(0)(-0-)
เหรียญหลวงพ่อคง วัดบ้านสวน จังหวัดพัทลุง รุ่นแรก ปี 16 พิธีเสาร์ห้า สภาพสวยผิวปรอท ส่งประกวดได้เลยครับ









ชื่อพระเครื่อง เหรียญหลวงพ่อคง วัดบ้านสวน จังหวัดพัทลุง รุ่นแรก ปี 16 พิธีเสาร์ห้า สภาพสวยผิวปรอท ส่งประกวดได้เลยครับ
รายละเอียด เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน พัทลุงปี2516 เนื้อทองแดงรมดำ เหรียญนี้เป็นเหรียญที่สร้างขึ้นใน ฤกษ์เสาร์ 5 เดือน 5 ขึ้น 5 ค่ำ ซึ่งถือเป็นฤกษ์ดีที่สุดสำหรับการปลุกเสกวัตถุมงคล เรียกว่าวันมหาสิทธิโชคอุดมฤกษ์ ทำเป็นเหรียญรูปเหมือนของท่านเป็นรุ่นแรก ในปี 2516 จัดสร้างโดย อ.ชุม ไชยคีรี ซึ่งเป็นศิษย์ทีรักและเคารพท่านมาก พิธีที่วัดชำนิหัตถการ (สามง่าม) กทม. เกจิคณาจารย์สายเขาอ้อปลุกเสกหลายท่าน

ประวัติหลวงพ่อคง วัดบ้านสวน
พระครูพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน เกิดเมื่อวันพุธ ขึ้น 15 ค่ำ เดือนยี่ ปีขาล ตรงกับวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2445 ที่บ้านทุ่งสำโรง หมู่ที่ 8 ตำบลนาขยาด อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง เป็นบุตรของนายส่ง มากหนู และนางแย้ม มากหนู มีพี่น้องด้วยกัน 4 คน คือ
1. นายปลอด มากหนู
2. นายกล่ำ มากหนู
3. นายกราย มากหนู
4. พระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต)
หาก บิดามารดาได้ถึงแก่กรรมตั้งแต่ครั้ง พระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) ยังเยาว์วัย จึงได้อยู่ในความอุปการะของนายชู เกิดนุ้ย และนางแก้ว เกิดนุ้ย ผู้เป็นญาติ ซึ่งเมื่อพระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) มีอายุพอสมควรแก่การศึกษาเล่าเรียนแล้ว นายชู เกิดนุ้ย ได้นำไปฝากเป็นศิษย์พระครูสิทธิยาภิรัต (เอียด ปทุมสโร) ที่วัดดอนศาลา โดยเมื่อแรกได้ศึกษากับพระครูสิทธิยาภิรัต (เอียด ปทุมสโร) โดยตรง ต่อเมื่อทางวัดดอนศาลาได้จัดตั้งโรงเรียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงได้ศึกษาร่ำเรียนในโรงเรียนแห่งนั้นจนสำเร็จการศึกษาขั้นสูงสุดเมื่อปี พ.ศ. 2462

ต่อมาเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2465 ได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดสุนทรวาส ตำบลปันแต อำเภอควนขนุน มีพระครูกาชาด (แก้ว) วัดพิกุล ตำบลชะมวง อำเภอควนขนุน เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูสิทธิยาภิรัต (เอียด ปทุมสโร) วัดดอนศาลา เป็นพระศีลาจารย์ บรรพชาแล้วไปจำพรรษาอยู่วัดดอนศาลา แล้ววันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2466 จึงได้บรรพชาเป็นพระภิกษุ ณ วัดดอนศาลา มีพระครูกาชาด (แก้ว) วัดพิกุลทอง เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการหนู วัดเกาะยาง ตำบลนาขยาด อำเภอควนขนุน เป็นพระกรรมวาจารย์

หลวงพ่อคง ได้รับฉายาว่า "สิริมโต"

