(0)
รูปหล่อลอยองค์ (จิ๋ว-หล่นหาย) หลวงปู่ทวด ((เนื้อทองชนวน/ฝาบาตร)) ล.พ.เนียน โชติธรรมโม สนส.ต้นเลียบ อ.สะทิงพระ จ.สงขลา ออกปี 2538 ((พร้อมกล่อง))








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องรูปหล่อลอยองค์ (จิ๋ว-หล่นหาย) หลวงปู่ทวด ((เนื้อทองชนวน/ฝาบาตร)) ล.พ.เนียน โชติธรรมโม สนส.ต้นเลียบ อ.สะทิงพระ จ.สงขลา ออกปี 2538 ((พร้อมกล่อง))
รายละเอียด--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

...................((เคาะแรก.....แดงเลยครับ))..................
...................((เคาะแรก.....แดงเลยครับ)).................
...................((เคาะแรก.....แดงเลยครับ))............

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

..................ในโอกาสที่เดือนนี้เป็นเดือนมิ่งมหามงคลของไทยทั้งชาติที่เวียนมาบรรจบครบอีกรอบใน 12 สค. 2564 ผมขอร่วมอภินันทนาการในโอกาสนี้อีก จำนวน 1 องค์ พร้อมตลับบรรจุเดิมๆ แก่ท่านสมาชิก....


..................ล.ป.ทวด จิ๋ว องค์นี้ เป็นพระใหม่-เก็บสะสมไว้เก่า-เดิมๆ.....ไม่ผ่านการใช้.......สวยตามรูป............
..................((องค์พระสวยดั่งทองคำครับ)).............
..................((องค์พระสวยดั่งทองคำครับ)).............
..................((องค์พระสวยดั่งทองคำครับ)).............

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

............หากท่านสมาชิก-ชมแล้วชอบ-ก็เชิญท่านว่ากันต่อเลยนะครับ.......

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

............รับประกันความแท้ให้ท่านแบบไม่จำกัดเวลาเลยครับ.........


...............((ขอบอก)).................
..................((รูปภาพลำดับที่ 1)) เป็นรูปภาพด้านหน้าองค์พระ+ในกล่อง ที่กำลังนำเสนอขายให้ท่านสมาชิกในกระทู้นี้....((เป็นภาพขยายขนาดใหญ่กว่าองค์จริงราวๆ 40- 50 เท่าครับ))..........

..............((รูปภาพลำดับที่ 2)) เป็นภาพแทน-ที่ถ่ายด้านหลัง-สำหรับใช้แสดงการเปรียบเทียบขนาดความใหญ่/เล็กขององค์พระกับเมล็ดข้าวสาร.....((ขนาดยายใหญ่กว่าองค์จริงราวๆ 2000 เท่าครับ))...

..............((รูปภาพลำดับที่ 3 )) เป็นภาพแทน-ที่ถ่ายด้านหน้า-กล่องสำหรับใส่องค์พระแต่ละองค์จะมีลักษณะเช่นนี้ครับ....
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

..............((ขอบอก)).....การขยายรูปให้ใหญ่กว่าองค์พระจริง.....จะทำให้ภาพผิวองค์พระแต่ละองค์ดูผิวแตกออกมาไม่สวยงาม-ดูเหมือนตัว/ผิวองค์พระจะเบลอๆไม่คมชัด....เพราะดูแล้วผิวองค์พระแต่ละองค์จะออกขลุขละ.................

........หากได้เอาไปดูของจริงสักองค์....ท่านก็จะเห็นเองว่า....ล.ป.ทวด องค์จิ๋ว เล็กขนาดนี้-ไม่มีสำนักใดทั้งในอดีตและปัจจุบันสร้างออกมาได้สวยงาม+น่ารักเท่าของ สนส.ต้นเลียบ-ของ ล.ป.เนียน ท่านเลยสักแห่ง.....กล้ารับรอง....

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ราคาเปิดประมูล358 บาท
ราคาปัจจุบัน378 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ20 บาท
วันเปิดประมูล - 24 ส.ค. 2564 - 12:24:08 น.
วันปิดประมูล - 26 ส.ค. 2564 - 01:34:13 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลราษีเมถุน (3.6K)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 24 ส.ค. 2564 - 12:30:16 น.



