(0)
พระพุทโธน้อย แม่ชีบุญเรือน วัดอาวุธฯ พิมพ์กลางหลังยันต์นะอะระหัง เนื้อผง ปี2494 จ.กรุงเทพ







ชื่อพระเครื่องพระพุทโธน้อย แม่ชีบุญเรือน วัดอาวุธฯ พิมพ์กลางหลังยันต์นะอะระหัง เนื้อผง ปี2494 จ.กรุงเทพ
รายละเอียดพระพุทโธน้อย แม่ชีบุญเรือน วัดอาวุธฯ
พิมพ์กลางหลังยันต์นะอะระหัง เนื้อผง ปี2494 จ.กรุงเทพ เลี่ยมทองพร้อมขึ้นคอบูชาคะ
ราคาเปิดประมูล1,000 บาท
ราคาปัจจุบัน12,000 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ200 บาท
วันเปิดประมูล - 29 มิ.ย. 2558 - 15:33:12 น.
วันปิดประมูล - 06 ก.ค. 2558 - 06:15:56 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลuds-35 (4K)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 29 มิ.ย. 2558 - 15:33:35 น.

พระพุทโธน้อยแม่ชีบุญเรือน หลังยันต์นะอรหันต์ จำนวนการสร้าง 3000 องค์ หายากครับพระพุทโธน้อย สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2494 ที่วัดอาวุธวิกสิตาราม ตำบลบางพลัดนอก ธนบุรี เป็นพิมพ์ครึ่งซีก กรอบทรงสามเหลี่ยม ด้านหน้าองค์ประทับนั่ง แสดงปางมารวิชัย เหนือฐานบัวสองชั้น พระเกศเป็นนุ่นเมาลี พระนาสิกเป็นสันนูน พระเนตรเป็นเม็ดกลมนูน และพระหัตถ์ซ้ายถือหม้อน้ำมันต์ส่วนด้านหลัง มีอักขระขอมจารึกเป็นเส้นลึก โดยมีทั้งพิมพ์ใหญ่พิมพ์กลางและพิมพ์เล็ก จำนวนการสร้างรวมทั้งสิ้น 100000 องค์ **แยกเป็นเนื้อต่างๆดังนี้** 1.เนื้อผงใบลาน ทุกพิมพ์รวมกัน จำนวน 20000 องค์ 2.เนื้อผงพุทธคุณ ทุกพิมพ์รวมกัน จำนวน 30000 องค์ 3.เนื้อดินเผา ทุกพิมพ์รวมกัน จำนวน 50000 องค์ **และมีหลังยันต์พิเศษ เพียง 3000 องค์** ***จัดแบ่งตามพิมพ์และยันต์ต่างๆได้ดังนี้ครับ*** 1.พระพุทโธน้อยพิมพ์ใหญ่ 1.1 พระพุทโธพิมพ์ใหญ่จัมโบ้หลังยันต์พุทโธ 1.2 พระพุทโธพิมพ์ใหญ่หลังยันต์พุทโธ 1.3 พระพุทโธพิมพ์ใหญ่หลังยันต์นะอะระหัง 1.4 พระพุทโธพิมพ์ใหญ่หลังยันต์เฑาะว์ 1.5 พระพุทโธพิมพ์ใหญ่หลังยันต์เฑาะว์ดอกบัว 1.6 พระพุทโธพิมพ์ใหญ่หลังเรียบ 2.พระพุทโธน้อยพิมพ์กลาง 2.1 พระพุทโธพิมพ์กลางหลังยันต์พุทโธ 2.2 พระพุทโธพิมพ์กลางหลังยันต์นะอะระหัง 2.3 พระพุทโธพิมพ์กลางหลังยันต์พุทโธบัวติดขอบ 3.