(0)
พระกลีบบัวอรหังหลวงปู่ไข่วัดบพิตรภิมุข เนื้อดินเคลือบปี 2472







ชื่อพระเครื่องพระกลีบบัวอรหังหลวงปู่ไข่วัดบพิตรภิมุข เนื้อดินเคลือบปี 2472
รายละเอียดเนื้อดินเผาเคลือบเขียว (สีเขียวศิลาดล ซึ่งเป็นสีนิยมในรุ่นนี้) กดพิมพ์ได้คมชัดลึก ใบหน้านั้นกดติด ตา จมูก และ ปาก จึงมีสภาพสวยและมีความสมบูรณ์มาก

วัดบพิตรพิมุขนั้นอยู่ปากคลองโอ่งอ่างฝั่งใต้ เดิมชื่อวัดตีนเลน หรือ วัดเชิงเลน เป็นวัดโบราณที่กรมพระราชวังหลังทรงสถาปนาใหม่ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก โดยพระพุทธยอดฟ้าฯ ทรงพระราชทานนามใหม่ว่า "วัดบพิตรพิมุข" ต่อมาได้รับการปฏิสังขรณ์ในรัชกาลที่ 3 และ รัชกาลที่ 5

"วัดนี้มีพระอาจารย์ที่มีพระเวทย์แก่กล้า มนต์คาถาเข้มขลัง มีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก"

นั่นคือ "หลวงปู่ไข่ แห่งวัดเชิงเลน" พระผู้ละสังขารขณะนั่งสมาธิ แห่งนี้นี่เอง

แม้ว่าเหรียญรุ่นแรกซึ่งสร้างเพียงแค่ 72 เหรียญ และพระปิดตาเนื้อผงคลุกรัก ที่สร้างไม่เกิน 1,000 องค์ จะขึ้นชื่อว่าสุดยอดของความแพง เพราะมีมูลค่าสูงมากและหายากสุด แต่ยังนับว่าโชคดีที่ยังมีพระรุ่นหนึ่งที่ท่านสร้างไว้ในจำนวนที่มากพอ ให้ผู้ศรัทธาที่เคารพรักในตัวท่านได้มีโอกาสอาราธนาไว้บูชาติดกาย

"พระกลีบบัวอรหัง" ปฐมบทของพระดินผสมผง เผาแล้วเคลือบผิวด้วยน้ำยา และแบบไม่เคลือบน้ำยา ซึ่งบังเกิดขึ้นเมื่อปี 2472 เป็นต้นมา"

โดยเมื่อ 50 ปีก่อน มีนักสะสมพระเครื่องหลายท่านเข้าใจผิดคิดว่า พระทรงกลีบบัวรุ่นนี้เป็นพระของวัดราชาธิวาสที่สร้างในสมัยอินโดจีน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ผิดพลาด ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ประจักษ์ชัดโดยถ้วนทั่ว ว่าเป็นพระที่หลวงปู่ไข่ เพียรด้วยจิตบริสุทธิ์สร้างให้เป็นมงคลมรดกทางวัตถุแก่วัดเชิงเลนแห่งนี้

ทั้งนี้เมื่อก่อนนั้นการสร้างพระปิดตาแต่ละองค์ของท่านนั้นต้องใช้ผงพุทธคุณเป็นจำนวนมาก เมื่อลูกศิษย์ลูกหาที่ประจักษ์ในอิทธิพลานุภาพและความศักดิ์สิทธิ์จากพระของท่านอยู่เนืองนิตย์ จึงมีผู้ต้องการพระของท่านมากขึ้น และมาขอกันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนท่านทำผงไม่ทัน การที่จะเขียนแล้วลบผงสูตรต่างๆให้ครบตามตำรับตำราของหลวงปู่จีน วัดท่าลาดนั้นเป็นไปได้ด้วยความยากลำบากมาก เสียเวลานานกว่าจะได้ผงพอทำพระสักองค์

