(0)
พระพันแปดไฟ หลวงพ่อสาย วัดหนองสองห้อง จ.สมุทรสาคร สร้างประมาณปี พ.ศ. 2485 -2487 พระพันแปดไฟนี้ ไม่ใช่แค่ลูกปืนยิงไม่ออกเท่านัี้น มิหน่ำซ้ ำยังละลาย ออกจากปากกระบอกปืน พระสวยหายาก ประสบการณ์สูงครับ






รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องพระพันแปดไฟ หลวงพ่อสาย วัดหนองสองห้อง จ.สมุทรสาคร สร้างประมาณปี พ.ศ. 2485 -2487 พระพันแปดไฟนี้ ไม่ใช่แค่ลูกปืนยิงไม่ออกเท่านัี้น มิหน่ำซ้ ำยังละลาย ออกจากปากกระบอกปืน พระสวยหายาก ประสบการณ์สูงครับ
รายละเอียดพระพันแปดไฟ พิมพ์นางพญา หลวงพ่อสาย วัดหนองสองห้อง จ.สมุทรสาคร

สุดยอดพระเครื่องหลวงปู่สาย วัดหนองสองห้อง ว่ากันว่า เรื่องแคล้วคลาดและคงกระพันสุดๆ ดังเรื่องที่จะเล่าให้ฟังนี้เป็นเรื่องที่คนเฒ่าคนแก่เล่าสืบกันมาและยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง เรื่องพูดกันว่า เกียรติศักดิ์ของพระพันแปดไฟนี้ ไม่ใช่แค่ลูกปืนยิงไม่ออกเท่านั้น หัวกระสุน ยังไม่ออกจากลำกล้องปืนเลย มิหนำซ้ำยังละลายออกจากปากกระบอกปืนเลยทีเดียว จนมีชือเรียกวันว่า "พระพันแปดไฟ หัวลูกปืนละลาย"
พระพันแปดไฟหลวงปู่สาย วัดหนองสองห้อง จ.สมุทรสาคร วัตถุมงคลที่นิยมและมีประสบการณ์มากรุ่นหนึ่ง ของหลวงปู่สาย ก็คือ พระเครื่องพันแปดไฟ ท่านสร้างเนื่องในโอกาส แจกศิษย์ที่ไปสงครามอินโดจีนและสงครามเกาหลี ที่เรียกว่า ธาตุพันแปดไฟ นั้น เพราะ หลวงปู่ได้ใช้แผ่นตะกั่วมาลงอักขระปลุกเสกแล้วนำไปหลอม เมื่อหลอมเสร็จ เมื่อแผ่นตะกั่วเย็นก็นำมาลงอักขระอีก แล้วนำไปหลอมใหม่ ทำเช่นนี้เรื่อยๆ จนครบ หนึ่งพันกับแปดครั้ง จึงเรียกว่า พระธาตุ พันแปดไฟ สร้างประมาณปี พ.ศ. 2485 -2487
การสร้างๆ โดย นำโลหะมาจารอักขระแล้วนำไปหล่อหลอมจนครบ 1008 ครั้ง ( นี่คือที่มาของคำว่า พระพันแปดไฟ ) จึงถือว่า ครบพิธีในการจัดสร้าง

หลวงปู่สาย วัดหนองสองห้อง...
ประวัติ....ชาติกำเนิด

หลวงปู่สาย หรือ พระครูสังวรสุตาภิวัฒน์ นามสกุลเดิม เพชรนิล เกิดเมื่อวัน ศุกร์ ที่ 2 กันยายน 2435 ปีมะโรง บิดาชือ สง มารดาชือ อุบ อาชีพกสิกรรม มีพี่น้องบิดามารดาเดียวกัน 6 คน ท่านเป็นคนที่ 3

เมื่อเยาว์วัย หลวงปู่ได้เรียนหนังสือกับหลวงปู่นิล วัดตึกมหาชยาราม สมุทรสาคร ( เหรียญหล่อของท่านดังและพุทธคุณเด่นมากๆ คนมหาชัยรู้ดีและหวงด้วย ) ทั้งภาษาไทยและภาษาขอม จนมีความรู้ความชำนาญในด้านภาษาไทยเทียบเท่าชั้นประถม 4 ในด้านภาษาขอม ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนจนสามารถจารอักขระลงในใบลานเป็นหนังสือเทศน์ได้อย่างดี

