(0)
ขุนแผนผงพรายกุมาร รุ่นเจดีย์ทอง ตะกรุดทองคำ เนื้อสีเขียวตองอ่อน เสก 31 พิธี
รายงานผลโหวต
จากรูปพระแท้
0%
[0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง
0%
[0]
จากรูปพระเก๊
0%
[0]
พระดูยากจากรูป
0%
[0]
จำนวน
โหวต
ร่วมแสดงความคิดเห็น
จากรูปพระแท้
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง
จากรูปพระเก๊
พระดูยากจากรูป
ความคิดเห็น:
กรุณารอสักครู่...
ชื่อพระเครื่อง
ขุนแผนผงพรายกุมาร รุ่นเจดีย์ทอง ตะกรุดทองคำ เนื้อสีเขียวตองอ่อน เสก 31 พิธี
รายละเอียด
ขุนแผนผงพรายกุมาร รุ่นเจดีย์ทอง ตะกรุดทองคำ เนื้อสีเขียวตองอ่อน เสก 31 พิธี
*********************************************
มวลสาร
1. น้ำที่สรงพระเขี้ยวแก้ว ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จากประเทศศรีลังกา ซึ่ง ทางคณะพระสงฆ์ไทย วัด ศรีบุญเรือน เดินทางไปขออัญเชิญ พระบรมธาตุงอก ที่งอกจากพระเขี้ยวแก้ว อัญเชิญมาประดิษฐาน ณ วัด ศรีบุญเรือน อ.เมือง จ.ลำปาง ซึ่ง พระชัยมงคล ชัยวงศ์สุรฤทธิ์ ท่านเป็นส่วนหนึ่งในการเดินทางไปอัญเชิญพระธาตุงอกที่งอกจากพระธาตุพระ เขี้ยวแก้ว ได้นำน้ำสรง พระเขี้ยวแก้วนี้มอบให้ผม (วุธ จันทบุรี) เพื่อนำน้ำศักดิ์สิทธิ์นี้มาผสมในการคลุกเคล้าในการทำพระขุนแผนในครั้งนี้ และได้มอบพระธาตุเสด็จที่ไปสถิตที่ต้นพระศรีมหาโพธิ์ให้ผมไว้บูชา ซึ่งผมมีหลักฐานซีดี ที่เป็นวีดีโอ บันทึกไว้
2. น้ำพระพุทธมนต์ หลวงปู่ทิม ที่มูลนิธิ หลวงปู่ทิม (รัชโยธิน 42 กทม.) และ น้ำพระพุทธมนต์ หลวงปู่เกษม เขมโก จ.ลำปาง ซึ่งท่านปลุกเสกไว้ กำชับว่า ถ้าจะต่อน้ำพระพุทธมนต์ ให้อธิฐาน โดยนำน้ำพระพุทธมนต์ของท่านเทลงน้ำธรรมดา น้ำมนต์หลวงปู่เกษม พระชัยมงคลมอบให้ในการช่วยในการผสมคลุกเคล้าพระขุนแผนชุดนี้ด้วย
3. ผงพรายกุมาร สีผึ้งเมตตา น้ำมันเสือ ผงวิเศษต่าง ๆ ของ หลวงปู่ทิม อิสริโก จำนวนมาก ที่ อาจารย์ชินพร สุขสถิตย์ได้เก็บรักษาไว้ (ฆารวาสผู้สร้างพระกริ่งชินบัญชรอันลือลั่น ซึ่งท่านเป็นศิษย์เอกครอบครูจากหลวงปู่ทิม) ซึ่งหลวงปู่ทิม ท่านสั่งกับ คุณชินพร ว่า ถ้าให้ช่วยอะไรให้บอกกล่าว นี่จะลงมาทำให้
4. ผงดำสัตตะนาเค ของ หลวงปู่ทิม ซึ่งคุณประชา ตรีพาสัย นำมาให้ อาจารย์ชินพร เก็บไว้เพื่อสร้างพระเครื่องในวาระต่างๆ เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และ สาธารณประโยชน์อื่นๆ ผงสัตตะนาเคนี้หลวงปู่ทิมท่านจารลบผงจนบังเกิดเองเป็นรูปพญานาคราช 7 เศียร
5. มวลสาร ที่พระชัยมงคล มอบให้ พอสังเขป เท่าที่จำได้กระเบื้องโบสถ์วัดใหญ่ชัยมงคล, กระเบื้องโบสถ์สมัยหลวงปู่เกษมลงปาติโมกข์, พระโคนสมอ , พระ12ลำพูน , พระคง2หน้า , พระแก้วหลวงพ่อเจียง , พระลีลากรุกังชาราว , แก้วโป้งขาม , เหล็กน้ำพี้ , ผงสมเด็จหลวงปู่ปั่น , ผงสมเด็จหลวงปู่นาค , ผงสมเด็จพระครูมูล , กรุคู้สลอด , ผงหลวงปู่เกษม , ผงหลวงปู่แว่น , ผงหลวงปู่หลวง , ผงหลวงปู่ชุบ , ผงหลวงปู่คำปัน , ผงพระเครื่องพระภัททันตธัมมานันทมหาเถระ อัครมหาบัณฑิต และที่จำไม่ได้อีก........ฯว่านว่านกระแจะจันทร์ , ว่านกวักพุทธเจ้าหลวง , ว่านกวักนางพญามหาเศรษฐี , ว่านเศรษฐีกอบทรัพย์ , ว่านเสน่ห์จันทน์หอม , ว่านเสน่ห์จันทน์ทอง , ว่านเสน่ห์จันทน์ขาว , ว่านเสน่ห์จันทน์เขียว , ว่านเสน่ห์จันทน์แดง , ว่านเสน่ห์จันทน์โพธ์ , ว่านนางมาควดีหรือว่านมหาโชค , ว่านหงสาวดีหรือว่านมหาลาภ , ว่านมหากวัก , ว่านหนุมาน , ว่านเพ็ชรนารายณ์หรือว่านนารายณ์ , ว่านนางคุ้มหรือว่านผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน , ว่านนกคุ้ม ,ว่านไชยมงคล , ว่านมหาปราบ , ว่านกุมารทอง , ว่านม้าห้อ ,พวกดอกมะลิที่บูชาพระบรมธาตุและว่านที่จำไม่ได้อีกเช่นกัน
6. ผงสาริกาหลงรัง ของเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน วัดปากน้ำแหลมสิงห์ มอบให้ ผมได้นำผงนี้ไปวางที่รูปปั้น ท่านพ่อสุ่น วัดปากน้ำแหลมสิงห์ เพื่อขอบารมีท่านพ่อช่วยปลุกเสกให้อีกครั้ง ท่านพ่อสุ่น วัดปากน้ำแหลมสิงห์ ท่านเป็นพระยุคฝรั่งเศสยึดเมืองจันทบุรีเป็นเมืองขึ้น เสด็จพ่อรัชกาลที่ 5 ทรงเสร็จไปกราบท่านที่วัด พระพุทธเจ้าหลวงทรงตรัสว่า ที่จันทบุรีมีพระเก่งมากอยู่องค์หนึ่ง ซึ่งมีหลักฐานบันทึกพระราชดำรัสของท่านไว้ในประวัติศาสตร์ เมื่อครั้งประพาสต้น เป็นที่ทราบกันดีของคนจันทบุรีว่า ท่านพ่อสุ่น เป็นพระที่เมตตา และ แก่กล้าในวิชาอาคมยิ่งนัก เป็นที่ครั่นคร้ามเกรงขามขยาดกลัวของทหารฝรั่งเศสยิ่งนัก เมื่อเรือรบฝรั่งเศสไม่สามารถแล่นเรือเข้าไปโจมตีในตัวเมืองจันทบุรีได้ เมื่อเรือหยุดชงักไปต่อไม่ได้เมื่อผ่านวัดท่านพ่อสุ่น เนื่องด้วยท่านพอหยุดเรือรบด้วยพระเวทอาคม แม้แต่เรือปืนไฟของฝรั่งเศสก็ยังยอมสยบมิอาจระเบิด เป็นที่อัศจรรย์อย่างยิ่ง เมื่อ กระสุน ตกลงที่ปลายกระบอกปืนใหญ่ ลูกกระสุ่นยิ่งเข้าใส่วัดท่านพ่อสุ่นแต่ก็หาโดนเข้าวัดได้ไม่และมิอาจจะ ระเบิดใดๆ ทหารฝรังเศสโดนท่านพ่อต่อยสลบเพียงหมัดเดียว หมัดของทหารฝรั่งหาโดนท่านพ่อไม่ ท่านพ่อรูดใบมะขามเป็นตัวต่อตัวแตน ทหารวิ่งหนีกระเจิง แม้แต่ หลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก ท่านยังบอกกับศิษย์ท่านว่า ท่านไปเรียนวิชากระสุนคตกับหลวงพ่อสุ่น แม้แต่หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ซึ่งท่านให้ความนับถือ ท่านพ่อสุ่นมาก หลวงพ่ออี้ท่านนับถือเป็นอาจารย์และนับถื่อหลวงพ่อสุ่นเป็นศิษย์ผู้พี่ ซึ่งทั้งสอง เป็นศิษย์อาจารย์เดียวกัน คือ หลวงปู่จันทร์ วัดบางสะเก้า ยอดปรมาจารย์เฒ่า แห่ง กรุงรัตนโกสินทร์
7. ข้าวตอกพระร่วงที่ตำละเอียดจาก สุโขทัย ผงวิเศษ หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย ผงวิเศษของหลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม ศิษย์ ท่านพ่อแช่ม วัดตาก้อง มีผู้มอบให้ (เป็นเม็ดดำๆลักษณะคล้ายเม็ดกริ่ง)
8. ด้านหลังจะมีโลหะรูประฆังและจะมีโค๊ตตอกทับที่ระฆังเพื่อกันการปลอมแปลง โลหะรูประฆังนี้จะมีมวลสารผสมจากก้านช่อ พระกริ่งชินบัญชร หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
9. ผงพระเครื่องวิเศษตำป่นละเอียด ของ หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จันทบุรี และ ผงลูกอมขมิ้นชัน หลวงพ่อสีนวล วัดเกวียนหัก สองพระอริยสงฆ์พระเกจิอาจารย์ขมังเวทย์ผู้มีกายแข็งประดุจหิน มิเน่าเปื่อยใด ๆ
10. ผงเขียวของหลวงปู่ทิมซึ่งโยมสายเก็บไว้มอบให้เจ้าของ ซึ่งเจ้าของจะมอบให้ผม เพื่อนำไปผสมพระเครื่องครั้งนี้
11. แร่ธาตุตะกูลเหล็กไหล มีผู้จะส่งมอบให้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในหัวชนวนผงวิเศษ
12. ผงวิเศษ จาก คุณ เนาว์ นรญาณ ซึ่งมีผงวิเศษจำนวนมาก ซึ่งคุณเนาว์จะนำผงมาผสมในครั้งนี้ด้วย อาทิเช่น ผงเจ้าคุณนรรัตน์ ผงเจดีย์สมเด็จพระนเรศวร ผงโสฬสมหาพรหมหลวงปู่ทิม ผงบางขุนพรหม สีผึ้งของขุนพันธรักษ์ราชเดช ที่ท่านได้มามีอายุร่วม 200 ปี และ อื่น ๆ
13. ข้าวตอกพระร่วงและขี้เหล็กไหล จากป่าภูงัว จ.หนองคาย ปลุกเสกจากหลวงปู่หลุย จันทะสาโร วัดถ้ำผาปิ้ง จ.เลย และ หลวงพ่อ จวน กุละเชฏโฐ วัดภูทอก จ.หนองคายฯลฯ
หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม ซึ่งท่านเป็นพระระดับปรมาจารย์ และมีลูกศิษย์ลูกหาที่ร่ำเรียนจากท่านที่มีชื่อเสียงอยู่หลายองค์ นอกจากนี้ ท่านยังเก่งวิชา ทำเบี้ยแก้ โดยนำปรอทสำเร็จซึ่งดักมาสะกดให้ปรอทตายอยู่ในเบี้ย ซึ่งเชื่อกันว่า เบี้ยแก้มีสรรพคุณวิเศษกันภัยนานัปการและถอดถอนวิชาไสยศาสตร์มนต์ดำออกได้อย่างสิ้นเชิง เป็นสุดยอดหนึ่งในเครื่องรางของขลังต้น ๆ ระดับประเทศ เบี้ยแก้ยุคต้นคงต้องยกให้หลวงปู่รอด วัดนายโรง และ หลวงปู่บุญ ยุครองลงมา มีหลายอาจารย์ทำไว้ด้วยกัน เช่นหลวงพ่อภักดิ์ วัดโบสถ์ หลวงปู่เจือวัดกลางบางแก้ว เป็นต้น แขนงวิชาทางไสยศาสตร์ชั้นสูงใช่ว่า จะเรียนกันได้ทุกท่าน ถ้าไม่เรียนมา ก็ทำไม่ได้
วิชาการทำผงจินดามณี ในยุค 2500 ลงมา ถ้าจะคำนวนกันจริง ๆ แล้วก็มีไม่มากองคนักที่ทำได้ แต่ที่เห็นอย่างชัดเจน ก็คือ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง วิชานี้ หลวงปู่ท่านบอกว่าต้องมีสัจจะ แม้แต่หลวงพ่อสาคร หลวงปู่ทิมท่านก็ไม่ได้สอนให้ ในครั้งที่หลวงปู่ทิมท่านดีดน้ำเรียกปลาให้หลวงพ่อสาครได้เห็นประจักษ์ ผมและคณะได้แวะกราบ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ซึ่งพระผงที่ทำครั้งนี้ได้ผสมผงจินดามณีของหลวงปู่ทิมเอาไว้ด้วย ได้นำพระทั้งหมด วางไว้ ซึ่งมีพระชัย เจริญพระพุทธมนต์คาถา ขอบารมีหลวงปู่บุญ ปลุกเสกวิชาจินดามณีอันเป็นสุดยอดให้ลงมาบรรจุในพระขุนแผนผงพรายกุมารในครั้งนี้ด้วย
การปลุกเสก
พิธีที่ 1 ปลุกเสก ในวันเพ็ญเดือน12 วันลอยกระทง วันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ.2553 (ปีขาล) หลวงพ่อสิน วัดละหารใหญ่ ปลุกเสกเดี่ยวในฤกษ์มงคล ขณะเสกท้องฟ้าแจ่มใสไม่มีทีท่าฝนตั้งเคล้าแต่อย่างไรเกิดฟ้าคำรามเสียงดัง 3 ครั้ง หลังจากนั้นฝนเริ่มตกโปรยปรายจนกระทั่งเสร็จพิธีเสก ถือว่าพิธีนี้สุดยอดที่สุด หลวงปู่ทิม ท่านลงมาทำให้อย่างแน่นอน เพราะก่อนถึงพิธีเสกผมได้เข้าไปบอกหลวงปู่ทิมในวิหารขอให้ท่านลงมาทำให้ด้วย
