(0)
เหรียญพ่อท่านชู วัดเสาธง หัวไทร นครศรีธรรมราช รุ่นแรกปี19 สร้างด้วยทองแดงอาถรรถ์








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องเหรียญพ่อท่านชู วัดเสาธง หัวไทร นครศรีธรรมราช รุ่นแรกปี19 สร้างด้วยทองแดงอาถรรถ์
รายละเอียดเหรียญพ่อท่านชู วัดเสาธง อ.หัวไทร จ.นครศรีฯ ศิษย์องค์แรกพ่อท่านชูเฒ่าวัดพัทธสีมาพระองค์นี้เมื่อก่อนไม่มีใครรู้จักเพราะท่านเป็นพระผู้ชอบปิดทองหลังพระ แต่เมื่อมีการนำเสนอประวัติของท่านทำให้เป็นที่สนใจของคนทั่วไป เพราะนอกจากท่านจะเป็นพระที่มีแต่ให้แล้วท่านยังมีกฤษดาอภินิหารที่ประชาชนในเขตอำเภอหัวไทร โดยเฉพาะใน ตำบลท่าซอม ยืนยันว่าเห็นเองกับตามามากมายหลายเรื่อง ไม่ใช่ได้ยินเขาเล่ามา แต่เห็นจริงๆเห็นประจำปัจจุบันยังมีคนยืนยันได้หลายคนแต่อายุเป็นร้อยปีแล้ว แต่ท่านไม่โอ้อวดและไม่มีการลงประวัติท่านในตอนนั้นจึงไม่มีใครรู้จัก ดังนั้นเรามาศึกษาดูนะครับ พ่อท่านชู วัดเสาธงท่านเป็นศิษย์พี่ของพ่อท่านหนูจันทร์ พ่อท่านจับวัดท่าลิพง พ่อท่านกล่ำวัดหัวค่าย พ่อท่านจันทร์ วัดทุ่งเฟื้อฯลฯ เกจิอาจารย์ลุ่มน้ำปากพนังอันโด่งดัง......... ชาวบ้านมักเรียกท่านว่าพ่อท่านชูน้อยเพราะมีความเก่งกาจไม่ต่างจากอาจารย์เลยรวมทั้งเป็นศิษย์เอกจึงมีชาวบ้านเคารพนับถือมาก.....................พ่อท่านชูน้อยวัดเสาธง อ.หัวไทร จ.นครศรีฯ ท่านเป็นศิษย์องค์แรกพ่อท่านชูเฒ่าวัดพัทธสีมา , เป็นศิษย์พ่อท่านทอง วัดชัยสุวรรณ , เป็นศิษย์พระอาจารย์ทองเฒ่า แห่งสำนักเขาอ้อ ,เป็นศิษย์หลวงตาเบาะ ชาวเขมร(พระองค์นี้มีวิชาไสยศาสตร์ลึกลับมากและมักเป็นมนต์ดำ ว่ากันว่าเวลาเรียนวิชาต้องลงไปเรียนสื่อกระแสจิตรในน้ำ แต่พ่อท่านชู ท่านศึกษาเพื่อกันและแก้) เป็นศิษย์พระธุดงค์ในอินโดนีเซีย เรียนวิชาอาคมจากฆาราวาสอิสลามมนมาเลเซียช่วงธุดงค์ และอีกหลายองค์ ...................ประวัติ พ่อท่านชูน้อย เป็นชาวบ้านในหมู่บ้านบางอุดม หรือที่คนทั่วไปเรียกว่า บ้านบางดม ตั้งอยู่ที่ ต.ขนาบนาก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช พ่อท่านชูน้อยเกิดเมื่อ พ.ศ.2425 ที่บ้านบางอุดม มีพี่น้องจำนวน 3 คน ไม่สามารถสืบค้นชื่อพี่น้องร่วมบิดามารดาได้เพราะแยกกันตั้งแต่เด็กๆ แต่ทราบว่า มีพี่สาว 1 คนและน้องชาย 1 คน ตอนนั้นยังไม่มีนามสกุล หลังท่านบวชแล้วมีการใช้นามสกุล น้องชายพ่อท่านชูน้อยใช้นามสกุลนนทอง ส่วนพี่สาวแต่งงานไปไม่ทราบนามสกุลที่ชัดเจนได้ ...................