ชื่อพระเครื่อง | สร้อยประคำ 108 หินหยกเขียว เม็ดประคำขนาด 8 มม. หยกเขียวธรรมชาติไม่ผ่านการปรับปรุงคุณภาพหรือย้อมสี |
รายละเอียด | สร้อยประคำ 108 หินหยกเขียวพม่า หยกเขียวธรรมชาติไม่ผ่านการปรับปรุงคุณภาพหรือย้อมสี เม็ดประคำหยกขนาด 7-9 มม. ความยาวสร้อยประมาณ 34 นิ้ว สำหรับสวดมนต์ภาวนา ทำสมาธิ หรือให้ครูบาอาจารย์ที่ท่านเคารพนับถืออฐิษฐานจิตปลุกเสก เพื่อเป็นสิริมงคล
หยกเป็นหินชนิดหนึ่งมีหลายสีที่นิยมคือ สีเขียว มีคุณสมบัติที่ดีในหลายๆด้าน คนจีนจะนิยมนำมาทำเป็นเครื่องประดับ ภาชนะต่างๆ เครื่องรางเพื่อป้องกันตัวและแกะสลักเป็นรูปวัตถุมงคลต่างๆ เช่น ปีเซียะ กิเลน สิงโต พระพุทธรูป เจ้าแม่กวนอิม กำไล แหวน สร้อยคอ ฯลฯ
หยกได้ชื่อว่าเป็นอัญมณีจากสวรรค์ เชื่อว่าหยกมีพลังเร้นลับสามารถผลักดันความเป็นศิริมงคลมาให้แก่เจ้าของ ซึ่งสืบทอดความเชื่อนี้มาแต่โบราณ
หยกสีเขียว เป็นสีได้รับความนิยมมากที่สุด ตั้งแต่โทนเขียวอ่อนจนถึงเขียวเข้มทุกโทน สีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของความร่ำรวยและความมั่งคั่ง เงินทองไหลมาเทมา เป็นสีแห่งความผ่อนคลาย ทำให้จิตใตสงบ
ประวัติความเป็นมาลูกประคำ
ในปีพุทธศักราช ๒๒๕ คณะสงฆ์ในบวรพระพุทธศาสนาในประเทศอินเดียได้ส่งพระอรหันต์เถระเดินทางออกไปเผยแผ่พระพุทธศาสนา ในดินแดนต่างๆ ในการนี้ได้มอบหมายให้พระอรหันต์สองรูป คือ พระโสณเถระและพระอุตตรเถระ เดินทางมาเผยแผ่พระพุทธศาสนาและนำพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธองค์มาประดิษฐานในดินแดนสุวรรณภูมิ ซึ่งมีเมืองนครปฐมในปัจจุบันเป็นจุดศูนย์กลาง พระอรหันต์เถระทั้งสองรูปเมื่อเดินทางผ่านเมืองสะเทิมในประเทศมอญ ได้พบกับพระฤษีสามองค์ ซึ่งพำนักบำเพ็ญเพียรภาวนาอยู่ที่บริเวณภูเขาสุทัศน์คีรีใกล้เมืองสะเทิม คือ พระฤษีคุปตะ พระฤษีจุลละ และพระฤษีเทวิละ พระฤษีทั้ง ๓ องค์นี้ เมื่อได้เห็นพระจริยาวัตรและปฏิปทาอันงดงามของพระโสณเถระและพระอุตตรเถระก็บังเกิดศรัทธา เลื่อมใสชักชวนกันไปกราบไหว้นมัสการ และซักถามพระอรหันต์เถระทั้งสองว่า ท่านเป็นศิษย์ของผู้ใด ใครคือพระศาสดาของท่าน พระอรหันต์เถระทั้งสองก็ตอบว่า พระสมณโคดมศากยบุตรอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นอาจารย์ของพวกเรา พระองค์คือพระศาสดาของพวกเราทั้งหลาย พระฤษีสามองค์ เมื่อได้ยินดังนั้นก็ขอร้องให้พระอรหันต์เถระทั้งสองรูป เล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาของพระพุทธศาสนาให้ฟัง พระอรหันต์เถระทั้งสองก็ได้อธิบายให้พระฤษีทั้ง ๓ องค์ฟังโดยละเอียด พระฤษีทั้ง ๓ องค์เมื่อได้ทราบว่าพระรัตนตรัยได้บังเกิดขึ้นในโลกนี้แล้วก็รู้สึกปิติยินดี แต่มีความเสียดายที่ไม่ได้พบเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ เพราะทรงเข้าปรินิพพานไปนานแล้วถึง ๒๒๕ปี จึงซักถามพระอรหันต์เถระทั้งสองต่อไปว่าพระรัตนตรัยทั้งสามมีคุณเท่าใด พระอรหันต์เถระทั้งสองก็อธิบายให้ฟังว่า คุณของพระพุทธเจ้ามีจำนวน ๕๖ ดังบทสวดพระพุทธคุณ (อิติปิโสภควา) คุณพระธรรมเจ้ามีจำนวน ๓๘ ดังบทสวดพระธรรมคุณ (สวากขาโต) และคุณพระสังฆเจ้ามีจำนวน ๑๔ ดังบทสวดพระสังฆคุณ (สุปฏิปันโน) เมื่อรวมกันแล้ว คุณพระศรีรัตนตรัยมีจำนวนทั้งสิ้น ๑๐๘
เมื่อทั้งสองฝ่ายได้สนทนากันจนเป็นที่พอใจแล้ว พระอรหันต์ทั้งสองก็อำลาพระฤษีทั้งสามออกเดินทางมายังสุวรรณภูมิตามจุดมุ่งหมายเพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาต่อไป
ฝ่ายพระฤษีทั้งสามได้ปรึกษาหารือกันว่า เราควรจะมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจเพื่อให้น้อมระลึกถึงคุณพระศรีรัตนตรัยอยู่เสมอ ในที่สุดก็ได้ตกลงกันสร้างลูกประคำขึ้นมาเพื่อใช้ในการสวดมนต์ภาวนา โดยกำหนดให้ลูกประคำมีจำนวน ๑๐๘ เม็ด เท่ากับคุณพระศรีรัตนตรัยซึ่งมีจำนวนรวมทั้งสิ้น ๑๐๘ และที่ยอดของสายประคำได้ใส่ลูกประคำไว้อีกสามเม็ดเพื่อแทนพระศรีรัตนตรัยเจ้าทั้งสามคือพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า และพระสงฆเจ้า สำหรับบทสวดภาวนาเกี่ยวกับลูกประคำนั้น พระฤาษีทั้งสามได้กำหนดเอาพระนามของพระพุทธเจ้าทั้ง ๕ พระองค์ในภัทรกัปนี้คือ นะโมพุทธายะ มาประยุกต์รวมกันเข้ากับพระคาถา โอม คือ มะอะอุ ซึ่งเป็นพระคาถาของท้าวมหาพรหม มาสวดภาวนาเวลาชักลูกประคำ โดยอนุโลมปฏิโลม ดังต่อไปนี้คือ นะโม พุทธายะ ยะธาพุทโมนะ มะ อะ อุ อุ อะ มะ ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ลูกประคำ ๑๐๘ ก็ได้แพร่หลายเรื่อยมาจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้
ที่มา : ตำนานประคำ ๑๐๘ ซึ่งมีบันทึกในหนังสือ เรื่องเล่าของหลวงพ่ออุตตมะ จากหนังสืออุตตมะ ๘๔ |
ราคาเปิดประมูล | 340 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 350 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 10 บาท |
วันเปิดประมูล | - 02 ต.ค. 2563 - 17:42:25 น. |
วันปิดประมูล | - 04 ต.ค. 2563 - 12:03:13 น. (ปิดประมูลแล้ว) |
ผู้ตั้งประมูล | chakrit_k (1.3K)
|