พระพุทโธน้อยพิมพ์เล็ก 3.1 พระพุทโธพิมพ์เล็กหลังยันต์พุทโธ 3.2 พระพุทโธพิมพ์เล็กหลังยันต์นะอะระหัง 3.3 พระพุทโธพิมพ์เล็กหลังยันต์เฑาะว์ดอกบัว **พระพุทโธน้อยเป็นพระเครื่องที่เก่าแก่และน่าสะสมมากพิมพ์หนึ่ง ด้วยพุทธคุณหลายด้าน เช่น เมตามหานิยม แคล้วคลาดจากอันตรายสิ่งชั่วร้ายและเจริญด้วยโภคทัรพย์ จึงทำให้มีผู้เคารพศรัทธาและกราบไหว้สักการะมากมาย " พระพุทโธน้อย" เป็นพระเครื่องขนาดเล็กที่ท่านสร้างขึ้นและอธิษฐานจิตให้ไว้แก่วัดอาวุธ วิกสิตาราม ตำบลบางพลัดนอก ธนบุรี เมื่อปี พ.ศ.2494 เป็นพระพิมพ์แบบครึ่งซีก กรอบทรงสามเหลี่ยม ด้านหน้า องค์พระประทับนั่ง แสดงปางมารวิชัย เหนือฐานบัวสองชั้น พระเกศเป็นมุ่นเมาลี พระนาสิกเป็นสันนูน พระเนตรเป็นเม็ดกลมนูน และพระหัตถ์ซ้ายถือหม้อน้ำมนต์ ส่วนด้านหลัง มีอักขระขอมจารึกเป็นเส้นลึกอ่านว่า "พุทโธ" โดยมีทั้งพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก มีทั้งเนื้อดินเผา และเนื้อผงพุทธคุณครับ จำนวนการสร้างรวมทั้งสิ้น 100000 องค์การสร้างวัตถุมงคลของอุบาสิกาหรือแม่ ชีนั้น คนวงการพระเครื่องบางคนอาจจะรู้จักบ้าง ส่วนคนนอกวงการพระเครื่องอาจจะเกิดคำถามว่า “มีด้วยหรือพระเครื่องและวัตถุมงคลที่สร้างโดยแม่ชี ที่เปี่ยมด้วยพุทธคุณและมากด้วยค่านิยม” บอย ท่าพระจันทร์ บอกว่า แม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม เป็นแม่ชีและผู้หญิงเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่อธิษฐานจิตในการจัดสร้างวัตถุมงคลแล้วได้รับความนิยม ทั้งนี้แม่ชีบุญเรือนได้อธิษฐานจิตมอบให้ลูกศิษย์ คือ ปฐวีธาตุหรือศิลาน้ำ (หินหรือกรวดใต้น้ำ) เพราะเชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ มีสรรพคุณครอบจักรวาล มีอานุภาพกันภัย รักษาโรคภัย ตลอดจนคุ้มครองรักษาผู้มีติดตัวไป ลูกศิษย์มักนิยมนำมาใส่ในภาชนะที่ตั้งน้ำอธิษฐานประจำวันเสาร์ รวมทั้งเมื่อต้น พ.ศ.๒๔๙๘ ท่านได้อธิษฐานถุงเขียวเหนี่ยวทรัพย์ แก่ลูกๆ และสานุศิษย์อีกด้วย ส่วนพระเครื่องของแม่ชีบุญเรือนที่ได้รับความนิยมนั้น คือ “พระพุทโธน้อย” เป็นพระเครื่องขนาดเล็กที่ท่านสร้างขึ้นและอธิษฐานจิตให้ไว้แก่วัดอาวุธ วิกสิตาราม เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๖ เป็นพระพิมพ์แบบครึ่งซีก กรอบทรงสามเหลี่ยม ด้านหน้า องค์พระประทับนั่ง แสดงปางมารวิชัย