| ชื่อพระเครื่อง | หมอชีวกโกมารภัจจ์ หลวงพ่อพิเชษฐ์ วัดโคกหม้อ จังหวัดลพบุรี ปี 2560 พิธีหลายวาระ และเสกวันงานไหว้ครูวัดโคกหม้อ โดยหลวงปู่ขีด หลวงพ่อหวั่น หลวงปู่บุญส่ง หลวงพ่อสิริ ครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง |
| รายละเอียด | หมอชีวกโกมารภัจจ์ หลวงพ่อพิเชษฐ์ วัดโคกหม้อ ลพบุรี
พระผงหมอชีวกโกมารภัจจ์ เนื้อมหาว่านยาและสุดยอดมวลสารต่างๆในทางมหาปราบมหาระงับ
และมวลสารสายในดง รุ่นนี้เป็นดำหริของหลวงพ่อพิเชฐจัดสร้างเอง
เพื่อแจกแก่ผู้ร่วมพิธีไหว้ครูประจำปี ในวันที่ 5 มีนาคม 2560 ณ วัดโคกหม้อ ต.โพธิ์เก้าต้น อ.เมือง จ.ลพบุรี
รูปแบบพระผงชุดนี้..ได้อัญเชิญรูปท่านหมอชีวกโกมารภัจจ์
ที่สาธุคุณท่านบ๋าวเอิง วัดสมณานัมบริหาร (วัดญวนสะพานขาว)
เป็นผู้อัญเชิญญาณของท่านหมอชีวกบรมครูแพทย์ประจำองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ในทางญาณให้มาปรากฏภาพอยู่บนนิ้วมือของลูกศิษย์ที่ประทับทรง เมื่อปี 2498
และปั้นรูปท่านเอาไว้ที่วัดญวนสะพานขาว กรุงเทพมหานครฯ มาเป็นต้นแบบในการแกะแม่พิมพ์
#ด้านหน้า
เป็นรูปของท่านหมอชีวก นั่งขัดสมาธิปางมารวิชัย(ชนะโรคา)
ประทับอยู่บนฐานหิน พื้นหลังจำลองเป็นผนังถ้ำคูหาที่บำเพ็ญตนของท่านหมอ
พร้อมด้วยมีรางบดยาอยู่ที่ด้านหน้าฐาน
#มือซ้าย
ถือมหาสังข์ทักษิณาวัตร(สังข์มงกุฏเวียนขวา)
จัดเป็นสิริมงคลวัตถุชั้นสูงสุดตามคติพราหมณ์
#อักขระด้านบนสุด
เป็นอักขระภาษาอินเดียโบราณอ่านว่า ชี ว ก โก มา ร ภัจ อันเป็นนามของท่าน
#ยันต์ด้านซ้ายมือบน
เป็นยันต์กันโรคภัยไข้เจ็บ (หัวใจสัตตโภชฌงค์)
#ยันต์ด้านขวามือบน
เป็นยันต์ของท่านหมอชีวกตามตำรับสายพรหมศาสตร์
#อักขระ
ซ้าย-ขวา 4 คำ เป็นอักขระภาษาอินเดียโบราณ
อ่านว่า อะ โร คะ ยา แปลว่า " ความไม่มีโรค "
#ด้านหลัง
จารึกเป็นอักขระภาษาอินเดียโบราณ เป็นยันต์ยอดเกศ หรือยันต์ร้อยช่อง
ตามตำรับโบราณ
ยันต์นี้ทรงอานุภาพทางป้องกันและสยบคุณไสย คุณผี คุณคน ทุกชนิด
ตลอดจนเป็น มหาอำนาจ มหาอุต ขจัดปัดเป่าอุปสรรคต่างๆ
เป็นยันต์ที่มีอิทธิฤทธิ์สูงยิ่ง ใช้ได้ร้อยช่องร้อยประตูตามแต่อธิษฐานแล..
