(0)
ผ้ายันต์มงคล16ทิศ ( โสฬสมงคลจักรวาล) พระอริยสงฆ์ทรงอภิญญานาม หลวงปู่แก้ว สุทโธ วัดดอยโมคคัลลาน์ ต.สบเตี๊ยะ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ขนาด ๑๐ นิ้ว * ๑๐ นิ้ว ออก ปี ๒๕๒๒ หายากมากๆๆๆ เคาะเดียว






รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องผ้ายันต์มงคล16ทิศ ( โสฬสมงคลจักรวาล) พระอริยสงฆ์ทรงอภิญญานาม หลวงปู่แก้ว สุทโธ วัดดอยโมคคัลลาน์ ต.สบเตี๊ยะ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ขนาด ๑๐ นิ้ว * ๑๐ นิ้ว ออก ปี ๒๕๒๒ หายากมากๆๆๆ เคาะเดียว
รายละเอียดหลวงปู่แก้ว สุทโธ วัดดอยโมคคัลลาน์ ต.สบเตี๊ยะ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
ข้ามเวลามา ๔๓ปี แล้ว สำหรับผ้ายันต์ชุดนี้ รักษาไว้เดิมๆสภาพสวยมาก

พุทธคุณ ....หลวงปู่อธิษฐานจิตเสก เป็นมงคลครอบจักรวาล ติดรถ ติดเรือน ติดตัว ติดใจไว้ เจริญด้วยโภคทรัพย์ เป็นโชคลาภ เป็นเมตตาใหญ่ คุ้มกันภัยทั้งปวง กันกระทำย่ำยีมิอาจกร้ำกรายได้
พระอริยสงฆ์ทรงอภิญญานาม หลวงปู่แก้ว สุทโธ วัดดอยโมคคัลลาน์ ต.สบเตี๊ยะ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ สหายทางธรรมของ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ เมื่อครั้งอดีต อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของหลวงปู่แก้ว เป็นที่เลื่องลือนัก มีเรื่องเล่าว่าหลวงปู่เคยเมตตาช่วยเหลือพยานาค ที่ป่วยและเลี้อยขึ้นจากแม่น้ำปิง มาขอรับเมตตาจากหลวงปู่แก้ว นอกจากนี้ หลวงปู่ยังเป็นผู้อัญเชิญพระพุทธรูปขึ้นมาจากน้ำปิง เพื่อโปรดชาวโลก ทำให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล แคล้วคลาดจากภัยธรรมชาติทั้งปวง ปัจจุบันเก็บรักษาไว้อย่างดีที่วัดดอยโมคคัลลาน
ในยุคที่หลวงปู่แหวน ยังมีชีวิตอยู่ คนส่วนใหญ่จะมุ่งหน้าไปกราบสักการะท่าน น้อยคนที่จะรู้จักหลวงปู่แก้ว วัดดอยโมคคัลลาน์ ครั้นในเวลาต่อมามีชาวบ้านแถวอำเภอจอมทอง มากราบหลวงปู่แหวน เมื่อท่านทราบได้บอกชาวบ้านเล่านั้นไปหลวงปู่แก้วมีดีไม่แพ้ฉัน ไม่ต้องมาหาฉันไปหาหลวงปู่แก้วเถอะ ไม่ต้องเดินทางให้ลำบากหรอก“บ้านเธอก็มีดีไม่แพ้ฉัน ให้ไปกราบท่านเถิด ไม่ต้องลำบากเดินทางมาถึงที่นี่ดอก..” ตั้งแต่นั้นมาชื่อเสียงของหลวงปู่แก้ว ก็เริ่มปรากฏเป็นที่รู้จักมากขึ้น ตั้งแต่ปี 2518 มีคนเขียนประวัติลงในหนังสือพระและมีการสร้างเหรียญรุ่นแรกของท่านขึ้น หลวงปู่แก้ว สุทโธ วัดดอยโมคคัลลาน์ มีอายุอ่อนกว่าหลวงปู่แหวนประมาณ 2 ปี ท่านเป็นพระปฏิบัติเคยเรียนวิชาอยู่กับท่านครูบาศรีวิชัย และพระเกจิสายล้านนา เชื่อว่าท่านเป็นพระอริยสงฆ์รูปหนึ่งเพราะเมื่อมรณภาพไปแล้วสังขารไม่เน่าเปื่อย พระเครื่องทุกรุ่นที่ท่านปลุกเสกมีประสบการณ์ดีทุกด้าน ตามแต่อธิษฐาน พูดถึงวัตถุมงคลที่ออกในนามหลวงปู่แก้ว มีไม่กี่รุ่นเป็นของดีที่น่าสะสม
