(0)
"""""""" พระเม็ดกระดุมศรีวิชัย กรุเขาศรีวิชัย จ.สุราษฎร์ธานี"""""""""" ราคา ที่เอื้อมถึง ??????????








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่อง"""""""" พระเม็ดกระดุมศรีวิชัย กรุเขาศรีวิชัย จ.สุราษฎร์ธานี"""""""""" ราคา ที่เอื้อมถึง ??????????
รายละเอียดพระเม็ดกระคุมศรีวิชัย พิมพ์ต้อ(นิยม)เนื้อพิกุล สภาพหักบิ่นในกรุ

แต่ใบหน้าองค์พระ สวยคม จิ้มลิ้ม เส้นยันต์อักขระ คมพริ้ว.

หากองค์เต็มๆ หลักหมื่น หลักแสนก็เคยมีคนซื้อกันไปแล้ว.

พระอายุกว่า 1200ปี. ได้สภาพแค่นี้ก็เพียงพอต่อพุทธคุณ และ

เนื้อหาเป็นองค์ครู + กับประวัติศาสตร์ทางวัฒนธรรม โบราณคดี.

มาพร้อมตลับเงินลงยา สวยๆ.

รับประกัน แท้ตามกฎทุกประการ + แท้ตลอดชีพแถมให้อีก 100ปี ครับ.
ราคาเปิดประมูล1,500 บาท
ราคาปัจจุบัน1,750 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ50 บาท
วันเปิดประมูล - 10 มิ.ย. 2552 - 21:02:42 น.
วันปิดประมูล - 11 มิ.ย. 2552 - 22:49:41 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลprobation (998)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 10 มิ.ย. 2552 - 21:03:41 น.
.


ประวัติ ครับ
เขาศรีวิชัย (เขาพระนารายณ์) ตำบลศรีวิชัย อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นแหล่งโบราณคดีสำคัญแห่งหนึ่งของภาคใต้ ดังปรากฏหลักฐานโบราณวัตถุสถานจำนวนมากบริเวณเขาศรีวิชัยและพื้นที่ราบโดยรอบ ได้แก่เนินโบราณสถาน ฐานโยนิ ศิวลึงค์ เทวรูปพระวิษณุ ชิ้นส่วนสถาปัตยกรรมหิน เช่น ธรณีประตู กรอบประตู ฐานเสา เครื่องถ้วยจีน และเครื่องปั้นดินเผาพื้นเมือง รวมทั้งลูกปัดอีกเป็นจำนวนมาก1 มีทั้งลูกปัดแก้วและหินรูปร่างสีสันสวยงาม จนทำให้เกิดการลักลอบขุดหาลูกปัดกันอย่างกว้างขวาง มีพ่อค้าและนักสะสมเข้ามาติดต่อซื้อถึงในพื้นที่ ทำให้ชื่อเสียงของลูกปัดเขาศรีวิชัยเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ติดอันดับแหล่งที่มีลูกปัดสวยงามแหล่งหนึ่งในประเทศไทย ทั้งในแวดวงตลาดค้าลูกปัดและวงการโบราณคดี2

นักโบราณคดีสันนิษฐานว่าบริเวณเขาศรีวิชัยนี้คงเป็นแหล่งที่ตั้งถิ่นฐานของชุมชนขนาดใหญ่มาตั้งแต่ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๒ - ๑๓ เป็นชุมชนที่นับถือศาสนาฮินดูทั้งไวษณพนิกาย (นับถือพระวิษณุหรือพระนารายณ์) และไศวนิกาย (นับถือพระศิวะหรือพระอิศวร) เห็นได้จากการสร้างเทวาลัยไว้บนยอดเขา ซึ่งเปรียบเสมือนการจำลองจักรวาลมาไว้บนโลกให้เป็นที่สถิตของพระผู้เป็นเจ้าตามคติความเชื่อในศาสนาฮินดู รวมทั้งหลักฐานประติมากรรมเนื่องในศาสนาฮินดูที่มีการค้นพบ เช่น เทวรูปพระนารายณ์ ศิวลึงค์ และฐานโยนิ เป็นต้น

