(0)
ปิดตากิมจ๊อ พิมพ์เล็ก หลวงปู่ทาบ






รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องปิดตากิมจ๊อ พิมพ์เล็ก หลวงปู่ทาบ
รายละเอียดปิดตากิมจ๊อ พิมพ์เล็ก หลวงปู่ทาบ

หลวงปู่ทาบ หรือท่านพระครูอรรถโกศล เทพเจ้าแห่งเมตตานิยมของเมืองไทย เป็นพระเกจิอาจารย์ท่านสำคัญแห่งภาคตะวันออก ท่านมีสีผึ้งเขียวอันลือลั่น และเป็นสหธรรมิกกับหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ผู้มีธรรมะและอภิญาเสมอกัน ดังที่ทราบพิธีปลุกเสกพระของท่านทาบ ต้องเชิญท่านทิม พิธีปลุกเสกพระของท่านทิม ต้องเชิญท่านทาบ จนนักเลงรุ่นใหญ่ต่างติดปาก ว่า ทาบ-ทิม

อาจารย์ปถม อาจสาคร เล่าว่า คนระยองเคยผูกวลียกย่องไว้ว่า “อิทธิฤทธิ์หลวงพ่อเพ่ง เมตตามหานิยมหลวงพ่อทาบ อาคมหลวงพ่อทิม”

เงินจากการเช่าบูชา 1% หักรวบรวมทำบุญให้พระภิกษุอาพาธ ณ โรงพยาบาลสงฆ์ เพื่อเป็นการถวายความน้อมสักการะ กตเวทิตารำลึก แด่ปูชนียาจารย์หลวงปู่ทาบครับ

ขอบคุณครับ
ต้อยติ่ง (เก้า กระบกขึ้นผึ้ง)
ราคาเปิดประมูล200 บาท
ราคาปัจจุบัน1,200 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ20 บาท
วันเปิดประมูล - 09 พ.ย. 2557 - 02:11:48 น.
วันปิดประมูล - 14 พ.ย. 2557 - 19:51:21 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลต้อยติ่ง (174)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 10 พ.ย. 2557 - 11:56:04 น.



องค์นี้ตั้งแดงไว้ที่ 1,200.- ขอบคุณครับ


ข้อมูลเพิ่มเติม 2 - 11 พ.ย. 2557 - 14:50:10 น.



หลวงปู่ทาบ พระดีที่ไม่ควรถูกลืม
เรียบเรียง/แก้ไขโดย เก้า กระบกขึ้นผึ้ง
วันอังคาร ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2557

หนึ่งในเกจิสำคัญแห่งยุค:
พระครูอรรถโกศล หลวงปู่ทาบ นครปุญโญ อดีตเจ้าอาวาสวัดบางกระบกขึ้นผึ้ง ตำบลชากกระบก อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง มีอายุอยู่ระหว่างปี พ.ศ.2420-2509 รวมสิริอายุได้ 89 ปี ท่านเป็นพระสำคัญแห่งยุคสมัย โดยสังเกตได้จากการ ได้รับนิมนต์ให้ร่วมพิธีปลุกเสกพระเครื่องสำคัญๆต่างๆ ในยุคสมัยของท่านมากมาย อาทิ เป็นหนึ่งในพันกว่าพระเกจิอาจารย์แห่งยุค ที่ได้รับนิมนต์ ให้ร่วมจารแผ่นโลหะหล่อหลอมสร้าง พระเครื่องหลวงพ่อโต ที่วัดกัลยา เมื่อปี พ.ศ. 2499-2500

พูดถึงชื่อเสียงของพระอาจารย์ในจังหวัดระยองยุคเก่า ๆ แล้วมีเยอะแยะมากมาย ที่โด่งดังมากที่สุดก็เป็น หลวงพ่อวงศ์ วัดบ้านค่าย หลวงพ่อวัดปากน้ำพังราด หลวงพ่อปั้นวัดทะเลน้อย ขนาดรูปภาพของท่าน เคยมีคนไปถ่ายภาพบ่อยๆ แต่ไม่ติด หลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก ซึ่งท่านผู้อ่านทั้งหลายคงจะพอได้ยินชื่อเสียงของท่านกันมาบ้างแล้วนะครับ