วัตถุมงคลของท่าน..มีไม่มากนัก ลูกศิษย์ลูกหา ต่างหวงแหน
...หลวงปู่แก้ว สุทโธ แห่งวัดดอยโมคัลลาน อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่...
ดอยโมคคัลลาน ดอยซึ่งครั้งหนึ่งในสมัยพุทธกาล พระมหาโมคคัลลานะเถรเจ้า เหาะมาถึงก่อนเข้าสู่นครอังครัฏฐะ ปรากฏว่าครั้งหนึ่งพระเถระ3รูปคือ หลวงปู่แก้ว สุทโธ กล่าวกับเพื่อนสหธรรมิกทั้ง ๒ รูป เป็นที่ล่ำลา “ผมคงได้จำพรรษาที่ดอยแห่งนี้ เพราะถูกกับจริตนิสัยดีกว่าที่แห่งใดซึ่งเคยผ่านๆ มา” หลวงปู่แหวน สุจิณโณ กับ หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม จึงแยกจากหลวงปู่แก้ว จาริกธุดงค์ไปสู่ป่าเขาเถื่อนถ้ำแห่งอื่น ส่วนหลวงปู่แก้ว ซึ่งพักจำพรรษาอยู่ที่นั่น เป็นผู้สร้างพระธาตุเจดีย์ขึ้นบนดอยโมคคัลลาน ใช้เวลาก่อสร้างนานร่วม ๑๐ ปี
ช่วงที่หลวงปู่แก้ว สุทโธ เพิ่งปักกลดอยู่บนดอยโมคคัลลาน วันเดียวกันนั้น...เพื่อนของ นายหาญ โพธิฉิม คนบ้านหนองอาบช้าง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ขับรถบรรทุกออกจากอำเภอ “จอมทอง” ไปทางอำเภอ “ฮอด” (เส้นทางไปยังวัดดอยโมคคัลลาน) ถนนหนทางยุคนั้นพัฒนามาจากทางเกวียนบ้าง ถนนตัดใหม่ยังไม่มีการลาดยางบ้าง รถราบนท้องถนนมีแค่หยิบมือเดียว ความเป็นอยู่ของผู้คนเรียบง่ายไม่เร่งไม่ร้อน
เพื่อนของนายหาญขับรถบรรทุกออกจากอำเภอจอมทองได้ประมาณ ๓ กิโลเมตร (ละแวกดอยโมคคัลลาน์) บรรยากาศบนท้องถนนเงียบสงัดวังเวง ช่วงเวลามืดค่ำไม่มีรถวิ่งไปมานอกจากรถบรรทุกคันนี้ เพื่อนของนายหาญขับรถตามสบายไม่เร่งรีบ ผิวถนนขรุขระให้ความเร็วมาก็ไม่เหมาะ เผลอๆ เครื่องเคราพลอยจะรวนเอาง่ายๆ
ทันใดนั้นเอง...
จากแสงไฟหน้ารถที่สาดแจ่มจ้า มองเห็นเส้นทางข้างหน้าถนัดชัดเจน เพื่อนนายหาญต้องเหยียบเบรคโดยกะทันหัน มองสิ่งที่อยู่กลางถนนอย่างตกตะลึงพรึงเพริด
พญางูยักษ์มีลำตัวใหญ่ขนาดซุงทั้งต้น กำลังเคลื่อนที่เหมือนขบวนรถไฟคดเคี้ยวไปมาอยู่กลางถนนสายนั้น เกล็ดบนลำตัวเป็นสีน้ำเงินปนดำเหมือนสีปีกแมลงภู่ บนศีรษะมีหงอนแดงก่ำเหมือนลูกทับทิม ส่วนหัวของพญางูยักษ์ไม่ผิดอะไรกับเศียรพญานาคที่คุ้นหูคุ้นตา ตามราวบันไดนาคทางขึ้นโบสถ์
รถด่วนขบวนนี้เคลื่อนที่อย่างแช่มช้า บ่ายโฉมหน้าจากฝั่งแม่น้ำปิง มุ่งตรงข้ามถนนทั้งสายเพื่อเลื้อยขึ้นสู่ดอยโมคคัลลาน์ ท่ามกลางความเงียบสงัด มีเพียงเสียงลำตัวมหายักษ์ครูดไปกับกรวดดินทรายดังครึดคราดได้ยินถนัดหู ส่วนหัวหายลับเข้าไปในราวป่าฝั่งเชิงดอย ส่วนหางยังทอดยาวอยู่ในแม่น้ำปิง
เพื่อนนายหาญนั่งประจำตำแหน่งคนขับรถบรรทุก นัยน์ตาเบิกโพลงด้วยความอัศจรรย์ใจจนบอกไม่ถูก ขนลุกชันไปทั่วร่าง พญางูยักษ์ซึ่งไม่ใช่อื่นไกลนอกจากพญานาคเป็นสิ่งที่เขาเคยอ่านเจอในหนังสือชาดก เคยเห็นเป็นรูปปูนปั้นราวบันไดอยู่ตามวัดวาอาราม ไม่นึกไม่ฝันว่าจะพบเห็นพญานาคราชตัวจริงด้วยสายตาตนเองในคืนนี้ จนกระทั่งร่างมหึมาผ่านพ้นแสงไฟหน้ารถไปแล้ว เพื่อนนายหาญจึงสติสตังกลับคืนมา รีบขับรถไปสู่จุดหมายของเขา