หลังพ่อท่านชูน้อยเกิดไม่นานมีโรคระบาดที่บ้านบางอุดมและเขตอำเภอหัวไทรปากพนัง ตอนนั้นยังเรียกสองอำเภอนี้ว่า แขวง เบี้ยซัดพ่อแม่จึงพาหนีโรคระบาดมาอยู่ในตัวเมืองนครศรีธรรมราชโดยซึ่งพ่อแม่เป็นคนมีฐานะดีเข้าขั้นเศรษฐีในขณะนั้น ...................หลังจากโรคระบาดได้ซาลงที่บ้านบางอุดมเพราะมีพ่อท่านชูเฒ่า และพ่อท่านทองวัดชัยสุวรรณ(เก้าตำลึง) มาช่วยรักษาพ่อแม่จึงพากันกลับบ้านเพื่อดูแลเรือกสวนไร่นา แต่ระหว่างเดินทางกลับพ่อแม่และพ่อท่านชูน้อยได้เจอพระธุดงค์รูปหนึ่งที่พอเห็นพ่อท่านชูน้อยแล้วบอกว่าให้แยกจากพ่อแม่เสียไม่เช่นนั้นพ่อท่านชูน้อยจะเสียชีวิตไม่กี่วันนี้ หากสงสัยในคำบอกนี้ให้มาถามพ่อท่านชูเฒ่าที่บางอุดมเพราะตอนนี้พ่อท่านชูเฒ่าอยู่ที่บางอุดม........... สร้างความตกใจให้พ่อแม่อย่างมากจึงรีบมาให้ถึงบ้านเกิด เมื่อถึงก็พบพ่อท่านชูเฒ่าจริงๆซึ่งพ่อท่านชูเฒ่าท่านเพิ่งกลับมาจากธุดงค์แล้วเลยมารักษาคนไข้ที่บางอุดมขณะนั้นพ่อท่านชูเฒ่าอายุในวัยประมาณก่อนกลางอายุ เมื่อพ่อแม่บอกพ่อท่านชูเฒ่าพ่อท่านชูเฒ่าก็ทราบว่าผู้ที่บอกกล่าวนั้นเป็นผู้วิเศษพ่อท่านชูเฒ่าจึงแก้เคล็ดด้วยการขอนำมาเลี้ยงตั้งแต่วันนั้น ..................พ่อท่านชูน้อย เดิมไม่ได้ชื่อนี้แต่เนื่องจากท่านเป็นเด็กที่พ่อท่านชูเฒ่าพามาเลี้ยงที่วัดพัทธสีมา ท่านรักและเอ็นดูเพราะเป็นเด็กนิสัยดี ว่านอนสอนง่ายพ่อท่านชูเฒ่าจึงถ่ายทอดวิชาให้หมด และมีความเก่งกาจตั้งแต่เด็กชาวบ้านจึงเรียกว่า ชูน้อย อันหมายถึงพ่อท่านชูตัวน้อยๆ แทนที่จะเรียกกันว่าบ่าวนุ้ย และพ่อท่านชูเฒ่าก็เลยบอกกับชาวบ้านทุกคนในเวลาต่อมาว่าพ่อท่านชูน้อย ชื่อพ่อท่านชูน้อย ตามที่ชาวบ้านเรียก และบวชให้ตอนอายุ 10 ขวบ ....................พ่อท่านชูน้อยเมื่อบวชแล้วท่านเป็นพระที่เมตตาบริสุทธิ์อุทิศตนช่วยเพื่อนมนุษย์ไม่เลือกชั้นวรรณะ มีอิทธิปาฏิหารย์มากมาย ท่านใช้ชีวิตในช่วงบวชในวัยเยาว์ออกธุดงค์ตามลำพังทั่วประเทศและนอกประเทศ พบเจอพระธุดงค์ในยุคนั้นมากมายก็ขอเรียนวิชาเพิ่มเติม ท่านธุดงค์ไปถึงอินโดนีเซียทางเรือประมง และอยู่ที่วัดข้างบุโรพุทธโธในสมัยนั้น แล้วธุดงค์ในอินโดนีเซีย ก่อนจะกลับมาในมาเลเซียซึ่งยุคนั้นมีแต่สงครามท่านแวะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่บาดเจ็บด้วยการรักษาด้วยยาเม็ดผักกาด และสร้างเครื่องรางของขลังไว้ให้ป้องกันตัว เช่นปั้นดินเป็นลูกอม หรือปั้นดินเจาะรูเป็นเม็ดปะคำ หรือแกะรูปพระพุทธเจ้าจากหินอ่อนๆ แล้วเสกให้ชาวบ้าน และใครมีวัตถุมงคลของท่านจะโชคดีมีลาภยศ เงินทอง คลาดแคล้วจากปัญหาที่จะเกิดหรือพ้นจากปัญหาเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านต้องการมากแต่ท่านไม่ได้สร้างบ่อยท่านจะสร้างเมื่อจำเป็นหรือท่านไม่อยู่.....