(0)
เริ่มต้น ที่ 100 ค่ะ เหรียญหลวงปู่หินรุ่น 2วัดหนองสนมจังหวัดระยอง 2498 สายเหนียวไม่ควรพลาดสภาพใช้ พุทธคุณ ยังอยู่คงเดิม








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต





ชื่อพระเครื่อง เริ่มต้น ที่ 100 ค่ะ เหรียญหลวงปู่หินรุ่น 2วัดหนองสนมจังหวัดระยอง 2498 สายเหนียวไม่ควรพลาดสภาพใช้ พุทธคุณ ยังอยู่คงเดิม
รายละเอียด เหรียญหลวงปู่หินรุ่น 2วัดหนองสนมจังหวัดระยอง 2498 สายเหนียวไม่ควรพลาดสภาพใช้ พุทธคุณ ยังอยู่คงเดิม
◎หลวงปู่หิน ถาวโร วัดหนองสนม◎
"ถ้ามีวัตถุมงคลของหลวงปู่หินอยู่กับตัวแล้ว ก็ไม่ต้องไปแสวงหาสิ่งใดอีก"
คำกล่าวของศิษยานุศิษย์รุ่นแล้วรุ่นเล่าของหลวงปู่หิน หรือพระครูวิจารณ์ธรรมกิติ
พระเกจิชื่อดังแห่งเมืองระยองและภาคตะวันออก

ถึงแม้ว่า หลวงปู่หิน ได้ละสังขารจากไปอย่างสงบ มานานกว่า 40 ปีแล้ว
แต่ความเลื่อมใสศรัทธาจากชาวเมืองระยอง ยังคงมิรู้เสื่อมคลาย

และยังคงยึดถือในหลักคำสอนที่หลวงปู่หิน ได้พร่ำสอนญาติโยมว่า "อย่าตั้งตนไว้บนความประมาท"

อัตโนประวัติ พระครูวิจารณ์ธรรมกิติ หรือ หลวงปู่หิน มีนามเดิมว่า หิน หอมหวาน เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 3
ธันวาคม 2424 ตรงกับขึ้น 12 ค่ำ เดือน 1 ที่ ต.ทับมา อ.เมือง จ.ระยอง โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายปล่อง
และนางทบ หอมหวาน มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 5 คน หลวงปู่หินเป็นบุตรคนที่ 3

ในช่วงเยาว์วัย ด.ช.หิน อายุ 12-13 ปี ได้ไปอยู่ศึกษาเล่าเรียนหนังสือกับพระภิกษุที่วัดทับ
พออ่านเขียนได้เล็กน้อย ก่อนย้ายกลับมาอยู่กับครอบครัว ช่วยเหลือบิดามารดา ประกอบอาชีพทำนา

ครั้นอายุครบ 18 ปี นายหินได้เข้ารับราชการทหาร อยู่ประจำการในกรมกองนานถึง 5 ปี พออายุ 22 ปี
นายหินได้ออกจากราชการทหาร กลับมาอยู่กับครอบครัว ช่วยเหลือบิดามารดาประกอบอาชีพเช่นเดิม

เมื่ออายุได้ 24 ปี นายหิน ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดจันทอุดม
(วัดเก๋งที่ตั้งโรงพยาบาลระยองในปัจจุบัน) โดยมีพระครูสงฆ์ วัดจันทอุดม เป็นพระอุปัชฌาย์, พระปลัดแอ่ว
วัดป่าประดู่ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการเชิง วัดหนองสนม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อวันที่ 3
กรกฎาคม 2477 ได้รับฉายาว่า "ถาวโร"

พระหินได้อยู่จำพรรษาเล่าเรียนอักขระสมัยกับอาจารย์ที่วัดหนองสนมเรื่อยมาจนถึง พ.ศ.2454 พรรษาที่ 8
ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองสนมและเป็นพระกรรมวาจาสวดนาค