ท่านจึงได้เอาเนื้อดินขุยปูกรองละเอียด (ถือเป็นวัตถุดิบอาถรรพณ์) ผสมร่วมลงไปกับผงพุทธคุณ ตามตำรับที่ได้มาจากหลวงปู่จีน วัดท่าลาด โดยใช้สูตรผสมผงเดียวกันกับพระปิดตาเนื้อผงคลุกรัก ซึ่งประกอบด้วย..
1. ผงอิทธิเจ
2. ผงปถมัง
3. ผงมหาราช
4. ผงตรีนิสิงเห
5. ผงพุทธคุณ
6. ผงใบลาน
7. ผงเกสรดอกไม้ต่างๆ

▪︎ พระกลีบบัวที่จัดสร้างนั้นมีทั้งแบบเคลือบและไม่เคลือบน้ำยา

ว่ากันว่าหลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน สร้างพระปิดตาอรหังไว้ในช่วงบั้นปลายชีวิตของท่านขณะที่ชราภาพมากแล้ว ตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ. 2472 เป็นต้นมา จนถึงก่อนมรณภาพในปี 2475 ในระยะ 3 ปีอย่างต่อเนื่อง (ไม่ได้สร้างครั้งเดียวจบ) ดังนั้นจึงมีข้อสังเกตได้ว่า พระอรหังบางองค์นั้นเนื้อหามวลสาร และน้ำยาเคลือบผิว จึงมีความแตกต่างกันบ้าง เพราะสร้างต่างกรรมต่างวาระกันนั่นเอง แต่ล้นพุทธคุณเฉกเช่นเดียวกัน ซึ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ต่างจากพระปิดตาและวัตถุมงคลอื่นๆ ที่สร้างในห้วงชีวิตของท่าน

แม้ในปัจจุบันพระรุ่นนี้ยังพอหาได้ แต่ก็เริ่มหาพระสภาพสวยสมบูรณ์ได้ค่อนข้างยากแล้ว ตลอดจนมีสนนราคาสูงขึ้นตามลำดับ จากหลักพันกลายเป็นหลักหมื่นในปัจจุบัน

พระกลีบบัวอรหังหลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน เป็นพระเครื่องที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ออกแบบได้สวยงามมาก พิมพ์ทรงเป็นรูปหยดน้ำ มีปีกเนื้อล้นโดยรอบ ตรงกลางเป็นรูปพระพุทธปฏิมาประทับนั่งสมาธิบนอาสนะบัวคว่ำบัวหงาย 11 กลีบ ด้านล่างสุดเป็นตัวอักขระขอมอ่านได้ว่า "อ ร หั ง" (อะ-ระ-หัง)

หลังองค์พระด้านบนสุดเป็นยันต์อุณาโลม ตรงกลางเป็นยันต์พระพุทธเจ้าห้าพระองค์ ผูกยันต์ตามช่องด้วยอักษรขอมอ่านได้ว่า "นะ โม พุท ธา ยะ"

พระอรหังกลีบบัว ถูกเผาเคลือบผิวด้วยน้ำยาสีต่างๆ (น้ำยาที่ใช้เคลือบเครื่องสังคโลก , กระเบื้อง หรือ โอ่งมังกร เพื่อให้เกิดความแข็งแกร่ง และสีสันสวยงาม) มีความหนาบางของน้ำยาแตกต่างกันในแต่ละองค์

พระกลีบบัวหลวงปู่ไข่เคลือบองค์นี้เป็นพิมพ์และสีนิยม มีความสวยงามสมบูรณ์เป็นอย่างมาก น้ำยาเคลือบเต็มพื้นผิวทุกอณู พิมพ์ทรงรวมถึงอักขระยันต์นั้นกดติดคมชัดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เป็นพระเนื้อดินขุยปูผสมผงพุทธคุณ ที่นำไปเผาแบบเครื่องสังคโลกจนเนื้อแข็งแกร่ง

โดยพระในรุ่นนี้มีทั้งแบบเคลือบและไม่เคลือบน้ำยาที่ผิวพระ (การเคลือบผิวนั้นเพื่อให้เกิดความเงางาม และเพื่อปกป้องผิวพระ) องค์ที่ไม่เคลือบผิวจะมีสีขาวหรือสีส้มอมชมพูด้านๆ ส่วนพระที่เคลือบผิวมีหลายเฉดสีของผิวเคลือบ เช่น เคลือบเหลือง , เคลือบเขียว (ที่เค้ามักเรียกว่าเขียวศิลาดล) , เคลือบฟ้า เป็นต้น