........((จากภาพ))....ท่านสมาชิกจะเห็นรูปภาพพระ ล.ป.ทวด (จิ๋ว) ขยายใหญ่มากกว่า 2000 เท่าจากองค์จริง-มีฉากพื้นสีฟ้า-จำนวน 2 ภาพ วางคู่กันอยู่บนหลังกองวัตถุมงคลที่ ล.ป.เนียน ท่านกำลังเสก/อธิษฐานจิตสู่กองวัตถุมงคลรุ่นนี้หลายๆพิมพ์-ซึ่งก็รวมทั้ง-รูปหล่อลอยองค์ ล.ป.ทวด (จิ๋ว) พิมพ์นี้ทุกเนื้อด้วย......

..........จัดสร้างขึ้นมี 4 เนื้อ....1)ทองคำ....2)เงิน....3)ทองชนวน/ทองฝาบาตรเหลือง.....4)ทองแดง.....


ข้อมูลเพิ่มเติม 2 - 24 ส.ค. 2564 - 12:31:05 น.



....เป็นภาพอีก 1 มุมกล้อง-ที่ถ่ายไว้-ขณะที่ ล.ป.เนียน ท่านกำลังอธิษฐานจิต/เสก พระ ล.ป.ทวด พิมพ์นี้+พร้อมพิมพ์อื่นๆในรุ่นเดียวกัน....

...........ท่านสมาชิกจะมองเห็นรูปภาพพระ ล.ป.ทวด ที่ขยายใหญ่ติดไว้ข้างกองวัตถุมงคล(อยู่หัวแถว)ที่ท่านกำลังเสกครับ....


ข้อมูลเพิ่มเติม 3 - 24 ส.ค. 2564 - 12:31:50 น.



...............ฝอยเดิมๆ สำหรับกล่าวคำอาราธนา/สวดบูชา ล.ป.ทวด จาก สนส.ต้นเลียบ..........


ข้อมูลเพิ่มเติม 4 - 24 ส.ค. 2564 - 12:37:26 น.



------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


..........((ภาพนี้))... ขณะญาณขององค์ หลวงพ่อพระใส อ.เมือง จ.หนองคาย ลงประทับยังร่างอาจารย์ฆราวาส สายทอง อยู่สุข เจ้าสำนักปฏิบัติธรรม พรพระเทพ อ.บ้านนา จ.นครนายก เบิกเนตร พระใสบูชา 9-5-3 นิ้ว รุ่น 3 บารมี+และตามด้วยเสกประจุพลังพุทธคุณลงยังวัตถุมงคต่างๆที่กองอยู่หน้าหลวงพ่อ...

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

....((ขอบอก)).......วัตถุมงคลชิ้นนี้....ผมได้นำติดรถไปพร้อมๆกับชิ้นอื่นๆอีกหลายกล่องขนาดบรรจุกระดาษขาว A4 ครั้งละหลายๆกล่องและนำไปซ้ำๆกันหลายๆครั้ง....ทุกๆครั้งที่ได้เดินทางไปฝึกปฏิบัติสมาธิ ณ สำนักปฏิบัติธรรมพรพระเทพ ที่ อ.บ้านนา จ.นครนายก.....
.......หลังจากศิษย์ทุกคนถอนจิตออกจากสมาธิทุกครั้ง....พวกเรามักจะขอให้อาจารย์ สายทอง อยู่สุข อาจารย์เจ้าสำนัก ผู้ชี้แนะกำกับในการฝึกได้เมตตา อัญเชิญญาณขององค์เทพอาจารย์ปู่ที่ละสังขารจากพระเกจิมาแล้ว มาสนทนาธรรมเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆในมิติที่เราพบจากการนั่งสมาธิ และอัญเชิญญาณพระประธานโบสถ์ที่มีชื่อเสียง เช่น ล.พ.พระใส / ล.พ.องค์ตื้อ / อมิตตพุทธเจ้า วัดจีน หรือองค์เทพที่มีหน้าที่ดูแลประจำโลกองค์อื่นๆ เช่น องค์เทพอาจารย์ปู่ ท่านท้าวพญาครุฑ / องค์เทพอาจารย์ปู่ท่านท้าวเวสุวรรณ / องค์เทพอาจารย์ปู่ท่านท้าวพิฆเณศวร์ ฯ ลงประทับร่างท่าน เพื่อสนทนาธรรม และปิดท้ายด้วยการขอความเมตตาต่อองค์เทพทุกๆองค์ให้ญาณขององค์เทพอาจารย์ปู่ทุกๆญาณท่านได้สร้างบุญบารมีต่อเพิ่มกับมนุษย์....