*********************************************
พระหมอชีวกโกมารภัจจ์บรมครูแพทย์รุ่นนี้ เป็นดำหริของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพิเชฐจัดสร้างเอง
เนื่องด้วยท่านทราบว่าปัจจุบันนี้ภัยต่างๆเกิดขึ้นมากมาย ทั้งภัยจากโรคภัยไข้เจ็บ
โรคระบาดต่างๆ โดยเฉพาะภัยจากศาสตร์มืด ภูติผีปีศาจ คุณไสย
ปัจจุบันได้กลับมามากขึ้นเรื่อยๆ จนสร้างความเดือดร้อนไปทั่วโลก
เนื่องจากเป็นยุคที่มนุษย์มีจิตใจต่ำลง แก่งแย่งชิงดี
จึงหันไปพึ่งพาของต่ำพวกไสยศาสตร์ อวิชาเล่ห์กล มนต์ดำต่างๆ
จนสร้างความเดือดร้อนให้แก่ตนเองและบุคคลอื่น
ซึ่งของเหล่านี้เวลาทำนั้นทำง่าย แต่ว่าการแก้ไขทำได้ยากมาก
บางคนถึงกับบ้านแตกสาแหรกขาด เสียสติ เจ็บป่วยแบบไม่ทราบสาเหตุ
หลายคนเป็นหนักถึงขั้นเสียชีวิตไปเลยก็มี ซึ่งภัยมืดจากอวิชชาเหล่านั้น
แพทย์แผนปัจจุบันไม่อาจเยียวยารักษาให้หายได้
จำเป็นต้องใช้แรงพุทธคุณ และแรงครูฝ่ายสัมมาทิฏฐิเท่านั้น
จึงจะปลดเปลื้องปัญหาดังกล่าวลงได้..
ด้วยเหตุดังกล่าวหลวงพ่อท่านจึงตั้งใจจะสร้างพระขึ้นมาสักรุ่น
ด้วยการรวบรวมว่านยาและมวลสารประเภททางป้องกัน
และสยบคุณไสย คุณผีคุณคนโดยเฉพาะ
ไว้สำหรับมอบให้ลูกศิษย์ได้บูชาเพื่อบรรเทาเคราะห์กรรมต่างๆ
แรกเริ่มเดิมทีท่านคิดไว้ว่าจะสร้างเป็นพิมพ์ยอดขุนพล
แต่ต่อมาญาณของท่านปู่หมอชีวกได้มาสื่อกับหลวงพ่อ
ว่าให้สร้างรูปของท่านก่อน
หลวงพ่อจึงเปลี่ยนแนวทางมาเป็นสร้างรูปของหมอชีวกแทนตามที่ท่านมาบอกนิมิตร
เพราะท่านหมอชีวกจัดเป็นหมอเทวดาที่ไม่มีใครเทียบเคียงในความสามารถได้
ท่านมีบารมีและคุณธรรมที่สูงมาก ในทางรักษาโรคได้ทุกชนิด ตรงนี้รวมไปถึงโรคคุณไสย
หรือโรคที่เกิดจากภูติผีปีศาจ และโรคเวรโรคกรรมต่างๆด้วย..
*********************************************
#พระผงหมอชีวกโกมารภัจจ์ ( ตอน 3.1 )
มวลสารทั้งหลายเหล่านี้ล้วนแต่เป็น #มวลสารทางป้องคุณไสย
และแก้อาถรรพ์ต่างๆ รวมถึงเครื่องยามวลสารที่เป็นสูตรลับของหลวงพ่อ
ใช้ในทางใช้แก้และกันคุณไสย ภูติผีปีศาจ
และมวลสารวิเศษจากสำนักต่างๆทั่วประเทศ และต่างประเทศ
แร่ธาตุต่างๆที่มีคุณในตัว
ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อ พร้อมด้วยคณะศิษย์ต่างหามาร่วมบุญกันเพื่อสร้างพระในครั้งนี้
รวมแล้วได้มวลสารเกือบ 50 กิโลกรัม
นอกจากมวลสารที่เป็นผงแล้ว ยังมีน้ำมนต์ธรณีสาร
และน้ำมนต์อื่นๆอีกทั่วประเทศ
น้ำมันมนต์วิเศษที่มีคุณทางป้องกันภัย ฯลฯ อีกด้วย
เมื่อได้เครื่องยา ว่าน แร่ และมวลสารครบตามที่ต้องการแล้ว
จึงเอามาบดให้ละเอียด แล้วร่อน คลุกเคล้าจนกว่าจะทั่วถึงกันทุกอณู
จึงนำไปปลุกเสกตั้งธาตุหนุนธาตุและกดพิมพ์พระต่อไป...
*********************************************
#พระผงหมอชีวกโกมารภัจจ์ ( ตอน 4 )
มาถึงตอนสำคัญแล้วครับ เมื่อรวบรวมมวลสารทั้งหมดนำไปกดพิมพ์พระเรียบร้อยแล้ว
หลวงพ่อท่านได้สั่งให้นำพระไปทำพิธีอัญเชิญญาณบารมีจากครูบาอาจารย์
จากสถานที่ต่างๆ เพื่อความสมบูรณ์แบบแห่งการจัดสร้างรูปปู่หมอชีวกโกมารภัจจ์ในครั้งนี้..
