(0)
หลวงพ่อคูณ / เหรียญหล่อ"พระปิดตา พิมพ์ใหญ่ เนื้อแร่บางไผ่"รุ่นแรก ออกวัดนครอิทร์ ปี 2537








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องหลวงพ่อคูณ / เหรียญหล่อ"พระปิดตา พิมพ์ใหญ่ เนื้อแร่บางไผ่"รุ่นแรก ออกวัดนครอิทร์ ปี 2537
รายละเอียดหลวงพ่อคูณ / เหรียญหล่อ"พระปิดตา พิมพ์ใหญ่ เนื้อแร่บางไผ่"รุ่นแรก ออกวัดนครอิทร์ ปี 2537 **เนื้อพระทำปฏิกิริยาต่อแม่เหล็ก**หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ปลุกเสกเดี่ยว ของดีปีลึกหายาก พบน้อย.... พระแท้รับประกัน *** โปรดอ่านข้อมูลเพิ่มเติม.....****
“แร่บางไผ่” เป็นธาตุกายสิทธิ์ที่มีแหล่งแร่เฉพาะที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เท่านั้น ส่วนพุทธของแร่บางไผ่ เป็นโลหะธาตุที่นักนิยมพระเครื่องทราบดีว่าเป็นธาตุกายสิทธิ์ เมื่อนำมาสร้างเป็นวัตถุมงคลจะทรงพลานุภาพความศักด์สิทธิ์เข้มขลัง ดังที่พระเกจิโบราณาจารย์คือหลวงปู่จัน เมื่อครั้งอดีตได้สร้าง”พระปิดตาแร่บางไผ่” เป็นสุดยอดวัตถุมงคลที่คงความยอดนิยมแถวหน้าตลอดมา
@@ปัจจุบันนี้การสร้างวัตถุมงคลโดยใช้แร่บางไผ่เป็นมวลสารนั้นไม่ค่อยพบเห็น ด้วยเหตุผลที่ว่าพระผู้ที่เก็บแร่บางไผ่นั้นมีน้อยองค์ ขณะเดียวกันพื้นที่เก็บแร่นั้นก็ลดลงตามการขยายตัวของเมือง ที่สำคัญคือการสร้างวัตถุมงคลที่ใช้แร่บางไผ่เป็นมวลสารนั้นทำได้ยาก รวมทั้งวัตถุมงคลไม่สวยสมบูรณ์เหมือนการใช้มวลสารอื่นๆ
@@พระครูวิสาลสรคุณ (หลวงพ่อไวพจน์ กตปุญโญ) เจ้าอาวาสวัดสามง่าม อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ซึ่งศึกษาวิธีเก็บและหุงแร่บางไผ่ บอกว่า ถิ่นกำเนิดของแร่บางไผ่ ความจริงแร่บางไผ่นั้นไม่ได้เกิดที่บางไผ่ แต่เกิดที่คลองบางคูรัด อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ดินเหนียวเหมาะแก่การเกษตรกรรมมาก ไม่น่าเชื่อว่าจะมีแร่ชนิดหนึ่งซึ่งเมื่อดูผิวเผินแล้วเหมือนดินดานจับปึกและมีในเนื้อที่ไม่กว้างนัก ชาวบ้านที่อาศัยพื้นที่ทำนาทำสวนไม่ทราบเลยว่านี่คือแร่ชนิดหนึ่ง เมื่อนำจากธรรมชาติมาหล่อหลอมด้วยไฟแรงสูงแล้วจะมีสภาพกลายเป็นแร่เหล็กทันที เพราะแม่เหล็กจะสามารถดูดติด แต่ถ้าอยู่ตามธรรมชาติ แม่เหล็กจะดูดไม่ติด
ก่อนการเก็บดินที่มีส่วนผสมของแร่บางไผ่ต้องบวงสรวงขอจากเจ้าที่ก่อน โดยจะเก็บได้เฉพาะในช่วงฤดูฝนเท่านั่น ซึ่งถ้าออกไปเก็บนอกฤดูฝนจะไม่พบ ปัจจุบันนี้เป็นเรื่องที่น่าเสียดายเพราะพื้นที่บริเวณดังกล่าวจากในอดีตที่เป็นเรือกสวนไร่นา กลับกลายเป็นหมู่บ้าน โรงงานไปเกือบหมดแล้ว ทำให้สถานที่เก็บแร่น้อยลงไปด้วย ซึ่งเป็นไปได้สูงว่าในอนาคตหากมีการสร้างหมู่บ้านจัดสรรมากๆ ในที่สุดก็จะไม่มีสถานที่เก็บแร่บางไผ่
"คนอายุร่วม ๑๐๐ ปี เล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนนี้มีมากมายในเนื้อที่ของตน แต่พอมาทีหลังค่อยๆ หายไปโดยไม่มีสาเหตุ และถ้าจะเก็บจะต้องบวงสรวงก่อน มิฉะนั้นจะหาไม่เจอและต้องเก็บในฤดูฝนเท่านั้น เมื่อเก็บแร่มาได้แล้ก็นำมาแช่ไว้ในโอ่งน้ำ โดยน้ำที่ใช้แช่นั้นเป็นน้ำคาวปลา (น้ำที่ล้างตัวปลาที่ทำแล้ว) เมื่อต้องการหุงแร่ก็นำไปผึ่งแดดให้แห้งจากนั้นก็เข้าเตาหลอม เมื่อหลอมก้อนดินที่มีส่วนผสมของแร่บางไผ่ก้อนที่หนัก ๑ กิโลกรัมจะได้เนื้อแร่บางไผ่ประมาณ ๕ ขีด" หลวงพ่อไวพจน์ กล่าว

