(0)
พระขุนแผน รุ่นสากหัก วัดละหารไร่ พ.ศ.2546 เนื้อโซนขาว พิเศษด้านหลังฝังพระขุนพลจิ๋วและทับทิมเสก






รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องพระขุนแผน รุ่นสากหัก วัดละหารไร่ พ.ศ.2546 เนื้อโซนขาว พิเศษด้านหลังฝังพระขุนพลจิ๋วและทับทิมเสก
รายละเอียดประวัติการสร้างพระขุนแผนสากหัก หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ปี2546
หลังจากหลังปู่ทิมมรณะภาพลุงแมงได้ย้ายจากจ.ระยองไปอยู่ที่จ.สุโขทัย โดยได้ไปซื้อที่ดินทำไร่สวนส้มเขียวหวาน ลุงแมงได้เห็นศาลาเอนกประสงค์ของวัดพงเสลี่ยงที่ใช้เป็นที่ประชุมของชาวบ้าน มีสภาพทรุดโทรม ก็เลยมาปรึกษากับ อ.ชินพร สุขสถิตบ์ มาขอให้เป็นเจ้าภาพเพื่อทอดกฐินสามัคคีที่วัดพงเสลี่ยง เพื่อหาเงินจากการทอดกฐินไปสร้างศาลา อ.ชินพรก็รับปากว่าจะบอกให้หมู่บรรดาลูกศิษย์ของหลวงปู่ทิมให้ได้รับทราบ และให้ชื่อศาลานี้ว่า"ศาลาศิษย์หลวงปู่ทิมร่วมใจ"
และเพื่อให้มีสิ่งของเพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจแก่ผู้ร่วมบุญในครั้งนี้ จึงคิดที่จะสร้างพระผงพรายกุมารขึ้น ลุงแมงและพระทอง สุขวงศ์จันทร์ ซึ่งบุคคลทั้ง 2 นี้เคยรับใช้ใกล้ชิดหลวงปู่ทิม อิสริโกมาก่อน จึงได้นำผงพรายกุมารชนิดบริสุทธิ์(เข้มข้น)ที่คนทั้ง 2 ได้เก็บสะสมไว้ เมื่อคราวสร้างพระให้หลวงปู่ทิม เอามาให้ อ.ชินพร สุขสถิตย์ เป็นขนาด 1 ขวดเนสกาแฟขนาดเล็ก ซึ่งลุงแมงได้บอกว่า ได้เก็บไว้ตั้งแต่สมัยหลวงปู่ทิม แต่ไม่กล้าเอาออกมาทำพระ เพราะเกรงใจอาจารย์เชย เจ้าอาวาสระหารไร่ แล้วได้มอบผงพรายกมารบริสุทธิ์แบบเข้มข้นนี้ให้อ.ชินพร สุขสถิตย์ เพื่อใช้ทำขุนแผนพรายกุมาร ออกเพื่อเป็นของสมนาคุณแก่ผู้ร่วมบุญทอดกฐินวัดพงเสลี่ยง ดังกล่าวในครั้งนี้
นอกจากนั้นลุงแมงยังไปแสวงหาว่านมงคลต่างๆตามตำราสร้างพระผงของหลวงปู่ทิมมาให้ผมอีกหลายชนิด สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ลุงแมงไปเสาะแสวงหามาให้ผมก็คือ ไม้หลงลืม หรือเถาวัลย์หลง เมื่อผมไปเยียนลุงแมงที่บ้านห้วยโป้ ภรรยาลุงแมงบอกกับผมว่า “พี่แมงอุตสาห์ไปหาไม้หลงลืม เอามาให้ผมทำพระขุนแผน ไปหาอยู่นานโขจึงจะได้” นอกจากวัตถุมงคลต่างๆแล้ว ทิดเย็น คำมี หรืออดีตหลวงพี่เย็น ซึ่งเคยช่วยหลวงปู่ทิมสร้างพระเครื่อง, ลงเลขยันต์ ตลอดจนการทำสีผึ้งก็ได้บอกเคล็ดลับต่างๆในวิธีการสร้างพระเครื่องของหลวงปู่ทิมแก่ผมด้วย
นอกจากจะมีผงพรายแบบเข้มข้นแล้ว ลุงแมงยังได้ไปหาว่านมงคลต่างๆตามตำราการสร้างพระของหลวงปู่ทิมมาให้อีกหลายชนิด และที่สำคัญคือไม้หลวงลืมหรือเถาวัลบ์หลง ซึ่งต้องใช้เวลาในการหาอยู่นานกว่าจะหาได้ นอกจากนี้แล้ว ทิดเย็น คำมี หรืออดีตหลวงพี่เย็น ซึ่งในครั้งที่หลวงปู่ทิมมีชีวิตอยู่ได้เคยให้ช่วยสร้างพระเครื่อง ลงเลขยันต์ ตลอดจนการทำสีผึ้ง ยังได้มาบอกเคร็ดลับต่างๆในวิธีการสร้างพระเครื่องของหลวงปู่ทิมให้แก่อ.ขินพร สุขสถิตย์ทราบ ซึ่งอ.ชินพร ก็ทำตามที่ทิดเย็น คำมีได้บอกไว้