#พิธีที่ 1 พิธีเชิญญาณปู่ชีวก ที่วัดสมณานัมบริหาร (วัดญวนสะพานขาว)
ที่วัดญวนสะพานขาวแห่งนี้ มีรูปหล่อของหมอชีวกโกมารภัจจ์ ที่หล่อโดยหลวงพ่อบ๋าวเอิง
ซึ่งหลวงพ่อบ๋าวเอิงท่านนี้เป็นพระที่มีคุณธรรมสูงส่งมาก มีพลังจิตแก่กล้า
และมีอภินิหารมาก เมื่อปี พ.ศ.2498 ท่านได้อัญเชิญดวงจิตของหมอชีวกลงมาประทับร่างลูกศิษย์
และแสดงปาฏิหาริย์ให้ปรากฏภาพของท่านบนนิ้วมือของร่างที่ประทับทรง
เพื่อจะทำการปั้นรูปเหมือนของหมอชีวกเอาไว้ประจำวัดแห่งนี้ จัดได้ว่าเป็นครั้งแรก
และองค์แรกที่มีการทำพิธีอัญเชิญหมอชีวกลงมาเลยก็ว่าได้
ซึ่งรูปหล่อของหมอชีวกนี้ได้ประดิษฐานอยู่ด้านในอุโบสถ
อันเปรียบเสมือนรูปตัวแทนที่สถิตดวงจิต เจตสิกของท่านหมอชีวกเอาไว้
หลวงพ่อพิเชฐท่านจึงสั่งให้นำพระผงหมอชีวกเนื้อว่านยารุ่นนี้ไปทำพิธีอัญเชิญญาณ
และรับพลังบารมีของท่านหมอชีวก และหลวงพ่อบ๋าวเอิงที่นี่เป็นที่แรก
เพื่อคงความเป็นตัวตนของท่านไว้ก่อนเป็นอันดับแรก..
#พิธีที่ 2 พิธีอธิษฐานจิตโดยหลวงปู่เล็ก จันทสโร วัดทำนบ
พิธีนี้ทางคณะศิษย์ได้กราบเรียนขออนุญาตพระเดชพระคุณหลวงปู่เล็ก จันทสโร
เมตตาอธิษฐานจิตให้เป็นกรณีพิเศษ เนื่องด้วยหลวงปู่เล็กท่านเป็นพระหมอ
และมีวิชาปราบโรค วิชาเสกไพลรักษาโรค
และท่านยังสำเร็จวิชานิ้วเพชรจากหลวงปู่เต่า วัดน้ำพุ จ.อ่างทอง
ซึ่งหลวงปู่เต่าวัดน้ำพุนี้ ท่านก็เป็นศิษย์สายในดง
และเป็นสหธรรมมิกกับหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์
วิชานิ้วเพชรนี้เป็นสุดยอดวิชาอีกแขนงหนึ่งเรียกว่า ประกาศิตนิ้วเพชร
เป็นวิชาที่สามารถสั่งให้เป็น ให้ตายก็ได้
แม้คนที่เป็นโรคต่างๆก็สามารถใช้วิชานิ้วเพชรนี้สั่งให้หายได้เช่นกัน
และหลวงปู่เล็กท่านยังเป็นหลานแท้ๆของหลวปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม
พระปรามาจารย์ผู้สำเร็จวิชาปรุงยาวาสนาจินดามณี
จึงกล่าวได้ว่า หลวงปู่เล็ก วัดทำนบ รูปนี้
เป็นครูบาอาจารย์ผู้สืนสานตำนานวิชาโบราณของครูบาอาจารย์รุ่นเก่าเอาไว้อย่างเพียบพร้อมเลยทีเดียว..