สำหรับการจัดสร้างจตุคามรามเทพ และพระศรีมหาลาภ พังพะกาฬ "รวยแน่แร่บางไผ่" ของวัดสามง่าม เพื่อหาปัจจัยสร้างซื้อที่ดินทำทางเข้าวัด รวมทั้งสร้างอุโบสถให้แล้วเสร็จนั้น หลวงพ่อไวพจน์ บอกว่า ได้เก็บแร่บางไผ่มาตั้งแต่ปี ๒๕๔๖ เป็นต้นมา ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเก็บมาตั้งแต่ปี ๒๕๓๖ โดยนำไปจัดสร้างพระเครื่องชุดเบญจภาคีแร่บางไผ่ จากนั้นก็ทำพระหลวงพ่อ หลวงพ่อเขียน และพระปิดตา เป็นครั้งคราว โดยใช้ส่วนผสมของแร่บางไผ่เป็น
@@พุทธคุณของแร่บางไผ่
นายนิพนธ์ เฮงเส็ง หรือ นุ เพชรัตน์ เซียนพระเครื่องของสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย บอกว่า ตามคติความเชื่อเรื่องพุทธคุณของแร่บางไผ่ มีความเชื่อกันว่าความอัศจรรย์ดังกล่าวในการทำพระของหลวงปู่จันนั้น ผู้นำไปใช้นำมาเล่าขานกันต่อมาว่า คงกระพันชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัย มั่งมีศรีสุข
ในตำนานหลวงปู่จัน ผู้สร้างพระปิดตาแร่บางไผ่ ท่านมีความรู้ในการเล่นแร่แปรธาตุ และรู้จักแร่ธาตุต่างๆ เป็นอย่างดี ท่านจึงนำแร่ดังกล่าวนี้มาเพื่อจะแปรธาตุให้เป็นทองคำ และท่านกล่าวไว้อีกว่า แร่นี้มีความศักดิ์สิทธิ์ เมตตา คงกระพันอยู่ในตัวแล้ว จึงไม่สามารถเป็นทองคำได้ ท่านจึงหันเหจากการแปรธาตุกลับมาทำเป็นพระปิดตายันต์ยุ่งที่ขึ้นชื่อลือชานักหนา ปัจจุบันมีการเช่าบูชากันในราคาเกือบล้าน
นอกจากนี้แล้วแร่นั้นเสมือนมีชีวิตถ้าอยู่ตามธรรมชาติ จะต้องอยู่ในน้ำเท่านั้นจึงจะนำมาหล่อหลอมแล้วมีธาตุเหล็กเหลืออยู่ ถ้าอยู่ที่แห้งนานๆ ถึงแม้นำมาหล่อหลอมก็จะกลายเป็นเถ้า ไม่มีธาตุเหล็กหลงเหลืออยู่เลย และก่อนที่จะนำมาหลอม เมื่อนำมาจากธรรมชาติแล้ว ต้องเลี้ยงด้วยน้ำคาวปลา แร่นั้นจึงจะมีน้ำหนักสมบูรณ์ เมื่อมาหล่อหลอมก็จะไล่ขี้ออกได้ง่ายอย่างน่าอัศจรรย์
"นักเดินไพรสมัยก่อนอมพระปิดตาแร่บางไผ่ไว้ในปาก เดินได้เป็นวันๆ ไม่ต้องกินน้ำ มีกำลังวังชา คนโบราณเอาพระแช่น้ำมันงาไว้ เอาสำลีจุ่มน้ำมางาทัดหูไป เพียงแค่นั้นก็อยู่คงแล้ว อุปเท่ห์การใช้พระแร่บางไผ่ ที่ให้คุณวิเศษอีกอย่างหนึ่งคือท่านให้เอาพระแช่น้ำผึ้งไว้ แล้วเอาน้ำผึ้งมากินทุกวัน ท่านว่าทำให้มีกำลัง ไม่เหนื่อยง่าย อายุยืน ไปไหนมาไหนก็คล่องแคล่วไม่เจ็บป่วย ที่ดินของชาวบ้านที่มีแร่บางไผ่ ไม่มีครอบครัวไหนที่ยากจนเลย มีแต่ครอบครัวมั่งคั่ง แร่บางไผ่นั้นเมื่อนำมาทำพระโดยสมบูรณ์แล้ว ต้องแช่น้ำมันงาจึงจะเกิดความสวยงาม ชุ่มฉ่ำ และดูลึกซึ้งยิ่งนัก" นุ เพชรัตน์ กล่าว........
Credit : เพจตำนาน,เรื่องเล่า,สิ่งเหนือธรรมชาติฯ....ขอขอบคุณไว้ ณ โอกาสนี้เป็นอย่างสูงครับ....
ราคาเปิดประมูล750 บาท
ราคาปัจจุบัน780 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ30 บาท
วันเปิดประมูล - 19 ก.ค. 2563 - 09:08:25 น.
วันปิดประมูล - 27 ก.ค. 2563 - 17:27:09 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลลุงอ่อง (3.7K)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 19 ก.ค. 2563 - 09:09:17 น.



..


ข้อมูลเพิ่มเติม 2 - 19 ก.ค. 2563 - 09:09:40 น.



.


 
ราคาปัจจุบัน :     780 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     30 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    peytiger (61)(3)

 

Copyright ©G-PRA.COM
www1