เมื่ออายุได้ 15 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดตึก โดยมีหลวงปู่นิล เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อได้บรรพชาเป็นสามเณรแล้วได้รับมอบหมายจากหลวงปู่นิล ได้เป็นผู้จารหนังสือเทศน์เป็นภาษาขอมลงในใบลานวันละหลายๆหน้า เพราะหลวงปู่มีความวิริยะอุสาหะใหนการทำงานเป็นอย่างยิ่ง ท่านเคยเล่าให้ฟังว่ากิจวัตรของหลวงปู่สมัยเป็นสามเณร เวลาเช้าก็บิณฑบาต เมื่อกลับจากบิณฑบาตก็ถวายการปรนนิบัติอุปัชฌาย์จารย์ แล้วก็เริ่มจารหนังสือขอมลงในใบลานตลอดวัน เว้นระยะฉันเช้าและเพลเท่านั้นจะหยุดพักจำวัดต่อเมื่อ 5 ทุ่มเศษ และตื่นจากจำวัตรเวลาตี 4 ของทุกวัน
อุปสมบท

หลวงปู่อายุได้ 20 ปี ก็เข้ารับการอุปสมบท ณ วัดตึกมหาชยาราม สมุทรสาคร โดยมี หลวงปู่นิล วัดตึก เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากบวชแล้วได้จำพรรษา ณ วัดตึก ได้ 9 พรรษา ก็ได้ทำการลาสิกขาบท เพื่อไปช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพยังภูมิลำเนาเดิม
อุปสมบทครั้งที่ 2.......เมื่อหลวงปู่ลาสิกขาบทได้ 7 วัน จะเป็นด้วยบารมีที่หลวงปู่สั่งสมไว้หรือไม่ ท่านได้รับการเข้ารับการอุปสมบทอีกครั้ง เมื่อ 9 เมย. 2468 ณ วัดใหม่โพหัก ตำบลโพหัก อำเภอบางแพ ราชบุรี โดยมีพระอธิการแช่ม วัดดอนเซ่ง เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูธรรมสาทิศ (แม้น) เป้นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์ปลื้ม วัดโพหัก เป็นพระอนุสาวนาจารย์ และหลวงปู่ได้มาจำพรรษา ณ วัดหนองสองห้อง ทั้งนี้ทั้งนั้นก่อนที่ท่านจะลาสิกขาครั้งแรก ท่านก็ได้รับการเชิญจาก ทายก ทายิกาให้มาจำพรรษา ณ วัดหนองสองห้องก่อนแล้ว

มรณภาพ

เมื่อย่างเข้าปัจฉิมวัย หลวงปุ่ มีสุขภาพไม่สู้สมบูรณ์นัก ต้องเข้ารับการรักษาเป็นประจำ เช่น โรงพยาบาลตำรวจ โรงพยาบาลศิริราช สุดท้ายนายแพทย์ ณรงค์ รุ่งวิฑูร ซึ่งเป็นผู้ที่มีความเคารพนับถือในหลวงปุ่อย่างมาก ได้นำหลวงปุ่เข้ารับการรักษาที่บางรักคลินิค ของคุณหมอเอง เป็นเวลา 1 ปี 11 เดือน อาการของหลวงปุ่ก็มีแต่ทรงกับทรุด ทั้งๆที่คุณหมดได้ให้การดูแลรักษาเป็นอย่างดีแต่อาการป่วยของหลวงปุ่ก็สุดที่แพทย์จะเยียวยาได้ จนเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2530 เวลา 19.06 น หลวงปุ่ก็ได้มรณะภาพด้วยอาการสงบ รวมสิริอายุได้ 94 ปี 8 เดือน 7 วัน ดำรงสมณเพศ 61 พรรษา

ฌานสมาบัติ

หลวงปู่เป็นพระเถระที่มีฌานสมาบัติสูง มีศิษย์ที่ใกล้ชิดท่านหนึ่งเคยได้ยินได้ฟังกับหูตัวเองว่า.....หลวงปู่เคยถามท่านปลัดพิศาลฯ (พิศาล มูลศาสตรสาทร) (อดีตปลัดกระทรางมหาดไทยนับถือท่านมากๆ) ว่า นั่งสมาธิ เป็นไหม ท่านปลัดตอบว่า ท่านนั่งได้ถึงขั้นโอภาส หลวงปู่สายได้ชวนท่านปลัด ให้ไปค้างคืนที่วัดสักคืน ท่านว่าจะพาปลัดฯ ไปเที่ยวสวรรค์ ถ้าหลวงปู่ฯ ไม่มีฌานสมาบัติที่สูง ก็คงทำอย่างนั้นไม่ได้เป็นแน่.....
เรื่องจริงจากปากผู้ใกล้ชิดหลวงปู่สาย....มีเรื่องเล่ากันว่า....