#พิธีที่ 3 พิธีอัญเชิญญาณครูบาอาจารย์สายในดง
ที่กุฏิของหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต วัดเงินบางพรหม(ตลิ่งชัน)
เนื่องด้วยพระชุดนี้มีมวลสารของครูบาอาจารย์สายในดงผสมเอาไว้อยู่ด้วย
หลวงพ่อพิเชฐท่านจึงสั่งให้นำพระทั้งหมดนี้ไปทำพิธีขออัญเชิญญาณบารมีจากครูบาอาจารย์สายในดง
โดยท่านกำหนดให้นำพระนี้ไปทำพิธีที่กุฏิเดิมที่หลวงพ่อชาญณรงค์เคยอยู่
ซึ่งกุฏิดังกล่าวนี้ หลวงพ่อชาญณรงค์ท่านได้อธิษฐานวางวิชาอาถรรพ์เอาไว้อย่างดี
และที่กุฏิหลังนี้เองครูบาอาจารย์สายในดงทั้งหลายก็ได้เคยมาปรากฏกายให้เห็นกันบ่อยๆ
ในสมัยที่หลวงพ่อชาญณรค์ยังทรงสังขารอยู่
ซึ่งวิชาของสายในดงนี้หลวงพ่อพิเชฐกล่าวว่าเป็นวิชาสายแข็ง
และเป็นที่สุดของแผ่นดิน สามารถข่ม ป้องกัน
และแก้อาถรรพ์คุณไสยต่างๆได้ทุกภาษา ค
รูบาอาจารย์สายในดงแต่ละองค์ล้วนแต่สำเร็จอภิญญาสมาบัติขั้นสูงทั้งสิ้น..
ทางคณะศิษย์จึงได้นำพระผงหมอชีวกชุดนี้
มาฝากอัญเชิญญาณบารมีจากครูบาอาจารย์สายในดงทั้งหลาย
ที่กุฏิหลวงพ่อชาญณรงค์เป็นเวลาตลอด 1 คืนเต็ม
โดยได้ขอความเมตตาจากท่านพระครูมานิตเป็นผู้สวดมนต์อัญเชิญขอบารมีให้เป็นกรณีพิเศษ
จากนั้นจึงนำพระทั้งหมดไปที่วัดโคกหม้อ
เพื่อหลวงพ่อจะได้อธิษฐานจิตต่อ แ
ละเข้าพิธีพุทธาภิเษกในงานไหว้ครูในวันที่ 5 มีนาคม 2560
ที่วัดโคกหม้อต่อไป.. สาธุ
*********************************************
พุทธาภิเษก งานไหว้ครูหลวงพ่อพิเชฐ วัดโคกหม้อ ลพบุรี 5 มีนาคม 2560
โดยพระเกจิอาจารย์ที่ร่วมพิธีในงานพุทธาภิเษก ดังนี้
-หลวงพ่อพิเชฐ สีลสุทโธ วัดโคกหม้อ ลพบุรี
-ครูบากฤษดา สุเมโธ วัดสันพระเจ้าแดง ลำพูน
-หลวงพ่อหวั่น กุสลจิตโต วัดคลองคูณ พิจิตร
-หลวงพ่อสิริ สิริวัฒโน วัดตาล นนทบุรี
-หลวงปู่ขีด ครุธมโม วัดบัวโรย สมุทรปราการ
-หลวงปู่สนม วัดมะปรางค์เหลือง นครสวรรค์
- หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม จันทบุรี
-หลวงปู่ดำ ทีปะธัมโม สำนักสงฆ์สวนสมุนไพรเขาเกลือ จันทบุรี
*********************************************
#ประวัติหมอชีวกโกมารภัจจ์ (ย่อ)
แพทย์แผนโบราณนับถือและยกย่องหมอชีวกโกมารภัจจ์ว่า เป็นปฐมครูผู้รอบรู้ ในศาสตร์ด้านการแพทย์แผนโบราณทุกแขนง หมอชีวกโกมารภัจจ์เป็นแพทย์ประจำพระองค์ ของพระเจ้าพิมพิสาร พระราชาแห่งแคว้นมคธ และเป็นหมอประจำพระองค์ ของพระพุทธเจ้า และพระสงฆ์ผู้เป็นพุทธสาวกทั้งหลาย ประวัติของหมอชีวกโกมารภัจจ์ เป็นเรื่องราวประวัติการแพทย์สมัยพุทธกาล ที่ยังคงทิ้งร่องรอยไว้ในพระไตรปิฎก ดังความใน " วินัย มหาวัคค์ จีวรขันธกะ " สรุปความได้ดังนี้