ก...... (ก) เสกหนุน((องค์เทพอาจารย์ปู่ (4)-(5) ท่านบอก)).......
.......(ข) เสกเสริมพลังพุทธคุณที่ยังขาด/ยังไม่มีประจุเพิ่มเติมลงไปให้อีกหลายๆบท ...((องค์เทพอาจารย์ปู่ (4)-(5) ท่านบอก)).......
...... (ค) เสกล๊อกพลังพุทธคุณทั้งหมดไม่ให้ผู้มีวิชาดูดซับเอาพลังพุทธคุณที่มีอยู่ในแต่ละชิ้นไปไ……….((องค์เทพอาจารย์ปู่ (4)-(5) ท่านบอก)).......

......ญาณที่ได้อัญเชิญลงประทับได้แก่...

......(1) ญาณ ล.พ.พระใส วัดโพธิ์ชัย จ.หนองคาย (เฉพาะญาณนี้ ท่านเมตตา เสด็จลงมาประทับแซกเองโดยยังไม่ได้อัญเชิญท่าน วันนั้นผมเอาพระบูชา ล.พ.พระใส ชุด 3 บารมี ขนาด 9-5-3 นิ้วไพลังพุทธคุณที่มีอยู่เดิมให้เข้มขลังเต็มพิกัด…เพื่อเบิกเนตรด้วย คิดว่าท่านแซกลงเพราะเหตุนี้)
......(2) ญาณ ล.พ.องค์ตื้อ วัดศรีชมภูองค์ตื้อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย....(ญาณท่านมีเมตตาต่อศิษย์ของสำนักฯมากๆ เพราะท่านว่าเหล่าศิษย์ส่วนมากฝึกจนเข้าถึงซึ่งสมาธิจนติดต่อสื่อสารกันกับอีกมิติได้)
......(3) ญาณ อมิตตพุทธเจ้า พระประธานโบสถ์ วัดโพธิ์แมน เขตยานนาวา กทม. (นี่ก็ญานท่านเสด้จมาลงประทับแซกเอง โดยยังไม่ได้อัญเชิญท่าน วันนั้นศิษย์นั่งคุยกันถึงพระพุทธรูปพิมพ์หน้าจีน-และพระกริ่งจีนธิเบต เข้าใจว่าท่านแซกลงประทับเพราะเหตุนี้)....
......(4) ญาณที่ 10 (ปางค์สุดท้าย)ขององค์เทพอาจารย์ปู่ พระอรหันต์เจ้าสารีบุตรเถระ ....นามปู่พรพระพรหม…..((ปู่บอกว่า ท่านลงมาอยู่ที่แห่งนี้ที่เดียวในโลก))
......(5) ญาณที่ 10 (ปางค์สุดท้าย)ขององค์เทพอาจารย์ปู่ พระอรหันต์เจ้าโมคคัลลานะเถระ ....นามปู่พันธุรัตน์.…..((ปู่บอกว่า ท่านลงมาอยู่ที่แห่งนี้ที่เดียวในโลก))
......(6) ญาณของ ล.ป.ทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี....
......(7) ญาณของ ล.ป.โต พรมรังษี วัดระฆัง กทม.
......(8) ญาณของ ล.ป.หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน จ.ศรีสะเกศ
......(9) ญาณของ ล.ป.แสน ปสันโน วัดบ้านหนองจิก จ.ศรีสะเกศ....

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


.......ผมยังมีพระบูชา(รุ่นแรก)เนื้อกระเบื้องหลังค่โบสถ์ ล.พ.โสธร ขนาดบูชา 9-7-5 นิ้ว ว่าจะนำไปเบิกเนตรและเสกเพิ่มโดยขอให้อาจารย์สายทอง ท่านอัญเชิญญาณ ล.พ.โสธร ลงประทับเสก และเบิกเนตร หลังหมดโควิดระบาด....

......และยังมีพระบูชาเนื้อโลหะรมผิว ล.พ.เหลือ รุ่น 100 ปีขนาด 9 นิ้ว วัดสร้อยทอง เขตบางซื่อ กทม.ว่าจะนำไปให้อาจารย์สายทอง ท่านอัญเชิญ ญาณ ล.พ.เหลือ ท่านลงประทับเสก และเบิกเนตรให้อีก....

