ชื่อพระเครื่อง | (((((((๛ วัดใจเคาะเดียวให้ผู้ที่เร่ง F/B กับ เหรียญหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี โรงเรียนจ่าอากาศสร้าง ปี ๒๕๑๔ เนื้อทองแดง เหรียญเก่าเดิมพุทธคุณสูง เชิญผู้ที่ชื่นชอบ สายตรง ชมก่อนครับท่าน ๛))))))) |
รายละเอียด | *** พิจารณาให้ชอบก่อนนะจ๊ะ แล้วค่อยเคาะ ***
" 100 เดียว ส่งท้ายปี เดิมๆ ของเก่า หายาก สุดคุ้ม ยอดเกจิเมืองสิงห์" วัดใจถูกกว่าจองพระใหม่เลยจัดให้เคาะเดียว คุ้มสุดๆ กับ เหรียญหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี โรงเรียนจ่าอากาศสร้าง ปี ๒๕๑๔ เนื้อทองแดง เก่าเก็บเดิมๆครับ เหรียญนี้เป็นเหรียญยุคแรกๆ ของท่านครับ จัดว่าเป็นของดีราคาเบาเลยครับ สภาพเหรียญ หน้า-หลัง ยังคมชัดเดิมๆ มีร่องรอยบ้างตามอายุ สภาพยังสวยครับ
พิจารณาก่อนนะครับ องค์นี้ เก็บไว้ใช้ สุดคุ้มครับ ของดีที่ไม่ควมองข้าม ราคานี้ กับพระดีแบบนี้หาไม่ได้แล้วนะครับ หลวงพ่อแพ ปลุกเสก เป็นยุคแรกๆ สุดยอดเกจิดังเมืองสิงห์ พระของหลวงพ่อแพ แม้ราคาไม่แพง แต่ เรื่องพุทธคุณประสบการณ์มากมายครับ สามารถใช้ได้ไม่แพ้ใคร "อยู่ที่ศัทธาครับ" พิจารณากันได้ครับ
"หลวงพ่อแพ เขมังกะโร" วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงรูปหนึ่งของภาคกลางท่านมีปฏิปทาและจริยาวัตร ที่น่าเลื่อมใสศัทธาอย่างยิ่ง เป็นพระที่ได้ชื่อว่า เป็นพระอริยบุคคล และ พระที่ทรงอภิญญาองค์หนึ่ง ท่านเปี่ยมไปด้วยความเมตตา วัตถุมงคลที่ท่านสร้างขึ้นมีหลายรุ่นด้วยกันแต่ละรุ่นล้วนแล้วแต่สร้าง ประสบการณ์ให้กับผู้นำไปบูชามากมาย ไม่ว่าจะเป็นทางด้านคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด โชคลาภ เมตตามหานิยม วัตถุมงคลของท่านเป็นที่เสาะแสวงหาของคนไทยและชาวต่างประเทศเพราะนำไปบูชา แล้วได้รับผลอย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง
"หลวงพ่อแพ เขมังกะโร" วัดพิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี
พระ เทพสิงหบุราจารย์ หรือที่รู้จักกันในนาม หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดสิงห์บุรี ท่านเริ่มสร้างวัตถุมงคลต่างๆ เป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๒ เพื่อหาทุนสร้างพระอุโบสถวัดพิกุลทองที่กำลังชำรุดทรุดโทรม เนื่องจากสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๔๐
การ สร้างวัตถุมงคลของหลวงพ่อแพนั้น ท่านมิได้เน้นเรื่องความสวยงาม หากแต่เน้นไปในเรื่องของความขลัง ความศักดิ์สิทธิ์ของวัตถุมงคลนั้นๆ โดยท่านจะพิถีพิถันในการปลุกเสก ทั้งวิชาอาคม ทั้งอำนาจจิต เพื่อให้เกิดความแคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวง และด้วยพลังบริสุทธิ์ดังกล่าว จึงทำให้วัตถุมงคลของหลวงพ่อแพ รุ่นต่างๆ มีประสบการณ์อภินิหารมากมาย สืบสานยาวนานมาจนทุกวันนี้
ปัจจุบันวัตถุมงคลของหลวงพ่อแพรุ่นต่างๆ ได้รับความนิยมสะสมและแสวงหาอย่างสูงในแวดวงนักนิยมสะสมพระเครื่องและเหรียญคณาจารย์
พระราชสิงหคณาจารย์ หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี
พระ เกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงรูปหนึ่งของภาคกลางท่านมีปฏิปทาและจริยาวัตร ที่น่าเลื่อมใส และเปี่ยมไปด้วยความเมตตา วัตถุมงคลที่ท่านสร้างขึ้นมีหลายรุ่นด้วยกันแต่ละรุ่นล้วนแล้วแต่สร้าง ประสบการณ์ให้กับผู้ใช้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นทางด้านคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด โชคลาภ เมตตามหานิยม วัตถุมงคลของท่านเป็นที่เสาะแสวงหาของคนไทยและชาวต่างประเทศเพราะใช้บูชา แล้วเห็นผล
หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี
พระ เดชพระคุณท่านเจ้าคุณ " พระราชสิงหคณาจารย์ " หรือที่รู้จักกันดีในนาม หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียง พระเครื่องของท่านทุกรุ่น ทุกพิมพ์ทรงล้วนมีพุทธคุณสูงเยี่ยมในทุกๆด้าน ผู้ประสบปาฏิหาริย์แห่งความเข้มขลังเป็นที่เลื่องชื่อลือชาอย่างกว้างขวาง ทั้งชาวไทย ชาวจีน ตลอดจนชาวต่างประเทศ เช่น ไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซีย ต่างรู้จักกิตติคุณของหลวงพ่อแพเป็นอย่างดี
หลวงพ่อแพ เขมังกโร วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี
หลวงพ่อแพ เขมังกโร เป็นชาวจังหวัดสิงห์บุรี ท่านมีนามเดิมว่า "แพ ใจมั่นคง" เกิดเมื่อวันจันทร์ ที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๔๘
เมื่อ อายุได้ ๑๑ ปี บิดามารดาบุญธรรม ได้นำเด็กชายแพไปฝากอยู่วัด กับสำนักอาจารย์ป้อม เพื่อที่จะศึกษาเล่าเรียนตามแบบโบราณนิยม คือ การเรียนภาษาไทยภาษาขอม
นอก จากนั้น ยังได้เรียนหนังสือ มูลบทบรรพกิจ ทางธรรมก็มีพระมาลัยสูตร และยังได้หัดอ่านพระธรรมเจ็ดคัมภีร์ เมื่ออายุได้ ๑๔ ปี บิดามารดาบุญธรรมได้ส่งไปศึกษาต่อที่สำนักวัดอาจารย์ อาจารย์ สม ภิกษุชาวเขมร วัดชนะสงคราม กรุงเทพฯ การศึกษาในกรุงเทพฯขั้นแรกได้เริ่มเรียนหนังสือโบราณท่องสนธิ เรียนมูลกัจจายนสูตร เป็นเวลา ๑ ปี ต่อมา ก็ไปเป็นนักเรียนบาลีไวยากรณ์ ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กรุงเทพฯ
เมื่อ ศึกษาหาความรู้จนอายุได้ ๑๖ ปี ก็กลับบ้านเกิด เพื่อบรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๕ เมษายน พ.ศ.๒๔๖๓ ณ วัดพิกุลทอง ตำบลพิกุลทอง อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี โดยมีพระอธิการพันจันทสโร เจ้าอาวาสวัดพิกุลทอง เป็นพระอุปัชฌาย์ครั้นเมื่อบวชเป็นสามเณรแล้วก็ได้เดินทางกลับไปอยู่วัดชนะ สงครามตามเดิม และได้ศึกษาบาลีไวยากรณ์ต่อไปอีก จนสอบได้เปรียญธรรม ๓ ประโยค ตั้งแต่ยังเป็นสามเณร
ในปีพ.ศ.๒๔๖๘ นายเทียน ใจมั่นคง บิดาผู้บังเกิดเกล้าก็ได้ถึงแก่กรรม
โดย ความมุมานะพยายาม โดยอาศัยแสงสว่างจากเทียนไขหรือตะเกียง โดยส่วนมากเพราะสาเหตุนี้ นัยน์ตา อันเป็นส่วนสำคัญของสังขาร ก็เกิดอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรง ทุกครั้งที่ตรากตรำอ่านหนังสือมากเกินไปในที่สุด นายแพทย์โรงพยาบาลจุฬาฯ ได้แนะนำ ไม่ให้อ่านหนังสืออีกต่อไป มิฉะนั้น นัยน์ตาอาจพิการได้ ดังนั้นภายหลังจากสอบได้เปรียญธรรม ๔ ประโยคแล้ว การศึกษาด้านพระปริยัติธรรมก็ต้องยุติลง แต่ด้วยความที่เป็นผู้มีใจใฝ่การศึกษา พระภิกษุแพ เขมังกะโร จึงได้ศึกษา และปฏิบัติสมถกัมมัฎฐาน วิปัสสนากัมมัฎฐานในสำนักของพระครูภาวนา วัดเชตุพน จนชำนาญ และดำเนินการสั่งสอนให้แก่ประชาชนทั่วไป
สามเณร เปรียญแพ ขำวิบูลย์ได้ทำการอุปสมบทเมื่ออายุครบ ๒๑ ปีบริบูรณ์ ในวันขึ้น ๖ ค่ำ ปีขาล ตรงกับวันพุธที่ ๒๑ เมษายน พ.ศ.๒๔๖๙ ณ พระอุโบสถวัดพิกุลทอง โดยมีพระมงคลทิพย์มุนี เจ้าอาวาสวัดจักรวรรดิ์ราชาวาส กรุงเทพฯ เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านพระครูสิทธิเดช วัดชนะสงคราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ท่านเจ้าอธิการอ่อน วัดจำปาทอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์
