| ชื่อพระเครื่อง | ลูกอมยาไพร (ยาเหลืองพระพัตร์พิชัย) หลวงพ่อโต วัดคู้ธรรมสถิตย์ สมุทรสงคราม ปี 2480-249.. |
| รายละเอียด | ลูกอมยาไพร (ยาเหลืองพระพัตร์พิชัย) หลวงพ่อโต วัดคู้ธรรมสถิตย์ สมุทรสงคราม
ลูกอมยาไพร ถือเป็นของดีของหลวงพ่อโต ที่หายากแต่ดูจบง่าย เนื้อลูกอมมีเนื้อว่านผสมมีมวลสารหลากหลายหุ้มด้วยฟรอยด์เงิน ใช้สำหรับป้องกันเขี้ยวงาและแก้คุณไสย์ จัดเป็นของดีที่น้อยคนนักจะรู้จัก
ประวัติและวัตถุมงคลของหลวงพ่อโต วัดคู้ธรรมสถิติ์
ในพื้นที่ลุ่มน้ำแม่กลอง แม้จะเป็นพื้นที่เล็กๆแต่ก็มากด้วยเกจิอาจารย์ดังๆ ที่มีวิชาอาคมเข้มขลังมากมายหลายองค์ อาทิเช่น หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม หลวงพ่อใจ วัดเสด็จ หลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย หลวงพ่อบ่าย วัดช่องลม หลวงพ่อตาด วัดบางวันทอง หลวงพ่อหรุ่น วัดช้างเผือก หลวงพ่ออยู่ วัดบางน้อย หลวงพ่ออ่วม วัดไทร หลวงพ่อเหมือน วัดกลางเหนือ หลวงพ่อรอด วัดบางขันแตก หลวงพ่อรักษ์ วัดน้อยแสงจันทร์ หลวงพ่อปึก วัดสวนหลวง หลวงพ่อคลี่ วัดประชาโฆสิตาราม หลวงพ่อดำ วัดท้ายหาด หลวงพ่อโต วัดคู้ (ธรรมสถิติ์) ฯลฯ
แต่ถ้าพูดถึงเกจิอาจารย์ยุคเก่า ที่เก่งกาจด้านคาถาอาคมและเชี่ยวชาญด้านยาสมุนไพร ที่รักษาโรคต่างๆ ได้อย่างเห็นผลทันตา หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ หลวงพ่อโต สุวณฺณคงโต หรือ ท่านพระครูธรรมวิถีสถิติ์ วัดคู้ (ธรรมสถิติ์) ติดอยู่ในอันดับต้นๆแน่นอน
ประวัติวัดคู้ (ธรรมสถิติ์)
วัดคู้ (ธรรมสถิติ์) ตั้งอยู่ที่ ต.ขันแตก อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม (วัดคู้ ในจังหวัดสมุทรสงคราม มีอยู่ด้วยกัน 2 วัด คือ วัดคู้ (ธรรมสถิติ์) ตำบลบางขันแตก กับ วัดคู้ (สนามจันทร์) ตำบลคลองเขิน ) ในอดีตสมัยหลวงพ่อโตท่านยังมีชีวิตอยู่จะมีบรรดาศิษยานุศิษย์ และประชาชนทั่วไปเดินทางไปให้ท่านเมตตาช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโรคภัยไข้เจ็บ เจิมรถ เจิมเรือ ปัดเป่าพรมน้ำมนต์ ฯลฯ
หลวงพ่อโต หรือ ท่านพระครูธรรมวิถีสถิติ์ ตามประวัติที่ได้บันทึกไว้ ท่านนามเดิมว่า โต สิทธิชัย เกิดเมื่อวันที่ ๑๖ เดือนมิถุนายน พ.ศ.๒๔๒๕ ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๘ ปีมะเมีย ณ บ้านบางเค็ม อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี โยมบิดาชื่อ นายอยู่ โยมมารดาชื่อ นางตุ่น นามสกุล สิทธิชัย อาชีพดั้งเดิม ประกอบอาชีพทำนา ท่านมีพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน ๔ คน
พออายุครบ ๒๐ ปี ได้บวชเรียน ณ. วัดกุฏิบางเค็ม อำเภอเขาย้อย จ.เพชรบุรี โดยมีพระ อธิการสิน วัดปรกสุทธาราม อำเภออัมพวา สมุทรสงคราม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระ อาจารย์เจียม วัดปรกฯ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์แฉ่ง วัดกุฏิบาง เค็ม เป็นพระอนุสาวนาจารย์
