(0)
เหรียญ5พยัคฆ์ เนื้อทองแดงลมดำ หลวงพ่อไฉน ฉันทสาโร








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องเหรียญ5พยัคฆ์ เนื้อทองแดงลมดำ หลวงพ่อไฉน ฉันทสาโร
รายละเอียดเหรียญ5พยัคฆ์ เนื้อทองแดงลมดำ หลวงพ่อไฉน ฉันทสาโร

ตำนานเสือหัวขาดเรื่องทั้งหมดต้องขอย้อนหลัง สมัยที่ยังเป็นทหารอยู่ เมื่อปี พ.ศ. 2527 อาตมามาเป็นทหารอยู่ที่กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ ที่กรมได้จัดผ้าป่าไปถวายที่วัดเขานางนม อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี (ชื่อในสมัยนั้น) และที่วัดนี้เองทำให้อาตมาได้รู้จักเด็กชายคนหนึ่งชื่อว่า ด.ช.ไพรัช นาสา เด็กคนนี้รักอาตมาเหมือนพี่ชาย จึงพาอาตมาไปเที่ยวบ้านและแนะนำให้อาตมาได้รู้จักเตี่ยกับแม่ และพี่น้องของเขา จากนั้นมาเราจึงมีความสัมพันธ์ดุจพี่น้องแท้ ๆ และเมื่ออาตมาได้ปลดประจำการจากทหาร เมื่อได้บวชเป็นพระแล้ว อาตมาก็ยังไปเยี่ยมเยียนที่บ้านนี้อยู่เป็นประจำ และมีความสนิทกับชาวบ้านแถวนี้ด้วย เตี่ยจะพูดถึงเจ้าอาวาสให้ฟังว่าท่านมีอะไรดี มีวิชาต่าง ๆ ที่ชาวบ้านยอมรับท่านว่าท่านมีวิชาที่น่ากลัวคือวิชาเสือคอขาด โดยมีชาวบ้านแถวนั้นยืนยันเป็นเสียงเดียว เตี่ยพูดว่า เมื่อสมัยก่อนนี้ ที่ชลบุรีจะมีเสืออยู่กลุ่มหนึ่ง ชอบปล้นแล้วก็ฆ่า ตำรวจไม่เคยจับได้สักที เพราะโจรกลุ่มนี้มันมีดีอยู่ที่ตัวมัน ตำรวจจึงทำอะไรมันไม่ได้จึงมีคำสั่งให้จับตาย แล้ววันหนึ่งระหว่างตำรวจกับโจรกลุ่มนี้เกิดการดวลขึ้นกลางเมือง กลุ่มโจรเกิดพลาดถูกตำรวจจับได้ทั้งหมด ตำรวจจึงวิสามัญ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ยิงไม่เข้าเลยแม้แต่นัดเดียว นายจึงสั่งให้เหลาไม้แหลมเพื่อสวนทวาร จึงเป็นการปิดตำนานเสือชลบุรี เมื่อทำการสวนทวารจนเสียชีวิตแล้ว ตำรวจก็เปิดเสื้อดูเห็นมีรอยสักเป็นรูปเสือคอขาดนี่เอง ที่เป็นต้นเหตุทำให้ตำรวจไม่สามารถทำอะไรโจรกลุ่มนี้ได้ ตำรวจจึงหาที่มาของรอยสัก จึงได้ทราบว่ามีพระที่ วัดเขานางนม อ.พนัสนิคม เป็นผู้สักให้ ตำรวจจึงขอร้องให้หลวงพ่อท่านเลิกสักเพราะลูกศิษย์ของท่านเป็นโจรเสียส่วนมาก ถ้าจะสักให้สักรูปอื่นยกเว้นรูปเสือคอขาดอย่าไปสักใคร ท่านจึงรับปากตำรวจตั้งแต่วันนั้นมา ท่านจึงไม่สักรูปเสือคอขาดให้กับใครอีกเลย นี่เป็นเรื่องเล่าของเตี่ยและชาวบ้านที่ยืนยันกับคำพูดทุกคำว่าเป็นเรื่องจริง แล้วก็หันมาที่อาตมาถามว่า ท่านไม่คิดจะเรียนวิชาอย่างนี้บ้างหรือ ไหน ๆ ก็มาถึงนี่แล้ว ทำไมไม่ลองไปหาท่าน ฝากเนื้อฝากตัวกับท่าน เผื่อท่านจะให้ (แม้ทุกวันนี้อาตมายังไม่รู้จักชื่อท่านเลย) ด้วยการที่ญาติโยมแนะนำกันหลายคน อาตมาจึงเข้าไปในวัดเพื่อที่จะเข้าไปขอเรียนกับท่าน เมื่อเข้าไปในวัดอาตมาจึงเดินไปที่กุฎีท่าน กุฎีของท่านเป็นไม้มีสองชั้น ชั้นล่างโปร่งชั้นบนเป็นที่อยู่ของท่าน มีสามห้อง แต่เปิดฝากลางออก