(0)(-0-)
พระผงอัฐิ(ผงกระดูกผี)"พิมพ์สามปลื้ม" วัดโพธิ์ท่าเตียน กรุงเทพมหานคร ปี ๒๔๘๕







ชื่อพระเครื่อง พระผงอัฐิ(ผงกระดูกผี)"พิมพ์สามปลื้ม" วัดโพธิ์ท่าเตียน กรุงเทพมหานคร ปี ๒๔๘๕
รายละเอียด พระผงอัฐิ(ผงกระดูกผี)"พิมพ์สามปลื้ม" วัดโพธิ์ท่าเตียน กรุงเทพมหานคร ปี๒๔๘๕..พระผงอัฐิยอดนิยมขวัญใจมหาชนคนชอบเสี่ยง-ทั้งเสี่ยงโชค-เสี่ยงภัย..สำหรับพระเนื้อผงอัฐิ(ผงกระดูกผี) วัดโพธิ์ท่าเตียน เป็นพระเครื่องที่ผู้นำไปใช้บูชาติดตัวแล้วต่างมีเรื่องเล่าขานสืบต่อกันมามากมายในด้านประสบการณ์ต่างๆ ..โดยพระรุ่นนี้มีชื่อเสียงโด่งดังมาตั้งแต่สมัยครั้งสงครามอินโดจีนล่วงเลยจนถึงในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ (ช่วงปี ๒๔๘๒-๒๔๘๘)..ในช่วงเวลานั้นได้มีพระเกจิ-อาจารย์ผู้มีวิชาอาคมเข้มขลังมากมายหลายท่านต่างร่วมแรงร่วมใจช่วยบ้านเมืองแม้จะช่วยเหลือทางตรงไม่ได้ก็ช่วยเหลือทางอ้อมโดยท่านทั้งหลายได้สร้างวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลังแจกจ่ายแก่ทหารหาญที่ออกรบ,ตำรวจ,อาสาสมัคร และประชาชนทั่วไปเพราะแทบทุกหัวระแหงสมัยนั้นได้รับผลกระทบจากภัยสงครามด้วยกันทั้งสิ้น..โดยในพระนครก็มีพระเถราจารย์หลายรูปสร้างวัตถุมงคลของขลังแจกทั่วไปเพื่อแจกจ่ายเป็นกำลังใจในยามคับขันเดือดร้อนสมัยนั้นครูบาอาจารย์เก่งๆยังมีมากแต่ละท่านต่างมีความรอบรู้ในวิชาการต่างกันไป..แต่มีพระอาจารย์ท่านหนึ่งสร้างวัตถุมงคลในรู้แบบที่ไม่เหมือนใคร..ท่านมีนามว่าพระอาจารย์หนู หรือ ขรัวตาหนู วัดโพธิ์ พระนคร ..ทราบว่าพื้นเพเป็นชาวเขมรจาริกธุดงค์มาจากที่อื่นมาจำพรรษาอยู่ ณ วัดโพธิ์ ตั้งแต่ช่วงก่อนเกิดสงครามผู้ฅนต่างรู้จักว่าขรัวตาหนูเป็นพระหมอดูซึ่งท่านดูฤกษ์ยามข้าวของหายทำนายทายทักได้แม่นยำยิ่งนัก..เล่ากันว่าขรัวตาหนูมีความชำนาญในวิชาอาคมและไสยศาสตร์มากทำให้การสร้างพระเครื่องของท่านในครั้งนั้นทำแบบพิสดารผิดแปลกไปจากการสร้างพระเครื่องของพระเกจิอาจารย์ทั่วๆไป..โดยขรัวตาหนูได้สร้างพระเครื่องเจือคุณผีขึ้นมากล่าวคือท่านได้นำเอาอัฐิ หรือ ขี้เถ้ากระดูกของคนตายมาสร้างเป็นองค์พระปิดตาด้วยท่านเห็นว่าในเวลานั้นมีผู้ฅนล้มตายเป็นจำนวนมาก วิญญาณบางดวงยังไม่ถึงที่ตายก็มีมากเรียกว่าตายก่อนกำหนดด้วยกรรมตัดรอนวิญญญาณเหล่านี้ไม่สามารถไปผุดไปเกิดได้ทันทีด้วยยังไม่ถึงกำหนดเวลาหมดอายุขัยจริงวิญญาณบางดวงยังมีความโกรธแค้นดุดันบ้างไปเข้าสิงผู้ฅนสร้างดวามเดือดร้อนซ้ำซ้อนอีกด้วยความรอบรู้แตกฉานของขรัวตาหนูจึงใช้วิธีหนามยอก ต้องเอาหนามบ่ง เมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงต้องรบราฆ่าฟัน ท่านเห็นว่าพึงคุณผีนี้ก็เร็วแรงดีทั้งเป็นการให้วิญญาณที่ท่านเลี้ยงไว้มากมายเหล่านี้ กับพวกที่ตายกันมากมายในเวลานั้น ดึงวิญญาณเหล่านั้นให้ได้สร้างกุศล ช่วยผู้ฅนอีกทาง