และนอกจากนี้และยังมีบางคนได้นำผงและของอาถรรพ์ต่างๆมาให้สมทบอีกเช่น คุณอุกฤษ ดุลย์เกษม หัวหน้าไปรษณีย์ได้นำพระผงรูปหล่อขนาดใหญ่พิเศษของหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค ซึ่งได้สร้างขึ้นเพียง 3 องค์มาให้อ.ชินพร ตำผสมลงในเนื้อพระขุนแผนพรายกุมารรุ่นสากหักนี้ด้วย
แทบจะกล่าวได้ว่าพระขุนแผนพรายกุมารรุ่นสากหักนี้ มีผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิมและผงวิเศษต่างๆบรรจุมากที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา หลังจากที่หลวงปู่ทิมได้มรณภาพไปแล้ว
จนเมื่อถึงวันที่ 12 สิงหาคม 2546 อันเป็นวันดีของปี อ.ชินพร สุขสถิตย์ก็ได้ถือเอาเป็นวันที่เริ่มต้นในการสร้างพระขุนแผนพรายกุมารรุ่นนี้ขึ้น โดยจะทำเป็นของสมนาคุณให้แก่ผู้ที่ร่วมทอดกฐินสามัคคี วัดพงเสลี่ยง บ้านห้วยโป้ ต.แม่สิน อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัยขึ้น
และเมื่ออ.ชินพร นำเอาผงพุทธคุณต่างๆพร้อมผงพรายกุมารที่ลุงแมงและพระทอง สุขวงศ์จันทร์ที่ได้มอบให้มาตำเป็นครกแรกที่บ้านที่มูลนิธิ พอผงเริ่มละเอียดพอที่จะนำมากดเป็นพระได้ สากหินที่ใช้ตำผงก็หักทันที ทำให้อ.ชินพร ขนลุกซู่ และคิดว่าหลวงปู่ทิมท่านคงจะสำแดงเหตุบางประการให้ทราบว่าพระขุนแผนรุ่นนี้ต้องขลังและศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอน ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็มีคนเห็นอยู่ 3 คนคือ อ.ชินพร สุขสถิตย์ คุณมานิตา ซึ่งเป็นภรรยาของอาจารย์อ.ชินพร และคุณนพดล ซึ่งเป็นช่างโยธา 5 สำนักระบายน้ำของ กทม ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ในครั้งนี้ด้วย ดังนั้นพระขุนแผนพรายกุมารรุ่นนี้จึงให้ชื่อว่า พระขุนแผน(พรายกุมาร)รุ่นสากหัก
เมื่ออ.ชินพรสร้างพระขุนแผนรุ่นสากหักได้ประมาณพันกว่าองค์ก็ทำไม่ไหว คุณชาลี เอี่ยมฉลวย ซึ่งเป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อสง่า วัดบ้านหม้อ ราชบุรี และหลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม รับอาสาเอาไปทำต่อ เพราะจะทำเป็นพุทธบูชาถวายหลวงปู่ โดยคุณชาลี เอี่ยมฉลวยได้เล่าให้ฟังว่า เขาได้ฝันเห็นหลวงปู่ทิมมาหา แล้วยื่นกระดาษสารพักกันสีขมพูให้ พร้อมด้วยแผ่นทองคำอีก 1 แผ่น ซึ่งของทั้ง 2 สิ่งนี้ก็ได้เข้าไปในตัวคุณชาลี เอี่ยมฉลวย
และพอคุณชาลีเริ่มทำพระขุนแผนนี้ ก็เกิดอาการเนื้อเนื้อที่ด้านหลังเต้นตุบๆจนเกิด ความรำคาญ ไม่ว่าคุณชาลีจะเอาไม้ เอามีดมาเกา หรือแม้นแต่เอามีดคมๆ มาสับเนื้อที่ด้านหลังนี้ก็ยังไม่หาย คุณชาลีเลยภอดเสื้อให้อาจารย์เปีย ซึ่งเป็นศิษย์สายอาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง ผู้เป็นอาจารย์สัก ช่วยดูแผ่นหลังให้ ปรากฏว่าบริเวนเนื้อด้านหลังนูนขึ้นมาเป็นรูปหงษ์ทองคู่และรูปหนุมาน คุณชาลี เอี่ยมฉลวยต้องทนทุกข์เพราะหนังเต้นอยู่ 2 วัน พ่อแก่ครูฤาษีที่คุณชาลี นับถือได้บอกว่าครูมาลง เพราะทำขุนแผน ให้เอาหมากพลูมาเคี้ยว แล้วเอาน้ำหมากมาลูบหลัง อาการเนื้อเต้นจึงค่อยๆหายไป