พิธีที่2 ปลุกเสก ณ วัดเนินมหาเชษฐ์ สุพรรณบุรี 12 ธันวาคม พ.ศ.2553
ก่อนเข้าพิธี ไปวัดเดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี นำวัตุถุมงคลไปวางที่หน้าตักพระรูปปั้น พระอาจารย์ธรรมโชติ ขอบารมีหลวงพ่อ พระชัยมงคลเจริญพุทธมงคลคาถา
รายนามพระเกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสก ณ วัดเนินมหาเชษฐ์
หลวงพ่อเขียว วัดห้วยเงาะ ปัตตานี (จุดเทียนชัย)
หลวงพ่อั้น วัดโรงโค อุทัยธานี (ปลุกเสกก่อนจุดเทียนชัยล่วงหน้า2ชั่วโมงจนจบพิธีดับเทียนชัยรวมร่วม4ชั่วโมงได้)
หลวงพ่อสิริ วัดตาล (ปลุกเสกชักยันต์กลางอากาศ)
หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม
หลวงพ่อสืบ วัดสิงห์
พระครูสมุห์อวยพร วัดดอนยายหอม
หลวงพ่อปั่น เจ้าอาวาสวัดเนินมหาเชษฐ์ (ดับเทียนชัย)
หลวงพ่อสุนันท์ วัดป่าพระธาตุเขาน้อย ราชบุรี
หลวงพ่อสัมฤทธิ์ วัดวรเชษฐ์นอกเกาะ ศิษย์สายพันเอกชม สุคนธ์รัตน์
พระธูดงค์ไม่ทราบชื่อ1รูป ร่วมปลุกเสก
หลังเสร็จพิธี ไปวัดแค จ.สุพรรณบุรี นำวัตถุมงคลไปวางที่รูปปั้นพระขุนแผนแสนสะท้าน ขอบารมีพ่อขุนแผน พระชัยมงคลเจริญพระพุทธมงคลคาถา
(ขุนแผนตะกรุดเงินเริ่มปลุกเสกพิธีนี้เป็นพิธีแรก)
พิธีที่ 3 วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ.2553 ปีขาล นำวัตถมงคลไปวางไว้ที่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ของบารมีพระผงสุพรรณและขอบารมีหลวงพ่อโพธิ์ อดีตเจ้าอาวาส วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พระชัยมงคล เจริญพระพุทธมนต์ชัยมงคลคาถา หลังจากนั้น ไปกราบรูปปั้น หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง จ.นครปฐม และนำวัตถุมงคลไปวางขอบารมีหลวงพ่อแช่ม ขอให้ท่านลงมาทำให้ พระชัยมงคล เจริญพระพุทธมนต์ชัยมงคลคาถา
หลังจากนั้นไปกราบหลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม จ.นครปฐม ศิษย์เอกหลวงพ่อเต๋ คงทอง ขอให้ท่านเมตตาปลุกเสก หลวงพ่อแย้มปลุกเสกเดี่ยวอยู่นาน ในฤกษ์ "กระทิงวัน"
หลังจากนั้น นำวัตถุมงคลไปวางไว้ที่รูปปั้นหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม ขอบารมีมนต์จินดามณีของหลวงปู่บุญ พระชัยมงคล เจริญพระพุทธมนต์ชัยมงคลคาถา
พิธีที่ 4 หลวงพ่อเขียน วัดกระทิง เทพเจ้าแห่งเขาคิชกุฎจันทบุรี ปลุกเสกเดี่ยว 16 ธันวาคม พ.ศ.2553
พิธีที่ 5 หลวงพ่อจำนงค์ วัดทุ่งตาอิน จันทบุรี ปลุกเสกเดี่ยว 16 ธันวาคม พ.ศ.2553
พิธีที่ 6 ปลุกเสก ณ วัดเนินสุทธาวาส ชลบุรี เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พฃ.ศ.2553 พระปิดตาหลวงพ่อโต วัดเนินสุทธาวาส เป็น 1 ใน 5 เบญจภาคีพระปิดตาชลบุรี
รายนามพระเกจิที่ปลุกเสกได้แก่
หลวงพ่อชาญ วัดบางบ่อ สมุทรปราการ
หลวงพ่อเกลี้ยง วัดเนินสุทธาวาส ชลบุรี
หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร ฉะเชิงเทรา
หลวงพ่อเขียน วัดกระทิง จันทบุรี
อาจารย์เชย วัดละหารไร่ ระยอง
พิธีที่ 7 ปลุกเสก ณ วัดของหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ชัยนาท วันที่ 21 มกราคม พ.ศ.2554ฤกษ์ 06.47-20.42 ทำการมงคลได้สารพัด ฤกษ์ ปลอดภัยไม่มีอัปสรรคขัดขวาง ทาษี-10 ทลิทโทฤกษ์
รายนาม 7 พระเกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสก
หลวงปู่นะ วัดหนองบัว ชัยนาท
หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน ลพบุรี (หลวงพ่อปลุกเสกก่อน)
หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว อยุธยา (จุดเทียนชัย)
หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม อยุธยา (ดับเทียนชัย)
หลวงพ่อเกาะ วัดท่าสมอ ชัยนาท
หลวงพ่อสำราญ วัดสง่างามอยุธยา
(ปลุกเสกขุนแผนตะกรุดทองแดงเป็นปฐมฤกษ์)
พิธีที่ 8 ปลุกเสก ณ วัดไผ่ล้อม (อารามหลวง) จันทบุรี ปลุกเสกตั้งแต่ 1 ทุ่ม - จนถึงรุ่งอรุณ (พระพื้นที่เสกต่อจาก 7 อาจารย์จนถึงรุ่งอรุณ)
พระเกจิอาจารย์ 7 อาจารย์ชุดแรกที่ปลุกเสกได้แก่
พระธรรมวงศ์มุนี เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จันทบุรี (จุดเทียนชัย17.29)
พระเทพเมธมุนี วัดโยธานิมิต ตราด
พระเทพจันทมุนี วัดใหม่ จันทบุรี
พระอาจารย์ทองหล่อ วัดศรีเมือง จันทบุรี
พระครูธรรมสรคุณ หลวงพ่อเขียน วัดกระทิง
หลวงพ่อจำนงค์ วัดทุ่งตาอิน จันทบุรี
หลวงพ่อผ่าน วัดป่าโพธิ์แก้ว ปราจีนบุรี (ดับเทียนชัย19.43)
พิธีที่ 9 ปลุกเสก ณ วัดน้ำคู้เก่า จ.ระยอง วันที่ 7 เมษายน พ.ศ.2554 เวลาฤกษ์ 19.45-22.41 น.ทำการมงคลได้สารพัด ฤกษ์ อำมฤคชัย ทาษี ภูมิปาโลฤกษ์
รายนามพระเกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสก
หลวงพ่อสมอิง โชติกโร วัดเนินพระระยอง
หลวงพ่อสิน วัดละหารใหญ่ ระยอง
หลวงพ่อแจ่ม วัดเขาสำเภาทอง ระยอง
หลวงพ่อชู วัดทับมา ระยอง
หลวงพ่อจาย สกฺโก วัดกระแสคูหาสวรรค์ ระยอง
หลวงพ่อสมคิด นนฺทิโย วัดบึงตาต้าระยอง
หลวงพ่อชาญ วัดบางบ่อ สมุทรปราการ
หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร ฉะเชิงเทรา
พระมหาสุรศักดิ์ วัดประดู่พระอารามหลวง สมุทรสาคร
พระอาจารย์เชย วัดละหารไร่
(ขุนแผนไม่มีตะกรุดปลุกเสกพิธินี้เป็นปฐมฤกษ์)
พิธีที่ 10 ปลุกเสก ณ วัดวังสรรพรส(หลวงพ่อคง สุวัณโณ) จ.จันทบุรี วันที่ 8 เมษายน รายนามพระเกจิ 9 คณาจารย์ในเขตจันทบุรี
พิธีที่ 11 ปลุกเสกในฤกษ์"เสาร์ 5" ณ วัดท่านพ่อสุ่น วัดปากน้ำแหลมสิงห์ จันทบุรี วันที่เสาร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ.2554
รายนามพระเกจิที่ร่วมปลุกเสก
พระครูวิโรจน์เมธาภรณ์(อาจารย์คี้) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำฟังราด
พระครูศิลวัฒนากร (อาจารย์แขก) เจ้าอาวาสวัดขุมบ่อทรัพย์
พระอาจารย์มนัส มนุตชาโต เจ้าอาวาสวัดเขาแหลม
พระครูสังฆรักษ์นุช (อาจารย์นุช)เจ้าอาวาสวัดสนธิ์ทองวังใหม่
(เหรียญหลวงปู่ทิมหลังยันต์ห้า"เจดีย์ทอง"เนื้อทองคำและเนื้อเงินปลุกเสกพิธีนี้เป็นปฐมฤกษ์)
พิธีที่ 12 ปลุกเสกเดี่ยว จาก อาจารย์พจน์ วัดห้วงพัฒนา จ.ตราด วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน พ.ศ.2554 ฤกษ์ ปลอด-ศุภะ-เพชฌฆาตฤกษ์ ท่านว่า "พระเสกมาดีแล้วจะเสกอะไรอีก"
พิธีที่ 13 วันที่ 29 กรกฏาคม พ.ศ.2554 พิธีปลุกเสกเดี่ยวจาก หลวงพ่อนวล วัดไสหร้า จ.นครศรีธรรมราช ณ วัดคีรีกันทร์ เวลาปลุกเสก 9.39-10.25 น.เพชรฆาตฤกษ์
(เหรียญรุ่นเจดีย์ทอง หลังยันต์ห้า นวะ ทองแดงเข้าพิธีนี้เป็นปฐมฤกษ์,แผ่นชนวนนวะและทองแดงรุ่นพิชิตมาร(แจกทหาร)นำเข้าพิธีพ่อนวลพ่อเอื้อมและพิธีเขาอ้อเช่นกัน)
พิธีที่ 14 วันที่ 29 กรกฏาคม พ.ศ.2554 พิธีปลุกเสกเดี่ยวจาก หลวงพ่อเอื้อม ณ วัดบางเนียน จ.นครศรีธรรมราช เวลาเสก 15.06 น. เพชรฆาตฤกษ์
พิธีที่ 15 วันที่ 30 กรกฏาคม พ.ศ.2554 พิธีปลุกเสกหมู่ ในถ้ำฉัตรทัณฑ์บรรพต ณ วัดเขาอ้อ จ.พัทลุง โดยศิษย์เขาอ้อเจ้าอาวาสทุกวัดของจังหวัดพัทลุง
ฤกษ์ตั้งแต่ 06.03น.-22.28น. มหาสิทธิโชค ทาษี ราชาฤกษ์ ปลุกเสกเวลา 13.41-15-36น.
รายนาม 9 พระเกจิศิษย์เขาอ้อ จ.พัทลุง
พ่อท่านคล้อย วัดภูเขาทอง พัทลุง
พ่อท่านเอียด วัดโคกแย้ม พัทลุง
หลวงพ่อพรหม วัดบ้านสวน พัทลุง
หลวงพ่อห้อง วัดเขาอ้อ พัทลุง
พ่อท่านอุทัย วัดดอนศาลา พัทลุง
หลวงพ่อสลับ วัดป่าตอ พัทลุง
หลวงพ่อเหวียน วัดพิกุลทอง พัทลุง
หลวงพ่อเงิน วัดโพรงรู พัทลุง
หลวงพ่อเสถียร ฐานจาโร วัดโคกโดน จ.พัทลุง
พิธีที่ 16 ปลุกเสกหมู่ ณ ค่ายตากสิน จันทบุรี
รายชื่อพระเกจิอาจารย์ที่เข้าร่วมพุทธาภิเษกเทวาภิเษก ณ ค่ายตากสิน จันทบุรี เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ.2554
1.สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (องค์ประธาน) วัดราชบพิตร กทม. (จุดเทียนชัย)
2.พระครูพุทธิสารสุนทร (พระอาจารย์บุญกู้) วัดพระศรีมหาธาตุกทม. (ดับเทียนชัย)
3. พระอาจารย์แปลง วัดป่าอุดมพรสกลนคร
4.พระครูวินัญธร วัดอรัญญิกาวาสสกลนคร
5.พระครูวีรธรรมคุณ วัดป่าวีรธรรมสกลนคร
6.พระครูสันคยาภิวัฒน์ วัดหนองผกาด สกลนคร
7.พระอาจารย์อุทัย สริธโร วัดถ้ำพระคูวัว หนองคาย
8.พระอาจารย์เสถียร คุณวโร วัดถ้ำพระคูวัว หนองคาย
9.พระครูปริยัตธรม วิธาน วัดไสท้อน สงขลา
10.หลวงพ่อเขียว วัดห้วยเงาะ ปัตตานี
11.พระอาจารย์บัว วัดเกาะตะเคียน ตราด
12.พระอาจารย์ไพรวัลย์ สำนักสงฆ์หาดทรายแดง ตราด
13.พระธรรมวงศ์มุนี วัดไผ่ล้อม จันทบุรี
14.พระเทพสารสุธี วัดจันทนาราม จันทบุรี
15.พระเทพจันทมุนี วัดใหม่เมืองจันทบุรี
16.พระภาวนา ปัญญาวิสุทธิ์ วัดป่าคลองกุ้ง จันทบุรี
17.พระราชจันทโมลี วัดบูรพาพิทยาราม จันทบุรี
18.พระสุธีปริยัตยาภรณ์ วัดพลับบางกะจะ จันทบุรี
19พระอาจารย์อ่อง ถาวโร วัดเขาวงกต จันทบุรี ไม่ได้ไป
20พระครูธรรมสรคุณ (ท่านพ่อเขียน) วัดกระทิง จันทบุรี (ปลุกเสกวันที่4สิงหา วันงานไม่ได้ไป)
21.พระครูปัญญษ วราภรณ์ (ท่านพ่อประเวศน์) วัดป่าคลองมะลิ จันทบุรี
22. หลวงพ่อมนัส มนฺตชาโต วัดทุ่งจันดำ จันทบุรี
23.พระอาจารย์ธรรมรัตน์ วัดชากใหญ่ (พลิ้ว)
24 พระปลัดนิวัต พลธมฺโม (พระอาจารย์ตุ๊กแก) วัดคมบาง