จึงกลายเป็นห้องโล่ง ๆ เมื่อเดินถึงกุฎีมีเด็กวัดเดินลงมาพอดี อาตมาจึงถามว่า “หลวงพ่ออยู่หรือป่าว” เด็กบอกว่า “อยู่ ท่านอยู่ข้างบน” อาตมาจึงเดินขึ้นไป แต่เมื่อขึ้นถึงข้างบนปรากฏว่าไม่มีใครอยู่ อาตมามองหาไปทั่วก็ไม่มี คิดว่าท่านคงอยู่ในกุฎีจึงพูดในใจว่า ขออภัยนะครับ แล้วเดินไปที่ประตูห้องท่าน เคาะประตู ก๊อก ๆ ๆ หลวงพ่อครับ ๆ ๆ เงียบสนิทไม่มีเสียงตอบ อาตมาจึงเดินกลับลงมาข้างล่างและถามเด็กวัดคนเดิมที่นั่งเล่นอยู่ใต้ถุนนั้นว่า หนุ่ม ๆ หลวงพ่อไปไหนไม่เห็นมี เด็กคนนั้นบอกว่า หลวงพ่อท่านอยู่ข้างบนนั้นละครับ รองเท้าท่านยังอยู่เลย อาตมาจึงเดินขึ้นไปอีกครั้งอาตมาตกใจมาก เมื่อเห็นท่านนั่งอยู่หน้าห้อง ตรงที่อาตมาไปยืนเรียกท่านอยู่ ท่านยิ้มให้ อาตมาจึงเดินเข้าไปกราบท่านใกล้ ๆ ท่านยิ้มแย้มแจ่มใส ตาท่านมีแววที่เมตตามาก ผิวพรรณสะอาด ดูน่าเลื่อมใส ท่านถามอาตมาว่า มีธุระอะไรท่าน อาตมาจึงพูดขึ้นว่า ผมมาเที่ยวที่บ้านน้องชายครับ ที่ชื่อ ไพรัช นาสา และเมื่อครั้งที่ผมเป็นทหาร ผมเคยมาทอดผ้าป่าเพื่อสมทบทุนสร้างพระอุโบสถวัดนี้ และหลวงพ่อก็เคยสักยันต์ที่แขนให้ผม นี่ไงครับ ยันต์อะระหัง อาตมาจึงยื่นแขนให้ท่านดู ท่านว่า อ๋อ ท่านจำได้แล้ว ในคณะผ้าป่าของทหาร มีทหารอยู่ 5 คน ที่ผมสักให้ แล้ววันนี้ท่านมามีอะไรหรือป่าว
อาตมา “ผมเคยได้ยินกิตติศัพท์ในเรื่องวิชาอาคมของหลวงพ่อเกี่ยวกับวิชาเสือคอขาดครับ ผมอยากจะศึกษาในทางนี้ เพราะเป็นวิชาที่หายากครูบาอาจารย์มักจะไม่สอน จนวิชาเหล่านี้ตายไปกับครูบาอาจารย์จนจะหมดแล้ว”
หลวงพ่อ “ อย่าเรียนเลยท่าน มันไม่ดีหรอก ส่วนมากมันจะเลวหมด เอาดีไม่ได้ ผมจะสักให้ไปเพื่อคุ้มครองจากสิ่งไม่ดี มันกลับไปประพฤติไม่ดีเสียเอง ทั้งปล้นเขา ฆ่าเขา ทำความเดือดร้อนให้กับสังคม”
อาตมา “แต่หลวงพ่อครับ วิชาเหล่านี้ถ้าเรารู้จักใช้มันก็เป็นคุณไม่ใช่หรือ ทำไมเราไม่ให้เขาสาบานก่อน หรือไม่ก็ครูบาอาจารย์สาปแช่งไว้เขาก็คงไม่กล้าละเมิดคำครู”
หลวงพ่อ “ต่อหน้าเรามันก็สาบานดี แต่พอลับหลังเรามันก็ชั่วอยู่ดี ท่านอย่าเอาไปเลย ผมให้ไม่ได้หรอก เอาอย่างอื่นไปดีกว่าไม่ทุกข์ใจ”
อาตมา “หลวงพ่อครับ ผมก็เคยศึกษาวิชาของหลวงปู่ศุข มาบ้างกับอาจารย์มานิตย์ เป็นวิชาตรึงหลัก หมายถึงสิ่งใดที่เอาไม่อยู่ด้วยแรง ต้องใช้วิชาตรึงหลัก วิชานี้แม้แต่เปรตก็ยังต้องหยุดเดิน หยุดร้องได้ ผมว่าเอามาใช้กับเสือก็ได้นะครับ คือมีหลักแล้วล่ามโซ่ เท่ากับเราไม่ทำใคร แต่ใครอย่าเข้ามาในระยะโซ่เรานะ เราเอาท่านแน่”
หลวงพ่อ “ ถึงท่านจะมีวิชาดี ที่จะล่ามเขาไว้ด้วยโซ่อาคม แต่ผมก็ให้ไม่ได้ ให้วิชามันตายไปกับผมดีกว่า”
อาตมา “ผมเชื่อว่าครูบาอาจารย์ คงจะเสียใจที่วิชาของท่านจะสูญสิ้นอย่างน้อยน่าจะมีการสืบทอดไว้ ถึงแม้ลูกศิษย์ จะใช้หรือไม่ใช้ก็ถือว่ายังอยู่กับโลกและอยู่ที่บุญวาสนาของใครที่จะได้และใช้เป็น”
อยู่ ๆ ท่านก็พูดขึ้นว่า