หนึ่งท่านจึงคิดนำเอาผงเถ้ากระดูกผี ที่โดยมากเป็นผีตายโหงจากภัยสงคราม.. โดยท่านได้นำเอา อัฐิ หรือ ขี้เถ้ากระดูกของคนตายมาสร้างเป็นองค์พระปิดตาผสมกับผงพุทธคุณ, ผงอิทธิเจ และว่านอาถรรพ์ต่างๆ เช่นว่านโพงมาบดให้ละเอียดผสมเข้าไปด้วยโดยว่านชนิดนี้เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า"ว่านกระสือ"เชื่อกันว่าเป็นว่านที่มีอาถรรพ์และมีอิทธิฤทธิ์มากมักขึ้นอยู่ตามป่าลึกหากสัตว์พลัดหลงเข้าไปในบริเวณที่มีว่านชนิดนี้ขึ้นอยู่อาจถูกว่านดูดเลือดกินจนตายก็ได้ว่านโพงหรือว่านกระสือนี้อาจารย์ไสยศาสตร์ที่มีวิชาอาคมขลังมักจะชอบเลี้ยงเพื่อไว้เฝ้าบ้านซึ่งการเลี้ยงว่านชนิดนี้เลี้ยงยากกว่าว่านชนิดอื่นๆ..การที่ท่านนำเอาขี้เถ้ากระดูกของคนตายมาสร้างพระเครื่องเป็นเหตุผลของตัวท่านเองเนื่องจากขี้เถ้ากระดูกของคนตายนี้ ตามหลักของวิชาไสยศาสตร์ ถือว่าเป็นวัสดุอาถรรพณ์ชนิดหนึ่งแต่การที่จะเอาขี้เถ้ากระดูกของคนตายมาสร้างวัตถุมงคล จะต้องเป็นคนที่มีวิชาอาคมแก่กล้า ถึงจะทำได้ เพราะของแบบนี้ ย่อมมีแรงอาถรรพณ์อยู่ในตัว ขี้เถ้ากระดูกผี ที่พระอาจารย์หนูนำมาสร้างพระเครื่องนั้น ไม่ได้จำเพาะว่า จะต้องเป็นขี้เถ้ากระดูกของคนที่ตายโหง หรือตายวันเสาร์เผาวันอังคาร แต่ประการใด ขอให้เป็นขี้เถ้าของกระดูกคนที่ตายแบบไหนก็ใช้ได้ สมัยนั้น ชาวบ้านนิยมเผาคนตายตามเชิงตะกอน ช่วงสงครามมีคนตายกันมาก ขี้เถ้ากระดูกของคนตายจึงสามารถหาได้ง่าย แต่ก่อนที่จะเอาขี้เถ้ากระดูกคนตายมาใช้สร้างพระเครื่องท่านจะทำพิธีพลีกรรมก่อนทุกครั้งตามวิชาที่ได้เรียนมา..อย่างไรก็ตามแม้มวลสารที่ขรัวตาหนูนำมาใช้ในการสร้างพระปิดตาดูจะเฮี้ยนๆน่ากลัว..แต่ท่านได้ทำพิธีพลีกรรมถูกต้องตามตำราทุกประการ..จึงทำให้ผู้ที่นำพระไปใช้กลับได้รับคุณอย่างเดียวเรื่องโทษยังไม่เคยปรากฏและผลที่ได้กลับแปลกคือ แรงและเร็ว พุทธคุณจะแรงและเร็ว คล้ายๆ กับเครื่องรางของขลัง ผู้นำมาใช้อธิษฐานขอสิ่งใดมักจะสมหวังเสมอและหากสมหวังดั่งใจแล้วก็ควรทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้าของเถ้ากระดูกนั้นด้วย..เมื่อมีผู้ได้รับพระไปเกิดอภินิหารนานาทำให้พระกระดูกผีวัดโพธิ์เป็นที่รู้จักล่ำลือมาจนปัจจุบันและผลที่ได้กลับแปลกประหลาดผู้นำมาใช้อธิษฐานขอสิ่งใดมักจะสมหวังเสมอ..องค์นี้สวยเดิม..เคลือบแชล็คเก่าๆ..เก่าเก็บอย่างดีมานาน..พระแท้ตัวจริงหายากมากมาย..****องค์นี้ดูง่ายแท้ทุกที่ทุกสถาบันครับ**รับประกัน**
ราคาเปิดประมูล 54,950 บาท
ราคาปัจจุบัน -- ยังไม่มีผู้เสนอราคา --
เพิ่มขึ้นครั้งละ 100 บาท
วันเปิดประมูล จ. - 18 พ.ย. 2567 - 12:15:40 น.
วันปิดประมูล พฤ. - 28 พ.ย. 2567 - 12:15:40 น. (เหลือเวลา 4 วัน 0 ชั่วโมง 26 นาที)
ผู้ตั้งประมูล pungting (2.5K)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 จ. - 18 พ.ย. 2567 - 12:15:54 น.