พ.ศ.2466 ได้เป็นพระวินัยธรรม ฐานานุกรมในตำแหน่งของพระครูสมุทรสมานคุณ เจ้าคณะจังหวัดระยอง พ.ศ. 2468
ได้เป็นเจ้าคณะตำบลเนินพระ พ.ศ.2470 ท่านได้ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าคณะตำบลเนินพระ

พ.ศ.2481 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ในราชทินนาม
"พระครูวิจารณ์ธรรมกิติ" พ.ศ.2487 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2489
ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลทับ

หลวงปู่หิน เป็นพระสงฆ์อีกรูปหนึ่งที่มีเถระประวัติอันควรค่าแก่การศึกษา สำหรับชนรุ่นหลังเป็นอย่างยิ่ง
ตลอดชีวิตของการครองสมณเพศของท่าน ล้วนแต่มั่นคงอยู่ในศีลในธรรม

หลวงปู่หิน เป็นพระผู้ทรงธุดงคคุณ ชอบจาริกไปอยู่ตามขุนเขาป่าดงดิบเขตประเทศพม่า
โดยไม่เกรงกลัวต่อภัยอันตรายใดๆ จนมีกิตติศัพท์เลื่องลือ เป็นที่ยอมรับในทางเมตตา คงกระพันชาตรี
และคาถาอาคมขลัง

นอกจากนี้ หลวงปู่หิน ยังแตกฉานในภาษาบาลี ขอม จนได้รับการยกย่องจากฝ่ายบ้านเมืองในสมัยนั้น
โดยแต่งตั้งให้ท่านเป็นกรรมการศึกษาอำเภอ วางแผนจัดการศึกษาและสร้างโรงเรียนไว้หลายแห่ง ทำให้วัดหนองสนม
เต็มไปด้วยชาวพุทธที่เลื่อมใสศรัทธาในหลวงปู่หิน

จนกระทั่ง วัดหนองสนม เจริญรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2505 หลวงปู่หิน ได้ละสังขารไปอย่างสงบ ณ กุฏิเจ้าอาวาสวัดหนองสนม
อันเป็นกุฏิที่ท่านสร้างและอยู่จำพรรษา จนถึงวาระสุดท้าย สิริอายุ 80 พรรษา 56 มีสัทธิวิหาริก
(ลูกศิษย์ที่ท่านบวช) รวมทั้งสิ้น 1,538 รูป
สำหรับวัตถุมงคล ของ หลวงปู่หิน นั้นท่านสร้างหลายแบบด้วยกัน ทั้ง รูปหล่อ มี ๒ รุ่น เหรียญมี ๓ รุ่น ผ้ายันต์ขาวแดง อันโด่งดัง และ ผ้ายันต์พัดโบก ทางด้านค้าขาย ท่านก็มี แต่วัตถุมงคลของท่าน นั้นทำน้อยมาก และ ปัจจุบัน หาพบเจอได้ยากยิ่ง
******************************************************************
......มีพระรูปหนึ่งที่ หลวงปู่ทิม มักเล่าให้ผมฟังอยู่เสมอว่า มีวัดหนึ่งซึ่งเรียกว่า “วัดหนองสนม” มี “ท่านพ่อหิน” เป็นเจ้าอาวาส ท่านเล่าว่า...หลวงพ่อหิน เป็นพระที่หลวงพ่อสังข์เฒ่า บวชให้ โดยมี หลวงพ่อแอ่ววัดป่าประดู่เป็นพระกรรมวาจาจารย์ได้รับฉายาว่า “ถาวโร” หลังจากที่บวชแล้ว ท่านได้จำพรรษาอยู่ที่วัดทับมาประมาณ พ.ศ. 2449

.......หลวงพ่อหิน ท่านได้เล่าเรียนวิชาอาคมต่างๆ จาก หลวงพ่อสังข์เฒ่า เนื่องจากอุปนิสัยของหลวงพ่อหินนั้นท่านเป็นคนดื้อและแข็งกร้าว เป็นคนอยากลองดี โดยเหตุที่พระอุปัชฌาย์ ของท่านเป็นพระที่ดุมาก มีระเบียบวินัยจัด ใครทำผิดวินัยแล้ว หลวงพ่อสังข์เฒ่าจะต่อว่าและดุด่าทีนที คนไหนที่ท่านดุด่าแล้วไม่รู้จักจำ ท่านจะไล่ออกจากนอกวัดทันทีแต่หลวงพ่อหินท่านไม่กลัวหลวงพ่อสังข์เฒ่า ดุก็ดุไปถ้าท่านไม่ทำผิดวินัยซะอย่าง

