(0)
พระแก้วรัตนาภรณ์ เนื้อผง คุณสุธันย์ สุนทรเสวีได้จัดสร้าง ปี ๓๖ สุดยอดมวลสารและพิธี






รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องพระแก้วรัตนาภรณ์ เนื้อผง คุณสุธันย์ สุนทรเสวีได้จัดสร้าง ปี ๓๖ สุดยอดมวลสารและพิธี
รายละเอียดพระแก้วรัตนาภรณ์ เป็นพระเครื่องที่คุณสุธันย์ สุนทรเสวีได้จัดสร้างขึ้นด้วยเจตนาดี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหาทุนสร้างเขื่อนดินกันน้ำเซาะตลิ่งพัง ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายกับตัวอาคารของสถานีอนามัยปากสมุทร ที่คุณสุธันย์ดูแลรับผิดชอบอยู่ได้ เพราะตัวสถานีอนามัยอยู่ติดกับแม่น้ำแม่กลอง และยังเพื่อจัดตั้งกองทุนสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยด้านการรักษาพยาบาล


อันตัวคุณสุธันย์นั้นเป็นผู้ที่พิถีพิถันในเรื่องการสร้างพระมาก เห็นจะเป็นด้วยถูกปลุกฝังมาแต่เด็ก เนื่องจากสมัยก่อนนั้นบิดาของคุณสุธันย์ก็ชอบสร้างพระถวายครูบาอาจารย์ต่างๆ เช่นกัน และได้เก็บรวบรวมมวลสารสำคัญๆ ต่างๆ และผงของครูบาอาจารย์ต่างๆ ไว้มาก จนมาถึงยุคของคุณสุธันย์ก็ได้เจริญรอยตามบิดา อีกทั้งอาศัยอยู่ในแวดวงสาธารณสุข ซึ่งก้มีบุคลากรกระจายอยู่ทั่วประเทศ จึงได้ขอความร่วมมือจากพรรคพวกในแวดวงสาธารณสุขให้ช่วยกันรวบรวมมวลสารสำคัญๆ ทั้งจากสถานที่สำคัญและครุบาอาจารย์ต่างๆ ในแต่ละจังหวัด ดังนั้นในเรื่องของมวลสารแล้วขึ้นชื่อว่ามือคุณสุธันย์แล้วเป็นอันเชื่อใจได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคราวที่บูรณะวัดพระแก้ว ได้มีเศษกระเบื้อง ผงชันเพชรจากองค์บุษบกที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตที่กองๆ ทิ้งไว้โดยไม่รู้ค่า ก็ได้ถูกผู้มองเห็นการณ์ไกลว่าของเหล่านี้เป็นของที่ผ่านพิธีพุทธาภิเษกมานับครั้งไม่ถ้วนตั้งแต่ก่อตั้งกรุงรัตนโกสินทร์มาจนถึงป่านนี้ ขนาดเศษกระจกสีแผ่นเล็กๆ ที่หลุดออกมาแล้วเจอชาวต่างชาติที่รู้ไม่ถึงการณ์เก็บติดตัวนำกลับไปประเทศของตน ก็ยังโดนตามทวงซะจนต้องส่งคืนมา ก็เป็นเครื่องยืนยันการันตีได้ว่าของเหล่านี้แม้จะเป็นแค่เศษอิฐหรือเศษปูนที่กระเทาะออกมาต่างก็ถือได้ว่าเป้นของดีทั้งนั้น มีเทวดาเฝ้ารักษา ซึ่งมวลสารดังกล่าวก็ได้ถูกนำมาบดผสมเป้นมวลสารหลักขององค์พระที่สถาปนาขึ้น