หลวงพ่อ “ เสือนะมีทั้งหมด 19 ตัว ล้วนแต่หัวขาดทั้งสิ้นจะฆ่ามันอย่างไรก็ไม่ตาย เพราะมันตายไปแล้วหัวใจของมันคือ........เอาจากจมูกถึงหาง จากหางถึงกลางหลัง จากกลางหลังถึงจมูก มันคือสูตรหัวใจของแต่ละตัว เสือท่าไปก็ได้ ขอให้หัวขาดเป็นใช้ได้ สำคัญอยู่ที่หัวใจที่จะใส่ลงไปในเสือ 19 ตัว จะมีความต่างกันในด้านฤทธิ์”
ทั้งหมดที่ท่านเล่าให้ฟังต้องรู้จักใช้แต่ละอย่าง กวนธาตุทั้งสี่ และนำธาตุทั้งสี่มาหนุนรวมกันไว้เสมอ ไม่ว่าคนหรือสัตว์ล้วนแล้วแต่ต้องมีธาตุทั้งสี่เป็นตัวหนุน และธาตุที่สำคัญอีกธาตุคือวิญญาณธาตุที่มีอยู่แล้วตามปกติของมนุษย์ สัตว์ เปรต ภูติ ผี ปิศาจ แต่เราพลังพุทธาคมกำกับไว้ จึงไปในส่วนดีได้”
อาตมาเมื่อได้ฟังดังนั้น อาตมาจึงจำทุกคำพูดและขั้นตอนต่าง ๆ ไว้ สรุปว่าสิ่งที่หลวงพ่อท่านพูดให้ฟัง ท่านบอกว่าท่านไม่ได้ให้โดยตรงหมายถึงให้ตำรา แต่ท่านให้โดยอ้อม จากนั้นมาอาตมาก็ไม่ได้นำมาสักให้ใครทั้งสิ้น อาตมาจะทบทวนวิชาเหล่านี้อยู่เป็นประจำจนบางครั้ง บางสถานที่อาตมาไปอยู่ยามคำคืนชาวบ้านจะได้ยินเสียงเสือคำราม จนในปีพ.ศ.2540 อาตมาได้ถูกส่งมาเป็นเจ้าอาวาสวัดซับสวอง ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา อาตมาจึงเปิดสักในสายของหลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่า การสักในช่วงนั้นมีตำหนักสักมากมายเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด ต่างมุ่งหวังจะทำลายกันเอง อาตมาก็โดนแกล้งต่าง ๆ นานา จนในที่สุดอาตมาจึงตัดสินใจเปิดสักเสือหัวขาดขึ้นเป็นครั้งแรก เป็นที่ฮือฮาในขณะนั้น และก็ยังโดนตำหนิอีกว่า สักไปได้อย่างไร ลายนี้ไม่มีใครกล้าสักหรอกเดี๋ยวลูกศิษย์ก็บ้าหมด ถ้าไม่บ้าก็หาดีไม่ได้เลวหมด พวกเขาเหล่านั้นไม่รู้ว่าอาตมาได้มาอย่างไรจึงต่อว่า จากวันที่เริ่มสักเสือหัวขาดตัวแรกในปีพ.ศ.2540 จนถึงทุกวันนี้เสือ 5 ตัวแล้ว อยู่ที่วัด 4 ตัว อยู่กับอาจารย์แจ๊ค(ลูกศิษย์ของอาตมา) 1 ตัว รวมเป็น 5 ตัวแล้วทั้งหมดมี 19 ตัว ท่านจะได้เป็นในแต่ละตัวต่อไป หัวใจที่ลงในเสือถึงใครจะรู้แต่ก็เรียกไม่ได้หมุนธาตุไม่เป็น (ขอกราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าของวิชา ถึงแม้กระผมเองจะไม่ทราบนามของหลวงพ่อ แต่กระผมก็จะระลึกถึงพระคุณของพระองค์ท่านอยู่ตลอดเวลา)
ราคาเปิดประมูล900 บาท
ราคาปัจจุบัน950 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ50 บาท
วันเปิดประมูล - 22 ก.ย. 2565 - 14:51:05 น.
วันปิดประมูล - 27 ก.ย. 2565 - 19:02:58 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลattractive (395)(2)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     950 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     50 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    Cha17 (495)

 

Copyright ©G-PRA.COM