.......เวลาวัดมีงานท่านก็ออกมาช่วยอะไรที่ไม่ดี ท่านก็ทำให้ดีขึ้น คาถาอาคมที่ตนเองเล่าเรียนมา ถ้าไม่รู้ท่านจะรีบถาม “หลวงพ่อสังข์เฒ่า” ทันทีจึงทำให้หลวงพ่อสังข์เฒ่าท่านรักหลวงพ่อหินมาก และก็ได้ถ่ายทอดวิชาต่างๆ ให้หลวงพ่อหินจนหมด

.......หลวงปู่ทิม ได้เล่าว่า หลวงพ่อหินมีวิชาคงกระพันสูง สามารถปลุกเสกผ้าและหมากพลูให้เป็นสัตว์ต่างๆได้สมัยที่ท่านไปกราบหลวงพ่อหินที่วัดหนองสนม ได้สนทนาธรรมกับหลวงพ่อเคยเอ่ยถามหลวงพ่อหินว่า “เรื่องคาถาอาคมนั้นมีจริงหรือไม่? และท่านพ่อมีความเชื่อในด้านคาถาที่เกี่ยวกับเสกของให้เป็นสัตว์นั้นเป็นจริงหรือ?”

.......หลวงพ่อหิน ได้ฟังเช่นนั้นท่านก็ไม่ตอบได้แต่ยิ้ม สักพักหนึ่งท่านก็กวักมือทำเป็นเรียกตัวอะไรให้ออกมาจากใต้โต๊ะ ปรากฏว่าเป็นลูกหนูตัวหนึ่ง ซึ่งท่านเอามือเคาะที่พื้นเบาๆ ลูกหนูตัวนั้นก็วิ่งไปที่มือของท่านหลวงปู่ทิมเห็นเช่นนั้นก็มองดู สักพักหนึ่งปรากฏว่าลูกหนูที่อยู่ในมือหลวงพ่อหินกลายเป็นเส้นด้ายขดหนึ่ง

.......ท่านมองหลวงปู่ทิมและพูดว่า “คาถาอาคมที่เราถืออยู่ทุกวันนี้ ถ้าคิดว่าเป็นจริงมันก็จริง แต่คนที่จะทำถึงขั้นนี้ได้ ต้องฝึกจิตมาเป็นอย่างดี” ซึ่งครั้งหนึ่ง “หลวงปู่ทิม” ก็เคยเสกผ้าให้เป็น “กระต่าย” กระโดดโลดเต้นให้ลูกศิษย์เห็นต่อหน้า “หลวงปู่แก้ว” มาแล้ว ซึ่งผมและโยมสาย แก้วสว่าง ก็อยู่ในเกตุการณ์วันนั้นด้วย

.......หลวงพ่อหิน ท่านสร้างวัตถุมงคลได้ขลังมาก เหรียญของท่านเยี่ยมยอดในด้านคงกระพัน ส่วนรูปหล่อของท่านก็หนักไปในด้านคงกระพันเช่นกัน จนคนในระยองต่างพูดเป็นเสียงเดียวว่า “ใครมีรูปหล่อของหลวงพ่อหินไม่มีวันหรอกที่จะเสียเลือดให้แก่ใคร” แสดงถึงว่า ถ้าใครคล้องเหรียญหรือรูปหล่อของท่านเชื่อขนมกินได้เลยว่า “แมลงวันไม่มีโอกาสได้ตอมเลือดอย่างแน่นอน”