ซึ่งผู้เล่าเป็นคนจีนท่านหนึ่ง อายุราวๆ 70 กว่าแล้ว ท่านบอกว่า ท่านเคยไปกราบหลวงปุ่สาย วัดหนองสองห้อง เป็นประจำ จนท่านสนิทสนมกับหลวงปู่มาก ในงานปีแต่ละครั้งท่านก็จะช่วยในการจัดงานหาทุนให้ ทุกปีวัดจะมีงิ้วประชันกันถึง 2 โรง พอได้เงินมาจากการหาทุนก็จะมีกรรมการวัดเก็บเงินชุดหนึ่งจะคอยเก็บเงินไว้ แต่ไม่ยอมให้เอาเงินออกมาใช้ เวลามีงานก็ต้องใช้เงิน อาแป๊ะท่านนี้ก็บอกว่า เงินที่อยู่ในตู้ ให้กรรมการช่วยเอาออกมาจะได้นำไปใช้จ่ายในการจัดงาน แล้วอาแป๊ะจะหาให้เพิ่มอีก แต่กรรมก็ไม่ยอม เนื่องจากกลัวนำเงินไปหมดเพราะ ตัวกรรมการเองจะคอยเก็บไว้ใช้เอง ซึ่งเป็นที่รู้ๆกันอยู่ แม้หลวงปู่้ก็บอกให้กรรมการเปิดตู้นำเงินมาให้ แต่กรรมการวัดก็ทำเป็นบอกว่า กุญแจไม่อยู่ ท่าโน้นท่านี้ อาแป๊ะท่านนี้ก็เลยบอกว่า ถ้าอย่างนี้ไม่ยอมเปิดตู้หละก็จะสะเดาะกุญแจเอง โดยใช้คาถาที่หลวงปู่สายท่านสอนให้ บอกกับกรรมการ แล้วก็หันไปมองหลวงปู่ หลวงปู่ก็ได้แต่ยิ้มๆ อาแป๊ะก็เลยเดินไป ที่กุญแจ แล้วบ่นพึมพลัม ก็เป่าพรวดลงไปที่กุญแจ ปรากฏว่า กุญแจ หลุดออกจากการล๊อกทันที เป็นทีอัศจรรย์จริงๆ กรรมการก็งง ตัวอาแป๊ะก็งง ว่าทำไมออกมาได้ แต่ไม่ได้คิดว่าตัวเองเก่งหลอก ท่านบอกว่า พอท่านหันไปที่หลวงปู่สาย หลวงปู่ก็ได้แต่ยิ้มๆ แล้วพยักหน้าให้ ทำให้อาแป๊ะรู้ได้ทันทีว่า ที่กุญแจออกนั้นเป็นเพราะหลวงปู่ท่าน ช่วยเป่าคาถา้อยุ่ด้านหลังให้นั่นเอง ผมยังถามอาแป๊ะว่า แล้วแป๊ะ ท่องคาถาอะไรหละตอนนั้น ท่านบอกว่า ก็ท่อง นะโมตะสะ เท่านั้น ก็อั้วไม่เ็ป็นเรื่องคาถานี่หว่า ก็รู้เท่านี้เองจะทำไงได้...ท่านยังบอกอีกว่า อั้วอายุปูนนี้แล้ว บอกได้เลยว่า หลวงปู่สายนี่แหละสุดยอด ท่านเก่งจริงๆ และท่านต้องเป็นอรหันต์แน่ เพราะเนื้อตัวท่านเป็นสีเหลืองเหมือนทองเลยที่เดียว ไม่เคยเห็นนพระอย่างหลวงปู่สาย เลยแม้จะได้ไปกราบพระมามากมายแล้วก็ตาม
พระพันแปดไฟ
สุดยอดพระเครื่องหลวงปู่สาย วัดหนองสองห้อง ว่ากันว่า เรื่องแคล้วคลาดและคงกะพันสุดๆ ดั่งเรื่องที่จะเล่าให้ฟังนี้เป็นเรื่องที่คนเฒ่าคนแก่เล่าสืบกันมาและยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง เรื่องพูดกันว่า เกียรติศักดิ์ของพระพันแปดไฟนี้ ไม่ใช่แค่ลูกปืนยิงไม่ออกเท่านัี้น หัวกระสุน ยังไม่ออกจากลำกล้องปืนเลย มิหน่ำซ้ำยังละลายออกจากปากกระบอกปืนเลยทีเดียว จนมีชือเรียกวันว่า พระพันแปดไฟ หัวลูกปืนละลาย สุดยอดมากๆ ครับ

การสร้างๆ โดย นำโลหะมาจารอักขระแล้วนำไปหล่อหลอมจนครบ 1008 ครั้ง ( นี่คือที่มาของคำว่า พระพันแปดไฟ ) จึงถือว่า ครบพิธีในการจัดสร้าง..แจ๋วจริง
@@@ เคาะเดียว @@@
ราคาเปิดประมูล450 บาท
ราคาปัจจุบัน500 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ50 บาท
วันเปิดประมูล - 13 ส.ค. 2567 - 07:58:09 น.
วันปิดประมูล - 17 ส.ค. 2567 - 08:58:19 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลธัมปารี_16 (6.2K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     500 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     50 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    R-pong (528)

 

Copyright ©G-PRA.COM
www1