ชื่อพระเครื่อง | << วัดใจ >> เหรียญเก่า หลวงพ่ออ่อน ชุติมญฺโต จ.สิงห์บุรี พระเกจิยุคเก่า หายาก พบเจอน้อย |
รายละเอียด | เหรียญเก่า หลวงพ่ออ่อน ชุติมญฺโต วัดจำปาทอง ตำบลโพประจักษ์ อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี เนื้อทองแดงกะไหล่ทองเดิม ติดตามซอก ห่วงเชื่อมอยู่ครบ พระเกจิยุคเก่า หายาก พบเจอน้อย
ประวัติหลวงพ่ออ่อน ชุติมันโต (พ่วงโพธิ์) วัดจำปาทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี พระอนุสาวนาจารย์ของหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง ท่านชาตะเมื่อ วันอังคาร เดือน ๑๒ ปีวอก พ.ศ. ๒๔๒๖ มรณภาพเมื่อวันศุกร์ เดิอน ๙ ปีกุล พ.ศ. ๒๕๐๒ อายุ ๗๖ ปี ท่านได้เป็นเจ้าอาวาสถึง ๓ วัด วัดจำปาทอง วัดท่าควาย (เสฐียรวัฒนดิษฐ์) วัดบันไดสามแสน จ.ลพบุรี สองวัดหลังนี้ท่านได้เป็นผู้สร้างอุโบสถให้ทั้งสองวัด โดยท่านเป็นผู้ลงมือสร้างร่วมกับชาวบ้าน ซึ่งทั้งสองหลังนี้เป็นอุโบสถที่มีขนาดใหญ่และสูงมาก ท่านเคยแสดงอภินิหารให้ลูกศิษย์ได้ประจักษ์กับตา โดยที่ท่านได้ร่วงนั่งร้านหน้าบันอุโบสถลงมา ถ้าเป็นคนปกติคงไม่รอดเพราะสูงมาก แต่ท่านเพียงแค่ลุกปัดตูดเดินไปเฉยๆ เป็นที่กล่าวขานกันมาในลูกศิษย์ปากต่อปาก
แม้เพียรพยายามค้นหาประวัติท่านจากหลักฐานต่างๆ ไม่พบ แต่ข้อความจาก Yut singburi) นับว่ามีคุณค่า อย่างน้อยก็ให้ได้ทราบว่ากิตติคุณของหลวงพ่ออ่อน วัดจำปาทอง ไม่ธรรมดาแน่
น่าเสียดายแต่ว่า เหรียญปั๊มรูปเหมือนของท่านกับถูกระบุว่าเป็นเหรียญรุ่น ๒ ของหลวงพ่ออ่อน วัดท้ายตลาด อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี ไปอย่างงั้น และพบเห็นโดยทั่วไป
จึงต้องจดจำให้แม่นต่อไปว่า แท้จริงแล้วเหรียญนี้เป็นเหรียญปั๊มหลวงพ่ออ่อน ชุติมนฺโต วัดจำปาทอง ตำบลโพประจักษ์ อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี
วัดท่าควาย (เสฐียรวัฒนดิษฐ์) ภายหลังหลวงพ่อเชย มรณภาพไปในปี พ.ศ. ๒๔๖๙ มีเจ้าอาวาสครองวัดสืบมา คือ หลวงพ่ออู๊ด หลวงพ่อพุก จากนั้นจึงเป็นหลวงพ่ออ่อน ซึ่งเมื่อหลวงพ่ออ่อนดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดอยู่นั้น เสนาสนะต่างๆ ภายในวัดได้จัดสร้างขึ้นเป็นจำนวนมาก ทั้งที่บูรณะหรือสร้างทดแทนส่วนที่ชำรุดทรุดโทรม หรือสร้างขึ้นใหม่ โดยเฉพาะอุโบสถได้สร้างขึ้นมาใหม่แทนของเดิมที่ทรุดโทรมลงมาก
โดยเริ่มสร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๒ ครั้นเมื่อสร้างอุโบสถหลังใหม่เกือบสมบูรณ์ในปี พ.ศ. ๒๔๙๑ ชาวบ้านได้ร่วมแรงกันย้ายพระพุทธรูปซึ่งหุ้มด้วยปูนประดิษฐานเป็นพระประธานในวิหารร้างกลางป่าช้าด้านหลังวัดมากว่า ๑๐๐ ปี ออกจากวิหาร เป็นเหตุให้เกิดรอยร้าวของปูนและได้กะเทาะออกจนเห็นเนื้อข้างในเป็นโลหะ จากนั้นจึงช่วยกันกะเทาะปูนที่หุ้มภายนอกออกทั้งหมด พบว่าเป็นพระพุทธรูปเนื้อโลหะที่ค่อนข้างสมบูรณ์และสวยงามมาก จากนั้นได้นำไปประดิษฐานเป็นพระประธานในอุโบสถหลังใหม่