หมอชีวกโกมารภัจจ์ ซึ่งแพทย์แผนไทยเคารพนับถือว่าเป็นปฐมครูด้านการแพทย์แผนโบราณทุกแขนง หมอชีวกโกมารภัจจ์ ซึ่งแพทย์แผนไทยเคารพนับถือว่า เป็นปฐมครู ด้านการแพทย์แผนโบราณทุกแขนง
หมอชีวกโกมารภัจจ์เป็นบุตรชายของนางสาลวดี ผู้เป็นหญิงคณิกาชั้นสูงแห่งกรุงราชคฤห์ นครหลวงแคว้นมคธ (ปัจจุบันอยู่ในรัฐพิหาร ประเทศอินเดีย) เมื่อนางสาลวดีตั้งครรภ์ เกรงว่า จะเกิดผลกระทบกับหน้าที่การงาน จึงอ้างว่า ป่วย และพักงาน จนให้กำเนิดบุตรชาย แล้วสั่งให้สาวใช้เอาทารกนั้น ไปทิ้งที่กองขยะในตอนกลางคืน ในตอนเช้า เจ้าชายอภัย พระราชโอรสของพระเจ้าพิมพิสารแห่งแคว้นมคธ เสด็จไปเฝ้าพระราชบิดา ขณะเสด็จผ่านบริเวณนั้น ทอดพระเนตรเห็นฝูงกาล้อมเป็นกลุ่มอยู่ จึงรับสั่งให้มหาดเล็กที่โดยเสด็จด้วยเข้าไปดู เมื่อทรงทราบว่า มีคนนำเด็กทารกมาทิ้ง จึงรับสั่งถามมหาดเล็กนั้นว่า ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ มหาดเล็กทูลตอบว่า ยังมีชีวิตอยู่ จึงทรงรับสั่งให้นำทารกนั้น กลับเข้าไปในพระราชวัง ด้วยเหตุที่มหาดเล็กทูลตอบว่า ยังมีชีวิตอยู่นั่นเอง ผู้คนจึงเรียกเด็กคนนี้ว่า ชีวก (แปลว่า ยังมีชีวิต) และเพราะเจ้าชายอภัยทรงเลี้ยงดูเป็นโอรสบุญธรรม คนทั้งหลายจึงเรียกเด็กคนนี้ ว่า โกมารภัจจ์ (แปลว่า ที่พระกุมารทรงเลี้ยงไว้) และเรียกรวมกันเป็น ชีวกโกมารภัจจ์
เมื่อเติบโตขึ้น ชีวกตัดสินใจศึกษาวิชาแพทย์ จึงหนีเจ้าชายอภัย ออกเดินทางไปยังเมืองตักกสิลา และเลือกศึกษากับทิศาปาโมกข์ ทางด้านการแพทย์ ชีวกตั้งใจศึกษาเล่าเรียน และปรนนิบัติครูบาอาจารย์ ประกอบกับเป็นผู้ที่มีไหวพริบ และสติปัญญาดี จึงเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว เข้าใจได้อย่างถ่องแท้ ทั้งยังมีประสบการณ์ฝึกหัด ตามที่อาจารย์สอน หลังจากศึกษากับอาจารย์ครบ ๗ ปี ก็ได้เรียนรู้จนหมดสิ้น หากเทียบกับนักศึกษาผู้อื่นต้องใช้เวลาในการศึกษาถึง ๑๖ ปี
เมื่อได้ศึกษาความรู้จากอาจารย์จนหมดสิ้นแล้ว จึงเข้าไปหาอาจารย์ และถามถึงที่สุดแห่งความรู้ อาจารย์รู้อยู่แก่ใจว่า ชีวกเรียนดี และมีความรู้ดี แต่ต้องการทดสอบให้แน่ใจ จึงให้ชีวกถือเสียม ไปสำรวจหาสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ใช้เป็นยาไม่ได้ โดยให้เดินทางหาอยู่ ๔ วัน วันละทิศ ทิศละ ๑ โยชน์ รอบเมืองตักกสิลา ชีวกรับคำสั่งอาจารย์ ออกสำรวจจนทั่วเมือง ตามที่อาจารย์กำหนดให้ แต่ไม่พบสิ่งใด ที่ใช้เป็นยาไม่ได้ จึงกลับมารายงานให้อาจารย์ทราบ อาจารย์จึงบอกว่า เรียนสำเร็จแล้ว ถึงที่สุดแห่งวิชาแล้ว ความรู้เพียงเท่านี้ ก็เพียงพอให้ใช้เป็นวิชาชีพได้แล้ว