พระแก้วรัตนาภรณ์ เป็น 1 ในชุดพระผงของขวัญพิมพ์พระแก้วมรกตทึ่คุณสุธันย์ สุนทรเสวี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสงคราม ได้จัดสร้างขึ้นเมื่อปี 2536 โดยมีขนาดกว้าง 1.6 ซม. สูง 2.3 ซม. ขนาดเท่าๆ กับพระของขวัญวัดปากน้ำ ด้านหน้าแกะพิมพ์เป็นรูปพระแก้วมรกตมีพระฉัพพรรรณรังษีแผ่ซ่านออกจากพระวรกายโดยรอบ ด้านหลัง เป็นมณฑปพระพุทธบาท 4 รอย ประทับอุณาโลมอยู่ข้างใน เนื้อหาวรรณะออกไปทางโทนสีขาวซึ่งมีมวลสารหลักเป็นผงจิตรลดา ผสมกับผงจากครูบาอาจารย์ต่างๆ ทั่วประเทศ

เมื่อสถาปนาเป้นองค์พระเรียบร้อยแล้ว ทางผู้สร้างก้ได้นำพระแก้วดังกล่าวเข้าพิธีพุทธาภิเษกหลายครั้ง หลายวาระ ทั้งพิธีที่วัดพระแก้ว วัดบวรนิเวศ วัดสุทัศน์ ฯลฯ หลังจากนั้นยังได้นำไปกราบขอความเมตตาจากครุบาอาจารย์ผู้ทรงศีลบริสุทธิ์และปริสุทธิจิตอธิษฐานจิตเพิ่มเติมโดย
1.หลวงปู่ครูบาเจ้าเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ ลำปาง ( พระใจเพชร ตามคำกล่าวของหลวงปุ่ดู่ เพราะวัตรปฏิบัติอันอุกฤษฏ์ของท่าน ยากจะหาผู้ที่มีสมาธิจิตและความเด็ดเดี่ยวเเน่วแน่แห่งดวงจิตเช่นท่านได้ ) ซึ่งแม้แต่พระบาทสมเด้จพระเจ้าอยู่หัว หรือในหลวงของพวกเราชนชาวไทยทั้งหลายก็ยังเคยเสด็จพระราชดำเนินไปกราบนมัสการท่านเมื่อปี 2521 และmi’ยอมรับนับถือท่านเป็นพระอาจารย์ ดังมีเรื่องเล่าว่า
เมื่อครั้งที่หลวงปู่เกษม เขมโก อาพาธเข้ารับการรักษาอยู่ในโรงพยาบาลศูนย์ลำปางนั้น วาระหนึ่งพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จ
พระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ เพื่อทรงเยี่ยมหลวงปู่เป้นการเฉพาะ
ตอนหนึ่งของการสนทนาทรงตรัสว่า ” หลวงพ่อเก่งวาโยกสิณ “
หลวงปู่ถามกลับว่า “ มหาบพิตรตรัสว่าอย่างไรนะ “
ในหลวงก็รับสั่งย้ำว่า ” หลวงพ่อเก่งวาโยกสิณ “
หลวงปู่เกษมจึงถามว่าเพราะอะไรจึงตรัสเช่นนั้น ในหลวงก็รับสั่งเล่าให้ฟังว่า
เมื่อครั้งที่ทรงเรือใบ ” มด “ แข่งขันที่สัตหีบ เรือใบของพระองค์ถูกคลื่นลมซัดพาออกนอกเส้นทางไปไกลในทะเล จะทรงเพียรหันเรือกลับอย่างไรก็ไม่เป้นผล ขณะที่ห่างฝั่งออกไปเรื่อยๆ นั้น ก็ทรงตั้งพระทัยระลึกถึงหลวงพ่อเกษม
ทันใดน้นก็ทรงทอดพระเนตรเห็นหลวงพอ่เกษมปรากฏกายยืนอยู่ในอากาศ จากนั้นกระแสลมก้เปลี่ยนทิศทางทันที พัดพาเรือใบเข้าสุ่ฝั่งอย่างรวดเร็ว และสามารถเอาชนะคนอื่นได้อย่างไม่น่าเชื่อ