.....เช่นเคยก็คงนำวัตถุมงคลประเภทพระเครื่อง-เครื่องลาง-ของขลัง-ตะกรุด-ผ้ายันต์ ติดรถไปเสกซ้ำพร้อมกันด้วย.....

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


ข้อมูลเพิ่มเติม 5 - 24 ส.ค. 2564 - 12:39:22 น.



-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

.........((ภาพนี้)).......ขณะญาณขององค์หลวงพ่อพระใส แห่งวัดโพธิ์ชัย อ.เมือง จ.หนองคาย ลงประทับยังร่างอาจารย์ฆราวาส สายทอง อยู่สุข เจ้าสำนักปฏิบัติธรรม พรพระเทพ และผู้ชี้แนะ อ.บ้านนาจ.นครนายก เสกประจุพลังพุทธคุณลงยังวัตถุมงคลที่กองอยู่ตรงหน้า จำนวนมาก ที่ผมนำติดรถไปด้วยทุกๆครั้งที่ได้เดินทางไปฝึกต่อยอดสมาธิที่ สำนัก........

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

.............................................((เกร็ดความรู้ที่ประมวลได้จากการฝึกสมาธิมาช้านาน))..............................................

......................................เรื่องการอัญเชิญ ญาณองค์เทพทุกๆพระองค์ลงประทับยัง ร่างมนุษย์..................................

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

…………..……….…เหตุ/ทำไม องค์เทพท่านถึงต้องลงมาประทับ /สิง /ทรง ยังร่างมนุษย์ ก็ด้วยเหตุผล 2 อย่างคือ...........

........................(ก) ลงมาคุ้มครอง ยังร่างมนุษย์คนนั้นๆ ที่เคยมีความผูกพันต่อกันมาแต่ภพชาติก่อน คือเขาตามมาดูแลช่วยเหลือกันต่อ ((กรณีนี้ไม่ต้องมีตำหนักองค์เทพ)) เพียงฝึกสมาธิ-ภาวนา-รักษาศีล.........
........................(ข) ลงมาโปรดสัตว์ คือตั้งใจจะลงมาสร้างบารมีร่วมกันกับมนุษย์บางคน ((เพราะเทพท่านมีแต่กายทิพย์ ไม่สามารถที่จะทำบุญ เช่นมนุษย์-ได้แต่ทำสมาธิภาวนาเพื่อสร้างบุญบารมี)) ที่ท่านเลือก/เห็นว่าสามารถที่จะไปด้วยกันได้ /เป็นคนดี ((กรณีนี้ต้องมีตำหนักองค์เทพ)) ร่างต้องฝีกสมาธิ-ภาวนา-รักษาศีล-และช่วยเหลือมนุษย์ โดยมนุษย์ต้องเป็นร่างทรงให้ และที่เป็นร่างก็ต้องลงประทับองค์ช่วยเหลือมนุษย์ให้เขา....

........................ทั้ง (ก)-(ข) หากเราไม่ยินยอมที่จะรับอาเขามาอยู่ด้วย.....ก็จะโดนเขาแกล้ง/โดนบีบให้ชีวิตเราเป็นไปต่างๆนาๆ.....ถึงขั้นเป็นคนบ้า ติ้งต๊องเดินตามถนนหนทางดังที่เราเห็นนั่นแหละแทบทั้งนั้น น่าเวทนาสงสาร-เพราะเขาและญาติจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา........ถ้าเป็นถึงขั้นนี้แล้วก็จะหาทางแก้ได้ยาก ต้องหาอาจารย์ที่เก่งดูรู้มาช่วยแก้ไขให้…...
…………………….((เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมเคยต่อว่าองค์เทพอาจารย์แม่และอาจารย์ปู่ว่า ทำไมองค์เทพถึงใจร้ายทำกับมนุษย์ที่เขาไม่รู้เรื่องได้แบบนี้ ทำให้ชีวิตเขาพังพินาศหมดตลอดชาตินี้.....องค์เทพอาจารย์ ท่านตอบกลับว่า ก็มนุษย์บางคนดื้อรั้นไม่เชื่อฟังเอง....ผมเลยว่า ทำไมไม่หาวิธีที่ทำให้เขาเข้าใจเห็นดีเห็นชอบด้วยสมัครใจที่จะรับองค์เทพกันละ.....ท่านก็ตัดพ้อผมว่าเราก็อย่าต่อว่าองค์เทพมากนักเลย...ฯลฯ.))).....