เมื่อยามคราใดว่างเว้นจากภารกิจช่วยพ่อท่านชูเฒ่า พ่อท่านชูน้อยจะเดินทางธุดงค์เรื่อยๆหลังจากลงใต้สุดแล้วท่านยังธุดงค์ไปถึงพม่าเพื่อสักการะพระธาตุชเดวอกอง เคยพบเจอกับพระจากประเทศไทยที่ไปจุดหมายเดียวกัน เวลามีพระล้มป่วยท่านจะรักษาให้ด้วยยาเม็ดผักกาด และยังเดินทางฝ่าอันตรายมาประเทศลาวเพื่อเรียนรู้วิชาการทางไสยศาสตร์จากประเทศที่เป็นเมืองพุทธ และเคยไปธุดงค์ในประเทศกัมพูชา ท่านเดินทางกลับในปี 2460 กว่าๆและในสงครามอินโดจีนในเขตเวียดนาม มีทหารไทยเคยพบท่านที่ชายแดนเวียดนาม โดยท่านหิ้วแกนลอนน้ำดื่มมาให้ทหารไทยที่เดินทางกลับฐานแต่ล้มตายระหว่างทางเพราะไม่มีน้ำ และยังมีทหารไทยอีกกลุ่มหนึ่งเล่าว่าตนเองตกอยู่ในวงล้อมที่ต่ำ แต่ทหารเวียดนามยิงใส่ลงมาจากหุบเขาแล้ววิ่งลงมา แต่มีพระองค์หนึ่งเรียกให้ไปหลบที่ยู่ข้างหลังท่านเมื่อทหารเวียดนามลงมากลับมองไม่เห็นแล้วพากันกลับไป........ เรื่องนี้ทหารจากเวียดนามเล่าเหมือนกันทั้งชุด...... มีคนมาถามว่าท่านไปจริงหรือไม่ท่านได้แต่ยิ้ม....... อิทธิปาฏิหารย์ที่ชาวบ้านเห็นกับตาเป็นที่ประจักษ์คือการเสกจรเข้ให้เป็นขอนไม้มาวางเรียงรายให้ท่านข้ามคลองพร้อมๆลูกศิษย์พอข้ามเสร็จขอนไม้ก็กลายเป็นจรเข้ตามเดิมซึ่งเรื่องนี้เป็นที่เล่าขานจนถึงปัจจุบัน และท่านสามารถย่อร่างให้เล็กกว่ามด และขยายร่างให้ใหญ่เทียมต้นตาลได้และวิชานี้ท่านได้ถ่ายทอดให้พ่อท่านจันทร์วัดทุ่งเฟื้อซึ่งเป็นศิษย์น้องของท่านด้วย และท่านท่านสามารถตัดเหล็กไหลน้ำด้วยการเทศนา กับพ่อท่านจับวัดท่าลิพง ซึ่งเป็นศิษย์น้อง โดยไม่ต้องบวงสรวงใดๆ อีกทั้งท่านสามารถตัดเหล็กไหลไฟด้วยมือเปล่าได้จากโขดหินปากสระน้ำมนต์ และในเรื่องนี้ท่านได้บอกให้พ่อท่านหนูจันทร์มานนำเอาเหล็กไหลไฟและน้ำมาสร้างเหรียญรุ่นแรกของพ่อท่านหนูจันทร์เองในปี 2516 และให้สร้างเหรียญพ่อท่านชู วัดเสาธงของท่านด้วยมวลสารดังกล่าวด้วย 1,500 ห้ามเกิน.....พ่อท่านหนูจันทร์จึงสร้างเหรียญพ่อท่านชูน้อยรุ่นแรกและปลุกเสกเองในปี 2519 จำนวน 1,500 เหรียญ และแจกในงานประจำปีของวัดและหมดในเวลาไม่กี่อึดใจเพราะเหตุผลหลายประการคือ 1. พ่อท่านชู วัดเสาธง คือศิษย์องค์แรกพ่อท่านชูเฒ่า 2.