ปลัดขิกดันดะ หลวงพ่อฟักด้วยรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์มาตรฐาน แกะเป็นรูปคล้ายเพชรพญาธร มีหัว มีหาง มีขา และมีไข่ เพียงแค่หนึ่งรูปทรงก็แยกแยะได้อย่างชัดเจนไม่เพียงแค่นั้น แต่จากประสบการณ์ปากต่อปากในเรื่องเมตตามหานิยมแบบเน้น ๆ ในปลัดขิกหลวงพ่อฟัก จึงเป็นที่มาแห่งเจ้าของฉายา ปลัดขิกดันดะ หลวงพ่อฟักท่านเป็นลูกศิษย์ เรียนวิชาทำปลัดขิก มาจากหลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก โดยศิษย์ที่ร่วมเรียนคู่กันมาก็คือ หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส เรียกได้ว่าหลวงพ่อฟักท่านสืบทอดเชื้อสายวิชาปลัดขิกอันโด่งดัง แล้วประยุกต์ให้มีรูปแบบเฉพาะตนโดยเฉพาะไม่ซ้ำแบบใครนับว่าเป็นศิลปะองค์ต้นแบบ ต้นบัญญัติ ซึ่งในยุคหลัง ๆ ต่อมาก็มีหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก หรือหลวงพ่อตัด วัดชายนา ได้มีการแกะปลัดในรูปแบบศิลปะของหลวงพ่อฟักเหมือนกัน หลวงพ่อฟัก เป็นพระที่เก่ง อาคมขลัง รูปร่างสูง ผิวค่อนข้างเข้ม แววตาดูเข้มขลัง มีพลังตบะ เดชะ มหาอำนาจยิ่งนัก เครื่องรางที่ท่านสร้างและมีประสบ การณ์มากที่สุดคือ ปลัดขิก ซึ่งปลัดขิกของท่านมีคุณภาพไม่แพ้พระเกจิอาจารย์ยุคเก่าเลย เช่น โดนยิงไม่เข้า หรือเผลอเหยียบงูแต่งูอ้าปากไม่ขึ้น ฯลฯ ปลัดขิกของหลวงพ่อฟักนั้น ท่านจะปลุกเสกและลงจารอักขระที่ปลัดขิกอย่างเข้มขลังและพิถีพิถัน ดีทางเมตตามหาเสน่ห์แคล้วคลาดจากภยันตรายต่าง ๆ นอกจากนี้ยังใช้ทางป้องกันภูตผีปีศาลได้อีกด้วย สร้างจากไม้พญาดำรง (ไม้ดำดง), ไม้คูณ, ไม้รักแดง, ไม้มะนาวผี , กัลปังหา และงาช้างจำพวกงากำจัดงากำจาย ซึ่งหายากและมีน้อยกว่าวัสดุชนิดอื่น เพราะว่าหายากและมีราคา แพงมากกว่านั่นเอง ปลัดดันดะ หลวงพ่อฟัก..ท่านจะลงจารหัวใจคาถาต่าง ๆ นะหิหะหุ จะฉะ ดันดะ ที่ได้ฉายา ปลัดขิกดันดะ แท้จริงแล้วก็มีที่มาจากอักขระที่ลงอยู่ที่หัวปลัดขิกนั่นเอง ท่านลงหัวใจท้าวเวสสุวัณที่ลำตัว เวสสะพุสะ หัวใจอิทธิเจ เมตตามหาเสน่ห์ชั้นสูง อิธะคะมะ, หัวใจเกราะเพชร ภูตากังเก, หัวใจนวหรคุณ.... อะสังวิสุโลปุสะพุภะ, หัวใจพาหุง (พระพุทธเจ้าชนะมาร)... พามานาอุกะสะนะทุ, หัวใจเสฏฐัน.. เสพุเสวะเสตะอะเส และหัวใจกรณียเมตตาสูตร... เอตังสะติง อานิสงส์มีถึง ๑๑ ประการ เช่น นอนเป็นสุข ตื่นเป็นสุข ล่วงพ้นจากยาพิษ แคล้วคลาดจากศัตราวุธทั้งปวง และหัวใจมหาอุด.. อุทธัง อัทโธ ก็ย่อมาจากบทกรณียเมตตาสูตรนี้เช่นกัน |
|