ต่อมาในราวปลายพุทธศตวรรษที่ ๑๓ ชุมชนแถบเขาศรีวิชัยส่วนหนึ่งคงหันมานับถือพุทธศาสนามหายาน จึงได้พบหลักฐานทางพุทธศาสนาในบริเวณพื้นที่ราบเชิงเขาศรีวิชัยด้วย3 ซึ่งก็คือพระพิมพ์ที่เรียกกันในปัจจุบันว่า “พระเม็ดกระดุม” หรือ “พระซุ้มศรีวิชัย”

พระพิมพ์เม็ดกระดุม หรือที่บางท่านเรียกว่าพระพิมพ์ซุ้มศรีวิชัยนี้ ค้นพบโดยบังเอิญจากการขุดหาลูกปัด ชาวบ้านเล่าว่าเดิมบริเวณที่พบพระพิมพ์เป็นจอมปลวก อยู่ในบริเวณบ้านของนายวิรัช และนางอารีย์ เรืองเจริญ ห่างจากถนนหน้าวัดเขาศรีวิชัยมาทางทิศตะวันออกประมาณ ๑๐๐ เมตร เมื่อขุดทลายจอมปลวกลงจึงได้พบพระพิมพ์จำนวนมาก ปัจจุบันเจ้าของบ้านจึงตั้งศาลพระภูมิไว้ตรงตำแหน่งนั้น4

พระพิมพ์เม็ดกระดุมเป็นพระพิมพ์ดินดิบ ลักษณะรูปทรงกลมป้อมขนาดเล็กคล้ายเม็ดกระดุม อันเป็นที่มาของชื่อเรียก ตรงกลางพิมพ์ภาพพระพุทธรูปประทับขัดสมาธิราบบนดอกบัว แสดงปางสมาธิ มีประภามณฑลเบื้องหลังพระเศียร และปรากฏพระคาถา เย ธมฺมาฯ อยู่โดยรอบองค์พระ ส่วนใหญ่จารึกด้วยอักษรเทวนาครีที่ใช้กันแพร่หลายในภาคเหนือของประเทศอินเดีย คาถา เย ธมฺมา เป็นคาถาหัวใจพระพุทธศาสนา มีข้อความเต็มว่า
เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา เตสํ เหตํ ตถาคโต อาห
เต สจ โย นิโรโธ เอวํ วาที มหาสมโณติ


อันแปลได้ว่า “ธรรมเหล่าใดเกิดแต่เหตุ พระตถาคตทรงแสดงเหตุของธรรมเหล่านั้น และความดับของธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณะมีวาทะอย่างนี้”

ความเป็นมาของพระคาถาบทนี้ปรากฏอยู่ในประวัติของพระสารีบุตร พระอัครสาวกเบื้องขวา มีเนื้อความโดยย่อคือ หลังจากที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้และแสดงธรรมสั่งสอนประกาศพระศาสนาแล้ว ครั้งหนึ่งได้เสด็จมาประทับอยู่ ณ เวฬุวันมหาวิหาร กรุงราชคฤห์ วันหนึ่ง พระอัสสชิ ผู้เป็นหนึ่งในพระปัญจวัคคีย์ซึ่งตามเสด็จฯ พระพุทธองค์มาด้วย เข้าไปบิณฑบาตในกรุงราชคฤห์ ระหว่างทาง อุปติสสะปริพพาชกซึ่งเดินทางมาจากสำนักปริพพาชกได้พบเห็นพระอัสสชิมีกิริยาอาการอันสงบสำรวม น่าเลื่อมใส จึงอยากทราบว่าใครเป็นศาสดาของพระอัสสชิและมีคำสั่งสอนเช่นไร พระอัสสชิจึงแจ้งว่าตนเป็นนักบวชในสำนักของพระมหาสมณะ ผู้เป็นโอรสแห่งศากยวงศ์ พร้อมกับแสดงธรรมอันย่นย่อของพระพุทธองค์ ซึ่งก็คือพระคาถา เย ธมฺมาฯ นั่นเอง