สมัยหนึ่งเมื่อหลวงปู่ดู่ วัดสะแกยังทรงสังขารอยู่ได้เคยศิษย์ที่ปฏิบัติได้ดีจนมี ” ตาใน “ หลายคนช่วยกันดูว่า
” พวกแกลองดูทีซิว่า มีพระรูปไหนอยู่กับในหลวงบ้าง “
ศิษย์ท่านหนึ่งก้เข้าที่ตามหลวงปุ่สั่ง พักหนึ่งก็ลืมตาแล้วตอบว่า ” หลวงพ่อเกษมครับ “
หลวงปู่ยิ้มแล้วว่า ” นั่นองค์หนึ่งล่ะ มีใครอีก “
ศิษย์อีกคนก้ตอบทันที ” หลวงพ่อนั่นแหละครับ “
ท่านมองหน้าแล้วก้ถามว่า ” ทำไมแกจึงว่าอย่างนั้น “
ศิษย์จอมซนอธิบายว่า ” อ้าว ก็หลวงพ่อรู้ได้ว่ามีองค์นั้น องค์นี้อยู่กับในหลวง แสดงว่าหลวงพ่อก็ต้องไปมาด้วยน่ะสิ ไม่อย่างนั้ยนจะรู้ได้อย่างไร” เมื่อเข้าเนื้อ จึงโบกมือให้ยุติเรื่องทันที

2.ลป.ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์ เลย หลวงปุ่ชอบนี้เป้นพระที่เทวดารักมาก และอัฐิธาตุก็ได้แปรเป็นพรธาตุแสดงให้เห็นถึงคุณธรรมของท่านเป็นอย่างดี
3.พระครูเกษมธรรมนันนท์ ( แช่ม ) วัดดอนยายหอม นครปฐม ท่านสำเร็จกสิณไฟตั้งแต่เริ่มบวชใหม่ๆ จนหลวงพ่อเงินยังวต้องปรามท่านเ เพราะเกรงว่าไฟจะไหม้กุฏิ เคยมีพิธีพุทธาภิเษกอยุ่ครั้งหนึ่งที่วัดบวรนิเวศน์ บาตรน้ำมนต์ที่อยู่ตรงหน้าท่านได้เกิดหมุนวนเป้นที่น่าอัศจรรย์ แสดงให้เห้นถึงจิตตานุภาพของท่าน
4.พระครูสุตพลวิจิตร ( คร่ำ ) วัดวังหว้า ระยอง เจ้าตำรับยันต์พัดโบก ( ยันต์แม่ทัพ ) อันลือลั่น ในสมัยนั้นท่านดังมากจริงๆ
5.พระครูอินทคณานุสิชฌ์ ( เจ๊ก ) วัดระนาม สิงห์บุรี ท่านเป็นผู้หนึ่งที่สืบทอดวิชาอาคมสายหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลายคนจะรู้จักท่านแต่เพียงอาคมขลัง สมาธิแก่กล้า แต่น้อยคนที่จะรู้ว่าท่านเป็นพระอริยบุคคล
6.พระครูฐาปนกิจสุนทร ( เปิ่น ) วัดบางพระ นครปฐม สุดยอดแห่งความคงกระพัน โดยเฉพาะยันต์เสือเผ่น
7.พระครูสุจิณธรรมวิมล ( ม่น ) วัดเนินตามาก ชลบุรี เป็นพระอริยบุคคลที่กระแสจิตเย็นยิ่งรูปหนึ่ง ขนาดมีผุ้ทรงคุณท่านหนึ่งกล่าวว่า กระแสจิตของลป.ม่นนี้เกือบใกล้เคียงกับท่านเจ้าคุณนรฯ วัดเทพศิรินทร์เลยทีเดียว
8.หระครูนิมมานการโสภณ ( สร้อย ) วัดมงคลคีรีเขตร์ ตาก เทพเจ้าของชาวกะเหรี่ยงและพม่า ชานหมากของท่านเป้นที่เลื่องลือนัก
9.พระราชสังวรญาณ ( พุธ ) วัดป่าสาลวัน นครราชสีมา พระอริยเจ้าผู้ทรงญาณ มีเจโตปริญาณที่แจ่มใสมาก เมื่อมรณภาพแล้วอัฐิท่านก้แปรเป็นพระธาตุให้เห้นเป็นที่อัศจรรย์เช่นเดียวกัน