หลวงพ่อคง วัดบ้านสวนอยู่จำพรรษาและศึกษาร่ำเรียนที่วัดดอนศาลา แต่ไปเรียนพระปริยัติธรรมที่วัดพิกุลทองจนสอบนักธรรมตรีได้ในปีที่บวช หากแต่เพราะสุขภาพไม่เอื้ออำนวยให้ อีกทั้งครูสอนพระปริยัติธรรมสมัยนั้นหายากยิ่ง หลวงพ่อคง จึงเรียนพระปริยัติธรรมแต่เพียงเท่านั้น แต่ก็ได้ศึกษาวิชาไสยเวท ตามตำรับวัดเขาอ้อจากพระครูสิทธิยาภิรัต (เอียด ปทุมสโร) อีกทั้งยังคงขวนขวายในการหาตำรับตำราไสยศาสตร์ของท่านอาจารย์เฒ่าวัดเขาอ้อ มาศึกษาเองเพิ่มเติม จนมีความรู้แตกฉานและทรงวิทยาคุณในวิชาแขนงนี้ จนในชั้นหลังได้เป็นที่รู้จักและเคารพนับถือจากประชาชนทั่วไปทั้งในจังหวัด พัทลุงเอง หรือจังหวัดใกล้เคียง และเริ่มมีลูกศิษย์ลูกหามากขึ้นเป็นลำดับ ต่างเรียกว่า พระอาจารย์คงบ้าง "พ่อท่านคง"บ้าง แม้ในชั้นหลังจะมีสมณศักดิ์แล้วก็ยังคงเรียกขานเช่นเดิม

หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน ไม่มีใครเรียกขานในนาม พระครูพิพัฒนสิริธรกันเลย

กล่าวในหน้าที่การงานและการสร้างสาธารณประโยชน์ของพระครูพิพัฒนสิริธร (คง สิริมโต) นั้น ในปี พ.ศ. 2475 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบ้านสวน ในปี พ.ศ. 2482 พ่อท่านคง ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระใบฎีกา ฐานานุกรมในพระครูกัลยาณปรากรมนิวิฎฐ์ เจ้าคณะอำเภอควนขนุน ถึงปี พ.ศ. 2487 พ่อท่านคง ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านสวน

ในปีพ.ศ.2491 หลวงพ่อคง ได้เลื่อนสมณศักดิ์จากพระใบฎีกามาเป็นพระครูชั้นประทวน ที่พระครูคง สิริมโต ปีรุ่งขึ้นพ.ศ.2492 พระครูสิทธิยาภิรัต (เอียด ปทุมสโร) เจ้าอาวาสวัดดอนศาลา และเจ้าคณะตำบลมะกอกเหนือ มรณภาพลงเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ.2491 ทางเจ้าคณะอำเภอควนขนุนจึงมอบหมายให้ท่านรักษาการแทนเจ้าคณะตำบลมะกอกเหนือ และได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลมะกอกเหนือในปีพ.ศ.2493 อีก 3 ปีถัดมา คือ ในปีพ.ศ.2496 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ในเขตตำบลมะกอกเหนือ และยังได้รับมอบหมายจากเจ้าคณะอำเภอควนขนุนให้เป็นพระอุปัชฌาย์ในพื้นที่ ตำบลใกล้เคียง เช่น ตำบลปันแต เป็นต้น จากบันทึกหลักฐานในการทำหน้าที่พระอุปัชฌาย์ของพระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) ว่า ได้ทำหน้าที่บรรพชาเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ.2496 และครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 18 กันยายน พ.ศ.2517 ก่อนหน้าที่จะมรณภาพ 5 วัน ได้ทำการอุปสมบทเป็นจำนวนทั้งสิ้น 2,387 รูป ปัจจุบันลัทธิวิหาริกของพระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) ที่ยังอยู่ในสมณเพศประมาณ 30 รูป ซึ่งได้เจริญก้าวหน้าในหน้าที่สงฆ์ และสมณศักดิ์ก็มาก

ต่อเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2500 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นสัญญาบัตรที่ "พระครูพิพัฒน์สิริธร"

ทางด้านการพัฒนาก่อสร้างสาธารณประโยชน์ของ พระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) นับตั้งแต่เมื่อชาวบ้านได้เดินทางไปยังวัดดอนศาลา เพื่อขอพระภิกษุไปดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบ้านสวนที่ว่างลงต่อพระครูสิทธิ ยาภิรัต (เอียด ปทุมสโร) ที่ได้ให้ชาวบ้านเลือกพระภิกษุภายในวัดดอนศาลา ซึ่งขณะนั้นมีหลายรูปด้วยกันที่มีคุณวุฒิ วัยวุฒิ พร้อมจะเป็นเจ้าอาวาสวัดได้ ซึ่งชาวบ้านได้เลือกพระภิกษุคง สิริมโต เนื่องเพราะว่ามีอุปนิสัยใจคอเยือกเย็น มีอัธยาศัยดี มีบุคลิกลักษณะเหมาะสม เป็นผู้เอาการเอางาน สามารถที่จะพัฒนาวัดให้เจริญได้ ประกอบกับพระภิกษุคง สิริมโต เป็นผู้เคร่งครัดในการปฏิบัติพระธรรมวินัย จนเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านมาก่อน