25.พระครูจันทกิจ โสพณ พระวัดเกวียนหัก(ทำสายสิญจ์) จันทบุรี
26.พระครูวิศาล ศาสนกิจ พระวัดเขาน้อยสามผาน จันทบุรี
27.หลวงพ่อทองหล่อ วัดศรีเมือง จันทบุรี
28.ท่านรัญจวน วัดเขาตานก จันทบุรี
29.พระรัตนโมลี เจ้าคณะจังหวัดระยอง วัดเนินพระ ระยอง
30.พระราชภาวนามงคล วัดเภตราสุขารมย์ ระยอง
31.พระครูวิมล พรหมญาณจาร วัดเนินย่อง ระยอง
32.พระปลัดบังเอิญ อินทวังโส วัดบ้านนา ระยอง
33.พระครูวิมลสีลาจารย์ วัดหนองขุ่น ระยอง
34.พระครูสุภัททาจารคุณ (หลวงพ่อสิน) วัดละหารใหญ่ ระยอง
35.พระมนูญ ธรรมวัตร (หลวงพ่อสาคร) วัดหนองกรับ ระยอง (ปลุกเสกก่อนวันพิธี วันงานไม่ได้ไป)
36.พระอาจารย์อภิชัย พละภิญโญ วัดเขาโบสถ์ทับมา ระยอง
37.พระอุดม วัฒนมงคล วัดถ้ำพัฒนะมงคล ระยอง
38.หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร ฉะเชิงเทรา
39.หลวงพ่อสวาท ถาวโร วัดอ่าวหมู จันทบุรี
(เหรียญรุ่น "พิชิตมาร" เนื้อทองคำ เงิน นวะ ทองแดง เข้าพิธีปลุกเสกค่ายตากสินในครั้งนี้ )
พิธีที่ 17 พิธีพุทธาภิเษกพระพิชัยสงคราม (ปลุกเสกข้ามวันข้ามคืน 12-13สิงหาคม 2554 จุดเทียนชัย 23.25 น.- 10.43) หนุนดวงชะตามิให้ตกต่ำตามตำราพิชัยสงครามโบราณ ณ วัดโพธิผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา
รายชื่อพระเกจิที่ร่วมปลุกเสก
1.พระครูวิชัยกิจจารักษ์ เจ้าอาวาสวัดพิชัยสงคราม
2.พระครูอดุลวิริยกิจ เจ้าอาวาสวัดวังแดงใต้
3.หลวงพ่อทองหยิบ ปชุโชโต เจ้าอาวาสวัดบ้านกลาง
4.พระครูโสภณสิริธรรม เจ้าอาวาสวัดโพธิ์
พิธีที่ 18 ปลุกเสก ครั้งที่ 18 หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว จ.พระนครศรีอยุธยา เมตตาปลุกเสกเดี่ยวเวลา 16.14น.-16.29
(ฤกษ์ มหาสิทธิโชค กัมมะ เทศาตรีฤกษ์) จนทำให้กำไลที่วางบนกองพระเครื่องเหรียญพระเจ้าตากสั่นแกว่งเลื่อนตกลงมาดังกังวาลอย่างอัศจรรย์ต่อหน้าผู้อยู่ร่วมพิธีทุกท่าน
พิธีที่ 19 ปลุกเสก โดย หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ จ.ระยอง ศิษย์เอกหลวงปู่ทิม อิสริโก เมตตาปลุกเสกเดี่ยวให้ 5 วัน 5 คืน ท่านเก่งเมตตา ท่านสำเร็จ วิชา นะอกแตก วิชามหาระงับ แคล้วคลาด และ มหาอุตม์ ด้วยเช่นกัน หลวงพ่อถึงกับบอกว่า "ดีๆปลุกเสกหลายอาจารย์จะได้ช่วย ๆ กัน"
พิธีที่ 20 ปลุกเสก หลวงพ่ออั้น วัดโรงโค จ.อุทัยธานี เมตตาปลุกเสกเดี่ยวให้ ในพิธีเป่าเทพรัญจวน ลงสาลิกาล่องลม ท่านว่า เสกให้เน้นหนักเมตตาค้าขายและอยู่คงคงกระพัน ผมขอให้ท่านเสกมหาอุตม์ปืนแตกให้ด้วยท่านก็ทำให้โดยบอกผมให้ไปเอาสายสินมาเสกเข้าโดยตรง ท่านเสกให้ทั้งวัน 3 วาระในวันงาน
พิธีที่ 21 ปลุกเสกโดย หลวงปู่สมบุญ ปิยธัมโม วัดลำพันบอง อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี เมตตาปลุกเสกเดี่ยวให้ 3 คืน ท่านเก่งด้านแคล้วคลาด และ มหาอุฒม์หนังเหนียว พระเครื่องของท่านมีประสบการณ์กันมากและเหรียญรุ่นแรกของท่านมีของปลอมมาก คนสุพรรณบุรีจะทราบดีว่าท่านเก่งมาก ท่านบอกผมว่า "ท่านเสกให้ครบทุกด้านแล้ว เหลือแต่ใส่แล้วคนบินไม่ได้เท่านั้นเอง" ท่านเป็นพระอาวุโสมากที่สุดของ จ.สุพรรณบุรี
ครั้งที่ 22 ปลุกเสกโดย หลวงพ่อเฉลิม เขมทัสสี ศิษย์ผู้สืบทอดสรรพวิชาจากหลวงพ่ออั้นศิษย์เอกของปรมาจารย์แห่งเมืองกรุงเก่าหลวงพ่อกลั่น ธัมมโชติ วัดพระญาติ จ.พระนครศรีอยุธยา เมตตาปลุกเสกเดี่ยวให้ ผมเรียนหลวงพ่อเฉลิมให้ท่านเมตตาปลุกเสกวิชาชาตรีให้ด้วย ท่านบอกว่า "บารมีท่านไม่พอหรอก ต้องเชิญครูบาอาจารย์ท่านลงมาช่วยทำให้" หลวงพ่อเฉลิมท่านเมตตาปลุกเสกพระเครื่องชุดนี้ให้โดยอัญเชิญหลวงพ่อกลั่น หลวงพ่ออั้น และ ครูบาอาจารย์เทพเทวามาร่วมปลุกเสกโดยขอวิชาสุดยอดชาตรีสุดยอดคงกระพันไม่เจ็บไม่ปวดของหลวงพ่อกลั่น สุดยอดพระเกจิแห่งเมืองสยามที่ท่านพ่อกลั่นเรียนมาจากสำนักพุทไธศวรรย์ตักศิลาทางไสยเวทย์กระบี่กระบองแม่ไม้มวยไทย มาประสิทธิไว้ในวัตถุมงคลพระเครื่องชุดนี้ให้เข้มขลังเหมือนเหรียญหลวงพ่อกลั่น เหรียญ1ใน5เบญจภาคีที่แพงที่สุดเป็นอมตะอันดับ 1 แห่งสยามประเทศ
พิธีที่23 ปลุกเสก ณ วัดละหารไร่ จ.ระยอง ในวันเสาร์ ที่ 1 ตุลาคม 2554 คณะผู้จัดสร้างเป็นเจ้าภาพ เวลา 11.24น.-24.00น.ทำการมงคลได้สารพัด ฤกษ์ อำมฤคราช ลาภะ ราชาฤกษ์ ธงชัย เพชรฤกษ์ ในพิธีเสกครั้งนี้ ท้องฟ้าแจ่มใสลมเย็นสบายมีละอองฝนโปรยปราย แสดงถึงเบื้องบนได้รับรู้ หลวงปู่ทิมท่านลงมาทำให้อย่างแน่นอน
พระเกจิที่ร่วมอธิฐานจิตปลุกเสกในพระอุโบสถวัดละหารไร่
1.หลวงปู่ปํญญา วัดหนองผักหนาม ชลบุรี อายุ107 ปี(จุดเทียนชัยเวลา 14.09 น.)