รุ่งขึ้น เพื่อนนายหาญนำเรื่องมหัศจรรย์เกี่ยวกับ พญานาคราชเลื้อยขึ้นจากแม่น้ำปิง มุ่งหน้าขึ้นไปสู่ยอดดอยโมคคัลลาน์ เล่าให้ชาวบ้านแถบอำเภอจอมทองฟัง ชาวบ้านอยากรู้อยากเห็นหลายคน ชักชวนกันตามไปดูบริเวณที่เพื่อนนายหาญเจอพญานาคเลื้อยข้ามถนน เวลานั้นพญานาคเหลือแต่ร่องรอยการเคลื่อนตัวขึ้นไปสู่ยอดดอย ชาวบ้านเหล่านั้นจึงแกะรอยพญางูไปเรื่อยๆ
สุดร่องรอยการเลื้อยคลานของพญางูยักษ์ พวกชาวบ้านพบพระภิกษุสงฆ์ลักษณะสำรวมระวังนั่งเจริญสมาธิอยู่ในกลด รอยพญานาคอันตรธานไม่เหลือหรออย่างน่าฉงน พวกชาวบ้านอำเภอจอมทองจึงพากันเข้าไปกราบนมัสการพระภิกษุรูปนั้น เล่าเรื่องมหัศจรรย์เกี่ยวกับพญานาคเลื้อยขึ้นดอยให้ท่านฟัง ทราบว่าท่านคือ “หลวงปู่แก้ว สุทโธ” เพิ่งจาริกธุดงค์มาถึงบริเวณนี้เมื่อคืนที่ผ่านมา ชาวบ้านยิ่งคลางแคลงสงสัยหนักเข้าไปอีก ปรารภกับหลวงปู่แก้ว ว่า
“หรือจะเป็นพญานาคผู้ทำหน้าที่เฝ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่บนดอยแห่งนี้”
ชาวบ้านปรารภเช่นนั้น เนื่องจากในตำนาน “พระธาตุจอมทอง” ที่เล่าลือกันมาแต่ครั้งโบร่ำโบราณกล่าวอยู่ว่า
“มีเทพยดาจำนวน ๒ องค์ กับ พญานาคราชผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ ๒ ตน ทราบว่ากาลในอนาคตจักมีพระบรมสารีริกธาตุแห่งองค์พระศาสดา มาสถิตเป็นมหามงคลอยู่ที่ดอยจอมทอง” เทพยดาผู้มีอำนาจมากทั้ง ๒ องค์ กับ พญานาคราช ๒ ตน จึงเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ณ ที่ประทับ ขออาสาเป็นผู้พิทักษ์ปกป้องดูแลพระธาตุเจดีย์ มิให้เป็นอันตรายไปด้วยเหตุร้ายประการใด...”
ช่วงปัจฉิมวัย หลวงปู่แก้ว สุทโธ ออกธุดงค์อีกเนิ่นนานหลังจากสร้างพระธาตุเจดีย์สำเร็จ ท้ายที่สุดท่านจึงย้ายกลับมาจำพรรษาที่ “วัดดอยโมคคัลลาน” อบรมพระภิกษุ สามเณร ตลอดจนศรัทธาญาติโยมทั้งปวง ให้รู้จักการรักษาศีล เจริญภาวนา ตามแนวทางของพระอาจารย์ใหญ่หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต........
รวบรวมเรื่องเล่าจากอดีต
ราคาเปิดประมูล280 บาท
ราคาปัจจุบัน-- ยังไม่มีผู้เสนอราคา -- (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ20 บาท
วันเปิดประมูล - 07 ก.พ. 2566 - 22:31:52 น.
วันปิดประมูล - 17 ก.พ. 2566 - 22:31:52 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลtextile007 (8.9K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     280 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     20 บาท

!!! ท่านต้อง login เข้าสู่ระบบก่อน จึงจะสามารถร่วมประมูลได้ !!!


 

Copyright ©G-PRA.COM