สำหรับพระอาจารย์ในยุคของหลวงพ่อทาบนั้นก็มี หลวงพ่อรัตน์ วัดหนองระบอก หลวงพ่อดิ่ง วัดบ้านค่าย หลวงพ่อนิด วัดทับมา หลวงพ่อหอม วัดชากหมาก หลวงพ่อโต วัดชากกระโดน หลวงพ่อทัด วัดห้วงหิน พระอาจารย์ในยุคของหลวงพ่อทาบนี้เก่ง ๆ มีชื่อเสียงโด่งดังมาก ๆ อีกท่านหนึ่งที่ดังและพระเครื่องของท่าน ราคาการเช่าหาแพง หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ ซึ่งท่านก็สนิทสนมกับหลวงพ่อนิด วัดทับมา และหลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้งอย่างมาก

ใจบุญตั้งแต่เด็ก:
หลวงปู่ทาบ เกิดที่หมู่บ้านนาตาขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง เมื่อปีฉลู พ.ศ. 2420 คุณพ่อท่านชื่อ ฉุน คุณแม่ท่านชื่อ ฉิม พ่อแม่ของท่านประกอบอาชีพในการทำนา ทำสวน เมื่อท่านเกิดมานั้นเป็น ที่แปลกกว่าเด็กทั่ว ๆ ไป ผิวพรรณของท่านผ่องใสมีสง่าราศรี พอเติบโตขึ้นมาก็ว่านอนสอนง่าย และเป็นเด็ก ที่ใจบุญอย่างมาก เมื่องพ่อแม่ขอท่านไปหาปลามาขังไว้ ถ้าท่านรู้ว่าขังตรงไหนมักจะไปปล่อยจนหมด ถึงจะถูกทำโทษ ท่านก็ไม่เคยที่จะแค้นหรือร้องไห้อะไรมากมาย ยิ่งให้ทำปลาเพื่อเอาไปปรุงอาหารด้วยแล้ว ท่านไม่อยากจะทำเลย จนพ่อแม่ของท่านรู้ดีว่า หากขืนได้ปลามาขังไว้ทำอาหารก็ต้องซ่อนไว้ในที่ไกล และไม่ให้ลูกชายรู้ เมื่อจะทำอาหารก็ จัดการทำขึ้นเอง บางคราวเคยดัดนิสัยเหมือนจงใจแกล้งลูกชายของตนเองว่าจะเป็นอย่างไร ทำอาหาร แต่พวกผักต้ม แกงหัวปลี รับประทานกับพวกน้ำพริก น้ำพริกเผา ลูกชายของเขาไม่เคยบ่นว่าหาว่าไม่อร่อย คือ มีอย่างไรก็รับประทานอย่างนั้น งานอะไรใช้ให้ทำท่านทำได้จะทำทันที ขยันช่วยเหลืออย่างดี แต่ว่าถ้าให้ ปลาฆ่าสัตว์ตัดชีวิตแล้ว ปลาที่ขังไว้หายเรียบจะปล่อยจนหมด เมื่อเล่าเรียนเขียนอ่านจบแล้วก็ช่วยพ่อแม่ ของท่านประกอบอาชีพทำนา ทำไร่ หาเงินมาใช้จ่ายเป็นของตนเองด้วยและช่วยเหลือครอบครัว เป็นผู้ที่มีใจโอบอ้อม อารีเปี่ยมด้วยเมตตา ผู้ใดที่ทำอะไรก็ตามที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ต่อส่วนรวม ทำถนน ก่อสร้างสะพาน ท่านรู้จะ ไปช่วยเหลือทุกครั้ง และจะติดตามพ่อแม่ของท่านเข้าวัดทุกวันพระ ทุกเช้าถ้าไม่ได้ไปไถนาหรือไปเกี่ยวข้าวหรือ ทำสวนท่านจะใส่บาตรพระเสมอ ๆ และบางคราวท่านก็จะไปช่วยเหลือพระในวัดต้มน้ำร้อนชงชาหรืองานก่อสร้างต่าง ๆ พอท่านมีอายุได้ 19 ปี ได้รับการเกณฑ์ทหารท่านจับได้ใบแดงต้องไปเป็นทหารเรือรับใช้ชาติจนครบ 4 ปี