2.หลวงพ่อเจิม วัดหนองน้ำขุ่น ระยอง (ศิษย์หลวงพ่อคร่ำ)
3.หลวงพ่อสิน วัดละหารใหญ่ (ดับเทียนชัย)
4.หลวงพ่อเจียง วัดเนินหย่อง ระยอง
5.หลวงพ่ออ่อง วัดเขาวงกต จันทบุรี
6.หลวงพ่อสวาท วัดอ่าวหมู จันทบุรี
7.พระอาจารย์วีระ วัดพลับบางกะจะจันทบุรี
8.หลวงพ่อแผน วัดหนองติม สระแก้ว
9.ครูบามงคล วัดบางเบน พิจิตร
อีกทั้งการปลุกเสกในครั้งนี้มีการยกรูปปั้นหลวงปู่ทิม ในพระวิหารหลวงปู่มาไว้ในพระอุโบสถโยงสายสินจากรูปปั้นหลวงปู่ทิมผูกมัดวัตถุมงคลในพิธีทั้งหมด ถือเป็นครั้งแรกในการปลุกเสกของประวัติศาสตร์วัดละหารไร่ที่อัญเชิญยกรูปปั้นหลวงปู่ทิมมาเสกในพระอุโบสถ
พิธีที่ 24 ปลุกเสก ณ วัดโคกอู่ทอง จ.ปราจีนบุรี หลวงพ่อโสฬส ยโสธโร ธรรมทายาทศิษย์ผู้สืบทอดสรรพวิชาจากหลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา หลวงพ่อเส็ง วัดประจันตคาม และ หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน เมตตาปลุกเสกเดี่ยววัตถุมงคลในครั้งนี้มี รุ่น "สมปรารถนา" (เจ้าภาพผู้จัดสร้าง) รุ่น "พิชิตมาร" และ รุ่น "เจดีย์ทอง"(คณะศิษย์หลวงปู่ทิมชมรมขุนแผนระฆังทอง) ในวันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม 2554 ที่ผ่านมา (วันปิยะมหาราช)
พิธีที่ 25 ณ วัดละหารไร่ พิธีปลุกเสกพระบูชาปูนปั้น รุ่น "จันทร์เพ็ญ เจดีย์ทอง" พิมพ์ย้อนยุค หลวงปู่ทิม อิสริโก คณะ ผู้สร้างขุนแผนระฆังทองและพระเครื่องเจดีย์ทองเป็นเจ้าภาพและสร้างพระถวายวัด
พิธีในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของวัดละหารไร่ที่พระเครื่องของคณะผู้จัดสร้างที่ได้รับการปลุกเสกในคืนวันเพ็ญท่ามกลางแสงจันทร์วันเพ็ญ ณ วัดละหารไร่ จ.ระยอง มี รุ่น เจดีย์ทอง รุ่นพิชิตมาร รุ่น จันทร์เพ็ญ เจดีย์ทอง โดยพรามณ์สุขกล่าวอัญเชิญครูบาอาจารย์เทพพรหมทั้งหลายให้ช่วยลงมาอำนวยพระพรชัยกรรมสิทธิ์ ผมได้นำวัตถุมงคลสร้อยในคอ ได้แก่ พระขุนแผนผงพรายกุมารสมัยหลวงปุ่ทิมปลุกเสก รูปหล่อพระเจ้าตากสิน เนื้อนวะปี18 หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ 05 พระปิดตาบัวผุดหลวงปู่ทิม(ที่หลวงปู่ทิมตัดดอกบัวในคืนจันทร์เพ็ญ) และ พระพิฆเนศจับงวง(งากำจัด)สุดยอดวัดเขาอ้อ วางไว้เพื่อบวงสรวงบูชาครู เพื่ออัญเชิญครุบาอาจารย์สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายลงมาช่วยในการปลุกเสกพระเครื่องครั้งนี้ให้มีพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ พระเทวะคุณ ครอบจักรวาล เป็นดั่งดวงแก้วสารพัดนึก
พระเกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสก
หลวงพ่อสิน วัดละหารใหญ่
หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ
พระอาจารย์เชย วัดละหารไร่
เนื่องด้วยตามประวัติหลวงปู่ทิม ท่านสำเร็จวิชาจินดามณี แม้แต่หลวงพ่อสาครท่านก็เห็นคุณวิเศษมหามนต์จินดามณีที่หลวงปู่ทิมทำให้เห็นประจักษ์มาแล้ว หลวงปู่ทิมท่านจะสรงน้ำปีละ 1 ครั้งเท่านั้นในคืนวันเพ็ญเดือน12 และหลวงปู่ทิมท่านก็เคยระเบิดน้ำทำตะกรุดใต้น้ำมาแล้วเช่นกัน
และ ในพิธีในครั้งนี้ ซึ่งเป็นปีเกิด(ปีเถาะ)หลวงปู่ทิม ทางคณะได้นำน้ำพุทธมนต์ในพระวิหารหลวงปู่ทิมมาใส่ในถังน้ำและอัญเชิญรูปปั้นหลวงปู่ทิมพร้อมพระกริ่งชินบัญชร แช่น้ำจันทร์เพ็ญเพื่อขอบารมีหลวงปู่ทิมปลุกเสก(อาโปกสิน)พระคาถามหามนต์จินดามณีโดยมัดโยงสายสินธุ์จากรูปปั้นหลวงปุ่ทิมใต้น้ำออกมาโยงในวัตถุมงคลที่เข้าร่วมพิธีทั้งหมด ในระหว่างพิธีเสกได้เกิดพระจันทร์ทรงกลดให้เห็นกันทุกท่านแสดงให้รู้ถึงว่า เบื้องบนได้รับรู้และได้ช่วยลงมาทำให้สำเร็จสมปรารถนาทุกประการ แม้แต่ อาจารย์ธงชัย ฆารวาสจอมขมังเวทย์ศิษย์หลวงปู่เทพโลกอุดรยังเอ่ยปากบอกผมว่า หลวงปู่ทิมครูบาอาจารย์เทพพรหมลงมาช่วยกันครบถ้วนพระชุดนี้เข้มขลังมาก และผมเชื่ออย่างแน่แท้ว่าผู้ที่ได้บูชาจะมีแต่ความสุขร่มเย็นใต้ร่มพุทธบารมีอย่างแน่นอน
ปลุกเสกในฤกษ์มงคล คือ เวลา 06.19-10.29,12.09-14.59,16.39-21.19 น.