ขุนแผนสากหักทุกสีทุกพิมพ์ผสมผงพรายกุมาร สีดำผสมผงถ่านไม้มงคล ,สีแดงบางครั้งผสมปูนคุณแม่บุญเรือนแต่ที่สำคัญคือผงพรายกุมาร ที่รุ่นสากหักเป็นการรวมผงพราย
พระขุนแผนรุ่นนี้เกิดเหตุมหัศจรรย์คือขณะที่ตำผงผสมกำลังจะได้ที่จะกดพิมพ์พระ สากหินที่กำลังตำผงอยู่หักกลางเป็นที่โจษจันกันว่าผงพรายกุมารหลวงปู่ทิมนี่แรงและเข้มขลังสุดยอดจริงๆ มี 2พิมพ์ พิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก พิมพ์ใหญ่มี 3 สีคือ สีแดง ขาว และดำ สีแดง ปลุกเสก2ครั้ง โดยพระคณาจารยต่างๆและสายตะวันออกระยองหลายองค์ ครั้งที่2นำเข้าพิธีมหาพุทธาภิเศกเททอง หล่อพระกริ่งชินบัญชรมหาปราบที่วัดละหารไร่ ในวันที่ 26 ต.ค.2546 โดยมีพระคณาจารย์นั่งปรกปลุกเสก 4 ทิศ คือ
1.หลวงปู่ธรรมรังสี วัดพระบาทเขาพนมเพลิง จ.บุรีรัมย์
2.หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร จ.ฉะเชิงเทรา
3.หลวงพ่อแจ่ม วัดเขาสำเภาทอง จ.ระยอง
4.หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ จ.ระยอง ศิษย์เอกหลวงปู่ทิม เป็นขุนแผนที่น่าใช้และอนาคตไกลอีกรุ่นหนึ่ง
ขุนแผนสากหักนี้ หลวงปู่ธรรมรังษี ได้เมตตาปลุกเสกให้เมื่อ 12 กันยายน 2546 และได้แจกเป็นของสมนาคุณแก่ผู้ร่วมทอดกฐินสามัคคีวัดพงเสลี่ยง จ.สุโขทัย แล้วยังไม่นำเข้าพิธีในการเททองหล่อพระกริ่งชินบัญชรมหาปราบเมื่อ 16 ตุลาคม 2546 อีกครั้ง
พระขุนแผนสากหักนี้ได้สร้างทั้งหมด 2 พิมพ์ คือพิมพ์ใหญ่ กับพิมพ์เล็ก โดย
พิมพ์ใหญ่สร้าง 5,555 องค์ พิมพ์เล็กสร้าง 6,996 องค์ มีทั้งหมด 3 สี คือสีแดง สีขาว สีดำ
พิมพ์ใหญ่ ด้านหลังมีชนิดที่บรรจุตะกรุดสาริกา ทองคำสร้าง 96 องค์ ตะกรุดเงิน 256 องค์ ตะกรุดทองแดง 356 องค์
และมีแบบพิเศษที่ด้านหลังบรรจุขุนพลจิ๋วปี 2544 หรือปรกใบมะขามของหลวงปู่สิน วัดระหารใหญ่ และบรรจุเม็ดทับทิมเสก พลอยเสกด้วย มีทั้งพ่นทองและไม่พ่นทอง
ตะกรุดสาริกาทั้งแบบทองคำ เงิน ทองแดงจารโดยคุณ ชาลี เอี่ยมฉลวย ซึ่งได้จารตามตำราและเคล็ดลับของหลวงปู่ทิม อิสริโก แล้วถวายให้หลวงพ่อพล ทายาทของหลวงปู่จันทร์ วัดนางหนู ลพบุรีปลุกเสก ส่วนพระขุนพลจิ๋วปลุกเสกในน้ำมันเหล็กไหล-นำมันพราย พิธีวัดระหารไร่ ปี2544 โดยหลวงพ่อสาคร
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน6,500 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ100 บาท
วันเปิดประมูล - 08 พ.ค. 2564 - 14:03:08 น.
วันปิดประมูล - 13 พ.ค. 2564 - 13:34:38 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลกัจจายนะ (1.4K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     6,500 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     100 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    pringles (342)

 

Copyright ©G-PRA.COM