นักสะสมพระเครื่องที่มีความเคารพศรัทธาในหลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน ไม่จำเป็นต้องขวนขวายหาของแพงๆ เช่น พระปิดตาเนื้อผงคลุกรัก หรือเหรียญรูปเหมือนของท่าน ซึ่งมีราคาเป็นแสนเป็นล้าน แถมยังมีของเก๊ระบาดกลาดเกลื่อนไปทั่วทุกสนามอีกด้วย จึงขอแนะนำให้หันมาพิจารณา "พระกลีบบัวอรหัง" รุ่นนี้ดีกว่า รับรองว่าพุทธคุณเหมือนกัน แต่ราคาถูกกว่ากันมากมาย น่าสะสมบูชาเป็นอย่างยิ่ง

อนึ่งเมื่อคราววัดบพิตรภิมุขวรวิหาร (วัดเชิงเลน) จัดตั้งมูลนิธิหลวงปู่ไข่ เพื่อสงเคราะห์ทุนการศึกษาสำหรับเด็กกำพร้าในปี พ.ศ. 2542 ผู้บริจาคเงินจำนวน 30,000 บาทขึ้นไป จึงจะได้รับ "พระกลีบบัวอรหัง" บรรจุตลับทองเป็นการสมนาคุณจากทางวัด จำนวน 1 องค์

ทางวัดได้มีการสร้างพระกลีบบัวอรหังในครั้งต่อมาอีกหลายครั้งในปี 2515 , ปี 2532 และ ปี 2536 พระในรุ่นเหล่านี้มักไม่ได้เคลือบด้วยน้ำยาเคลือบผิว โดยเป็นเนื้อผงธรรมดา ซึ่งดูเผินๆอาจจะคล้ายกัน แต่ถ้าสังเกตและพิจารณาโดยละเอียด จะเห็นว่าทั้งพิมพ์และเนื้อหานั้นมีความแตกต่างกันกับองค์ในภาพอย่างสิ้นเชิง

• พระคาถากำกับพระอรหังของหลวงปู่ไข่ อินฺทสโร

☆ อรหัง พุทโธ อิติปิโส ภควา นะเมตตาจิต ☆

แล้วสงบจิต นึกถึงสิ่งนั้น ชื่อนั้น (ออกชื่อด้วย) จะเป็นไปตามความปรารถนาของท่านผู้อธิษฐาน
พระกลีบบัวอรหัง หลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน กรุงเทพฯ ปี2472 มีหน้าตา นิยมสวย ประกันตามกฎ

พระกลีบบัวอรหัง หลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน กทม.เป็นพระเครื่องที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ออกแบบได้สวยงามมาก พิมพ์ทรงเป็นรูปหยดน้ำ มีปีกเนื้อล้นโดยรอบ ตรงกลางเป็นรูปพระพุทธรูป ปางสมาธิ ประทับนั่งบนอาสนะบัวคว่ำบัวหงาย ๑๑ กลีบ ล่างสุดเป็นตัวอักขระขอมอ่านได้ว่า "อรหัง" ด้านหลังบนสุดเป็นยันต์อุณาโลม ตรงกลางเป็นยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ ผูกเป็นยันต์ตามช่องเป็นภาษาขอมอ่านได้ว่า"นะ โม พุท ธา ยะ" องค์พระอรหังกลีบบัว เคลือบด้วยน้ำยาหนาบ้างบางบ้าง แตกต่างกัน
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน9,000 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ100 บาท
วันเปิดประมูล - 13 ก.ย. 2563 - 21:06:50 น.
วันปิดประมูล - 16 ก.ย. 2563 - 23:40:36 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลchot56 (1.7K)(1)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     9,000 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     100 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    vit5959 (36)

 

Copyright ©G-PRA.COM
www1