จากนั้น อุปติสสะปริพพาชกจึงเดินทางกลับมายังสำนัก และบอกเล่าเรื่องที่ได้พบกับพระอัสสชิ ตลอดจนแสดงธรรมที่พระอัสสชิกล่าวให้แก่สหาย คือโกลิตตะปริพพาชกฟัง จนกระทั่งเกิดดวงตาเห็นธรรมเช่นกัน ปริพพาชกทั้งสองพร้อมด้วยบริวารจึงพากันไปเข้าเฝ้าฯ พระพุทธองค์ยังเวฬุวันมหาวิหาร และทูลขออุปสมบท พระพุทธองค์จึงประทานอนุญาตให้ปริพพาชกทั้งสองพร้อมด้วยบริวารได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ

พระโกลิตตะปริพพาชก ซึ่งต่อมาก็คือพระโมคคัลลานะ หลังจากอุปสมบทได้ ๗ วัน ก็สำเร็จอรหัตตผล ส่วนอุปติสสะปริพพาชก หรือพระสารีบุตร บรรลุเป็นอรหันต์หลังจากอุปสมบทได้ ๑๕ วัน ส่วนบริวารทั้งหลายภายหลังก็ได้บรรลุเป็นอรหันต์จนหมดสิ้น5

โดยพระคาถานี้ ทำให้พระพุทธองค์ทรงได้สาวกองค์สำคัญ คือพระโมคคัลลานะและพระสารีบุตรมาเป็นอัครสาวกซ้ายขวา พุทธศาสนิกชนจึงนับถือกันเป็นพระคาถาวิเศษ ถือเป็นสัมฤทธิมนต์สำหรับเปลี่ยนแปลงความนับถือของผู้ที่ยังไม่เคยสดับรับฟังพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ จึงนิยมจารึกไว้เพื่อประกาศพระพุทธศาสนาให้เผยแพร่ออกไป6

พระคาถา เย ธมฺมาฯ จึงมักพบปรากฏอยู่ในงานศิลปกรรมทางพุทธศาสนาตั้งแต่ยุคแรกๆ เช่นในศิลปะทวารวดีและศิลปะศรีวิชัย

นอกจากที่จารึกอยู่บนพระพิมพ์แล้ว ยังพบปรากฏอยู่บนศาสนวัตถุอื่นๆ เช่นเสาศิลาจารึก ฐานธรรมจักร หรือภาพสลักพระพุทธรูปอีกด้วย


ข้อมูลเพิ่มเติม 2 - 10 มิ.ย. 2552 - 21:05:07 น.
.


มาพร้อมกับตลับเงิน ลงยา. ใส่แล้ว งามมากครับ.

ดูเหมือนองค์พระอิ่มในธรรม ครับ


ข้อมูลเพิ่มเติม 3 - 10 มิ.ย. 2552 - 23:45:49 น.
.


ถ่ายรูปยากมากครับ


ข้อมูลเพิ่มเติม 4 - 10 มิ.ย. 2552 - 23:46:43 น.
.


เส้นสายลายยันต์ พริ้วคม หายากครับ


ข้อมูลเพิ่มเติม 5 - 10 มิ.ย. 2552 - 23:49:12 น.
.


หากองค์นี้สภาพสมบูรณ์ ราคาไปหลายๆหมื่นแน่ ครับ.

....พระที่ติดหน้าตา จมูก ปาก ร่องอก กลีบบัว ชัดๆๆ แบบนี้

บอกได้คำเดียว หายาก ครับ....


 
ราคาปัจจุบัน :     1,750 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     50 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    โค่วจง (12)

 

Copyright ©G-PRA.COM
www1