บวชตลอดชีวิต:
หลังจากที่ ปลดประจำการแล้วท่านก็เดินทางกลับบ้าน เป็นที่ยินดีของพ่อแม่ที่ได้ทำการบวชลูกชายพร้อมทั้งญาตสนิทพี่น้อง ณ วัดนาตาขวัญ พ.ศ. 2442 ครูสมุทรสมานคุณ (หลวงพ่อแหยว) วัดป่าประดู่ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อมาก วัดนาตาขวัญ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์รวย วัดบ้านแลง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ภายหลังอุปสมบทได้ รับฉายาว่า "นครปุญโญ" และได้จำพรรษาที่วัดนาตาขวัญ ศึกษาหาความรู้ด้านธรรมะตามแบบฉบับของพระสงฆ์ที่บวช ใหม่ ท่องบทสวดมนต์จนคล่องทั้งศึกษาข้อธรรมะ ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดในพระวินัย ไม่เคยขาดเรื่องการทำวัตรเช้า และวัตรค่ำแต่อย่างใด นอกจากจะอาพาธหรือมีกิจธุระไปกลับมาไม่ทัน ท่านสอบนักธรรมตรีและนักธรรมโทได้ ช่วยเหลืองานพระศาสนา การที่ท่านบวชเข้ามาเป็นพระสงฆ์ได้ศึกษาหาความรู้และปฏิบัติธรรม ทำให้จิตใจของท่านสงบท่านจึงตัดสินใจไม่ยอมลาสึก เมื่อพ่อแม่ของท่านทราบว่าท่านไม่ลาสึก ท่านทั้งสองมีความปลาบปลื้ม อย่างยิ่งที่บุตรชายของท่านเดินทางที่ถูกเดินทางแห่งความสงบ

พระอาจารย์ที่สนิทสนม เคารพนับถือกัน/สหายธรรม:
พระอาจารย์ที่สนิทสนมกับท่าน และมักจะนิมนต์ให้ท่านไปร่วมงานด้วยเสมอ ไม่ใช่เพราะว่าท่านจะเป็นพระชั้นผู้ใหญ่ หรือเจ้าคณะตำบลอะไร แต่มีความเคารพนับถือกันเป็นการส่วนตัว อีกทั้งเลื่อมใสท่าน ได้แก่
หลวงพ่อนิด วัดทับมา
หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
หลวงพ่อหอม วัดชากหมากนี้นับถือกันมาก เคยเดินธุดงค์ร่วมกันหลายคราว
หลวงพ่อดิ่ง วัดบ้านค่ายก็นับถือกันมาก เสียดายที่หลวงพ่อดิ่งอายุน้อยและสร้างพระเครื่องน้อย ไม่อย่างนั้นชื่อเสียงของท่านจะดังไม่น้อย
นอกจากนี้หลวงปู่ทาบยัง สนิทสนมกับหลวงพ่อเฮี้ยง และหลวงพ่อศรี วัดอ่างศิลาอย่างมาก ไปมาหาสู่กันอยู่เสมอ ๆ