เหนือฐานบัวสองชั้น พระเกศเป็นมุ่นเมาลี พระนาสิกเป็นสันนูน พระเนตรเป็นเม็ดกลมนูน และพระหัตถ์ซ้ายถือหม้อน้ำมนต์ ส่วนด้านหลังมีอักขระขอมจารึกเป็นเส้นลึกอ่านว่า “พุทโธ” นอกจากนี้แล้วภาพถ่ายเก่าๆ ของแม่ชีบุญเรือน รวมทั้งหนังสืออนุสรณ์ในงานบำเพ็ญกุศลฌาปนกิจศพคุณแม่บุญเรือน ก็เป็นที่แสวงหาเช่น สำหรับผู้ที่ไม่สามารถแสวงหาภาพเก่าของแม่ชีบุญเรือนมาบูชาหรือติดไว้ที่ บ้านได้นั้น มีความเชื่อในหมู่ลูกศิษย์รวมทั้งตนก็เชื่อด้วยว่า ภาพถ่ายอธิษฐานของคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ถ่าย ณ วัดท่าผา จ.กาญจนบุรี ที่คุณแม่บุญเรือนอธิษฐานไว้ว่า ไม่ว่ารูปนี้จะอัดขยายต่อไปอีกกี่พันกี่หมื่นกี่แสนครั้ง ทุกๆ ภาพก็จะมีความศักดิ์สิทธิ์เสมอกับรูปต้นแบบที่ถ่ายไว้ทุกประการ ด้วยเหตุนี้จึงนำรูปของท่านไปอัดขยายติดไว้ที่ร้าน สำหรับค่านิยมของพระเครื่องที่อธิษฐานจิตโดยแม่ชีบุญเรือนนั้น บอย ท่าพระจันทร์ บอกว่า พระพุทโธน้อย พิมพ์จัมโบ้ เนื้อขาว สร้างปี ๒๔๙๔ สภาพสวยสมบูรณ์ค่านิยมประมาณ ๒-๓ แสนบาท พระพุทโธน้อย พิมพ์ใหญ่ (อะมีแป้น) ค่านิยมประมาณ ๔-๕ หมื่นบาท ส่วนพระพุทโธน้อยพิมพ์ใหญ่ค่านิยมประมาณ ๒-๓ หมื่นบาท รวมถึงพิมพ์พระสมเด็จหลังยันต์และหลังเรียบ และพระสมเด็จพิมพ์ประจำวัน สนนราคาเล่นหาสูงมากเช่นกัน เมื่อถามถึงการเปิดกรุพระเก่าใต้ฐานชุกชี พระพุทธชินราชจำลอง พระประธานในพระอุโบสถอย่างเป็นทางการ ของพระเทพปัญญามุนี เจ้าอาวาสวัดอาวุธวิกสิตารามเมื่อครั้งที่ผ่านนั้น บอย ท่าพระจันทร์ บอกว่า แม้ว่าจะไม่ได้ไปร่วมเปิดกรุแต่การสร้างพระบรรจุกรุดไว้นั้นมีการบันทึกไว้ อย่างชัดเจน โดยเมื่อ พ.ศ.๒๕๐๙ ได้มีการสร้างพระประธาน หลังจากนั้นได้นำพระพุทโธน้อย และพระพิมพ์สมเด็จมงคลมหาลาภเนื้อผงผสมว่าน และมวลสารอันเป็นมงคลต่างๆ ที่สร้างไว้เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๙ ในยุคของพระสิทธิสารโสภณ หรือ พระอาจารย์สงวน โฆสโก อดีตเจ้าอาวาสวัดอาวุธวิกสิตาราม และ แม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม มาบรรจุไว้จำนวนมาก แม่ชีผู้เปี่ยมด้วยธรรม "แม่ชี คุณแม่ และอุบาสิกา" เป็นสรรพนามที่ลูกศิษย์ใช้เรียกชื่อ "แม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม” เนื่องจากท่านมีหลายสถานะ ท่านเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๔ มีนาคม พ.