 4 - 03 ส.ค. 2557 - 19:25:36 น.

ข้อมูลเพิ่มเติมครับ ทำไม สีผึ้งแท้ถึงแพง
เหตุที่จะทำให้หลวงพ่อทาบมีชื่อเสียงโด่งดังจนเป็นเอกใน ด้านเมตตามหานิยมและเป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วไป ก็มาจากสีผึ้งเขียว เมื่อหลวงพ่อทาบมีอายุล่วงเข้า ๘๐ พรรษาเศษแล้ว ท่านใช้เวลารวบรวมมงคลวัตถุต่าง ๆ เป็นเวลานานถึง ๔ ปีเศษ หลังจากนั้นท่านก็เริ่มเป็นที่รู้จักของผู้คนในแถมละแวกวัดกระบกขึ้นผึ้งและ คนในถิ่นใกล้เคียง จนเป็นที่เคารพนับถือของผู้คนในย่านนั้น เมื่อเจ้าอาวาสวัดกระบกขึ้นผึ้งมรณภาพลง ชาวบ้านจึงได้นิมนต์ท่านขึ้นเป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดกระบกขึ้นผึ้ง ท่านไม่สามารถขัดศรัทธาของชาวบ้านได้ จึงจำใจต้องรับตำแหน่งนั้น การพัฒนาวัดกระบกขึ้นผึ้งในสมัยท่านไปด้วยดี เพราะได้รับแรงศรัทธาจากประชาชน จนหลวงพ่อทาบสามารถสร้างกุฏิ วิหาร โบสถ์ ได้อย่างรวดเร็วในยุคของท่าน
นอกจากงานพัฒนาทางวัดแล้วหลวงพ่อทาบยังได้สงเคราะห์ญาติโยมที่เดือดร้อนทาง ใจและตกทุกข์ได้ยาก โดยการทำน้ำมนต์อาบขจัดทุกข์ขจัดโศก จนบุคคลเหล่านั้นประสบความสำเร็จ ชื่อเสียงเกียรติคุณของหลวงพ่อทาบจึงเลื่องลือระบือออกไปตามท้องถิ่นต่าง ๆ จนจัดเป็นเกจิอาจารย์ที่มีเกียรติคุณอย่างยิ่งรูปหนึ่งในบ้านค่าย

ในปี พ.ศ. ๒๔๘๑ หลวงพ่อทาบ ได้รับแต่งตั้งได้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบล อันเป็นการแสดงออกถึงความสามารถในการปกครองของท่าน และในปี พ.ศ. ๒๔๙๐ ก็ได้รับสมณะศักดิ์เป็นพระครูชั้นสัญญาบัตรที่พระครูอรรถโกศล ท่ามกลางความยินดีปรีดาของชาวบ้านและศิษยานุศิษย์น้อยใหญ่ ถึงกับมีการแห่แหนสัญญาบัตรพัดยศจากวัดป่าประดู่เข้ามายังวัดกระบกขึ้นผึ้ง

การขอรับสีผึ้งจากหลวงพ่อทาบในสมัยก่อน สำหรับผู้ที่จะมาขอสีผึ้งเขียวของท่านนั้น กว่าจะได้ก็แสนจะลำบากยากเย็น เล่ากันว่าผู้ต้องการจะได้สีผึ้งเขียวของท่านจะต้องมานอนค้างคืนกันที่วัด หลาย ๆ คืน และหลาย ๆ ครั้ง จนหลวงพ่อทาบเห็นความมานะอดทน ว่า ต้องการได้จริง ๆ ท่านจึงจะให้ สีผึ้งเขียวของหลวงพ่อทาบเมื่อใครได้มาแล้วเหมือนกับได้ของวิเศษที่เปี่ยมไป ด้วยส่วนผสมแห่งเมตตามหานิยม แต่ก่อนจะมอบสีผึ้งเขียวให้แก่ผู้ใด หลวงพ่อทาบจะสั่งสอน วิธีใช้ให้ สำหรับเรื่องผู้หญิงนั้น ถ้าจะใช้สีผึ้งนี่ก็ขอให้ใช้เมื่อจำเป็นจริง ๆ ได้เขาสมใจแล้วก็อย่าไปทิ้งไปขว้าง มิเช่นนั้น จะเกิดวิบัติ


ข้อมูลเพิ่มเติม 5 - 03 ส.ค. 2557 - 19:26:26 น.

เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๓ จ.ระยอง ได้จัดให้มีการประกวดนางสาวระยองขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อคัดคนส่งไปประกวดนางสาวไทยที่กรุงเทพฯ ในงานรัฐธรรมนูญที่วังสราญรมย์ อ. บ้านค่าย ก็สรรหาสาวงามส่งเข้าชิงชัยตำแหน่งนางสาวระยอง เหมือนกับอำเภออื่น ๆ เช่นกัน เมื่อได้สาวงามชาวอำเภอบ้านค่ายแล้ว ทางอำเภอก็นำสาวงามผู้นั้นมาขัดสีฉวีวรรณแล้วสอนกิริยามารยาทจนเป็นที่เรียบ ร้อย พอใกล้วันประกวดนางงามระยอง เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเป็นไปได้ก็เกิดขึ้น สาวงามซึ่งจะเป็นตัวแทนสาวบ้านค่ายขึ้นเวทีประกวด เกิดสิวเห่อขึ้นเต็มหน้า เป็นที่ตกอกตกใจของคณะกรรมการอำเภอบ้านค่ายไปตามๆ กัน จะหาคนใหม่ก็ไม่ทัน ทุกคนต่างก็จนปัญญาไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาได้อย่างไร แต่ถึงอย่างไรก็ต้องส่งสาวผู้นี้เข้าประกวดอยู่ดี เพราะเตรียมการไว้แล้ว แต่โอกาสที่สาวบ้านค่ายจะเป็นนางงามระยองคงหมดหวังแน่

ก่อนถึงวันประกวดคณะกรรมการอำเภอบ้านค่ายทนเสียงอ้อนวอนของผู้ปกครองเด็กไม่ ได้ จึงยอมให้ผู้ปกครองเด็กสาวคนนั้นนำไปหาหลวงพ่อทาบ หลวงพ่อทาบท่านทำน้ำมนต์ให้อาบ แล้วให้สีผึ้งเขียวมาหนึ่งหัวไม้ขีดไฟ และยังปลุกเสกแป้งผัดหน้าให้อีกหนึ่งห่อ ทั้งกำชับให้เอาสีผึ้งติดตัวขึ้นไปบนเวทีประกวด และเวลาประกวดก็ให้ใช้แป้งที่ท่านปลุกเสกผัดหน้าขึ้นไปเดินบนเวทีทุกครั้ง ผลการตัดสินสาวงามระยองปี พ.ศ. ๒๕๐๓ นั้น ปรากฏว่าสาวน้อย อ. บ้านค่าย ได้ตำแหน่งนางสาวระยอง ทั้งๆ ที่ใบหน้าสิวขึ้นเยอะ ท่ามกลางความดีอกดีใจของชาวบ้าน

หลวงพ่อทาบ เจ้าตำรับสีผึ้งเขียวอันโด่งดังได้มรณภาพเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๙ รวมอายุได้ ๘๙ ปี พรรษาที่ ๖๗ นับว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ ที่โด่งดังของภาคตะวันออก อีกรูปหนึ่งครับ

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.bp.or.th/webboard/index.p...ic=9564.0;wap2 ครับ


 
ราคาปัจจุบัน :     5,700 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     100 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    kulpisitkorn (151)(1)

 

Copyright ©G-PRA.COM
www1