| รายละเอียด | หลวงพ่อดำ วัดเขาพูลทอง ต.ปะตง อ.สอยดาว จ.จันทบุรี เกิดเมื่อปี พ.ศ.2480 ที่ อ.แกลง จ.ระยอง อุปสมบทที่วัดกระแสร์บน จ.ระยอง โดยมีพระครูโสภณสังฆการ เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านมีวิสัยใฝ่เรียนรู้ในทางไสยเวทย์วิทยาคม มาตั้งแต่วัยเด็ก จึงศึกษาหาความรู้และได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมจากครูบาอาจารย์มานับไม่ถ้วน ทั้งบรรพชิตและฆราวาส เช่น ศึกษาวิชามนต์จินดามณีจากครูเติม ฆราวาสซึ่งเป็นศิษย์เอกของหลวงปู่แตง วัดอ่างศิลา จ.ชลบุรี ศึกษาวิชาจากหลวงปู่บุญ วัดท่ากง และศึกษาไสยเวทวิทยาคมตำรับเขมรจากเกจิอาจารย์อีกหลายท่าน จนมีความเชี่ยวชาญและเก่งกาจอยู่ในระดับแนวหน้ารูปหนึ่ง ต่อมาปี พ.ศ.2540 ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดเขาพูลทอง ท่านได้พัฒนาและสร้างเสนาสนะและถาวรวัตถุ ทั้งกุฏิ ศาลาการเปรียญ พระอุโบสถและอื่นๆ จนมีความเสริญรุ่งเรืองและสวยงามในปัจจุบัน
หลวงพ่อดำ ท่านเป็นพระที่สมถะเรียบง่าย มีศีลาจริยวัตรงดงาม เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านทั้งใกล้และไกล มีชื่อเสียงโด่งดังด้านวัตถุมงคลมากรูปหนึ่งของ จ.จันทบุรี ท่านสร้างวัตถุมงคลไว้หลายอย่างล้วนมีพุทธคุณและประสบการณ์โดดเด่นมากไว้หลายอย่าง โดยเฉพาะด้านเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ โชคลาภ ค้าขายจะโดดเด่นมาก เช่น สีผึ้งพญานกการเวก เป็นสีผึ้งที่มีเอกลักษณ์และอานุภาพสูงส่งด้านเมตตามหานิยม เป็นที่นิยมในหมู่ นักร้อง นักแสดง โฆษก พิธีกร นักจัดรายการต่างๆ เป็นอย่างมาก ,ตะกรุดเสียงทอง,น้ำมันไก่กุก,พระสังข์เรียกทรัพย์,หนุมานเชิญธง,หนุมารตีกลอง, พระปิดตา,เหรียญรูปเหมือนรุ่นไตรมาส ,รูปหล่อพระสังกัจจายน์พูลทอง,เหรียญอิติปิโสแปดทิศ,เหรียญขวัญถุงร่ำรวยทรัพย์,เหรียญพระนาคปรก,ผ้ายันต์พัดโบกและอื่นๆ ทุกอย่างล้วนได้รับความนิยมและมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ
สำหรับวัตถุมงคลที่นำมาประมูลวันนี้ เป็น พระสังข์เรียกทรัพย์ ซึ่งว่ากันว่าท่านศึกษาและสร้างตามตำราโบราณของนิทานพื้นบ้านเรื่อง สังข์ทอง เล่าแบบย่อๆว่า ณ เมืองยศวิมลนคร อันมีท้าวยศวิมลเป็นเจ้าเมือง พระมเหสีจันเทวีได้คลอดลูกออกมาเป็นหอยสังข์ จึงถูกพระนางจันทา มเหสีรอง ใส่ร้ายว่าเป็นกาลีบ้านเมือง จนถูกขับออกจากเมืองไปอยู่กระท่อมตายายที่ชายป่า จนกระทั่งพระสังข์ที่ซ่อนอยู่ในหอย ได้ออกมาพบแม่ สร้างความยินดีกับพระนางจันเทวีมากข่าวล่วงรู้ไปถึงนางจันทา จึงได้ส่งคนมาจับพระสังข์ไปถ่วงน้ำ แต่ท้าวภุชงค์พญานาคราชช่วยเอาไว้ และส่งให้ไปอยู่กับ นางพันธุรัต พระสังข์รู้ว่านางพันธุรัตเป็นยักษ์จึงขโมยรูปเงาะ ไม้เท้า เกือกแก้ว เหาะหนีมาอยู่บนเขา นางพันธุรัตตามมาทันแต่ ไม่สามารถขึ้นไปหาพระสังข์ได้ จึงได้มอบมนต์มหาจินดา เรียกเนื้อเรียกปลาให้แก่พระสังข์ก่อนที่จะอกแตกสิ้นใจตายที่เชิงเขา นั่นเอง พระสังข์เหาะมาจนถึงเมืองสามล ท้าวสามลและนางมณฑากำลังจัดพิธีเลือกคู่ให้ธิดาทั้งเจ็ด แต่รจนาพระธิดาองค์สุดท้อง