เมื่อหลวงพ่อคง มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดบ้านสวนแล้วนั้น นอกเหนือจากการปกครองคณะสงฆ์ของวัด พระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) ยังได้ร่วมมือร่วมใจกับชาวบ้านบ้านสวนในการพัฒนาวัด และสร้างสาธารณประโยชน์เพื่อพระพุทธศาสนา และชาวบ้านทั้งหลาย

โดยในปีแรกที่หลวงพ่อคง ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัด ได้จัดให้มีการศึกษาหนังสือไทยแก่เด็กชาวบ้านขึ้นภายในวัด โดยอาศัยศาลาโรงธรรมของวัดเป็นที่ศึกษาแทนโรงเรียน ให้พระสงฆ์ทำหน้าที่เป็นครูสอน การศึกษาได้เจริญเป็นลำดับมาจนภายหลังได้ก่อสร้างเป็นโรงเรียนประชาบาล ชื่อโรงเรียนประชาบาลตำบลมะกอกเหนือ 2 (วัดบ้านสวนคงวิทยาคาร) เปิดสอนในระดับประถมศึกษาปีที่ 1-6

ในปีพ.ศ.2477 ได้จัดตั้งสำนักเรียนสอนพระปริยัติธรรมขึ้น โดยในชั้นแรกพระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) ได้ทำหน้าที่สอนเอง ทั้งนี้ด้วยสมัยนั้นหาผู้สอนพระปริยัติธรรมได้ยากมาก ต่อเมื่อได้ครูสอนแล้วหลวงพ่อคงท่านจึงได้หยุดสอนหนังสือ

ในปีพ.ศ.2479 เมื่อมีพระภิกษุจำพรรษาที่วัดเพิ่มขึ้น ทำให้ไม่มีกุฏิเพียงพอ "หลวงพ่อคง"จึงได้สร้างกุฏิขึ้น 1 หลัง มี 3 ห้อง และในปีพ.ศ.2482 ได้สร้างเพิ่มอีก 1 หลัง ปีพ.ศ.2484 ได้สร้างอาคารเรียนโรงเรียนประชาบาลตำบลมะกอกเหนือ 2 (โรงเรียนวัดบ้านสวนคงวิทยาคาร) ซึ่งในการจัดสร้างครั้งนี้พระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) ได้ขออนุญาตทางราชการทำการตัดไม้ในป่ามาเลื่อยเป็นแผ่นกระดานสำหรับทำพื้น และฝา และในปีพ.ศ.2486 ได้จัดหาทุนสร้างโต๊ะ เก้าอี้สำหรับครู 2 ชุด โต๊ะและม้านั่งสำหรับนักเรียน 30 ชุด กระดานดำ 3 แผ่น มอบให้กับทางโรงเรียน

พ.ศ.2488 ได้สร้างกุฏิสงฆ์ขึ้นอีกหนึ่งหลัง เป็นกุฏิไม้ใต้ถุนสูง ต่อมาในปีพ.ศ.2490 เมื่อโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกนักธรรมวัดบ้านสวน มีพระภิกษุสามเณรมาศึกษาเพิ่มเป็นจำนวนมาก อาคารเรียนไม่เพียงพอจึงได้สร้างขึ้น 1 หลัง เป็นอาคาร 2 ชั้น พ.ศ.2492 ได้สร้างกุฏิสงฆ์เพิ่มอีก 1 หลัง เป็นกุฏิไม้ใต้ถุนสูง

