(0)
เหรียญกรมหลวงชุมพร วิหารน้อย วัดราชบพิธฯ ปี 2531 เนื้อเงิน หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อธิฐานจิต สวยเดิมๆ ไม่ผ่านการล้าง ไม่เจอบ่อยๆนะครับ






รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องเหรียญกรมหลวงชุมพร วิหารน้อย วัดราชบพิธฯ ปี 2531 เนื้อเงิน หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อธิฐานจิต สวยเดิมๆ ไม่ผ่านการล้าง ไม่เจอบ่อยๆนะครับ
รายละเอียดเหรียญกรมหลวงชุมพร วิหารน้อย วัดราชบพิธฯ ปี 2531 เนื้อเงิน หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อธิฐานจิต
สวยเดิมๆ ไม่ผ่านการล้าง ไม่เจอบ่อยๆนะครับ

พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เป็นพระเจ้าลูกยาเธอในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 นับลำดับราชสกุลวงศ์เป็นองค์ที่ ๒๘ มีพระนามเดิมว่า “ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ ”

พระองค์ทรงเป็น " องค์บิดาแห่งกองทัพเรือ " ที่ทหารเรือทุกคนทั้งในอดีตและปัจจุบันระลึกถึงพระองค์ท่านอยู่เสมอ พระองค์ทรงทำทุกอย่างเพื่อให้กองทัพเรือไทยสามารถต่อสู้และเทียบเทียมกับบรรดากองทัพเรืออารยประเทศต่างๆได้ ถือว่าพระองค์ทรงเป็นทหารเรือที่มีคุณลักษณะของทหารเรืออย่างแท้ พระองค์ทรงทุ่มเทพระวรกายและพระสติปัญญา มาตลอดพระชนม์ชีพ จนทำให้กองทัพเรือของประเทศไทยมีความเข้มแข็ง

จนในบั้นปลายประชนม์ชีพ พระองค์ทรงกราบบังคมลาออกจากราชการ โดยดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงทหารเรือในสมัยนั้นได้เพียงไม่กี่วัน เนื่องจากพระองค์ทรงมีอาการประชวร จึงต้องพักรักษาพระองค์ ในการนี้กระทรวงทหารเรือได้จัดถวายเรือหลวงเจนทะเลเป็นพาหนะ พร้อมด้วยแพทย์และพยาบาลตามเสด็จกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ไปด้วย พระองค์ทรงเสด็จออกจากกรุงเทพฯเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2466 โดยได้เสด็จประทับที่หาดทรายรี จ.ชุมพร ซึ่งในระหว่างที่พระองค์ทรงประทับอยู่ที่ จ.ชุมพร พระองค์ทรงพระประชวรเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ เนื่องจากทรงถูกฝน ทรงประชวรอยู่เพียง 3 วันเท่านั้นก็สิ้นพระชนม์ ในวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2466

ต่อมาในวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ.2466 เรือหลวงเจนทะเลได้อัญเชิญพระศพเสด็จกลับจาก จ.ชุมพรกลับเข้ามาในกรุงเทพฯ และมาพักถ่ายพระศพสู่เรือหลวงพระร่วงที่บางนา เรือพระร่วงได้อัญเชิญพระศพแล่นขึ้นมาตามแม่น้ำเจ้าพระยา เข้ามายังกรุงเทพฯ จากนั้นจึงได้อัญเชิญพระศพขึ้นรถพยาบาลของสภากาชาดสยาม ไปประดิษฐานไว้ที่วังของพระองค์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระราชทาน ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้อัญเชิญพระศพไปพระราชทานเพลิง ในวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2466 ณ พระเมรุท้องสนามหลวง จากนั้นจึงได้อัญเชิญพระอัฐิมาประดิษฐานที่ “ พระวิหารน้อย ” ในสุสานหลวงวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

สำหรับวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม นั้นจัดเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ( รัชกาลที่ ๕ ) มีพระราชศรัทธาสร้างขึ้น เมื่อวันเสาร์ แรม ๖ ค่ำ เดือนยี่ ปีมะเส็ง เอกศก ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒๒ มกราคม พุทธศักราช ๒๔๑๒ เป็นวันก่อพระฤกษ์เพื่อสร้างเป็นวัดประจำรัชกาลตามโบราณราชประเพณี จึงมีความสำคัญ ในฐานะวัดประจำรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ด้วยตามประเพณีและถือเป็นคติต่อกันมาว่า เมื่อพระเจ้าแผ่นดินทรงเสวยราชย์สมบัติแล้ว ต้องสร้างวัดประจำรัชกาลทุกพระองค์

วัดราชบพิธมีพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นสุสานหลวง เป็นสุสานที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น ด้วยมีพระราชประสงค์จะให้ผู้ที่มีความรักใคร่ห่วงใยอย่างใกล้ชิด คือ พระมเหสี เจ้าจอมมารดา และพระราชโอรสพระราชธิดาได้อยู่ร่วมกัน หลังจากที่ได้ล่วงลับไปแล้ว โดยทั่วไปจะเป็นการสร้างอนุสาวรีย์ของพระมเหสีหรือเจ้าจอมมารดา เพื่อให้ลูกได้อยู่กับแม่ หรืออย่างน้อยในบ้านของแม่ เว้นแต่ในกรณีพระราชโอรสหรือพระราชธิดาสิ้นพระชนม์ก่อนพระมารดา ก็สร้างอนุสาวรีย์ของพระเจ้าลูกเธอพระองค์นั้นไปก่อน จึงกล่าวได้ว่า เป็นสุสานหลวงอนุสรณ์สถานสำหรับ " จุฬาลงกรณ์ราชสันตติวงศ์ "

จนกระทั่งปี 2529 “ วิหารน้อย “ มีสภาพชำรุดทรุดโทรมมาก เพราะตั้งแต่สร้างมายังไม่เคยมีการบูรณะซ่อมแซมเลย โดยเฉพาะหลังคาเวลาฝนตกน้ำรั่ว อีกทั้งพระพุทธรูปองค์ที่อยู่เหนือพระอังคารก็ถูกนักเลงมือดีขโมยไป จะต้องสร้างพระพุทธรูปองค์ขึ้นใหม่เอามาทดแทน โดยมีหม่อมราชวงศ์หญิงทิภากร วรวรรณ ซึ่งเป็นธิดา พลเรือเอก หม่อมเจ้าครรชิตพลอาภากร (เป็นพระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ กับหม่อมช้อย วิจิตรานุช ทรงรับราชการทหารเรือจนได้เป็นผู้บัญชาการทหารเรือ เมื่อ พ.ศ. 2507) เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการดำเนินการในครั้งนี้ จึงมีความคิดที่จะจัดสร้างเหรียญเสด็จเตี่ย ไว้เป็นที่ระลึกและเพื่อหาทุนทรัพย์ แต่ภายหลังได้ทราบว่าพระญาติ " ราชกุลอาภากร " จะช่วยออกทุนทรัพย์ในการจัดทำเหรียญให้ก่อน เมื่อจำหน่ายเหรียญได้แล้วจึงค่อยนำมาใช้คืน หม่อมราชวงศ์หญิงทิภากร วรวรรณ จึงได้ติดต่อให้กองกษาปณ์กระทรวงการคลังเป็นผู้สร้างเหรียญ เพื่อให้ได้เหรียญที่มีมาตรฐาน สมบูรณ์ สวยงาม ให้มีลักษณะคล้ายกับเหรียญกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ รุ่นแรกที่สร้างแจกเป็นที่ระลึกในงานพระเมรุ ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ.2466