นอกจากท่านจะเป็นพระวิปัสสนาจารย์ชื่อเสียงโด่งดังในลุ่มน้ำแม่กลอง ท่านยังเป็นพระผู้เรืองวิชาอาคมอีกด้วย ซึ่งหลวงพ่อโตท่านได้รับการถ่ายทอดวิชาต่างๆ จากพระเกจิอาจารย์ยุคเก่าของลุ่มน้ำแม่กลองมากมาย อาทิ หลวงพ่อตาด วัดบางวันทอง หลวงพ่ออยู่ วัดบางน้อย และยังเป็นพระสหมิตรกับหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม หลวงพ่อสุข วัดโตนดหลวง จังหวัดเพชรบุรี อีกด้วย จึงนับได้ว่า หลวงพ่อโต นั้นท่านได้รับการถ่ายทอดวิชาต่างๆ มาจนแทบหมดสิ้น นอกจากการเล่าเรียนวิทยาอาคมแล้ว หลวงพ่อโตท่านก็ยังเรียนตำราไพรที่มีชื่อว่า ยาเหลืองพระพัตร์พิชัย ซึ่งเป็นยาที่มีสรรพคุณหลายด้าน อาทิเช่น แก้ไข้ แก้ปวด แก้โรคซาง ตาแดงตาเจ็บ โรคอหิวาตกโรค และหญิงมีครรภ์จะคลอดบุตรง่าย
หลวงพ่อโต หลังจากที่ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนทางด้านวิทยาอาคม ต่างๆจากเกจิชื่อดังในลุ่มน้ำแม่กลอง จนเชี่ยวชาญและเก่งกล้าแล้ว ท่านก็ได้ออกธุดงควัตร ขึ้นไปทางต้นแม่น้ำแม่กลองจนไปถึงจังหวัดกาญจนบุรี และได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของ หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ดังของจังหวัดกาญจนบุรี มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย หลวงพ่อโตท่านได้ศึกษาวิชาความรู้ต่างๆ จากหลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ จนแตกฉานหมดสิ้น หลังจากนั้นท่านจึงได้เดินทางกลับมายังวัดคู้ธรรมสถิติ์ จ.สมุทรสงคราม แล้วจึงเริ่มทำยา เหลืองพิชัย หรือยาไพลออกแจกจ่าย และได้รับความอนุเคราะห์จากทางแพทย์แผนโบราณสามารถทำการรักษาโรคได้
การทำยาของ หลวงพ่อโต นั้น ในสมัยท่านมีชีวิต ท่านมีความเชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพรเป็นอย่างมาก จนเป็นที่กล่าวขานและร่ำลือว่า ถ้าใครเป็นไข้ไม่สบายล่ะก็ ถ้ามาหา หลวงพ่อโต แล้วไม่ผิดหวังแน่นอน
หลวงพ่อโต สมัยท่านมีชีวิตอยู่ ท่านได้พัฒนาและสร้างถาวรวัตถุต่างๆ แก่วัดคู้ธรรมสถิติ์ ไว้มากมาย ท่านเสียสละแรงกาย แรงใจพัฒนาวัดอย่างเต็มที่ จนวันหนึ่งในขณะที่หลวงพ่อโตท่านเตรียมจะทำการบูรณปฏิสังขรณ์ พระอุโบสถวัดคู้ธรรมสถิติ์ ที่เริ่มเสื่อมโทรมลงตามกาลเวลา ท่านก็เริ่มอาพาธ บรรดาศิษยานุศิษย์และผู้ที่เคารพนับถือในตัวท่านได้แนะนำ และพาท่านไปตรวจอาการที่โรงพยาบาลสงฆ์ กรุงเทพฯ ซึ่งแพทย์ได้วินิจฉัยและลงความเห็นว่า ท่านเป็นเนื้องอกที่ภายในจะต้องทำการผ่าตัดและให้โลหิต ซึ่งถือเป็นการผ่าตัดใหญ่ แต่หลวงพ่อท่านก็มิได้ตกลงใจที่จะรักษา ด้วยญาณที่รู้ล่วงหน้าของหลวงพ่อเองว่าชีวิตของหลวงพ่อเหลืออีกไม่มากแล้ว จึงได้เดินทางกลับมาพักอยู่ที่วัดพระเชตุพนฯ กรุงเทพฯ พอวันรุ่งขึ้นอาการของท่านเกิดกำเริบขึ้น บรรดาศิษยานุศิษย์จึงได้นำท่านไปส่งโรงพยาบาลมิชชั่น แต่สุดวิสัยที่แพทย์จะทำการช่วยเหลือและเยียวยาได้ เนื่องจากมะเร็งที่ตับอ่อนภายในทำให้หายใจลำบากมาก
จนกระทั่งถึววันศุกร์ ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๘ ปีมะเส็ง ตรงกับวันที่ ๑๙ เดือนมิถุนายน พ.ศ.๒๔๙๖ เวลา ๑๐.๔๕ น. ท่านก็ถึงแก่มรณภาพด้วยอาการสงบ สิริอายุได้ ๗๑ ปี ๕๑ พรรษ |
| ราคาเปิดประมูล | 3,200 บาท |
| ราคาปัจจุบัน | 3,300 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!) |
| เพิ่มขึ้นครั้งละ | 100 บาท |
| วันเปิดประมูล | - 24 ก.ค. 2565 - 15:55:16 น. |
| วันปิดประมูล | - 25 ก.ค. 2565 - 19:04:38 น. (ปิดประมูลแล้ว) |
| ผู้ตั้งประมูล | Tokyo (9.6K)    
|