เมื่อกลับถึงกรุงราชคฤห์แล้ว เจ้าชายอภัยจึงนำหมอชีวกเข้าถวายตัว ต่อพระเจ้าพิมพิสาร ต่อมาพระเจ้าพิมพิสารโปรดให้หมอชีวก รักษาโรคริดสีดวงทวาร ที่ทรงป่วยมาเป็นแรมปีแล้ว หมอชีวกได้ตรวจพระอาการ แล้วถวายการรักษา ด้วยการพอกยาเพียงครั้งเดียวเท่านั้น พระโรคก็หายสนิท จึงได้รับพระราชทานรางวัล และโปรดตั้งให้เป็นแพทย์ประจำพระองค์ ของพระพุทธเจ้า และพระสงฆ์สาวกทั้งปวงด้วย หมอชีวกรับพระราชทานสนองพระคุณ และปฏิบัติตนเป็นอุบาสก ถือพระรัตนตรัยเป็นสรณะตลอดชีวิต
ในพระไตรปิฎก ได้มีบันทึกผลงานการรักษาโรค ของหมอชีวกโกมารภัจจ์ ครั้งสำคัญๆ หลายครั้ง ได้แก่ การรักษาเศรษฐีชาวกรุงราชคฤห์ ซึ่งป่วยเป็นโรคปวดศีรษะเรื้อรัง ด้วยการผ่าตัดที่ศีรษะ การผ่าตัดรักษาโรคลำไส้ขอดของลูกเศรษฐี ชาวกรุงพาราณสี การรักษาพระโรคผอมเหลือง ของพระเจ้าจัณฑปัชโชต (ผู้ครองกรุงอุชเชนี) การรักษาแผลที่พระบาท ของพระพุทธเจ้า ซึ่งเกิดจากพระเทวทัตกลิ้งหินให้ทับพระองค์ และสะเก็ดหินแตกมาถูก ทำให้ห้อพระโลหิต
หมอชีวกโกมารภัจจ์มีคุณูปการทั้งในด้านอาณาจักรและพุทธจักร พระพุทธเจ้าจึงได้ประทานเอตทัคคะให้แก่หมอชีวก เมื่อคราวประทับอยู่ที่วัดเชตวัน กรุงสาวัตถี โดยได้รับสั่งแก่ภิกษุทั้งหลายว่า " ดูกรภิกษุทั้งหลาย บรรดาอุบาสกผู้เป็นสาวกของตถาคต ซึ่งเป็นผู้มีความเลื่อมใสในบุคคล ชีวกโกมารภัจจ์เป็นเลิศกว่าอุบาสกทั้งหลาย.."
และได้รับการยกย่องจากพระพุทธเจ้าว่า " เป็นผู้เลิศด้วยธรรม 6 ประการ คือ ยึดมั่นในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อริยศีล อริยญาณ เจริญสติมั่น "
ด้วยการศึกษาชีวประวัติของท่านอย่างละเอียด พบว่าบั้นปลายชีวิตของท่านหมอชีวกนั้น ท่านได้ปลีกตัวบำเพ็ญธรรมอยู่ในถ้ำตราบสิ้นอายุไข จึงได้ออกแบบพระชุดนี้ให้มี ฐานและพื้นหลังให้เป็นรูปผนังหิน ประกอบกับให้มีรางบดยา มหาสังข์อันเป็นสัญลักษณ์เฉพาะของท่าน และได้ใส่อักขระยันต์สำคัญๆเอาไว้อีกหลายอย่าง โดยเฉพาะยันต์เหล่านั้นส่วนใหญ่จะจารึกเป็นภาษาอินเดียโบราณ ถือว่าเป็นอักษรร่วมสมัยของท่านหมอชีวกเมื่อครั้งพุทธกาล และอักขระเหล่านี้ มีครูบาอาจารย์กล่าวรับรองไว้ว่า เป็นอักขระสำเร็จที่มีความขลังศักดิ์สิทธิ์ในตัว มีแรงครูพิทักษ์รักษามากกว่าอักขระใดๆ
*********************************************
ขอบคุณข้อมูลจาก คุณสิรภพ สายพานิช |
| ราคาเปิดประมูล | 280 บาท |
| ราคาปัจจุบัน | -- ยังไม่มีผู้เสนอราคา -- (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!) |
| เพิ่มขึ้นครั้งละ | 20 บาท |
| วันเปิดประมูล | - 02 ก.พ. 2566 - 12:58:10 น. |
| วันปิดประมูล | - 12 ก.พ. 2566 - 12:58:10 น. (ปิดประมูลแล้ว) |
| ผู้ตั้งประมูล | เบญจธรรม (2.8K)    
|