ในปี พ.ศ. 2493 ได้สร้างบ่อน้ำเพิ่มขึ้น 1 บ่อ จากเดิมที่มีอยู่เพียงบ่อเดียว เพื่อสาธารณ ประโยชน์ทั้งวัดและชาวบ้านได้ใช้ในยามหน้าแล้ง พอปีรุ่งขึ้น พ.ศ. 2494 ได้ร่วมกับชาวบ้านสร้างถนนเข้าสู่วัด โดยเชื่อมต่อกับถนนใหญ่สายควนขนุน-ปากคลอง โดยได้ทำถนนพร้อมกัน 2 สาย คือ สายทางทิศตะวันออก และสายทางทิศตะวันตกของวัด ระยะทางของถนนที่สร้างยาวสายละ 400 เมตร ถึงปี พ.ศ. 2496 ได้ร่วมกับชาวบ้านตัดถนนขึ้นอีก 2 สาย จากวัดบ้านสวนตัดไปทางทิศใต้ผ่านหมู่บ้านในหมู่ที่ 5 และ 6 ตำบลมะกอกเหนือไปสู่วัดแจ้ง (คอกวัว) ตำบลชัยบุรี อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง ส่วนอีกสายหนึ่งตัดไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ผ่านหมู่ที่ 6 ตำบลมะกอกเหนือ เข้าหมู่ที่ 3 ตำบลโตนดด้วน

พ.ศ.2497 ได้สร้างกุฏิขึ้นอีก 1 หลัง เป็นกุฏิ 2 ชั้น แบบครึ่งตึกครึ่งไม้ เพื่อใช้เป็นกุฏิสำหรับเจ้าอาวาสวัด และพระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) หลวงพ่อคง วัดบ้านสวนได้พำนักที่กุฏิหลังนี้ตราบจนมรณภาพ ครั้นปีรุ่งขึ้น พ.ศ. 2498 พระพุทธิธรรมธาดา เจ้าคณะอำเภอควนขนุนได้ชักชวนพระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) ไปจำพรรษาที่วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กรุงเทพมหานคร เพื่อฝึกอบรมวิปัสสนากรรมฐาน เมื่อออกพรรษาแล้วจึงได้เดินทางกลับยังวัดบ้านสวน และได้นำความรู้ด้านวิปัสสนากรรมฐานมาฝึกปฏิบัติให้กับชาวบ้าน หากแต่ต่อมาเมื่อมีภาระทางการบริหารคณะสงฆ์ และการพัฒนาวัดด้านอื่นๆ มากขึ้นจึงได้งดไปโดยปริยาย

ในปี พ.ศ. 2499 พระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) ได้เดินทางไปนมัสการสังเวชนียสถาน ณ ประเทศอินเดีย ได้เดินทางเป็นคณะพร้อมด้วยพระพุทธิธรรมธาดา เจ้าคณะอำเภอควนขนุน เป็นเวลาเดือนเศษ ตอนขากลับได้นำต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่เกิดสืบเนื่องจากต้นเดิมมาด้วย 2 ต้น ซึ่งได้นำไปปลูกไว้บนไหล่เขาวัดภูเขาทอง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง 1 ต้น ได้ทำพิธีปลูกเมื่อวันที่ 8-10 กรกฎาคม พ.ศ. 2500 ส่วนอีกต้นนั้นได้นำไปปลูกไว้ที่วัดในประเทศมาเลเซีย

ในปี พ.ศ. 2501 ศิษยานุศิษย์ และประชาชนที่เคารพนับถือได้ร่วมใจกันจัดงานทำบุญและฉลองพัดยศ เพื่อแสดงมุทิตาจิตในการที่พระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2500 แต่งานได้จัดเมื่อวันที่ 4-5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2501 พร้อมกับทำบุญอายุ ซึ่งคณะศิษยานุศิษย์ได้ร่วมกันบริจาคเงินมอบให้กับพระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) เพื่อใช้จ่ายในการสาธารณประโยชน์ ซึ่งท่านได้ปรารภจะนำเงินดังกล่าวไปสร้างกุฏิถวายวัดคูหา สวรรค์ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เพื่อเป็นอนุสรณ์ คณะลูกศิษย์ต่างก็มีความยินดีจึงได้ร่วมสร้างกุฏิขึ้น 1 หลัง ได้ตั้งชื่อว่า "กุฏิพิพัฒน์อนุ สรณ์" ทางวัดคูหาสวรรค์ได้จัดเป็นที่พำนักของเจ้าคณะจังหวัดพัทลุง