………….กรณีทั้ง (ก)-(ข) หากองค์เทพเขาหมายมั่นปั้นมือจะเอาร่างของเราเป็นแม่นมั่นแล้ว.....เราจะรับรู้ได้ 2 ทางคือ.............(1) เจ้าตัวจะรับรู้ได้โดย เกิดมีความผิดปกติในชีวิต การงาน-การเงิน-การดำรงชีพ-ความเป็นอยู่ส่วนตัว/ครอบครัวของเรา....จะมีเหตุไม่คาดคิดต่างๆ ทั้งทางบวก/ทางลบ เกิดขึ้นกับเรา จนเราต้องเกิดความสังหรณ์ใจ วิ่งหาพระสงฆ์องค์เจ้าให้ตรวจดูดวงชะตา/ หรือไม่ก็วิ่งหาพ่อมดหมอผี ทางไสศาสตร์อื่นๆว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเรา....ทำไมตัวเราถึงเกิดปัญหา คิดหรือทำอะไรก็ติดๆขัดๆไม่สำเร็จตามหวังทั้งๆที่คิดว่าไม่พลาดแน่
............หากไปเจออาจารย์ที่ดีมีคุณธรรม ของจริงไม่หลอกลวงช่วยแก้ไขแนะนำให้ได้จริงก็นับว่าเราโชคดีไป......เพียงเรายอมรับเขาตามที่เขาบอก.....แต่เราก็ต้องฉลาดที่จะถือโอกาสนี้แลกเปลี่ยนต่อรองผลประโยชน์กับเขาได้ เช่น ถ้าจะมาอยู่กับเราก็จงช่วยให้เราได้สำเร็จสมหวังในการปราถนาทุกประการ เช่นให้มีโชคร่ำรวย/ค้าขายดี/ประกอบกิจการเจริญก้าวหน้านะ......
............(2)เจ้าตัวจะรับรู้จาก การฝัน / นิมิต ตามที่เขามาบอกเราในฝัน.....หากเราละเลย/ เพิกเฉยต่อความฝัน คราวนี้แหละโดนเขาทำอย่างที่บอก....
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

.............................การที่ญาณขององค์เทพท่านจะลงประทับร่าง/กายหยาบ ของมนุษย์นั้น......................................
จะแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ.....คือ การลงมา....1) ลักษณะบุญฤทธิ์.....และ 2) ลักษณะอิทธิฤทธิ์ ครับ......

...........การลงมาลักษณะ ที่ 1) บุญฤทธิ์ ท่านจะลงมาแบบนิ่มนวลไม่โฉ่งฉ่าง-จะเงียบ.....เช่นนี้มักเกิดจากญาณขององค์เทพที่ใหญ่/องค์เทพที่เคยลงมาบ่อยๆแล้ว.......
……......การลงมาลักษณะ ที่ 2) อิทธิฤทธิ์ ก็จะโฉ่งฉ่าง-เสียงดัง-ตัวสั่นแรงแบบที่ท่านเห็นทั่วไปและเรียกว่าผีเข้านั่นแหละ ซึ่งก็จะเห็นกันอยู่ทั่วไป....ทั้งที่เป็นของจริง และของล้อเลียน.......เช่นนี้มักจะเกิดกับการมาขององค์เทพเล็กๆ/ที่เพิ่งลงมาใหม่......ยังไม่สามารถควบคุมญาณของตนกับร่าง/กายหยาบของมนุษย์ให้กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวร่วมกันได้-ดั่งเช่นเราหัดขับรถยนต์ใหม่ๆ-ก็จะใช้สมอง-มือ-เท้า-ในการสั่งการในการขับยังไม่ค่อยชำนาญนั่นแหละครับ.......

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

...........................................การประทับร่าง /การประทับทรง /การสิงร่าง มีอยู่ 2 แบบ คือ……………………………………

.........................(ค) แบบเต็ม 100% (คือญาณขององค์เทพลงประทับ/สิงครองร่างมนุษย์เป็นเทพเต็มที่)
.........................(ง) แบบแฝง คือ ญาณขององค์เทพลงประทับ /สิง ครองร่างมนุษย์ได้แค่ประมาณ 10 / 20% (ผมคิดประมาณสัดส่วนเอาเองนะ) จึงเรียกว่ามนุษย์กึ่งเทพ.
--------------------------------------------------------------------------------

