(0)
รูปเหมือนปั๊ม หลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ จ.ลพบุรี พิมพ์เตารีด เนื้อทองผสม กะไหล่ทอง อุดผง








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องรูปเหมือนปั๊ม หลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ จ.ลพบุรี พิมพ์เตารีด เนื้อทองผสม กะไหล่ทอง อุดผง
รายละเอียดลพบุรี เป็นเมืองที่มีความสำคัญมาตั้งแต่อดีต ตั้งแต่สมัยขอม เราจะเห็นถาวรวัตถุหลายอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของลพบุรียุคขอมเรืองอำนาจ เช่น พระพุทธรูป พระกรุ วิหาร ปราสาท พระปรางค์สามยอด ฯลฯ เป็นต้น อีกทั้งสมัยพระนารายณ์มหาราชแห่งกรุงศรีอยุธยา ลพบุรีก็มีความสำคัญในฐานะเป็นเมืองหลวงแห่งที่สองในสมัยนั้น เมืองลพบุรี มีสุดยอดพระเกจิอาจารย์มากมาย ซึ่งยังคงสืบทอดกันมาไม่ขาดสายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ถ้าเป็นในสมัยก่อนปี พ.ศ. ๒๕๐๐ สุดยอดพระเกจิของเมืองนี้ที่คุ้นหูนักสะสมพระก็คงเป็น หลวงปู่ก๋ง ปรมาจารย์แห่งเขาสมอคอน หลวงพ่อสาย วัดเสือ หลวงพ่อกรัก วัดอัมพวัน หลวงพ่อเภา วัดถ้ำตะโก หลวงพ่อเนียม วัดเสาธงทอง แม้กระทั่งพระอาจารย์องค์สำคัญของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) แห่งวัดระฆังที่เลื่องลือ ก็ยังอยู่ที่เมืองนี้ นั่นก็คือ หลวงพ่อแสง หรือ ขรัวตาแสง แห่งวัดมณีชลขัณฑ์ นั่นเอง

ส่วนยอดพระเกจิอาจารย์ยุคหลังปี พ.ศ. ๒๕๐๐ จนถึง พ.ศ. ๒๕๒๐ ที่ขึ้นชื่อลือชาอยู่ในระดับแถวหน้าก็คงไม่พ้น "หลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์" หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู หลวงพ่อบุญมี วัดเขาสมอคอน หลวงปู่มัง วัดเทพกุญชร หลวงพ่อทัน วัดหนองนา หลวงพ่อดำ วัดเสาธงทอง เป็นต้น ส่วนในยุคปัจจุบันที่โด่งดังก็มีหลายองค์ เช่น หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน หลวงพ่อทองดำ อาจารย์ติ๋ว เป็นต้น

แต่ตอนนี้ผู้เขียนขอแนะนำให้ท่านรู้จักกับเรื่องราวของ หลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ อ.เมือง จ,ลพบุรี กันเสียก่อน ซึ่งนับเป็นพี่ใหญ่ของยอดพระเกจิในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๐๐ - ๒๕๒๐ โดยจะเห็นได้จากงานพิธีปลุกเสกพระเครื่องของวัดต่างๆ ในจังหวัดลพบุรี และจังหวัดใกล้เคียงในสมัยนั้น ถ้ามีการนิมนต์หลวงปู่คำมี หลวงพ่อพริ้ง และหลวงพ่อบุญมี มาร่วมงานพร้อมกัน หลวงปู่คำมี จะได้รับเกียรติให้เป็นผู้นำของพระสายลพบุรี เพราะว่ามีคุณวุฒิ และอาวุโสสูงสุด หลวงปู่คำมีเป็นพระไม่ธรรมดา เก่งทั้งด้านวิชาอาคม และวิปัสสนา ถ้าท่านได้อ่านประวัติของหลวงปู่คำมีที่จะได้นำเสนอในตอนต่อไปนี้ จะเห็นว่า ท่านได้เดินธุดงค์อยู่ตามป่าเขานับเป็นสิบๆ ปี เพราะท่านเป็นพระที่ไม่ยึดติดอยู่กับที่ จนกระทั่งในวัยชรา ท่านจึงมาจำพรรษาที่วัดถ้ำคูหาสวรรค์ เพราะต้องการความสงบ