การโดนลองของ:
พระสงค์ที่พาพระเณรออกเดินธุดงค์ไปทางวัดกระบกขึ้นผึ้ง มักจะพากันเข้าไปทำวัตรและพักอย่างน้อยหนึ่งคืน แล้วถึงจะออกเดินทางต่อไป แม้แต่การทดลองทดสอบวิชาจากพระธุดงค์ หรือพวกกระเหรี่ยง พวกชาวลาวที่ไป ขายผ้าขายของป่าตามที่ต่าง ๆ แต่พอเวลาใกล้ค่ำก็มาขอพักที่วัด หลวงปู่ทาบรู้ดีว่าคนพวกนี้บางคนนิสัยดีเคารพในสถานที่ บางคนก็อวดเก่งชอบลองดีดูว่าเจ้าอาวาสจะเก่งไหม ผู้ที่ชอบลองกับท่านนั้น บางรายท่านดัดนิสัยเสียจนไม่ต้องนอนเลยทั้งคืน พอเช้าเข้าไปกราบขอขมาท่านแล้วก็รีบเดินทางไปจากวัดทันที

เมตตาสูง :
พระอาจารย์ต่าง ๆที่เล่าเรียนวิชาจากพรอาจารย์นั้น บางรูปชอบทางคงกระพันชาตรี บางรูปชอบทางรักษาโรคบางรูปเก่งทาง ลงหมึกลงน้ำมัน บางรูปเก่งทางแก้อาถรรพณ์ หลวงปู่ทาบเองมีครบครัน แต่ท่านมุ่งไปทางเมตตามหานิยม ทางเจริญทรัพย์ ทางค้าขายมากกว่า เพราะใคร ๆ ก็ต้องการ ผู้คนที่มีของดีของท่าน ไปไหนก็จะรอดพ้นอันตราย มีเสน่ห์ จึงเป็นที่นิยม ของพวกหนุ่ม ๆ กันมาก

สีผึ้งยอดขลัง:
สีผึ้งของท่านเป็นสีผึ้งที่มีสีแปลกอย่างมาก ผิดจากสีผึ้งของพระอาจารย์อื่น ๆ เช่น

ของหลวงพ่อหอมนั้นท่านจะปลุกเสกตั้งแต่เช้าไปจนถึงพระอาทิตย์ตรงศีรษะ หรือเพลพอดีเป็นอันใช้ได้ แล้วการปลุกเสกของท่านต้องปลุกเสกที่กลางแจ้ง ทำครั้งหนึ่งมากพอสมควรแล้วมี ความขลังมาก ท่านจะใช้สีผึ้งที่ซื้อมาจากร้านในตลาด บางครั้งศิษย์ของท่านก็ซื้อไปให้เยอะ อย่างสีผึ้งเจ็ดจันทร์เจ็ดอังคาร

ของหลวงปู่ลัด วัดหนองกระบอก หลวงปู่เริ่ม วัดจุกกะเฌอ ต้องครบ 7 จันทร์ 7 อังคาร ถึงจะขลังเด่นทางมหานิยมทางค้าขาย สีของสีผึ้งจะเหลืองปนขาว

แต่ของหลวงปู่ทาบสีจะเขียวมีส่วนผสมของ ว่านบางชนิดที่มีสรรพคุณทางมหานิยม พอเอาไว้สักพักหนึ่งหลังจากที่เคี่ยวแล้วจะออกสีเขียว แต่แรกจะออกสีน้ำตาล การปลุกเสกนั้นลงทางมหานิยมทางมหาเสน่ห์ ทางเมตตาทั่ว ๆ ไป แต่เด่นทางมหาเสน่ห์ยิ่ง พวกหนุ่ม ๆ ต่างเดินทางไปแวะเวียนขอกันมาก เรื่องอันเกิดมาจากศิษย์ของท่านคนหนึ่งเป็นคนทำมาหากิน ขยันทำงานแต่ ด้วยฐานะยากจน ท่านให้สีผึ้งไปแล้วชีวิตก็ดีขึ้น มีภรรยารูปร่างหน้าสวยงามฐานะดี เหตุนี้เองจึงเป็นที่ต้องการ ของคนหนุ่ม ๆ ยิ่งนัก แต่ใช่ท่านจะให้ใครง่าย ๆ บางคนท่านให้ แต่ว่าต้องรับสัจจะกับท่านก่อนว่า เมื่อได้ตามที่ ประสงค์แล้วห้ามผิดสาบานหรือสัจจะเป็นอันขาด ถ้ารับได้ ท่านถึงให้สีผึ้งนั้นเพียงแค่หัวไม้ขีดเท่านั้นเอง แต่แล้วต้องห้ามใช้อีกเลย การทำสีผึ้งของท่านนั้นมีสรรพคุณสูงยิ่ง แต่ว่าถ้าใช้ไม่มีจะบังเกิดโทษทันที ท่านจึงไม่ยอมให้ใครนัก จึงได้เอาว่านที่มาใช้ผสมคั้น เอาน้ำทำสีผึ้งนั้นมาผสมทำพระเครื่องพร้อมด้วยสีผึ้ง ของท่านผสมทำพระเครื่องไปเลย