........................(ค)-1.แบบเต็ม 100% ผู้ที่เป็นเจ้าของร่างที่จะอัญเชิญ/ยินยอมให้ญาณขององค์เทพต่างๆลงประทับ /เข้าสู่ตัวเราได้เต็ม 100% จริงๆนั้น....
..............................................................ต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติดังนี้ก่อน..................................................................
................................. (1) ต้องเป็นผู้ที่ฝึกสมาธิจนเข้าถึงซึ่งสมาธิได้ไปถึงขั้นแยกจิตออกจากกายตนเองได้ เป็นคนละส่วนกัน ดังที่เรียกกันว่าจิตเห็นกาย – กายเห็นจิต.....
...................................(2) ผู้ที่สามารถฝึกสมาธิได้ถึงขั้นนี้ ส่วนใหญ่จะมีองค์เทพท่านมาขออยู่/มาขออาศัยใช้ร่าง/กายหยาบของเราด้วย เราสามารถเลือกว่าจะให้/ไม่ให้อยู่ ……..หรือจะอัญเชิญญาณเทพองค์ไหนลงประทับร่างเราหรือไม่ก็ได้....
.....................................((เพราะเมื่อตอนจะอัญเชิญให้ญาณขององค์เทพลงประทับยังตัวเรา จิตเราต้องถอยออก /หลีกจากร่างของเราเปิดทางให้ญาณองค์เทพลงแทนจิตเราแบบเต็ม 100%)) ซึ่งขั้นตอนนี้จะสำคัญมากๆต่อเราผู้ที่จะเป็นร่างให้องค์เทพ เพราะอาจไม่สามารถนำจิตกลับเข้าร่างตัวเองได้บางทีอาจมีญาณของดวงอื่นจ้องแทรกเข้าสิงยึดเอาก็ได้ถ้าไม่เก่งจริง...((ดังที่เราเห็นละครแสดงว่ามีการสลับร่างกันนั่นแหละ)).........
..........................(ค)-2 การลงประทับร่างมนุษย์ขององค์เทพได้เต็ม100% จะเห็นร่างเป็นดังนี้....
.....................................1-หูบอด-ตาบอด หมายถึงหูของร่างมนุษย์ที่ถูกองค์เทพลงประทับเต็ม 100% จะไม่ได้ยินที่เขาสนทนากัน และตาก็จะไม่เห็นว่ามีใครเป็นใครบ้างในระหว่างที่เขาสนทนากันกับญาณองค์เทพ....
.....................................2-ใช้เข็มเหยาะ/แทงเบาๆ ร่างจะไม่สะดุ้งสะเทือนเจ็บ/ตกใจเพราะเจ็บ....
.....................................3-ญาณขององค์เทพขณะประทับร่าง ท่านจะไม่สบตากับมนุษย์ เพราะไม่มีแววตา..
....................................4-ปากพูดเสียงเป็นภาษาเทพ-เพราะเทพเขาใช้ปากของร่างเราพูดซึ่งภาษาเทพที่ใช้สื่อสารกัน จะมีหลากหลายแบบ/หลายภาษาแตกต่างกัน ((เรื่องนี้ต้องขอเวลาศึกษาให้ละเอียดอีกทีก่อน-แต่เมื่อแปลออกมาเป็นภาษาไทยก็จะมีความหมายเหมือนกัน-ประมาณว่าคนเหนือ-คนอีสาน-คนใต้-คนภาคกลาง พูดภาษาถิ่นตน แต่ทุกๆคนพูด/สื่อสารออกมาในสิ่งเดียวกันทั้งหมด....ซึ่งผมยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าใด ถึงต้องใช้เวลาเดินทางไปฝึกสมาธิศึกษาต่อไปอีก))...
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

