รายละเอียด |
จนในปี 2534 จึงเปลี่ยนรุ่นเป็น แพ ๔ พัน และในปีเดียวกันออก แพ ๕ พันต่อ เมื่อพระหมดรุ่นแพ ๔ พัน และรุ่นสุดท้ายคือแพ ๙ พัน เป็นการจบตำนานการสร้างแพ พัน ทั้ง 6 รุ่น
สมเด็จแพพันที่นิยมคือ รุ่น 1 (แพ พัน) /รุ่น 2 (แพ ๒ พัน) /รุ่น 4 (แพ ๔ พัน) ทำไมหรือครับ ก็เพราะมีจำนวนการสร้างน้อยนั้นเอง
สำหรับแพพัน แพ ๒ พัน มีเนื้อขาวและพิมพ์ เหมือนกัน (รวมทั้งแพ ๓ พันยุคต้นๆ ด้วย)
สำหรับคะแนนของแพพัน มี 2 พิมพ์ ด้านหลังเป็นยันต์ของหลวงพ่ออย่างเดียว ไม่มีรูปท่าน คะแนน 2 พิมพ์นั้น เป็นพิมพ์เข่ารูปหมอนตรง และมีขาโต๊ะ(สิงห์) ที่ชั้น 2 / อีกพิมพ์เข่าเป็นรูปคล้ายเลขแปดคือขอดตรงกลาง และแท่นธรรมดาไม่มีขาโต๊ะ ที่สำคัญคะแนนแพพัน ไม่มีตัวหนังสือบ่งบอก
สมเด็จแพ4พันจะด้วยกัน 2 บล๊อค คือ บล๊อคตราวัดเล็ก กับ บล๊อคตราวัดใหญ่ ตะกรุดตอกข้างจะมีด้วยกัน 2 แบบ คือ ตะกรุดข้างสามดอก(นิยม) กับ ตะกรุดข้างสองดอก
เนื้อพระจะมีเนื้อเดียวคือ เนื้อขาวหรือว่าเนื้อเกสร 108 จะมีหลายวรรณะ(สี) ด้วยกัน เช่น เนื้อผงน้ำมัน ,เนื้อขาว , เนื้อเหลืองฟักทอง(พระคั่นจำนวน คือ ในกดพระสมเด็จแพ4พัน 1-100 องค์จะมีพระคั่นจำนวน 1 องค์ สีของเนื้อองค์พระจะแปลกกว่าพระองค์อื่นๆคือ เนื้อพระจะออกโทนเหลืองฟักทอง
สมเด็จแพ4พันจะมีด้วยกัน 2 บล๊อค คือ บล๊อคตราวัดเล็ก กับ บล๊อคตราวัดใหญ่ เดิมทีหลวงพ่อแพท่านสร้างสมเด็จแพ4พันจำนวน 1,000 องค์ บล๊อคตราวัดเล็กปั้มหมึกแดงตรงตราวัด ถ้าตราวัดไม่ใช่หมึกสีแดงให้ท่านคิดได้เลยครับ ไม่เสริมก็ปลอมครับ มันมีพ่อค้าหัวใสบางคนเช่าพระสมเด็จแพ4พัน องค์ละ 200-300 บาท(ในสมัยนั้น)ไปเปิดแผงขายหน้าวัดขายองค์ละ 1,000-1,500 บาท คนที่เช่าพระชุดนี้ไปขึ้นกราบขอพรกับหลวงพ่อแพ แล้วหลวงพ่อแพถามโยมคนนั้นว่า เช่าพระมาจากที่ไหนองค์ละเท่าไร คุณโยมคนนั้นก็บอกหลวงพ่อแพไปว่าเช่ามาจากหน้าวัดเช่า1 องค์ 1,500 บาท เช่า 2องค์ขึ้นไปขายองค์ละ 1,000 บาท หลวงพ่อแพเลยเรียกลูกศิษย์ใกล้ตัวท่านให้ไปนำบล๊อคสมเด็จแพ4พันนั้นมา แล้วท่านก็กดสมเด็จแพ4พันขึ้นมาใหม่อีกจำนวน 200 กว่าองค์ อะไรทุกอย่างจะเหมือนกับบล๊อคตราวัดเล็กทุกอย่าง ยกเว้นตราวัดตราวัดจะปั๊มตราใหญ่และหมึกสีแดงแล้วหลวงพ่อแพท่านก็เช่าแช่งไว้เหมือนกันนะครับ...ใครปลอมพระเครื่องของท่านไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหนก็ตามขอให้พวกมันย่อยยับตกนรกชั่วกัปป์ชั่วกัลป์.....
วาจาสิทธิ์ท่านปากพระร่วงนะครับ....คนสิงห์บุรีทุกวันนี้รอดตาย ค้าขายร่ำรวยทำกิจการดีขึ้นมา ก็เพราะบุญบารมีหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี ทั้งนั้น |