สีผึ้งเขียวของหลวงพ่อทาบนั้น ท่านทำเสร็จแล้ว จะใส่ไว้ในโถโบราณมีฝาครอบ ปรากฏอภินิหารคือ สีผึ้งเขียวของท่านจะงอก หรือเพิ่มปริมาณได้ตามความแรงของกำลังวัน บางครั้งสีผึ้งจะฟูขึ้นจนติดฝาครอบโถเกาะกันเป็นวงคล้ายๆ กับดอกของใบพลู ซึ่งเป็นรูปคล้ายดอกใบพลูนี้แหละขลังนัก ศิษย์วัดกระบกขึ้นผึ้งเมื่อเปิดฝาโถเห็นเข้าก็จะเอาใบจาก ซึ่งใช้สำหรับมวนบุหรี่สูบมาม้วนเป็นกรวยตักไป ใช้ได้ผลชะงัดนัก รายไหนรายนั้น มักหอบผ้าหอบผ่อนหนีตามคนป้ายไป และไม่เคยมีพลาดเลยสักรายเดียว ถามว่าต้องใช้ป้ายกี่ครั้งจึงจะสำเร็จ โดยมากครั้งเดียวก็สำเร็จ แต่ถ้าผู้หญิงบางคนดวงแข็งมีของดีคุ้ม หรืออำนาจดวงคุ้มครอง ก็ต้องใช้หลายหนหน่อย แต่สำเร็จทุกราย สีผึ้งของหลวงพ่อทาบนั้น มีเคล็ดวิธีการใช้ดุจเดียวกับหลวงปู่ทิม คือใช้ตามคำสั่งความสำคัญของนิ้วมือทั้ง 5 นิ้ว นับแต่หัวแม่โป้งเรื่อยมาจนถึงนิ้วก้อยซึ่งเล็กที่สุด และวิธีจะใช้ป้ายแตะที่ตัวผู้หญิงซึ่งหมายปอง อย่าป้ายให้ต่ำกว่าบั้นเอวลงไป และป้ายแตะให้ถูกต้องเนื้อ อย่าให้ถูกผ้า เพราะจะได้ผลช้า

พระเครื่อง:
พระเครื่องของท่านที่เป็นพระสมเด็จยุคแรกนั้น จะมีความหนาพอสมควร สมัยก่อนนั้นจะพบเห็นตามแผงพระเครื่องทั่วๆ ไปบ่อยมาก แต่ไม่มีใครที่จะรู้จักกันนัก นอกจากคนใน ท้องถิ่นที่มาพบเข้าถึงจะรู้ว่าเป็นของท่านหรือคนที่เคยพบเห็นมาแล้ว เนื้อพระของท่านยุคนั้นจะออกสีแดงปนเขียว บางองค์ปนน้ำตาล ด้านหลังสังเกตให้ดีจะมีคราบของสีผึ้งหลังจากนั้นท่านก็สร้างขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้เนื้อพระจะออกสีเขียว มีความละเอียดอย่างมาก