.........................(ง)-1.แบบแฝง ผู้ที่เป็นเจ้าของร่างที่จะอัญเชิญมีทั้งที่ยินยอม...และที่ถูกฝืนใจบังคับให้จนจำยอมรับให้ญาณขององค์เทพต่างๆลงประทับแฝง /เข้าแฝงสู่ตัวเราได้นั้น....
........................................................................ต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติดังนี้.............................................................
....................................... (1) ต้องเป็นผู้ที่ฝึกสมาธิขั้นต้นๆทำจิตนิ่ง/ว่างได้ธรรมดา แต่ยังไม่ถึงขั้นแยกจิตออกจากกายได้
……………………………….....(2) ภาวนา-รักษาศีล-ทำบุญปกติ
..........................(ง)-2 การลงประทับแฝงร่างมนุษย์ขององค์เทพได้เราจะเห็นจะเป็นดังนี้....
......................................1-หูไม่บอด-ตาไม่บอด หมายถึงหูของร่างมนุษย์ที่ถูกองค์เทพลงประทับแฝง จะได้ยินที่เขาสนทนากัน และตาก็จะเห็นว่ามีใครเป็นใครบ้างในระหว่างที่เขาสนทนากันกับญาณองค์เทพ...ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นส่วนสำคัญที่เขาเอาความเห็น-ความรู้สึกเดิม/สัญชาตญาณเดิมของตน เข้าไปใช้ประมวลผลออกมาในรูปแบบที่กล่าวอ้างว่าเป็นขององค์เทพ ซึ่งไม่ถูกต้องเลย.เป็นช่องทางให้ /หาประโยชน์จากมนุษย์ผู้ไม่รู้ไม่เข้าใจได้ง่ายๆ ถ้าหลงเชื่อ
......................................2-ใช้เข็มเหยาะ/แทงเบาๆ ร่างจะสะดุ้งสะเทือนเจ็บ/ตกใจเพราะเจ็บจิต เขายังเป็นของเจ้าของร่างอยู่เช่นเดิม....
......................................3-ญาณขององค์เทพขณะประทับร่าง ท่านจะสบตากับมนุษย์ เพราะส่วนใหญ่แววตายังคงเป็นของร่างเขาอยู่..
......................................4-ปากพูดเสียงเป็นภาษาเทพ-ซึ่งภาษาเทพที่ใช้สื่อสารกัน จะมีหลากหลายแบบ/หลายภาษาแตกต่างกัน ((เรื่องนี้เหมือนกันกับแบบ ข้อ 4 (ค)-2))...เท่าที่ผมดูในยูทูป บางรายเทพแฝงพูดออกมา ผมแปลได้เข้าใจ....แต่บางราย ต้องเอาไปเปิดให้อาจารย์ท่านดูและช่วยแปลให้ ท่านบอกว่าใช่ภาษาเทพจริงมันมีอีกแบบ คล้ายๆกับคนไทยแต่ละภาคพูดภาษาถิ่นตนแต่มีความหมายเดียวกันแหละ..........

…………….((ความหมายของการที่องค์เทพลงแฝง คือ)).......ร่างมนุษย์คนนั้นยังฝึกทำได้แค่สมาธิขั้นต้นๆแต่ยังไม่สามารถแยกจิตออกจากร่างได้ องค์เทพจะเข้าสู่ร่าง / เบียดเข้าไปกินเนื้อที่ในตัวตนเองได้แค่เป็นการแฝง ซึ่งอาจจะแฝง/เบียดเข้ามาในกายได้แค่ไม่กี่% ผมประมาณเองนะว่า อาจแค่ 10/20 %ไม่น่าจะเกินนี้....ถ้าลงได้แค่นี้ แบบนี้เรียกว่า ((มนุษย์กึ่งเทพ))....และต้องเรียกว่าองค์เทพลงแฝง แบบนี้ท่านสมาชิกจะเข้าไปหาดูได้มีเยอะแยะในยูทูป.....พวกเทพลงแฝง จะมีความรู้สึก-นึกคิด-ของมนุษย์มาพูดมากกว่าเป็นคำพูดขององค์เทพ ตามอัตราส่วนการเข้าแฝงในร่างมากน้อย หู-ตา เขาจะยังเป็นของมนุษย์ที่มองเห็น-ได้ยิน เป็นปกติแบบมนุษย์เรานี่แหละ...ส่วนเทพก็จะอาศัยปากก็พูดภาษาเทพแซกปนกับภาษามนุษย์ตามที่ร่างเขาจะพูดเพื่อให้ตนดูว่าเป็นเทพพูด หรือพูดหวังประโยชน์อื่นๆ เพราะเขายังมีจิตสำนึกความเป็นมนุษย์มากกว่าเทพ..แต่หากองค์เทพลงประทับร่างเต็ม 100% หุ-ตาจะถูกปิด และแทนที่ด้วยญาณขององค์เทพ จะสังเกตุได้ว่าการลงองค์เต็ม 100% จริงนั้น ท่านจะไม่สบสายตาเรา หรือหากเอาเข็มเหยาะลงที่ร่างขณะนั้นจะไม่มีอาการสะดุ้งเจ็บแต่อย่างใด

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

………………....…….มนุษย์เราแยกออกเป็น 2 ช่วงเวลา คือ (ก) เมื่อมีชีวิต (ข) เมื่อหลังหมดชีวิต/ตาย…………………………