พระชุดนี้แทบจะไม่ค่อยพบตามสนามพระส่วนใหญ่เลย ซึ่งส่วนที่นำออกมาให้บูชานี้ได้รับมาจากผู้จัดสร้างโดยตรง ซึ่งเมื่อได้รับมาแล้วก็ได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกพระของหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญญบรรพต หนองคาย อีกหลายวาระ นอกจากนั้นยังได้กราบขอความเมตตาจากพระป่าสายพระอาจารย์มั่นอธิษฐานจิตเพิ่มเติมให้อีกดังนี้ เช่น

1.หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญญบรรพต หนองคาย แม้สรีระของท่านจะยังไม่ได้ประชุมเพลิง แต่เศษหลังที่ลอกจากริมฝีปากที่แตกของท่านตอนหน้าหนาว กับเกศาก็ได้แปรเป็นพระธาตุเป็นที่อัศจรรย์
2.หลวงปุ่พวง สุวีโร วัดป่าปูลู อุดรธานี ( เหรียญรุ่นแรกของท่านมีประสบการณ์มาก ศพที่มีหรียญท่านติดตัวอยู่เผาไม่ไหม้ จนสัปเหร่อเอะใจ มาเขี่ยศพดูก็เห็นเหรียญอยู่ที่คอ พอเขี่ยเหรียญออกเท่านั้น พระเพลิงก้ทำหน้าที่ของท่านได้ตามปกติ อีกครั้งตอนที่ตำรวจโรงพักหนองแขมยกกำลังกันไปล้อมจับบังรอน หนึ่งในนายตำรวจที่ไปในวันนั้นเจอโดนระเบิดปาเข้าใส่ ปรากฏว่าระเบิดตกใส่หลังคารถปิคอัพที่นายตำรวจคนนั้นหมอบหลบอยู่แล้วกระดอนกลับไปหาตัวคนขว้างเป้นที่น่าอัศจรรย์ รุ่งขึ้นอีกวันตำรวจทั้งโรงพักต่างก็แห่กันมาเอาเสื้อยืดคอกลมสีขาวมาฝากให้ท่านลงยันต์ให้ ) ตอนมรณภาพท่านได้นั่งเข้าสมาธิมรณภาพสมดังคำกล่าวที่ท่านเคยบอกไว้สมัยที่ท่านยังดำรงสังขารดีอยู่ว่า

” ถ้าเป็นเรา เราจะเข้าสมาธิถอดจิตทิ้งกายไปเลย “

3.หลวงปู่จันทร์โสม กิตติกาโร วัดป่านาสีดา อุดรธานี ท่านมีจริตแบบหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี คือไม่ค่อยชอบเรื่องการให้สร้างพระเครื่องนักแต่ท่านก็อนุโลมอธิษฐานจิตให้ พระเครื่องของท่านมีน้อยรุ่นมาก
4.หลวงปู่ท่อน ญาณธโร วัดป่าอภัยวัน เลย
5.หลวงปู่หลวง กตปุญโญ วัดป่าสำราญนิวาส ลำปาง
6.หลวงปู่บุญพิน วัดป่าผาเทพนิมิต สกลนคร
7.หลวงปู่บุญมา วัดป่าสีห์พนม สกลนคร
8.หลวงเตี่ยสุรเสียง วัดป่าเลิงจาน มหาสารคาม
9.หลวงปู่บุญเพ็ง กัปปโก วัดป่าวิเวกธรรม ขอนแก่น
10.หลวงปู่ผ่าน ปัญญาปทีโป วัดป่าประทีปปุญญาราม สกลนครฯลฯ

นอกจากนี้ยังได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกเพิ่มเติมอีกหลายวาระ ถือได้ว่าเป็นพระชุดเล็กที่น่าบูชาเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเทียบกับพระใหม่ในขณะนี้

คัดลอกมาจากเวปพุทธานุภาพ และเวบพระเครื่องศักดิ์สิทธิ์
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน900 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ100 บาท
วันเปิดประมูล - 21 ม.ค. 2558 - 19:13:08 น.
วันปิดประมูล - 26 ม.ค. 2558 - 08:00:11 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลสุขสงบ (8.1K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     900 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     100 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    sudsanan (964)

 

Copyright ©G-PRA.COM