ตำนานอันลือลั่น:
มีตำนานที่คนระยองรุ่นใหญ่ต่างรู้ดี เมื่อปี พ.ศ.2503 จ.ระยอง ได้จัดให้มีการประกวดนางสาวระยองขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อคัดคนส่งไปประกวดนางสาวไทยที่กรุงเทพฯ ในงานรัฐธรรมนูญที่วังสราญรมย์ อ. บ้านค่าย ก็สรรหาสาวงามส่งเข้าชิงชัยตำแหน่งนางสาวระยอง เหมือนกับอำเภออื่น ๆ เช่นกัน เมื่อได้สาวงามชาวอำเภอบ้านค่ายแล้ว ทางอำเภอก็นำสาวงามผู้นั้นมาขัดสีฉวีวรรณแล้วสอนกิริยามารยาทจนเป็นที่เรียบร้อย พอใกล้วันประกวดนางงามระยอง เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเป็นไปได้ก็เกิดขึ้น สาวงามซึ่งจะเป็นตัวแทนสาวบ้านค่ายขึ้นเวทีประกวด เกิดสิวเห่อขึ้นเต็มหน้า เป็นที่ตกอกตกใจของคณะกรรมการอำเภอบ้านค่ายไปตามๆ กัน จะหาคนใหม่ก็ไม่ทัน ทุกคนต่างก็จนปัญญาไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาได้อย่างไร แต่ถึงอย่างไรก็ต้องส่งสาวผู้นี้เข้าประกวดอยู่ดี เพราะเตรียมการไว้แล้ว แต่โอกาสที่สาวบ้านค่ายจะเป็นนางงามระยองคงหมดหวังแน่ ก่อนถึงวันประกวดคณะกรรมการอำเภอบ้านค่ายทนเสียงอ้อนวอนของผู้ปกครองเด็กไม่ได้ จึงยอมให้ผู้ปกครองเด็กสาวคนนั้นนำไปหาหลวงพ่อทาบ หลวงพ่อทาบท่านทำน้ำมนต์ให้อาบ แล้วให้สีผึ้งเขียวมาหนึ่งหัวไม้ขีดไฟ และยังปลุกเสกแป้งผัดหน้าให้อีกหนึ่งห่อ ทั้งกำชับให้เอาสีผึ้งติดตัวขึ้นไปบนเวทีประกวด และเวลาประกวดก็ให้ใช้แป้งที่ท่านปลุกเสกผัดหน้าขึ้นไปเดินบนเวทีทุกครั้ง ผลการตัดสินสาวงามระยองปี พ.ศ.2503 นั้น ปรากฏว่าสาวน้อย อ. บ้านค่าย ได้ตำแหน่งนางสาวระยอง ทั้งๆ ที่ใบหน้าสิวขึ้นเยอะ ท่ามกลางความดีอกดีใจของชาวบ้านค่าย และความงุนงงของชาวอำเภออื่น ๆ และในปีต่อ ๆ มาอีก ๒-๓ ปี ชาวอำเภอบ้านค่ายก็ได้นางสาวระยองติดต่อกัน และนางงามบ้านค่ายทุกคนต่างไปขอให้หลวงพ่อทาบรดน้ำมนต์ปิดนะหน้าทอง ได้สีผึ้งเขียวติดตัวและปลุกเสกแป้งผัดหน้าให้เช่นกัน

วลีที่ไม่มีวันตาย:
อาจารย์ปถม อาจสาคร เล่าว่า คนระยองได้ผูกวลียกย่องอดีตบูรพาจารย์ เกจิอาจารย์แห่งยุค 3 ท่าน คือ หลวงพ่อเพ่ง หลวงพ่อทาบ และหลวงพ่อทิม ไว้ว่า “อิทธิฤทธิ์หลวงพ่อเพ่ง เมตตามหานิยมหลวงพ่อทาบ อาคมหลวงพ่อทิม”


ข้อมูลเพิ่มเติม 3 - 11 พ.ย. 2557 - 15:07:04 น.

ขออภัย แก้ไขคำในบทความ วัดกระบกขึ้นผึ้ง ตำบลบ้านค่าย อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง


 
ราคาปัจจุบัน :     1,200 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     20 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    Kittiwut (559)

 

Copyright ©G-PRA.COM