เมื่อกองกษาปณ์ผลิตเหรียญแล้วเสร็จตามจำนวนที่กำหนf หม่อมราชวงศ์หญิงทิภากร วรวรรณ ได้นำเหรียญทั้งหมดรวมถึงพระพุทธรูปองค์ใหม่ที่จัดสร้างขึ้นเพื่อจะนำไปประดิษฐานอยู่เหนือพระอังคารเสด็จเตี่ย นำมาเข้าพิธีปลุกเสกภายในโบสถ์ที่วัดราชบพิธฯในครั้งนี้ด้วย เริ่มพิธีมีการประกอบพิธีจุดเทียนชัย พระพิธี 4 รูปสวดคาถาพุทธาภิเษก พระเถราจารย์ 9 รูปนั่งปรกอธิษฐานจิตภาวนา ซึ่งในการทำพิธีปลุกเสกในครั้งนี้ได้นมัสการหลวงปู่ดู่ วัดสะแก เข้าร่วมปลุกเสกด้วย โดยใช้เวลาในการปลุกเสกนานอยู่หลายชั่วโมง จนกระทั่งเสร็จพิธี ทำการดับเทียนชัย

เหรียญกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ที่ระลึกการบูรณะวิหารน้อย วัดราชบพิธฯ พุทธศักราช ๒๕๓๑ นี้ได้รับการออกแบบโดยคุณไข่มุกด์ ชูโต ปฏิมากรหญิงคนแรกของไทย มีลักษณะคล้ายกับเหรียญกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ รุ่นแรกที่สร้างแจกเป็นที่ระลึกในงานพระเมรุ ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ.2466 ถือว่าเป็นเหรียญที่ได้รับการออกแบบได้สวยงามมาก ลักษณะเหรียญเป็นเหรียญรูปทรงสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด ด้านหน้าเป็นพระบรม พลเรือเอกพระบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ครึ่งพระองค์ ฉลองพระองค์ชุดนายพลเรือเอกทหารเรือเต็มพระยศ มีตัวหนังสือบนพื้นเหรียญว่า “ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ” และด้านล่างเป็นลายเซ็นพระหัตถ์ของ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ โดยอ่านว่า “ อาภากร ” ส่วนด้านหลังมีตัวหนังสือบนพื้นเหรียญว่า ที่ระลึกการบูรณะวิหารน้อย วัดราชบพิธฯ พุทธศักราช ๒๕๓๑ ตรงกลางเหรียญมีตราประจำพระองค์ และมีอักษรด้านบนว่า “ กยิราเจ กยิราเถนํ “ และมีรูป “พระอาทิตย์ทรงรถเทียมด้วยราชสีห์” มีการสร้างด้วยกัน 4 เนื้อด้วยกัน คือ ทองคำ อัลปาก้า เงิน และทองแดง โดยที่เนื้อทองคำและเนื้ออัลปาก้านั้นสร้างอย่างละ 108 เหรียญ ปัจจุบันยังมีเหรียญเนื้อทองแดงเหลือจำนวนอีกจำนวนหนึ่งแต่จำนวนไม่มากนัก ซึ่งเป็นเหรียญที่ส่งไปจำหน่ายในกองทัพเรือแต่ยังจำหน่ายไม่หมด จึงได้ส่งคืนเข้าเก็บรักษาไว้ที่กรมการเงิน กองทัพเรือ พร้อมมีการเก็บรักษา ควบคุมจำนวนเหรียญและจัดทำบัญชีเงินชัดเจน จึงถือว่าเป็นเหรียญ “ เสด็จเตี่ย ” อีกเหรียญหนึ่ง ที่ควรจะหามาไว้บูชา

ปัจจบัน " วิหารน้อย วัดราชบพิธฯ " จะเปิดให้ประชาชนได้ไปสักการะในส่วนของพื้นที่ภายในของวิหารน้อยเฉพาะวันที่ 9 พฤษภาคม(วันอาภากร,สิ้นพระชนม์ ) และ19 ธันวาคม(วันประสูติ) ของทุกๆปีเท่านั้น ซึ่งลูกหลานทหารเรือและประชาชนทั่วไปที่มีความเคารพและนับถือ “ เสด็จเตี่ย ” ควรจะมาสักการะสักครั้งเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและครอบครัว
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน18,100 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ100 บาท
วันเปิดประมูล - 26 ก.ค. 2566 - 17:13:46 น.
วันปิดประมูล - 31 ก.ค. 2566 - 14:36:13 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลMahamonkkol888 (6.5K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     18,100 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     100 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    ITTBMW (434)

 

Copyright ©G-PRA.COM