ศ.๒๔๓๗ ท่านได้กำเนิดในครอบครัว ที่มีฐานะค่อนข้างยากจน มีนายยิ้ม กลิ่นผกา เป็นบิดา และมีนางสวน กลิ่นผกา เป็นมารดา สถานที่เกิดอยู่ที่คลองสามวา อ.มีนบุรี จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อมีอายุพอสมควรก็ได้สมรสกับ ส.ต.ท.จ้อย โตงบุญเติม โดยได้ประกอบอาชีพตัดเย็บเสื้อผ้า เป็นการช่วยสามีอีกแรงหนึ่ง และรับรักษาโรคโดยเป็นหมอนวด ซึ่งการเป็นหมอนวดเพื่อรักษาโรคนั้น ท่านทำเป็นการกุศลไม่มีสินจ้าง ขณะเดียวกันท่านยังมีความสามารถในการทำคลอด หรือเป็นหมอตำแยแผนโบราณด้วย ซึ่งทำให้ท่านมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากในขณะนั้น ด้วยความเลื่อมใสในพุทธศาสนา ขณะที่ยังใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับ ส.ต.ท.จ้อย ได้ไปฟังพระสวดมนต์ ฟังธรรมที่วัดสัมพันธวงศ์อยู่บ่อยๆ ทั้งได้ฝึกหัดทำวิปัสสนากัมมัฏฐานที่วัดนี้ด้วย ทำให้คุณแม่บุญเรือนมีความใกล้ชิดและผูกพันในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก คุณแม่บุญเรือนก็ได้ลาสามีบวชเป็นชีและอยู่ปฏิบัติธรรมที่วัดสัมพันธวงศ์ ได้พากเพียรพยายามฝึกวิปัสสนากัมมัฏฐาน ได้อยู่ปฏิบัติที่ศาลาวัดสัมพันธวงศ์ จนทำให้เกิดความเข้าใจ และปลอดโปร่งในธรรมะ รักความสงบประกอบการกุศลต่าง ๆ ช่วยปักหมอนสำหรับธรรมาสน์พระสวดปาฏิโมกข์เป็นต้น อย่างไรก็ตามนับตั้งแม่ชีบุญรือนได้วายชนม์ทิ้งร่างไปเมื่อวันที่ ๗ กันยายน พ.ศ.๒๕๐๗ เวลา ๑๑.๒๐ น. สิริอายุรวม ๗๐ ปี ซึ่งนับได้ประมาณกว่า ๔๐ ปีมาแล้ว ทุกวันนี้ยังมีผู้คนไปสักการบูชากราบไหว้ขอพรจากรูปปั้นของท่าน อยู่เสมอมิได้ขาด โดยเฉพาะในวันอาทิตย์ เวลาหลังเที่ยง จะมีสานุศิษย์และผู้ศรัทธาของคุณแม่ต่างพร้อมใจไปชุมนุมกัน เพื่อสวดมนต์ต่อหน้ารูปหล่อของท่านที่ศาลาดังกล่าว โดยปฏิบัติติดต่อกันทุกวันอาทิตย์ หลังจากการสวดมนต์นั่งสมาธิแล้ว สานุศิษย์และผู้ศรัทธาจะขอรับเอาสิ่งของต่างๆ ที่นำมาสักการบูชา เช่น ผลไม้ น้ำตาลทราย เกลือ พริกไทย สาคู และปูนสีแดง ที่ใช้ทาใบพลูสำหรับรับประทาน โดยอธิษฐานขอให้สิ่งของต่างๆ เหล่านี้ให้เป็นยาแก้โรคต่างๆ ซึ่งก็แปลกที่หลายคนหายขาดโรคภัยที่เป็นอยู่อย่างน่ามหัศจรรย์ นอกจากนี้บางคนยังเอาไพลทุกชนิดไปถวายต่อหน้ารูปปั้นของคุณแม่บุญเรือน แล้วจุดธูปเทียนกราบไหว้บูชาท่าน อธิษฐานจิตขอให้ท่านดลบันดาลให้ไพลเป็นยารักษาโรค แล้วนำไพลนั้นมาทารักษาโรค ก็หายได้เช่นกัน "คุณแม่บุญเรือนอธิษฐานไว้ว่า ไม่ว่ารูปนี้จะอัดขยายต่อไปอีกกี่พันกี่หมื่นกี่แสนครั้ง ทุกๆ ภาพก็จะมีความศักดิ์สิทธิ์เสมอกับรูปต้นแบบที่ถ่ายไว้ทุกประการ"อาจารย์ของผมองค์นี้ท่านชอบสนุกชอบสอดรู้สอดเห็นในสิ่งที่แปลกประหลาด คราวหนึ่งพระเดชพระคุณมหารัชชมังคลาจารย์แห่งวัดสัมพันธวงศ์ ประสงค์จะสร้างพระพิมพ์เนื้อผงขึ้นเป็นที่ระลึกในการหล่อพระประธานพระพุทธ มงคลมุนีนารถเพื่อประดิษฐานในพระอุโบสถวัดสารนาถธรรมมาราม อ.แกลง จ.ระยอง ท่านเจ้าประคุณจะทำอะไรจะต้องใหญ่และมีจำนวนมาก จึงมอบภาระนี้ให้ พ.ต.อ.ชลอ อุทกภาชน์ สิทธิงวิหาริกไปดำเนินการ พ.ต.อ.ชลอ อุทกภาชน์ ก็นำความไปหารือโยคีฮาเล็บ ผู้เป็นอาจารย์ทางพรหมศาสตร์ ท่านอาจารย์โยคีฮาเล็บจึงคิดด้วยปัญญาในการสร้างผงวิเศษแบบประยุกต์ คือไปนำว่าน เกสร ดินสอพอง ปูนขาว มาเป็นจำนวนมากขนาดต่อลังไม้ขนาดยาวมาบรรจุมวลสารดังกล่าวลงไป แล้วอัญญเชิญวิญญาณพรหมฤาษีชั้นสูงลงประทับทรงร่ายมนตร์เสกเป่าคุ้ยกันจนผง ฟุ้งไปหมด ส่งภาษาคูโบ๊สกันลั่นบ้านหกคะเมนตีลังกา ในบริเวณปริมณฑลพิธีมีฝ่ายสงฆ์ประกอบพิธีทางไสยเพิ่มอีกแรงหนึ่ง จนน้ำเทพมนต์ซึ่งบรรจุใส่โอ่งเกิดหมุนติ้วดุจมีใครมาคนเล่น หลังจากเสร็จพิธีประมาณ 3 วัน หลวงพ่อลี วัดอโศการามมีกิจที่วัดสัมพันธวงศ์ ได้เข้าไปในโบสถ์และเห็นเข้าก็เอื้อมมือจะหยิบพิจารณาดูก็ต้องสะดุ้งโหยงหด มือกลับเพราะปรากฎว่าผงนี้แรงที่สุดในชีวิตที่ผ่านมา และได้ขอผงไปประมาณ 1 บาตรเพื่อผสมสร้างพระพิมพ์ของท่าน ส่วนทางวัดสัมพันธวงศ์ ก็นำเอาผงเนื้อกษัตริย์ล้วนๆมาสร้างเป็นพระกันเลยเพราะถือว่าไม่ต้องผสมของ อื่นก็สร้างกันไม่หวาดไหวอยู่ พิมพ์เสร็จก็นิมนต์พระคณาจารย์ชื่อดังแห่งยุคแห่งปี2496มาร่วมทำการปลุกเสก ใช้แพรสีเขียวห่อหุ้มพระถึงเจ็ดชั้น ห่อหนึ่งก็ใช้ฉัตรเบ็ญจาต้นหนึ่ง(ฉัตรห้าชั้น)รวมเป็ยฉัตรถึง 1,700 ต้น พระ 1,700 ห่อๆหนึ่งประมาณพะ 100 องค์ ก็ในพิธีสร้างผงวิเศษอันยิ่งใหญ่แห่งยุคและสร้างเพียงครั้งเดียว หลวงพ่อฤาษีก็อยากเห็นว่าที่เรียกวิญญาณต่างๆนั้นมาจริงหรือเปล่า