ได้ รับฉายาว่า "เขมังกะโร" (แปลว่า ผู้ทำความเกษม) ภายหลังจากอุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์แพ เขมังกะโร หรือมหาแพ ก็ได้เดินทางกลับสู่วัดชนะสงคราม เพื่อตั้งใจศึกษาทางด้านพระปริยัติธรรม ให้ได้ในระดับสูงที่สุด เพื่อที่จะได้นำความรู้ ความสามารถที่ได้ฝักใฝ่ศึกษาเล่าเรียนนั้น นำไปสร้างสรรค์ให้เกิดคุณค่า และประโยชน์ต่อชุมชนและพระพุทธศาสนาอย่างเต็มที่ พระภิกษุแพ เขมังกะโร พยายามที่จะศึกษาเล่าเรียนหาความรู้ อ่านหนังสือตำราเรียนอยู่เสมอ
ใน ปี พ.ศ.๒๔๗๔ อาจารย์หยด พวงมสิต เจ้าอาวาสวัดพิกุลทอง ได้ลาสิกขาบท ทำให้ตำแหน่งว่างลง ชาวบ้านพิกุลทอง และชาวบ้านจำปาทอง จึงนิมนต์ให้พระภิกษุแพมารับเป็นเจ้าอาวาสในเดือน เมษายน พ.ศ.๒๔๗๔ ซึ่งขณะนั้นท่านมีอายุเพียง ๒๖ ปี ต่อมาก็ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงค์ตำแหน่ง ตามหน้าที่การงานต่างๆ ดังนี้
พ.ศ. ๒๔๘๒ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะตำบลถอนสมอ
พ.ศ. ๒๔๘๓ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็น พระอุปัชฌายะ
พ.ศ. ๒๔๘๔ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะอำเภอท่าช้าง
พ.ศ. ๒๔๘๕ เป็นพระครูสัญญาบัตร ผู้ทำกิจปริยัติธรรมวินัยที่พระคณุศรีพรหมโสภิต
พ.ศ. ๒๕๑๕ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นพิเศษ
พ.ศ. ๒๕๒๑ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่พระสุนทรธรรมภาณี
พ.ศ. ๒๕๒๕ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะจังหวัดสมณศักดิ์
พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่พระสิงหคณาจารย์
พ.ศ. ๒๕๓๕ ได้รับพระราชทานเลื่อนชั้นสมณศักดิ์ เป็นกรณีพิเศษ
วันที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๓๕ ในวาระครบ ๖๐ พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็นพระราชาคณะ ชั้นเทพที่พระเทพสิงหบุราจารย์
พ.ศ. ๒๕๓๙ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นกรณีพิเศษ วันที่ ๑๐ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๓๙ ใน วโรกาสเสด็จครองราชย์ครบ ๕๐ ปี เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่พระธรรมมุนี
หลวงพ่อแพ ละสังขาร เมื่อ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2542 รวม อายุได้ 94 ปี
"เหรียญโรงเรียนจ่าอากาศ" ของหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง องค์นี้ คุ้มครับ ราคาเบาแบบนี้รับรองไม่ผิดหวังครับ ของดีถือว่าคุ้มค่ามาก ไม่ผิดหวัง แน่นอน เก็บของแท้ ราคาถูก ยังดีกว่าต้องเสี่ยงกับของเก๊รุ่นดังๆติดทำเนียบนะครับ "ไม่แพง แต่ แรงด้วยพุทธคุณ" เป็นพระดีมีคุณค่าน่าบูชาสะสมมากๆครับ ซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับ ท่านที่ต้องการพระดีราคาเบา พระเก่าราคาถูก น่าเก็บบูชายิ่งนัก พลาดแล้วจะหายากและแพงครับผม ท่านพี่ท่านใดสายตรงด้านนี้ พิจารณาได้ครับ ประกันตามกฎครับท่าน....... |
ราคาเปิดประมูล | 90 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 100 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 10 บาท |
วันเปิดประมูล | - 21 ธ.ค. 2561 - 21:06:08 น. |
วันปิดประมูล | - 22 ธ.ค. 2561 - 22:45:24 น. (ปิดประมูลแล้ว) |
ผู้ตั้งประมูล | corpse (3.3K)
|