พ.ศ. 2504 พระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) ได้สร้างหอระฆังขึ้น 1 หอ โดยได้รับบริจาคทุนทรัพย์จากนายแพทย์สวัสดิ์ บุณยะกุล และนางกันยา บุณยะกุล ถึงปี พ.ศ. 2505 ก็ได้สร้างถนนอีก 1 สาย จากวัดบ้านสวนไปสู่บ้านไสคำ หมู่ที่ 1 ตำบลโตนดด้วน ระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร ในปี พ.ศ. 2506 ได้สร้างศาลาการเปรียญขึ้นเพื่อใช้เป็นที่ประกอบพิธีทางศาสนา ปีเดียวกันนั้นยังได้สร้างอาคารเรียนของโรงเรียนบ้านสวนคงพิทยาคารเพิ่มอีก 1 หลัง ด้วยอาคารเรียนไม่เพียงพอกับจำนวนนักเรียน

ในปี พ.ศ. 2508 ได้จัดสร้างเชิงตะกอนเผาศพพร้อมศาลาสำหรับทำพิธี 1 หลัง ปี พ.ศ. 2512 ได้ดำเนินการสร้างระบบประปาขึ้นใช้ภายในวัด และโรงเรียนบ้านสวนคงพิทยาคาร และสร้างกุฏิสงฆ์เพิ่มอีก 1 หลัง ปีรุ่งขึ้น พ.ศ. 2513 ได้ติดต่อให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จังหวัดพัทลุง ดำเนินการติดตั้งและเดินสายไฟเข้าวัดบ้านสวน ตลอดจนย่านชุมชนในบริเวณใกล้วัดด้วย

ในปี พ.ศ.2513 พระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) เห็นว่าอุโบสถวัดซึ่งสร้างด้วยไม้ล้วน และสร้างมาเนิ่นนานแล้วได้ชำรุดทรุดโทรมจนยากต่อการบูรณะ จึงคิดที่จะสร้างขึ้นใหม่ และได้ปรึกษากับอาจารย์ชุม ไชยคีรี ศิษย์ฆราวาสของท่าน พร้อมด้วยนายแก้ว พ่วงคง และนายเพ็ง พ่วงคง ช่างก่อสร้างที่มีฝีมือ เพื่อดำเนินการสร้างอุโบสถหลังใหม่ โดยอุโบสถหลังใหม่ที่สร้างขึ้นเป็นอาคาร 2 ชั้น เหตุที่พระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) สร้างอุโบสถ 2 ชั้น เพื่อเป็นการประหยัด เนื่องเพราะสร้างเพียงอาคารเดียวหากยังได้ศาลาการเปรียญ 1 หลัง หรือโรงเรียนพระปริยัติธรรม 1 หลัง โดยใช้อาคารชั้นล่างเป็นสถานที่นั่นเอง อุโบสถหลังใหม่ได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ.2513 และประกอบพิธียกช่อฟ้าไปเรียบร้อยเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2515 หากอุโบสถก็ยังคงก่อสร้างไม่แล้วเสร็จเรียบร้อย ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายที่อุโบสถหลังนี้มาเสร็จสิ้นสมบูรณ์ต่อเมื่อพระครู พิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) มรณภาพไปแล้ว โดยได้มรณภาพเมื่อวันที่ 23 กันยายน พ.ศ.2517
แต่ก่อนที่ท่านจะมรณภาพในปี พ.ศ.2516 พระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) ได้สร้างอาคารเรียนเพิ่มขึ้น เนื่องจากทางโรงเรียนได้ขยายชั้นเรียนจากประถมที่ 1-4 ไปจนถึงประถมปีที่ 6 และยังได้สร้างกุฏิเพิ่มอีก 1 หลัง ในปี พ.ศ. 2517 แต่ทั้ง 2 สิ่งที่ท่านดำเนินการล้วนมาเสร็จสิ้นภายหลังจากท่านมรณภาพแล้ว