ท่านก็มองดูด้วยตาทิพย์เห็นว่าเทพพรหมต่างๆที่รับรับเชิญได้เสด็จมาในงาน ปลุกเสกผงจริงและก็เชิญเลยไปถึงท้าวจตุโลกบาล เป็นนายทวารเฝ้ากันพวกราหูจรและเพ็ชรพระยาธรซึ่งชอบก่อกวนทำลายพิธีกรรม ได้เห็นพระเยซูคริสต์ พระมหมัดนะบีห์ พระบราไฮห์มาร่วมในพิธีด้วยแต่ยืนอยู่เพียงประตู แต่งกายแบบนักบวชครองผ้ากาละสีคล้ำ พวกมหาเทพในศาสนาพรหมดึกดำบรรพ์มากันมาก พระอรหันตเจ้าไม่มีมาร่วม เพราะไม่ใช่กิจและพระอรหันตเจ้าย่อมไม่ประทับทรงในแบบเดรัจฉานวิชา ต่อมา พระเครื่องชุดนี้ได้นำเข้าปลุกเสก(การเรียกพุทธาภิเษก มหาพุทธาภิเษกนั้นเป็นคำตู่) ที่พระอุโบสถวัดสารนาถธรรมาราม อ.แกลง จ.ระยอง ถึง18วัน18คืน พระคณาจารย์ปรกเป็นพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เท่าที่นึกออกก็มี ท่านอาจารย์สิงห์ ขันตะยาคะโม,อาจารย์ฝั้น อาจาโร,ท่านอาจารย์กงมา จิรปุญโญ,ท่านอาจารย์พระอริยคุณาธาร ปุสโส,ท่านอาจารย์ลี ธัมมธโร,ท่านอาจารย์สีโห,ท่านอาจารย์จันทร์ เขมปตโต,ท่านอาจารย์ตื้อ,ท่านอาจารย์อ่อน ญานสิริ,ท่านอาจารย์วัน อุตตะโมฯลฯ ประมาณ 30รูปและพระคณาจารย์นอกสายคือพระวรพรต ปัญญาจารย์ วัดอรัญญิการาม ชลบุรี พระเครื่องชุดนี้เรียกกันว่า พระมงคลมหาลาภ ในพิธีมีการสวดลัคขี คือบทพระพุทธคุณหนึ่งแสนจบ โบสถ์วัดสารนาถธรรมารามนี้กว้างใหญ่มากขนาดฐานพระประธานก็เท่ากับโบสถ์ ธรรมดาหนึ่งหลังแล้ว ขณะประกอบพิธีได้ประมาณ 7 วัน โคมไฟติดเพดานเกิดล่วงหล่นลงมาในระดับสูงและเป็นโคมแก้วแต่ก็ไม่แตกเสียหาย นับเป็นอิทธิวัตถุที่ทรงพลังยิ่งใหญ่แห่งยุครัตนโกสินทร์ แต่ของดีมันอาภัพ พลังคุ้มครองทางแคล้วคลาดสูงมากไม่แพ้พระรอดมหาวัน เมื่อใช้กรรมวิธีทางปรจิตตรวจดูทางในปรากฎนิมิตเป็นพระพุทธรูป กั้นด้วยนพปดลเสวตฉัตร(มหาเสวตฉัตรเก้าชั้น)ซึ่งไม่เคยพบในพระสมเด็จและวัด ใดๆ นอกจากพระพิมพ์ซึ่งเสกโดยพระโลกอุดรหรือหลวงพ่อดำผู้เหาะเหินเดินฟ้า อาจารย์ของหลวงพ่อโพรงโพธิ์ และหลวงพ่อโพรงโพธิ์เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อวัดมะขามเฒ่าและหลวงพ่อเงิน บางคลาน


 
ราคาปัจจุบัน :     12,000 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     200 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    bellic (2K)

 

Copyright ©G-PRA.COM
www1