ฤกษ์ ปลอด คือ ไม่มีอันตราย ส่งผลดี ปราศจากอุปสรรคมาขัดขวาง
ฤกษ์ ลาภะ คือ ลาภผลรายได้เพิ่ม ส่งเสริมฤกษ์ดีนัก เป็นมงคลดีนัก
มหัทธโนฤกษ์ คือ มุ่งถึงความมั่นคงถาวร มีโอกาสเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นสำหรับการทำงานเพื่อหาลาภผล ฤกษ์นี้เจริญทางทรัพย์สิน หลักทรัพย์มั่นคง เหมาะแก่การทำกิจการกับสถาบันการเงิน การค้า การลงทุน (ฤกษ์เวลาแห่งมหามนต์จินดามณี)
เวลา 24.00 น. พระชัยมงคล ชัยวงศ์สุรฤทธิ์ เจริญพระพุทธมนต์มงคลจักรวาล
พิธีที่ 26 วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ.2554 พิธีปลุกเสกใหญ่ และ พิธีปลุกเสกมหามนต์ชินบัญชร ณ วัดใหม่อมตรส บางขุนพรหม ขอบารมีสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี วัดในเครือสมเด็จโต สมเด็จบางขุนพรหมอันลือชื่อทั่วฟ้าแดนสยาม ผมเองก็ได้จุดธูปเทียนบอกกล่าวสมเด็จโต และ หลวงปู่ทิม ในครั้งนี้
รายชื่อพระเกจิอาจารย์ที่ร่วมอธิฐานจิตปลุกเสก
1.พระสุนทรธรรมมานุวัตร หลวงพ่อเอียด อินฺทวํโส วัดไผ่ล้อม จ.พระนครศรีอยุธยา
2.พระครูสุววรรณสีลาธิคุณ หลวงพ่อพูน ฐิตสีโล วัดบ้านแพน จ.พระนครศรีอยุธยา
3.พระครูพิศาลจริยภิรมย์ พระมหาสุรศักดิ์ อติสักโข วัดประดู่ จ.สมุทรสงคราม
4.พระครูวิมลญาณอุดม พระอาจารย์ติ๋ว ฐิตวฑฺฒโน วัดมณีชลขัณฑ์ จ.ลพบุรี
5.พระครูจันทสิริธร หลวงพ่อสารันต์ จนฺทนูปโม วัดดงน้อย จ.ลพบุรี
6.พระครูธีรพัชโรภาส หลวงพ่อผ่อง ธมฺมธีโร วัดพรหมยาม จ.เพชรบูรณ์
7.พระครูพิพัฒน์วิทยาคม หลวงพ่อเจริญ ฐานยุตฺโต วัดโนนสว่าง จ.อุดรธานี
8.พระราชรัตนาภรณ์ หลวงพ่อทองสืบ สจฺจสาโร วัดอินทรวิหาร กรุงเทพ
9.พระราชประสิทธิวิมล หลวงพ่อประจวบ วัดระฆัง กรุงเทพ
10.พระอาจารย์ประสูติ ปิยธมฺโม วัดในเตา จ.ตรัง
11.พระครูอนุวัตรชินวงศ์ หลวงพ่อจอย วัดโนนไทย จ.นครราชสีมา
12.พระครูประทุมวรกิจ หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฏิทอง จ.ปทุมธานี
13.ครูบากฤษณะ อินฺทวณํโณ วัดวังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
14.หลวงพ่ออวยพร วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม
15.หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน จ.ลพบุรี
16.พระครูสังฆรักษ์ หลวงพ่อนพวรรณ คุณสาโร วัดเสนานิมิต จ.พระนครศรีอยุธยา
17.หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดงใต้ จ.พระนครศรีอยุธยา
18.หลวงพ่อสิริ วัดตาล จ.นนทบุรี
19.หลวงพ่อหล่ำ วัดสามัคคีธรรม กรุงเทพ
20.พระราชธรรมสุนร วัดพระเชตุพน กรุงเทพ
21.พระพิพัฒน์สังวรคุณ วัดสุทัศน์ กรุงเทพ
22.พระปริยัติธรรมสุนทร วัดราชสิงขร กรุงเทพ
23.พระบวรรังษี วัดระฆัง กรุงเทพ
24.พระครูโสภิตวิริยาภรณ์ พระอาจารย์ อิฏฐ์ ภทฺทจาโร วัดจุฬามณี จ.สมุทรสงคราม
25.พระสิทธิพัฒนาภรณ์ วัดไชโย จ.อ่างทอง
26.พระครูวินัยธรชาญณรงค์ ติกขญาโณ วัดเลา กรุงเทพ
..........................................................
พิธีที่ 27 หลวงพ่อหวล วัดพุทไธศวรรย์ พระนครศรีอยุธยา เมตตาปลุกเสกเดี่ยว เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ.2554 เมื่อผมบอกที่มาที่ไปกับหลวงพ่อให้ท่านทราบ ท่านมองหน้าผมสักพัก ท่านก็บอกผมว่า "ให้ไปยกมา" ขณะเสก ท่านเชิญครูบาอาจารย์ ท่านเสกอยู่นานมากจิตท่านขณะปลุกเสกนิ่งและลึกมากโดยท่านเข้าญาณสมาบัติชั้นสูง นอกจากนี้ท่านพ่อหวลท่านยังมีชื่อเสียงในการเรียกเหล็กไหลอีกด้วย ซึ่งพระเกจิที่สามารถอัญเชิญพญาสมิงเหล็กได้จะต้องเป็นพระที่มีคุณธรรมสูงและพลังจิตอันแก่กล้ายิ่งนัก จากการที่ผมได้ไปสัมผัสท่านมา ท่านเป็นพระที่น่าเลื่อมใสอย่างยิ่ง ท่านเป็นพระไม่ค่อยพูดนัก หลวงพ่อหวลมีลูกศิษย์ที่นับถือท่านมากมาย คนอยุธยาให้ความนับถือท่านอย่างยิ่ง
พิธีที่ 28 หลวงปู่เร่ง วัดดงแขวน จ.อุทัยธานี เมตตาปลุกเสกเดี่ยว เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ.2554 ผมได้ไปถึงที่วัดท่าน ท่านเหมือนทราบมาก่อนว่าเรากำลังมาจุดประสงค์อะไร ท่านพูดดักทางได้หมด เมื่อผมบอกเจตจำนงค์หมดสิ้น ก็ได้นำเหรียญรุ่น"พิชิตมาร"ซึ่งด้านหน้าเป็นหลวงปู่ทิม หลังเป็นพระเจ้าตากสินทรงม้าง้างพระแสงดาบพิชิตมารให้กับท่านดู ท่านถึงกับบอกว่า "พระนี่พลังเยอะพลังแรงดี จับแล้วขนลุกวาบเลย!" หลวงปู่เร่งท่านเป็นพระมีเมตตาสูง สมเป็นศิษย์หลวงพ่อเคลือบอย่างแท้จริง หลวงปู่เร่งท่านเสกคราวนี้ท่านบอกกล่าวจุดธูปเทียนต่อหน้ารูปปั้นหลวงพ่อเคลือบโดยเชิญท่านมาร่วมเสกให้ในครั้งนี้ หลังจากเสร็จพิธี ท่านบอกว่า "หยุดเสกได้แล้ว พระนี่ดีแล้ว หลวงพ่อเคลือบองค์เดียวก็เหลือกินแล้ว" ผมและท่านก็หัวเราะ ท่านว่า "อย่าไปลองปืนนะ เดี๋ยวปืนแตกเหมือนคนอื่นที่เคยนำไปลอง"
พิธีที่ 29 หลวงพ่อทวน วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท เมตตาปลุกเสกเดี่ยว เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ.2554 ผมไปกราบขอบารมีหลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า และได้คุยกับหลวงพ่อทวน ซึ่งท่านเป็นศิษย์เอกหลวงพ่อสำราญ และ ได้ขอร่ำเรียนวิชาจากหลวงปู่สุภาอีกด้วย ผมเรียนท่านว่า "อยากจะขอความเมตตาหลวงพ่อทวนและขอบารมีหลวงปู่ศุขเมตตาปลุกเสกพระเครื่องให้ด้วย...ฯลฯ" เมื่อท่านได้ทราบจุดประสงค์ต่างๆ ท่านก็บอกให้ผมไปเอามา แล้วท่านก็สั่งกรรมการวัดให้มัดสายสินโยงไปยังรูปปั้นหลวงปู่ศุข และ หลวงพ่อสำราญ ท่านบอกกรรมการว่า "แค่สองอาจารย์นี่..ก็สุดยอดที่สุดแล้ว" ผมเองก็ได้โยงสายสินจากรูปปั้นพระเจ้าตากที่อยู่ที่วัดท่านโยงมาร่วมกับสายสินของหลวงปู่ศุขที่เชื่อมในกองวัตถุมงคลด้วย หลวงพ่อทวนท่านปลุกเสกอยู่นานมากและตั้งใจอย่างยิ่ง หลวงพ่อทวนท่านไม่ธรรมดา คนนับถือท่านเยอะมาก ประสบการพระเครื่องท่านไม่แพ้ใครในพระยุคนี้ ผมภูมิใจอย่างยิ่งที่การเสกครั้งนี้ได้มีบารมีหลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า มาร่วมช่วยในกาลครั้งนี้ด้วย