****กราบขออภัยกันไว้ ณ.ตรงนี้ก่อนเลยนะครับ****
****ขอขอบพระคุณทุกๆเมล์ที่สอบถามเข้ามามากมาย..แต่ผมขออนุญาตไม่ตอบราคาขั้นต่ำนะครับเนื่องจากพระมีราคาขั้นต่ำอยู่แล้ว..และที่สำคัญพระผมเท่าที่วิเคราะห์มา***คนเมล์มาถามไม่เคยเช่าหรือบางคนแค่เคาะให้กำลังใจก็ยังไม่เคาะ..ส่วนคนที่ได้เช่าไปไม่เคยเมล์มาถามสังเกตุมาเยอะครับ**..คนขายก็อยากได้ราคาสมเหตุสมผล-คนเช่าก็อยากเช่าได้ราคาถูก**เป็นสัจธรรมเรื่องธรรมดาของคำว่าพระเครื่อง**++เพราะฉะนั้นพระผมขอรอเนื้อคู่ที่อยากได้จริงเคาะได้จบจริงว่ากันตามกฎกติกา++..ชอบใจใส่ราคาไม่มีหน้าม้า-หน้าแมวแน่นอนครับ*****ขอบคุณครับ*****

*****ประสงค์เปลี่ยนบัตรตามกฎครับ *****


 
ราคาปัจจุบัน :     54,950 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     100 บาท

!!! ท่านต้อง login เข้าสู่ระบบก่อน จึงจะสามารถร่วมประมูลได้ !!!


 
(0)
  ประวัติการเสนอราคา
 
-- ยังไม่มีผู้เสนอราคา --


Copyright ©G-PRA.COM
www1