ชื่อพระเครื่อง | พระปิดตาหลังยันต์สาม เนื้อเมฆพัด หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม สร้างรางปี พ.ศ. 2460 พร้อมบัตรรับรองครับ |
รายละเอียด | พระปิดตาหลังยันต์สาม เนื้อเมฆพัด หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม สร้างรางปี พ.ศ. 2460 พร้อมบัตรรับรองครับ (ขออนุญาตใช้รูปเจ้าของเดิมครับ)
พระหลวงปู่บุญเนื้อเมฆพัด ในหนังสือประวัติและการสร้างพระเครื่องของพระพุทธวิถีนายก(บุญ) เป็นหนังสือเล่มวัดเล่มแรก จัดทำขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๘ จำนวน ๕,๐๐๐เล่ม ให้ทำบุญที่วัดกลางบางแก้วเล่มละ ๑๘๐ บาท เขียนโดย อ.สุธน ศรีหิรัญ ได้กล่าวไว้ว่าพระเนื้อเมฆพัด เท่าที่สืบทราบอย่างแน่ชัดมีทั้งสิ้น ๗พิมพ์ และ๗พิมพ์ดังกล่าว ล้วนได้ข้อมูลมาจากผู้ที่ได้รับพระมาจากมาจากหลวงปู่บุญ โดยตรงทั้งสิ้น ล้วนแต่เป็นศิษย์ใกล้ชิดกับหลวงปู่และได้รับพระเนื้อเมฆพัดจากมือหลวงปู่บุญ(หลวงปู่แจกให้กับมือหลวงปู่เอง) ซึ่งผู้เขียนบอกว่าอาจจะมีมากพิมพ์กว่านี้แต่ทั้ง๗พิมพ์ที่จะกล่าวถึงนี้ แน่นอน ชีชัดด้วยประจักษ์พยานการได้รับมากับมือหลวงปู่โดยตรงทั้งสิ้น ผู้เขียนยังได้ฝากไว้ให้เป็นข้อคิดอีกอย่างหนึ่งว่า หลวงปู่บุญกับหลวงปู่นาค วัดห้วยจระเข้นั้นมีความสนิทสนมกันมาก ไปมาหาสู่กันอยู่เสมอ และหลวงปู่นาคก็เปรียบเป็นเจ้าตำรับเป็นอาจารย์ใหญ่แห่งเนื้อเมฆพัด ดังนั้นหลวงปู่บุญก็คงจะได้รับสูตรการทำมาบ้างไม่มากก็น้อย โดยจะพบว่าพระเนื้อเมฆพัดของหลวงปู่บุญ เนื้อสีออกขาบเข้มดำ คล้ายกับพระปิดตาห้วยจระเข้ของหลวงปู่นาคมาก
เนื้อเมฆพัดทั้ง๗พิมพ์มีดังนี้คือ
๑.พระปิดตามหาอุด หลังอักขระสี่ตัว ทุ สะ มะ นิ (หัวใจพระปถมัง)
๒.พระปิดตามหาอุด หลังยันต์เทาะว์
๓.พระพิมพ์สมาธิกลีบบัวหลังปิดตา
๔.พระพิมพ์สมาธิกลีบบัวหลังอักขระสี่ตัว
๕.พระพิมพ์กลีบบัวซุ้มหลังปิดตา
๖.พระพิมพ์หลวงพ่อโตหลังปิดตา
๗.พระพิมพ์บัวเม็ด หลังยันต์ นะ มะ พะ ทะ แล้วมีเฑาะว์ขึ้นยอดอยู่ตรงปลาย
ในที่นี้เราจะขอกล่าวถึงพิมพ์ที่หนึ่งกัน ส่วนพิมพ์อื่นๆถ้ามีโอกาสจะมากล่าวถึงในโอกาสต่อไป
พระพิมพ์เป็นพิมพ์แรกจากที่กล่าวมาคือพระปิดตามหาอุด หลังอักขระสี่ตัว ทุ สะ มะ นิ (หัวใจพระปถมัง)
คติโบราณถือสืบกันมาว่า
ปถมังเป็นคัมภีร์แรก ที่ผู้ใคร่ศึกษาวิชาเวทมนตร์พึงจำเป็นต้องเรียนรู้ เพราะเมื่อเริ่มเรียนรู้สูตรในคัมภีร์ปถมังได้แล้ว ก็จะสามารถหัดลงเลขยันต์ต่าง ๆ ต่อไปได้