พิธีที่ 30 หลวงปู่นะ วัดหนองบัว จ.ชัยนาท เมตตาปลุกเสกเดี่ยว เมื่อเย็นวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ.2554 ผมตั้งใจไว้อยู่แล้วว่ายังไงการเสกคราวนี้จะต้องให้หลวงปู่นะท่านเมตตาปลุกเสกให้ด้วย จำได้ว่าท่านไปเสกที่วัดโฆสิตาราม มีคนนำพระเครื่องที่อัดพลาสติกมาไว้ข้างท่านเมื่อเสกเสร็จพลาสติกถึงกับแตกผมเห็นกับตา ครั้งนี้ผมตั้งใจไปวัดท่านจะได้ไม่ได้ก็ขอไปกราบก็ยังดี เป็นจังหวะที่ท่านไม่ค่อยสบายนักไม่ได้สรงน้ำมา 3 วัน ผมได้บอกกับพระหลวงพี่บุ๋มในการทำพระครั้งนี้ หลวงพี่ท่านก็เมตตาบอกหลวงปู่นะให้ ทั้งๆที่ท่านก็ด่วนจะไปสรงน้ำแล้ว ในใจผมคิดว่างานนี้สงสัยแห้วซะแล้ว เมื่อท่านทราบ ท่านมองสักพัก ท่านก็รับสายสินไปปลุกเสกให้โดยบริกรรมพระคาถาปลุกเสก ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าตนจะบาปไหมที่ไปรบกวนท่านปลุกเสกทั้งๆที่ท่านไม่สบาย แต่หลวงปู่นะท่านก็ไม่มีบ่นและเห็นในความตั้งใจของผม และผมก็นับถือท่านเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ในใจทีแรกคิดว่าคงไม่ได้รับการเสกแน่แล้วเรา ท่านเมตตาปลุกเสกให้ในครั้งนี้อย่างเต็มอกเต็มใจอย่างยิ่ง จิตท่านไปไกลกว่าปากท่านที่กำลังบริกรรมพระคาถาเสียอีก ท่านเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบองค์หนึ่ง คนชัยนาทนับถือท่านมาก ท่านร่ำเรียนวิชาจากสายหลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า ไว้หลายองค์ เมื่อครั้งท่านปลุกเสกเสร็จ ท่านว่า " อ้าว!..ขอให้ปืนยิงไม่ออก" ผมกราบหลวงปู่นะงามๆหลายครั้ง ผมนับถือหลวงปู่นะเป็นเกจิในดวงใจของพระยุคปัจจุบันนี้เลย หาใครเทียมท่านยากนักในพระยุคนี้
พิธีที่ 31 หลวงปู่นาม วัดน้อยชมภู่ จ.สุพรรณบุรี เมตตาปลุกเสกเดี่ยว เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ.2554 ผมไปรอท่านอยู่นาน เนื่องจากท่านติดนิมนต์ปลุกเสกพระเครื่องในกรุงเทพ หลังจากที่สมกับการรอคอย ท่านเห็นผมจำได้ ผมเองมาหาท่านสองครั้ง ครั้งแรกท่านเมตตาปลุกเสกพระขุนแผนพิมพ์ใหญ่ระฆังทองให้ ท่านถึงกับพูดเองว่า "หลวงปู่ทิมท่านเก่ง ท่านลงมาทำให้ด้วย...,พระเครื่องที่ทำดีแล้ว ดีๆไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ" มาครั้งที่ 2 ผมนำพระเครื่องรุ่น เจดีย์ทอง พระขุนแผนพิมพ์เล็กมากะตั้งใจให้ท่านปลุกเสก แต่ผมวาระนี้ท่านป่วยไม่สบายมากเป็นงูสวัดในหู ซึ่งเป็นโรคที่ทรมานมาก ผมจึงไม่ได้รบกวนท่านเสกในครั้งนั้น ครั้งที่ 3 ผมมาที่วัดท่านอีกครั้งเพื่อที่จะให้ท่านไปปลุกเสกพระเครื่องที่วัดละหารไร่ ในวันที่ 1 ตุลาคม เมื่อท่านเห็นใบฏีกา ท่านเองก็เคยไปอยู่แถวนั้นมาก่อน ท่านเคยเล่าให้ผมฟัง ผมดูท่านแล้วท่านอยากไปกราบหลวงปู่ทิมที่วัดละหารไร่มากๆ ท่านรับปากว่าไปๆ แต่เมื่อถึงเวลานั้นจำเป็นเพราะเหตุน้ำได้ท่วมวัด ที่วัดท่านล้อมรอบด้วยทุ่งนา ซึ่งท่านเองไปไม่ได้ ครั้งนี้ครั้งที่ 4 ผมจึงมานั่งรอท่านจนเย็นเพื่อให้ท่านปลุกเสกพระเครื่องในครั้งนี้ ท่านเองก็คิดว่ามีคนช่วยยกผมเรียนท่านว่ามากันแค่สองคน ผมยกคนเดียวซะส่วนใหญครับ ท่านเห็นถึงความพยายามอุสาหะความตั้งใจ เนื่องจากพระเครื่องไม่ใช่น้อยๆและมีน้ำหนักหนักมาก ท่านบอกให้ผมไปเอาก้อนสายสินที่ว่างไว้มาท่านจะเสกให้ ท่านเสกอยู่นานและตั้งใจเป็นอย่างมาก ผมถามท่านอีกครั้งเมื่อเสร็จพิธี พระที่ทำนี่มีข้อผิดพลาดใดๆไหมครับหลวงปู่ ท่านว่า "ไม่มีข้อผิดพลาด พระนี่ดีแล้ว ดีๆ" แล้วหลวงปู่นามท่านก็ยิ้มๆเหมือนทราบอะไรบางอย่าง หลวงปู่นามท่านเป็นพระที่มีเมตตาสูงมาก วันหนึ่งๆลูกศิษย์ทั่วสารทิศมากราบท่านทุกวัน ท่านเองไม่มีบ่น หลังจากนั้นผมจึงกราบลาท่าน หลวงปู่นามท่านก็พนมมือระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้าขออัญเชิญคุณพระรัตนไตรให้ทุกๆท่านเดินทางโดยสวัสดิภาพปลอดภัยพบแต่ความสุขความเจริญโดยทั่วกัน ทุกท่านที่มาอยู่ร่วมกราบท่านในวันนั้น
นับว่าพระขุนแผนรุ่นนี้น่าสะสมเช่าบูชาเป็นอย่างมากทั้งด้านมวลสารและรูปลักษณ์ ซึ่งผู้อ่านคงสามารถแบ่งเงินมาบูชาได้โดยไม่จำเป็นต้องมีเงินเรือนแสนแถมยังไม่รู้ว่าจะได้ของแท้หรือไม่ครับ บางทีแล้วขุนแผนรุ่นนี้อนาคตเป็นเหมือนดั่งสมเด็จบางขุนพรหม 2509 หรือเหรียญเจ้าสัวรุ่นสองก็เป็นได้ครับ
ราคาเปิดประมูล
6,009 บาท
ราคาปัจจุบัน
6,109 บาท
(!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ
50 บาท
วันเปิดประมูล
- 21 ส.ค. 2557 - 17:38:02 น.
วันปิดประมูล
- 22 ส.ค. 2557 - 20:47:41 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูล
Khong-D
(
229
)
(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1
- 21 ส.ค. 2557 - 17:39:19 น.
ยินดีส่งออกบัตรรับรองตามกฎ
ลด 500 ถ้าเอาไปออกบัตรเอง
จัดไป ไวๆ ง่ายๆ ขอบคุณครับ
ข้อมูลเพิ่มเติม 2
- 21 ส.ค. 2557 - 17:40:00 น.
กล่องเดิม
ราคาปัจจุบัน :
6,109 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :
50 บาท
!!! ปิดประมูลแล้ว !!!
ผู้ชนะประมูล
pachpoo
(
927
)
Copyright ©G-PRA.COM
www1