หลวงปู่คำมี เป็นหนึ่งในศิษย์ของ สมเด็จลุน แห่งนครจำปาสัก และได้ศึกษาวิชากับ หลวงปู่ศรีทัต อำเภอท่าอุเทน นครพนม นอกจากนี้ท่านยังได้เรียนวิปัสสนากับ หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล อาจารย์ใหญ่แห่งกองทัพธรรมอีกองค์หนึ่งในสายพระอาจารย์มั่น หลวงปู่คำมีมีชื่อเสียงเลื่องลือเป็นที่รู้จักตั้งแต่สมัยสงครามอินโดจีน ตอนที่มาอยู่ลพบุรีแล้ว เนื่องจากเมืองลพบุรีเป็นเมืองทหาร จึงมีพวกทหารมาขอเครื่องราง เช่น ตะกรุด เพื่อป้องกันตัว ซึ่งปรากฏว่ามีประสบการณ์ดี ดังนั้น ทหารจึงนับถือท่านมาก ต่อมาในสงครามเกาหลี สงครามเวียดนาม พระของท่านก็สร้างชื่อเสียงอีกครั้ง เพราะทหารที่พกวัตถุมงคลของท่านทุกคน ล้วนปลอดภัยกลับมา หลวงปู่คำมีเป็นพระที่มีอายุยืนยาวถึง ๑๐๘ ปี มรณภาพเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๔ เป็นพระอีกรูปหนึ่งที่มรณภาพแล้ว สังขารไม่เน่าเปื่อย และทางวัดยังเก็บสรีระของท่านไว้ในโลงแก้วจนทุกวันนี้


ปาฏิหาริย์ของหลวงปู่

ร่างไม่เปียกฝน

ขณะที่หลวงปู่ปักกลดเจริญภาวนาอยู่ที่ป่าบ้านหนองปลาดุก (จากบันทึกไม่ทราบว่าเป็นจังหวัดใด) ครั้งนั้นมีหลวงตาทองคำ และหลวงพ่อหงส์ ร่วมธุดงค์ไปด้วย เกิดพายุฝนตกหนัก น้ำป่าไหลบ่ามาทางท่าน และพระภิกษุทั้งสอง หลวงตาทองคำ และหลวงพ่อหงส์ได้หนีน้ำป่าละจากกลดที่ท่านพักอยู่เดินมายังกลดหลวงปู่คำมี ท่านทั้งสองได้พบกับความแปลกใจ น้ำป่ามิได้ไหลเข้ามาบ่าท่วมทำลายกลดของหลวงปู่คำมีแต่อย่างใดไม่ อีกทั้งจีวรของหลวงปู่คำมีก็มิได้เปียกฝนอย่างเช่นพระภิกษุทั้งสอง


ย่นระยะทาง

คราวที่ท่านพำนักจำพรรษาอยู่ที่วัดถ้ำคูหาสวรรค์ใหม่ๆ วัดดงจำปา ได้มานิมนต์ท่านไปฉันเพลที่บ้าน หลวงปู่สั่งให้ผู้นิมนต์เดินทางล่วงหน้าไปก่อน เมื่อผู้นิมนต์กลับไปถึงบ้านถึงกับตกตะลึงเมื่อเห็นหลวงปู่กำลังตักน้ำล้างเท้า สร้างความสงสัยให้แก่พวกเขายิ่งนัก ว่าท่านมาได้อย่างไรแซงพวกเขาขึ้นมาตอนไหน เพราะทางแถวนั้นเป็นป่าทั้งหมดมีทางเดินเพียงทางเดียว


เสกปูนให้จืด

ทุกครั้งที่ก่อนจะเข้าพิธี หลวงปู่จะขอปูนแดงที่กินกับหมาก ก้อนขนาดเท่าหัวแม่มือมาทำการเสกให้จืดเสียก่อน เพื่อเป็นเคล็ดในด้านแคล้วคลาดปลอดภัย เคยมีผู้ทดลองชิมปูนแดงที่หลวงปู่เสกแล้วปรากฏว่าจืดสนิท


หายตัวได้

พระอาจารย์หวาน หลวงพี่จันทร์ พระทั้งสองซึ่งจำพรรษาอยู่กับหลวงปู่คำมี ที่วัดถ้ำคูหาสวรรค์เล่าให้ฟังว่า ได้มีญาติโยมหลวงปู่ และพระในวัดไปฉันเพลที่บ้านดงน้อย ทางไปบ้านดงน้อยนั้นต้องอาศัยเพียงการเดินเท้าไป เพราะทางเดินเป็นป่า และทุ่งนา ขากลับจากฉันเพลผ่านสระน้ำ อากาศวันนั้นร้อนมาก หลวงปู่ได้บอกกับพระทั้งสองว่า ท่านขอสรงน้ำสักครู่ ขอให้ท่านทั้งสองรออยู่ก่อน ในขณะที่ท่านสรงน้ำนั้นปรากฏว่า พระทั้งสองรูปไม่สามารถมองเห็นหลวงปู่ จึงเที่ยวตามหาในบริเวณนั้น เป็นเวลานานแต่ก็ไม่พบ พระทั้งสองรูปจึงปรึกษากันว่า หลวงปู่คงไปจากที่นั้นเสียแล้ว จึงได้ชวนกันกลับวัด เมื่อพระทั้งสองรูปมาถึงที่วัดก็ถึงกับตกตะลึงเมื่อพบหลวงปู่นั่งอยู่ก่อนแล้ว หลวงปู่บอกพระทั้งสองรูปว่าเห็นพระทั้งสองตามหาท่าน ทั้งที่ท่านก็ไม่ได้ไปไหน