..................(ก) เมื่อมีชีวิตอยู่ กายเราจะแยกออกจากจิตได้ชัดเจนเป็นคนละส่วนกันได้แก่ 1-ส่วนที่เป็นกาย และ 2-ส่วนที่เป็นจิต ซึ่ง 2 ส่วนนี้จะแยกออกจากกันได้ก็ต่อเมื่อ เราฝึกสมาธิจนถึงขั้นเข้าถึงซึ่งสมาธิได้จริงๆจนไปถึงการแยกจิตออกจากกายได้เอง ซึ่งเราต้องฝึกฝืนธรรมชาติเอาเอง
1-ส่วนกาย=เมื่อมีชีวิตอยู่ เราจะเรียกว่า ร่างกาย / ตัวตน / สังขาร ฯ /กายหยาบ / ธาตุทั้ง 4
2-ส่วนจิต=เมื่อมีชีวิตอยู่เราจะเรียกว่า จิต / ดวงจิต / ดวงใจ / หัวใจ
...................(ข) เมื่อหลังหมดชีวิต/ตาย ครั้นมนุษย์ตายลงไป จิตเราจะแยกออกจากกายโดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องฝึกเป็นสมาธิมาก่อนก็ได้ ซึ่งก็เป็นไปตามธรรมชาติของเขา จิตจะแยกออกจากกายได้ชัดเจนเป็นคนละส่วนกันได้แก่ 1-ส่วนที่เป็นกาย และ 2-ส่วนที่เป็นจิต
1-ส่วนกาย=เมื่อหมดชีวิต/ตาย เราจะเรียกว่า ศพ / สังขาร / ขอน / ซาก
2-ส่วนจิต=เมื่อหมดชีวิต/ตาย เราจะเรียกว่า ดวงจิต / ดวงวิญญาณ / วิญญาณ / ญาณ / กายทิพย์ / ผี

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

……............ด้วยเหตุนี้ ท่านสมาชิก ท่านอย่าเพิ่งคิดว่าสิ่งที่ท่านยังไม่รู้ยังไม่เห็นตามที่ผมบอกมา เพราะขาด/ยังไม่ได้ทำการฝึกฝน ว่าจะไม่มีในโลกนี้นะครับ.......ผมถึงได้เพียรหมั่นบอกกล่าวไหนๆพวกเราก็มีจิตโน้มนำมาทางด้านนี้กันแล้ว จงเป็นชาวพุทธจริงๆ เดินตามทางที่พุทธองค์ค้นหาจนเจอและชี้แนะทางนั้นให้แก่เราแล้ว....โดยให้ท่านหมั่นฝึกนั่งสมาธิก่อนนอนทุกๆวัน เมื่อถึงเวลาหนึ่งแล้ว ท่านจะรู้จริงว่า ยังมีอีกมิติหนึ่งคู่กันมากับโลกเราช้านาน คือ โลกแห่งจิตวิญญาณ......ปัจจัดตังเวทิตัพโพ ครับ.........ขออวยพรให้ทุกๆท่านได้ประสบความสมหวังเช่นกันนะครับ....ไม่ยากเกินความตั้งใจครับ........

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

…………………ผมอยากให้ท่านสมาชิกสนใจที่จะเริ่มฝึกสมาธิ....ให้ท่านไปหาหนังมาดูด้วยความตั้งใจ คือเรื่อง....พระพุทธเจ้าศาสดาโลก ....ซึ่ง ทีวีเคยเอามาฉายแล้ว.........ดูเฉพาะช่วง สิทธถะเริ่มออกจากวัง นุ่งห่มชุดนักบวช ไปพบฤษี/ดาบส ดูไปเรื่อยๆ ท่านจะได้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องทำสมาธิ จนถึงแยกจิตออกจากกาย ตอนที่สิทธถะแยกจิตขึ้นไปพบอาจารย์ อาดารดาบส ท่านถอดจิตไปภาวนาอยู่บนชั้นฟ้าจริงๆ...ซึ่งผมคิดว่า คนเขียนบท/เจ้าของผู้สร้าง เขาน่าจะมีความรู้ขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับการทำสมาธิจนขั้นแยกจิตออกจากกายได้เช่นกัน

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


 
ราคาปัจจุบัน :     378 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     20 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    Wan123 (262)

 

Copyright ©G-PRA.COM