พ่อท่านชู วัดเสาธงเคยกล่าวไว้ว่าท่านจะไม่สร้างพระผงพระเหรียญเป็นรูปท่านแต่จะให้พ่อท่านหนูจันทร์สร้างให้เหรียญนี้ใครมีไว้อยากได้อะไรให้นึกเอาท่านให้ทุกอย่างในสิ่งที่ไม่เกินกรรม 3.ทุกคนเห็นปาฎิหารย์ตอนท่านมีชีวิตอยู่ว่าท่านทำได้ทุกอย่างจริงดังนั้นหากมีท่านไว้เท่ากับมีวัตถุมงคลสารพัดนึก 4. เป็นพระที่พ่อท่านหนูจันทร์ปลุกเสกเองอย่างตั้งใจ เพราะใครๆก็ทราบว่าพ่อท่านหนูจันทร์ ท่านมีกฤษดาอภินิหารย์เหมือนกับพ่อท่านชูเฒ่า และพ่อท่านชู วัดเสาธง ทุอย่างที่ท่านเสกจึงไม่ใช่ของเล่นแต่เป็นของจริง ..........เหรียญนี้จึงเป็นเหรียญหายากมากเพราะใครมีต่างหวงแหนพุทธคุณครอบจักวาลตามที่เจ้าของจะนึกเอา แต่ที่ได้ยินและพบมาจะเด่นทางเมตตามหานิยมโชคลาภค้าขายและมหาอุตห์ .................พ่อท่านชูน้อย มรณภาพ ปี 2495 ในวัย 70 ปี 60 พรรษา ในท่านั่งสมาธิ โดยมีพ่อท่านหนูจันทร์ รับคำสั่งเสียต่างๆไว้ทั้งหมด และสั่งให้เผาศพท่านว่าถ้าท่านมรณภาพท่าใหนให้เผาในท่านั้น ทางวัดจึงต้องประกอบเมรุพิเศษในการเผาท่านในท่านั่ง และเอากระดูกท่านมาเก็บไว้ในบัว หันหน้าไปทางทิศตะวันตกตรงกับหน้าวิหารที่ประดิษฐานรูปพระพุทธที่หันมาทางทิศตะวันออก ตามที่ท่านสั่งไว้ว่าท่านจะไม่ไปใหนแต่ท่านจะอยู่คุ้มครองลูกหลานของท่านสืบไปจนสิ้นสุดศาสนา.................... เหรียญนี้สร้างหลังจากท่านมรณภาพแล้วแต่พ่อท่านหนูจันทร์ปลุกเสกเดี่ยวให้ด้วยวิชาอันเข้มขลังและวัสดุอาถรรถ์ที่นำมาสร้างก็สุดยอดแล้วครับแต่หายากกว่าเหรียญของศิษย์น้ององค์อื่นๆมากครับ..
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน3,500 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ100 บาท
วันเปิดประมูล - 07 มี.ค. 2566 - 11:52:30 น.
วันปิดประมูล - 08 มี.ค. 2566 - 15:36:01 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลsirimongkol1 (1.1K)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 08 มี.ค. 2566 - 11:59:00 น.



1


ข้อมูลเพิ่มเติม 2 - 08 มี.ค. 2566 - 12:00:00 น.



ขออนุญาติลงภาพเพิ่ม


ข้อมูลเพิ่มเติม 3 - 08 มี.ค. 2566 - 12:00:29 น.



1


 
ราคาปัจจุบัน :     3,500 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     100 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    AuHatyai66 (69)

 

Copyright ©G-PRA.COM