พระอาจารย์หวาน เป็นศิษย์สืบทอดวิชาท่านหนึ่งของหลวงปู่ ปัจจุบันมรณภาพแล้ว ส่วนหลวงพี่จันทร์ได้กลับไปจำพรรษาที่บ้านเกิดของท่านคือ วัดศรีพิมล ต.บ้านโต้น อ.พระยืน จ.ขอนแก่น


ขโมยของไม่ได้

จ่าสำราญ (ขอสงวนนามสกุล) ท่านเป็นทหารปืนใหญ่อยู่ในจังหวัดลพบุรี เล่าให้ฟังตอนไปทำบุญที่วัดถ้ำคูหาสวรรค์ เพื่อสมทบทุนสร้างพระอุโบสถ จ่าสำราญแกได้รับแจกเหรียญหลวงปู่คำมีมาเหรียญหนึ่ง เมื่อกลับถึงบ้านได้วางเหรียญของหลวงปู่ไว้บนหลังโทรทัศน์ และลืมสนิทเนื่องจากแกไม่ได้ให้ความสนใจเรื่องเครื่องรางของขลังใดๆ เวลาต่อมาหลายวันหลังจากนั้น ได้มีขโมยได้งัดบ้านแกเข้าไปขโมยของภายในบ้าน ขโมยคนนั้นได้เข้าไปพยายามยกโทรทัศน์แต่ยกไม่ขึ้น โดยช่วยกันยกทั้งสองคนแต่ก็ยกไม่ขึ้น จ่าสำราญแกรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเห็นขโมยทั้งสองกำลังพยายามยกโทรทัศน์กันเป็นสามารถแต่ยกไม่ขึ้น ทั้งที่ความจริงโทรทัศน์เครื่องนั้นไม่ได้หนักมากแต่อย่างใด ลำพังคนเดียวก็สามารถยกขึ้นได้ และเมื่อขโมยเห็นเจ้าของบ้านตื่นขึ้นมาจึงชักปืนยิงจ่าสำราญ โดยยิงเท่าไรก็ไม่ออก เสียงดัง แชะ แชะ อยู่อย่างนั้น จ่าสำราญได้สติจึงชาร์จเข้าไปหวังจะจัดการเจ้าขโมยสองคนนั้น ขโมยทั้งสองคนเห็นว่าจ่าสำราญยิงไม่ออกจึงขวัญหนีโกยแน่บ โดยไม่ได้อะไรไปแม้แต่ชิ้นเดียว ถ้าถามว่าจ่าแกมีอะไรดีปืนถึงยิงไม่ออก ก็ขอบอกว่าทั้งเนื้อทั้งตัวแกนอกจากเสื้อผ้าแล้วไม่มีอะไรเลย นอกจากเหรียญหลวงปู่คำมีที่วางอยู่บนหลังโทรทัศน์ ที่เจ้าขโมยสองคนนั้นพยายามยกอยู่เท่านั้น

ขอขอบคุณเครดิตข้อมูล : http://www.dharma-gateway.com/
***********************************************************

สวยสมบูรณ์ เจ้าของบ้านเก็บไว้อย่างดี

เก็บพระแท้ไว้ มีแต่กำไรครับ
ราคาเบา ๆ
รับประกันพระแท้ตลอดชีพ

โอนเงินแล้ว กรุณาแจ้ง ในกล่องข้อความด้วยครับ
(ยอดเงินไม่เกิน 500 บาท จัดส่งแบบลงทะเบียน)
(ยอดเงินตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป จัดส่งแบบ EMS)

ยังมีรายการอื่นอีกนะครับ คลิก "พระเครื่องทั้งหมดของผู้ตั้งประมูล"
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน120 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ10 บาท
วันเปิดประมูล - 30 มี.ค. 2564 - 18:14:34 น.
วันปิดประมูล - 31 มี.ค. 2564 - 18:22:40 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลjinn-jinn (4.2K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     120 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     10 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    นพดล2519 (9.3K)

 

Copyright ©G-PRA.COM