มีเรื่องน่าบันทึกก่อนวันมรณภาพของหลวงพ่อคง วัดบ้านสวน หรือ พระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) กล่าวคือ ในวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2517 พระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) ได้นำพระภิกษุ สามเณร ศิษย์วัดและญาติโยม ทำการปักรั้วขยายเขตระหว่างวัดกับโรงเรียนบ้านสวนคงพิทยาคารเสียใหม่ โดยขณะปักรั้วเขตกั้นนั้น สายฝนได้โปรยปรายมาไม่ขาดระยะ หากท่านก็ยังคงปักรั้วเขตท่ามกลางสายฝนจนแล้วเสร็จ
หากระหว่างนั้น ครูประทิน เดชสง ครูโรงเรียนวัดบ้านสวนคงพิทยาคาร ได้ผ่านมาทางวัดพบเห็นเกรงว่าท่านจะเจ็บไข้ไม่สบาย จึงได้กล่าวกับท่านว่า "หลวงพ่อคง ทำงานกลางสายฝนนานๆ อย่างนี้ไม่กลัวเป็นหวัดหรือ เข้าในที่พักเสียดีกว่า" หากพระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) ได้ตอบไปว่า "ไม่พรือ ไม่ใช่ตัวคนทำด้วยดินนี่ ที่จะละลายไปกับน้ำได้ เรามาปักเขตรั้วเพื่อแบ่งปันสมบัติให้พวกเธอ เมื่อเราตายแล้วไม่มีใครจะแบ่งปันสมบัติให้พวกเธออีก"

ครั้นวันรุ่ง วันที่ 21 กันยายน ท่านได้บอกว่า เมื่อคืนท่านเป็นไข้หวัดตลอดคืน วันนี้ก็ยังไม่หาย หากวันนี้ยังมีการประชุมกรรมการวัดในเรื่องงานทำบุญอายุนายเชน คำหนูอินทร์ ครูใหญ่โรงเรียนวัดบ้านสวนคงพิทยาคารซึ่งครบเกษียณอายุราชการ และเรื่องจัดงานรับคณะกฐินที่จะนำมาทอดในวันที่ 5 ตุลาคม ซึ่งประชุมกันในเวลา 13.00-16.00 น. และพระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) ได้นั่งเป็นประธานจนประชุมเสร็จทั้งที่ท่านอาพาธอยู่

วันที่ 22 กันยายน อาการของท่านกำเริบกว่าวันก่อนเล็กน้อย ทว่ายังฉันเช้าและเพลได้ ทั้งยังสนทนากับผู้มาเยี่ยมได้ แต่ตกบ่ายเมื่อลูกศิษย์เห็นว่าอาการอาพาธหาทุเลาลงไม่ จึงได้ตามนายแพทย์ปรากรมมารักษา ได้ถวายยาฉีด และสั่งว่าวันพรุ่งนี้ถ้าอาการไม่ดีขึ้นให้นำท่านไปรักษาที่โรงพยาบาล

วันที่ 23 กันยายน พระพิณ และนายประเสริฐ ผู้พยาบาลท่านได้ไปตามอาจารย์ชุม ไชยคีรี พร้อมทั้งเล่าอาการป่วยของพระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) ให้ฟัง เมื่อคืนมีอาการไข้ขึ้นสูง ละมีอาการหอบไอด้วยนอนไม่หลับทั้งคืน อาจารย์ชุมจึงรีบไปดูอาการ พระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) บอกว่าท่านเพลียมาก และนอนไม่หลับแล้วก็ไม่พูดอะไรอีก อาจารย์ชุมพร้อมด้วยผู้ดูแลท่าน และญาติโยมที่กำลังเฝ้าดูอาการของท่านในขณะนั้น จึงนำท่านไปรักษาที่โรงพยาบาลพัทลุง เมื่อเวลา 07.00 น.

กระทั่งเวลา 10.45 น. พระครูพิพัฒน์สิริธร(คง สิริมโต) ก็มรณภาพลงด้วยอาการหัวใจวายอย่างปัจจุบันด้วยอาการสงบ

ขอบพระคุณข้อมูล https://www.facebook.com/media/set/?set=a.1032045763551432&type=3&_rdr
ราคาเปิดประมูล 2,950 บาท
ราคาปัจจุบัน -- ยังไม่มีผู้เสนอราคา --
เพิ่มขึ้นครั้งละ 50 บาท
วันเปิดประมูล พฤ. - 14 พ.ย. 2567 - 22:51:58 น.
วันปิดประมูล ส. - 23 พ.ย. 2567 - 22:51:58 น. (เหลือเวลา 13 ชั่วโมง 50 นาที)
ผู้ตั้งประมูล ต้นคุง (5.4K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     2,950 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     50 บาท

!!! ท่านต้อง login เข้าสู่ระบบก่อน จึงจะสามารถร่วมประมูลได้ !!!


 
(0)
  ประวัติการเสนอราคา
 
-- ยังไม่มีผู้เสนอราคา --


Copyright ©G-PRA.COM
www1