กล่าวกันว่าที่มาของคัมภีร์ปถมังนี้ เริ่มแรกเมื่อครั้งต้น โลกนี้ยังเป็นที่ว่างเปล่าอยู่ พื้นแผ่นดินยังเพิ่งจะงวดจากน้ำ เริ่มจะเกิดเป็นพื้นดินขึ้นมา ท้าวสหัมบดีพรหมได้เล็งญาณลงมาแลเห็นดอกบัวโผล่พ้นระลอกน้ำขึ้นมา ๕ ดอก ก็ทราบด้วยญาณว่าในกัปนี้จะบังเกิดพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาตรัสรู้ ๕ พระองค์ เป็นกำเนิดแห่งภัทรกัปอันประเสริฐยิ่ง แล้วจึงได้หยิบหญ้าคาทิ้งลงมาบนพื้นน้ำ น้ำนั้นก็งวดเป็นแผ่นดินขึ้น มีกลิ่นหอม เหล่าพรหมได้กลิ่นง้วนดินต่างลงมาเสพกิน ติดรสง้วนดินนั้นมิอาจกลับคืนสู่พรหมโลกได้ จึงได้ตั้งรกรากเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์สืบมาจนทุกวันนี้ ฉะนั้นก่อนจะเล่าเรียนคัมภีร์ปถมังจึงต้องกล่าวคำนมัสการสหัมบดีพรหมดังนี้_อังการะพินทุนาถังอุปปันนัง พรหมาสหัมปตินามะ อาทิกัปเป สุอาคะโต ปัญจะปทุมมังทิสวา นะโมพุทธายะวันทะนังฯ
คัมภีร์ปถมังเริ่มแรกด้วยการทำพินทุ คือแววกลม ถือเป็นปฐมกำเนิด จากนั้นจึงแตกเป็นทัณฑะ เภทะ อังกุ และสิระตามลำดับ สำเร็จเป็นนะปถมังพินทุ
เวลาทำใช้แท่งดินสอพองเขียนลงบนกระดานชนวน มีการเรียกสูตร บริกรรมคาถากำกับตลอด จนสำเร็จเป็นนะปถมัง มีการนมัสการและเสกตามลำดับ ขณะทำมีขั้นตอนและวิธีการที่สลับซับซ้อนพิสดารมาก ผู้สนใจควรศึกษาจากคัมภีร์ปถมังโดยตรง
เนื้อหาของคัมภีร์ปถมังนี้มีทั้งสิ้น ๙ วรรค หรือ ๙ กัณฑ์ แต่ละกัณฑ์เป็นวิธีการทำผงเพื่อฝึกจิตอย่างพิสดารต่างกันไป โดยทุกวรรคหรือทุกกัณฑ์จะเริ่มต้นด้วยนะปถมังพินทุ
จากนั้นจะแยกแยะไปเป็นอุณาโลม อุโองการ องค์พระภควัม หัวใจพระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์ ฯลฯ ต่างกันไปในแต่ละวรรค แต่ทุกวรรคจะจบที่สูญนิพพาน คือ นิพพานัง ปรมัง สุญญัง เหมือนกันทั้งสิ้น
ดังนั้นอักขระทั้งสี่ตัว ทุ สะ มะ นิ (หัวใจพระปถมัง)
ที่หลังพิมพ์พระที่หลวงปู่ทำขึ้นจึงสำคัญเป็นอย่างยิ่ง อุปเท่ห์โบราณของอักขระนี้ โดยส่วนใหญ่ ก็ใช้ไปในทางครอบจักรวาล... |
ราคาเปิดประมูล | 280 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 3,040 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 20 บาท |
วันเปิดประมูล | - 01 ก.พ. 2566 - 21:14:28 น. |
วันปิดประมูล | - 03 ก.พ. 2566 - 01:53:47 น. (ปิดประมูลแล้ว) |
ผู้ตั้งประมูล | Print (3.9K)
|