(0)
ตะกรุดฝาบาตร หลวงพ่อขำ วัดโพธิ์เตี้ย








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องตะกรุดฝาบาตร หลวงพ่อขำ วัดโพธิ์เตี้ย
รายละเอียดตะกรุดเนื้อฝาบาตร ยุคต้นๆของพระอุปัชฌาย์ขำ อินทปัญญา (ลานกระบือ) วัดโพธิ์เตี้ย จ.กำแพงเพชร สภาพผ่านการใช้ สมบูรณ์ ไม่หักไม่มีซ่อม


พระอุปัชฌาย์ขำ (อินทปัญญา) วัดโพธิ์เตี้ย


วัดโพธิ์เตี้ย บ้านปลักไม้ดำ ตำบลลานกระบือ อำเภอลานกระบือ จังหวัดกำแพงเพชร เป็นวัดเก่าแก่ สันนิษฐานสร้างในสมัยรัชกาลที่ ๔ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เดิมชื่อว่า"วัดงิ้วงาม" มีหลวงพ่อกล้ายเป็นเจ้าอาวาส หลังจากที่ท่านมรณภาพ หลวงพ่อขำ อินทปัญญาได้เป็นเจ้าอาวาสรูปต่อมา ได้เปลื่อนชื่อวัดจากวัดงิ้วงาม เป็นวัดโพธิ์เตี้ย ตามลักษณะของต้นโพธิ์ที่มีลักษณะแคระเตี้ย และปัจจุบันต้นโพธิ์นี้ได้ตายแล้ว ที่วัดโพธิ์เตี้ยมีรูปจำลองหลวงพ่อขำ อินทปัญญาทำด้วยปูนปั้นขนาดเท่าองค์จริง(ผู้เขียนได้ไปวัดโพธิ์เตี้ย ปี พ.ศ.๒๕๓๑ขณะนั้นเป็นวัดร้าง)
พระอุปัชฌาย์ขำ อินทปัญญา หรือหลวงพ่อขำ ลานกระบือ ท่านเป็นชาวปรักไม้ดำ ถือกำเนิด เมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๔๐๗ โยมบิดาชื่อช้าง โยมมารดาชื่อนิล มีพี่น้องสามคน เป็นชายทั้งหมด พี่คนโตชื่อมั่น คนที่สองคือหลวงพ่อขำ คนที่สามชื่ออิน ทั้งสามคนไม่มีบุตร ชีวิตของหลวงพ่อขำในวัยเด็กลำบากมาก ท่านกำพร้าบิดา มารดามีสามีใหม่ สามีใหม่ของมารดาเป็นคนไม่เอาถ่านเกียจคร้าน ขี้เหล้าเมายา มักจะหาเรื่องมารดาเสมอ วันหนึ่งสามีใหม่เมาสุราแล้วหาเรื่องตีมารดา ท่านได้ช่วยเหลือมารดาและทำร้ายสามีใหม่จนได้รับบาดเจ็บ หลวงพ่อขำท่านจึงได้เห็นสัจธรรมข้อหนึ่งคือทุกขเวทนาของการดำรงชีวิตในสถานะ ฆราวาส ท่านจึงเข้าอุปสมบท ณ พระอุโบสถวัดวังตะขบ จังหวัดพิจิตร โดยมีเจ้าอาวาสวัดวังตะขบเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา"อินทปัญญา" เมื่อพระภิกษุขำได้อุปสมบทแล้ว ท่านได้ตั้งใจศึกษาวิปัสสนากรรมฐานและคันถธุระ ตลอดจนวิชาอาคมต่างๆอย่างจริงจัง เพราะเป็นสิ่งที่ท่านโปรดปรานมาก ดังนั้นปัจจัยที่ได้จากการถวายของญาติโยมท่านจะนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการเดิน ทางไปศึกษาวิชาอาคมจากสำนักอาจารย์ที่มีชื่อเสียงต่างๆ เมื่อทราบว่าที่ใดมีพระอาจารย์ที่เรืองเวทย์ ท่านจะต้องเดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์ และที่จังหวัดพิจิตร ท่านได้พบกับหลวงพ่อเงิน บางคลาน เกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังของเมืองพิจิตรในขณะนั้น หลวงพ่อขำท่านก็ได้ฝากตัวเป็นศิษย์ และได้ร่วมเดินธุดงค์ไปกับหลวงพ่อเงิน ในเวลานั้นศิษย์ร่วมสำนักกับท่านที่มีชื่อเสียงโด่งดังได้แก่ หลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง หลวงพ่อพิธท่านมีศักดิ์เป็นหลานหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ตะกรุดของหลวงพ่อพิธ มีชื่อเสียงโด่งดังมาก เป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไป ว่ามีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์ ส่วนตะกรุดของหลวงพ่อขำก็มีอิทธิฤทธิ์ไม่แพ้ตะกรุดของหลวงพ่อพิธ แต่ความนิยมอาจจะน้อยกว่าตะกรุดของหลวงพ่อพิธ เพราะจำนวนการสร้างตะกรุดของหลวงพ่อขำมีจำนวนน้อยมาก จึงเป็นเหตุให้ประชาชนทั่วไปรู้จักน้อย ตะกรุดของหลวงพ่อขำที่มีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นที่รู้จักในบรรดาศิษย์ของ ท่านได้แก่ตะกรุดโทน ตะกรุดหนังหน้าผากเสือ และตะกรุดลูกด้านโดยเอาลูกปืนพระรามหกที่ยิงไม่ออกมาลงอักขระ ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก (ดีทางมหาอุด)
หลวงพ่อขำ อินทปัญญาเมื่อท่านกลับมาจำพรรษาที่วัดโพธิ์เตี้ย และต่อมาก็ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิ์เตี้ย ท่านได้บูรณะปฏิสังขรณ์วัด มีการสร้างพระอุโบสถหลังใหม่เมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๔๗๐ สร้างพระเจดีย์สามองค์ด้านหน้าพระอุโบสถ สร้างพระวิหารด้านข้างซ้ายพระอุโบสถ และปั้นรูปจำลองหลวงพ่อขำด้วยปูน(แต่ช่างปั้นไม่สวย)อยู่ด้านหน้าพระวิหาร สร้างหอระฆัง รอยพระพุทธบาทจำลอง และศาลาการเปรียญ
นอกจากนี้หลวงพ่อขำ ยังได้ศึกษาด้านสมุนไพรรักษาโรคต่างๆ ท่านทำยาเม็ด ยาหม้อ รวมทั้งการอาบน้ำมนต์ อันเป็นการรักษาทางจิตใจอีกทางหนึ่ง นับได้ว่าท่านเป็นที่พึ่งของชาวบ้านเมื่อเจ็บไข้ได้ป่วย และวัดของท่านก็คือโรงพยาบาลแพทย์แผนโบราณนั้นเอง
หลวงพ่อขำท่านเป็นพระที่เชียวชาญวิปัสสนากรรมฐานและวิชาอาคม สมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่ วัดจะมีประชาชน และข้าราชการทหาร ตำรวจจากจังหวัดพิษณุโลก พิจิตร สุโขทัย และกำแพงเพชร ขี่ม้ามาขอบูชาเครื่องรางของขลังอย่างไม่ขาดสาย จึงทำให้ท่านมีปัจจัยมากพอที่จะบูรณะปฏิสังขรณ์วัดดังได้กล่าวมาแล้ว นอกจากนี้ยังมีพระภิกษุมาจำพรรษาที่วัดโพธิ์เตี้ยเป็นจำนวนมาก เพิ่อฝากตัวเป็นศิษย์ ขอเรียนวิปัสสนากรรมฐานและวิชาอาคมจากท่าน วัดโพธิ์เตี้ยในสมัยนั้นจึงรุ่งเรืองมาก ชื่อเสียงของหลวงพ่อขำก็โด่งดังมาก มีประชาชนเคารพนับถือท่านมาก ยิ่งหลวงพ่อขำมีชื่อเสียงมากเพียงใด ย่อมนำไปสู่ความอิจฉาริษยาของบุคคลบางกลุ่มที่ไม่หวังดี ในที่สุดก็มีการใส่ร้ายป้ายสีหลวงพ่อขำ ว่าท่านประพฤติตนไม่เหมาะสม อวดอุตริผิดมนุษย์ ซึ่งความดังกล่าวก็นำไปสู่การร้องเรียนที่เป็นเท็จต่อพระครูวิเชียร โมลี(ปลั่ง) ประมาณปี พ.