ไม่ยอมเลือกใครเป็นคู่ ท้าวสามลจึงให้คนไปตามเจ้าเงาะมาให้เลือก รจนาเห็นรูปทองที่ซ่อนอยู่ในรูปเงาะจึงเสี่ยงมาลัยไปให้ สร้างความพิโรธให้ท้าวสามล ถึงกับขับไล่รจนาให้ไปอยู่กระท่อมปลายนากับเจ้าเงาะท้าวสามลหาทางแกล้งเจ้าเงาะ โดยการให้ไปหาเนื้อหาปลาแข่งกับเขยทั้งหก เจ้าเงาะให้มนต์ที่นางพันธุรัตให้ไว้เรียกเนื้อ เรียกปลามารวมกันทำให้หกเขยหาปลาไม่ได้ จึงต้องยอมตัดปลายหูและปลายจมูกแลกกับเนื้อและปลาท้าวสามลพิโรธมากจนถึงกับคิดหาทางประหารเจ้าเงาะ ร้อนถึงพระอินทร์ต้องหาทางช่วยโดยการลงมาท้าตีคลีชิงเมือง กับท้าวสามล ท้าวสามลส่งหกเขยไปสู้ก็สู้ไม่ได้ จึงต้องยอมให้เจ้าเงาะไปสู้แทน เจ้าเงาะถอดรูปเป็นพระสังข์และสู้กับพระอินทร์ จนชนะ ท้าวสามลจึงยอมรับพระสังข์กลับเข้าเมืองและจัดพิธีอภิเษกให้ พระอินทร์ไปเข้าฝันท้าวยศวิมล เพื่อบอกเรื่องราวทั้งหมด ท้าวยศวิมลจึงออกตามหาพระนางจันเทวีจนพบ และได้เดินทาง ไปเมืองสามลนครเพื่อพบพระสังข์ โดยพระนางจันเทวีได้ปลอมเป็นแม่ครัวในวังและได้แกะสลักเรื่องราวทั้งหมดบนชิ้นฟัก ให้พระสังข์เสวย ทำให้พระสังข์รู้ว่าแม่ครัวคือพระมารดานั่นเอง พระสังข์และรจนาจึงได้เสด็จตามท้าวยศวิมลและพระนาง จันเทวีกลับไปครองเมืองยศวิมลสืบไป ซึ่งยอดพระคาถามหาจินดามณีมนต์ ที่ปรากฏในนิทานพื้นบ้านไทยเรื่องพระสังข์ทองนั้น ถือเป็นยอดพระคาถาที่นางพันธุรัต กษัตริย์ยักษ์ผู้เรืองฤทธิ์ มอบให้กับพระสังข์ทอง ก่อนจะสิ้นใจตาย เป็นวิชาเอกด้านเรียกโชค เรียกลาภ เรียกโภคทรัพย์สมบัติ ทั้งหลาย ให้หลั่งไหลมาสู่ผู้บูชาทั้ง 8 ทิศ ซึ่งได้ตกทอดและมีเกจิอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญชำนาญพระเวทย์นำมาสร้างเป็นวัตถุมงคลที่เรียกกันว่า พระสังข์เรียกทรัพย์ อยู่หลายรูป ซึ่งหนึ่งในเกจิอาจารย์ที่สร้างพระสังข์เรียกทรัพย์ได้เข้มขลังไม่แพ้ใครนั่นก็คือ หลวงพ่อดำ วัดเขาพูลทอง ซึ่งนอกจากท่าจะสร้างจากชนวนมวลสารเก่าตามตำราโบราณที่ท่านสะสมไว้จำนวนมาก ผสมผสานด้วยแผ่นยันต์ยอดพระคาถามหาจินดามณีมนต์ ปลุกเสกเดี่ยวด้วยมหาคาถาสำคัญตลอดไตรมาส ทำให้มีพุทธคุณด้านเมตตามหานิยม โชคลาภ เหมือนพระสังข์ เรียกเนื้อร้อยป่า เรียกปลาร้อยน้ำ โชคลาภ เงินทอง แก้วแหวน ทรัพย์สินมีค่าให้หลั่งไหลมาสู่ผู้บูชาพระสังข์เรียกทรัพย์นี้ ให้อุดมไปด้วยโภคทรัพย์ ไม่ยากจนขัดสนเงินทอง อุปสรรค์,ปัญหาและเคราะห์ภัยใดๆ มิอาจกร่ำกรายได้ตลอดไป พระสังข์เรียกทรัพย์องค์นี้ เนื้อทองแดงผสมชนวนเก่า ขนาดกว้างประมาณ 1.5 ซม. สูง 2.5 ซม.สภาพสวยเดิมๆไม่ผ่านการใช้ จัดไปเบาๆเคาะเดียวขั้นต่ำ
สำหรับพระคาถาปลุกพระสังข์เรียกทรัพย์ ให้ว่า ดังนี้
โอม จินดามณี มหาเตโช วะโอทะรัง มณีจินดา สะหัสสะโกฎิ
เทวาจิตตัง สะมะณะจิตตัง ปุริโสจิตตัง อาคัจฉาหิ ปาริเทวันติ ปิยะมะมะ
สัพเพชะนา พหูชะนา มหามณีจินดา เอหิพุทธัง ปิโยพรหมะ มนุสสานัง
ปิโยนาคะ สุปันนามัง ปียินทรียัง นะมามิหัง
พุทโธโสภะคะวา ธัมโมโสภะคะวา สังโฆโสภะคะวา อินทะเสน่หา
พรหมะเสน่หา อิตถีเสน่หา ราชาเทวี มณีรักขัง จิตติจิตตัง ปิยะมามะ |
(