ต่อมาในสมัยที่พระครูวิจิตรสังวรคุณ (จำลอง) เป็นเจ้าอาวาสวัด ในปี พ.ศ. ๒๕๐๐ ได้นำพระพุทธรูปองค์นี้ไปร่วมประกวดสมัยกึ่งพุทธกาล และได้รับรางวัลที่ ๑ ประเภทสวยงาม จากข้อมูลการประกวดครั้งนั้น จึงได้ทราบว่าเป็นพระพุทธรูปศิลปะสุโขทัยหล่อขึ้นด้วยสัมฤทธิ์ผสมทองคำ ซึ่งตรงกับช่วงสมัยของพระมหาธรรมราชาลิไท
จึงกล่าวได้ว่าเป็นการพบพระพุทธรูปองค์สำคัญในยุคสมัยหลวงพ่ออ่อน ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัด
วัดบันไดสามแสน ตำบลเขาสมอคอน อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี สร้างเป็นวัดขึ้นมาตั้งแต่ประมาณ พ.ศ. ๒๓๐๐ พื้นที่ตั้งวัดเป็นที่เนินเขาสมอคอน เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ประชาชนทั่วไปว่าเป็นวัดร้าง แต่จากหลักฐานซากโบราณสถานที่พบเช่น ซากวิหารหน้าถ้ำ ซากอุโบสถเก่าที่เป็นสมัยอยุธยา และพระพุทธรูปที่มีอายุเก่าแก่กว่า พ.ศ. ๒๓๐๐
วัดบันไดสามแสนได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ ๒๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๙๖ และมีพระอธิการเชื้อ ฉนฺทธมฺโม เป็นเจ้าอาวาสวัดรูปแรก เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๗-๒๕๓๕ และมีหลวงพ่ออ่อน ชุติมญฺโญ เป็นพระผู้อุปถัมภ์วัด
การได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาในปี พ.ศ. ๒๔๙๖ นั้นแสดงว่าอุโบสถวัดบันไดสามแสนสร้างขึ้นใหม่ในช่วงปี พ.ศ. ๒๔๙๖ ซึ่งประวัติหลวงพ่ออ่อนกล่าวไว้ว่าท่านได้ร่วมกับชาวบ้านสร้างขึ้น
ส่วนความเป็นมาของวัดจำปาทองนั้นกล่าวว่า เดิมชื่อ วัดแม่ทอง ตามชื่อผู้สร้างวัด คือ แม่ทอง ซึ่งได้สร้างวัดนี้ขึ้นมาเพื่อให้ลูกชายบวชพระ เพราะสมัยก่อนยังมีวัดไม่มากนัก หลังจากที่บนไว้ว่า ถ้าลูกชายมีชีวิตรอดกลับมาจากการเกณฑ์ทหารที่เมืองวิเศษชัยชาญจะให้มาบวช
ต่อมาแม่ทองได้ตามมาพำนักที่วัดเพื่อดูแลลูกชายจนกระทั่งเสียชีวิตด้วยความชราภาพ
สันนิษฐานว่าวัดจำปาทองน่าจะสร้างขึ้นประมาณสมัยอยุธยาตอนปลายแต่หลักฐานทางประวัติศาสตร์ของวัดในช่วงนั้นไม่ปรากฏ จวบจนเข้าสู่สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ประมาณปี พ.ศ. ๒๔๓๐ มีพระธุดงค์รูปหนึ่งมาปักกลดและจำพรรษาอยู่บนโคกพระนอนซึ่งเป็นวัดร้าง คือ วัดแม่ทอง แล้วได้บูรณะวัดจนเริ่มมีพระภิกษุสงฆ์มาจำพรรษา จึงได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น วัดจำปาทอง เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อ บ้านจำปาทอง อันเป็นที่ตั้งวัด
นอกจากนี้วัดจำปาทองยังเป็นสถานที่เก็บรักษาเรือพระที่นั่งของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อคราวเสด็จประพาสต้นทางชลมารคมาตามแม่น้ำน้อย เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖ โดยเป็นเรือมาดเก๋งประเภทเรือแจว มีหลังคา ทำจากไม้ มีชื่อว่า เรือจำปาทองสิงห์บุรี
เหรียญสภาพใช้บูชาพุทธคุณตามรูป |
ราคาเปิดประมูล | 50 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 300 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 50 บาท |
วันเปิดประมูล | - 17 ก.พ. 2563 - 22:07:55 น. |
วันปิดประมูล | - 18 ก.พ. 2563 - 22:44:49 น. (ปิดประมูลแล้ว) |
ผู้ตั้งประมูล | ฟลุ๊ค (7.9K)
|