ศ.๒๔๗๐ ซึ่งขณะนั้นท่านเจ้าคุณวิเชียรโมลีดำรงสมณศักดิ์เป็นพระครูเมธีคณานุรักษ์ รั้งตำแหน่ง รักษาการเจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร
ท่านเจ้าคุณวิเชียรโมลี(ปลั่ง)ก็ได้ขี่ม้ามาตรวจสอบความประพฤติของหลวงพ่อขำ ตามคำร้องเรียนที่วัดโพธิ์เตี้ย เมื่อท่านเจ้าคุณได้เดินตรวจดูบริเวณวัดโพธิ์เตี้ย ก็เห็นความสะอาดและความมีระเบียบของวัด และเมื่อท่านเจ้าคุณได้พบและสนทนากับหลวงพ่อขำ ก็ทราบได้ว่าคำร้องเรียนนั้นเป็นเท็จ และยังทราบว่าหลวงพ่อขำท่านเป็นพระที่เชี่ยวชาญวิปัสสนากรรมฐานและมีความรู้ ในวิชาอาคมขั้นอาจารย์ ท่านเจ้าคุณวิเชียรโมลีจึงขอฝากตัวเป็นศิษย์ และขอเรียนวิชาลงตะกรุดหนังหน้าผากเสือ และในเวลาต่อมาท่านเจ้าคุณวิเชียรโมลีก็ได้แต่งตั้งหลวงพ่อขำเป็นพระ อุปัชฌาย์ จากเหตุผลที่กล่าวมา จึงเชื่อได้ว่าหลวงพ่อขำท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เก่งที่สุดและอาวุโสที่ สุดของจังหวัดกำแพงเพชรที่เคยมีการบันทึกมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิชาคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดแะมหาอุด ท่านเป็นหนึ่งไม่เป็นสองรองใครในจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง(หลวงปู่สุข วัดมะขามเฒ่า หลวงพ่อเงิน บางคลานกินท่านไม่ลง)
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน3,500 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ100 บาท
วันเปิดประมูล - 17 ธ.ค. 2561 - 18:39:24 น.
วันปิดประมูล - 20 ธ.ค. 2561 - 14:32:15 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลnulek (71)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 17 ธ.ค. 2561 - 18:40:59 น.



เพิ่มคะ


ข้อมูลเพิ่มเติม 2 - 17 ธ.ค. 2561 - 18:43:00 น.



ยาว 2 นิ้วครึ่ง อ้วน ครึ่งนิ้ว


ข้อมูลเพิ่มเติม 3 - 17 ธ.ค. 2561 - 18:44:20 น.



ไม่ได้ลงรักแดงนะครับ ถ้าลงรักคนส่วนใหญ่จะตีเป็นหลวงปู่ศุขเพราะได้ราคากว่า


ข้อมูลเพิ่มเติม 4 - 17 ธ.ค. 2561 - 18:45:37 น.



หาสายเหนียว ดอกนี้ไม่ผิดหวังแน่นอน เพราะตะกรุดท่านประสบการณ์เยอะคะ


 
ราคาปัจจุบัน :     3,500 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     100 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    mokman (80)

 

Copyright ©G-PRA.COM