.......อีกวิชาหนึ่งที่ หลวงปู่ทิม” เคยไปเรียนกับ “หลวงพ่อหิน” นั้นคือวิชาทำสีผึ้งเมตตา และหลังจากนั้นหลวงปู่ฯ ก็ได้ศึกษาเพิ่มเติมในสมุดโบราณที่จารึกโดย “หลวงพ่อสังข์เฒ่า” สีผึ้งของหลวงปู่ทิม ท่านทำได้ขลังและวิเศษมาก ผมเองทุกวันนี้ก็ใช้ติดตัวอยู่เสมอ เรื่องเมตตาไม่ต้องถามถึง เพราะตนเองใช้แล้วรู้สึกดี จึงใส่ตลับห้อยคอไว้ แต่ก็ได้ถูกเพื่อนๆ ที่รักใคร่พากันขอแบ่งไปนิดแบ่งไปหน่อยจนเวลานี้แทบจะไม่มีเหลืออีกเลยก็สมบัติผลัดกันชม จึงไม่คิดอะไรตัวเองตอนนี้ก็อายุมากขึ้นทุกวัน เรื่องเสน่ห์เห็นทีจำเป็นจะต้อง “หยุด” เสียทีถ้าไม่หยุดอนาคตคงจะไม่เหลืออะไรเป็นแน่ เพราะที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ก็ปวดหัวเต็มทนอยู่แล้ว เรียนผูกไม่ได้เรียนแก้ ก็เป็นเช่นนี้แหละ ผมพึ่งคิดได้ว่าคำพูดที่หลวงพ่อนิด วัดทับมา เคยพูดกับผมอยู่ประโยคหนึ่งที่ว่า “ถ้าเอ็งมัวแต่เรียนเรื่องเสน่ห์ สักวันหนึ่งเอ็งจะรู้ว่า “นรก” มันมีจริง
◎ พระเกจิย์ยุคเก่าเมืองระยอง◎
๑. หลวงปู่สังข์เฒ่า วัดละหารใหญ่
๒. พระวินัยธร( หลวงปู่ทอง วัดน้ำคอก)
๓. หลวงพ่อกราด วัดชากก่อไผ่
๔. พระครูวิจิตรธรรมานุวัต(หลวงพ่อวงศ์ วัดบ้านค่าย)
๕. พระเทพสิทธิการ(หลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก)
๖. พระครูสังฆการบุรพทิศ(หลวงปู่ปั้น วัดราชบัลลังค์)
๗. พระครูนิวาสธรรมสาร(หลวงพ่อโต วัดเขาบ่อทอง)
๘. หลวงพ่อหนิด วัดท่ากง
๙. พระครูพิบูลธรรมาภรณ์(หลวงพ่อหันต์ วัดปากน้ำพังราด)
๑๐. หลวงพ่อสอด วัดปากน้ำระยอง
๑๑. หลวงพ่อยอด วัดกรอกยายชา
๑๒. พระครูวิจารณ์ธัมกิตติ(หลวงพ่อหิน วัดหนองสนม)
๑๓. พระสมุทรสมานคุณ(หลวงพ่อแอ่ว วัดป่าประดู่)
๑๔. พระครูนิพัทธธรรมขันธ์ (หลวงพ่อทัด วัดห้วงหิน)
๑๕. พระครูสุจิตวิชชากร (หลวงพ่อเอม วัดบ้านเก่า)
พระเกจิอาจารย์ยุคกลางเมืองระยอง
๑. พระครูภาวนาภิรัต(หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่)
๒. พระครูอรรถโกศล(หลวงพ่อทาบ วัดกะบกขึ้นผึ้ง)
๓. หลวงพ่อเพ่ง วัดละหารใหญ่
๔. พระภาวนานุโยค (หลวงพ่อหอม วัดชากหมาก)
๕. พระครูพิพิธวรญาณ (หลวงพ่อชื่น วัดมาบข่า)
๖. พระครูจันทรวุฒิคุณ(หลวงพ่อจันทร์ วัดตะพงนอก)
๗. พระครูพิทักษ์บุรเขต(หลวงพ่อเพาะ วัดตะพงใน)
๘. หลวงพ่อแพรว วัดยายดา
๙. พระครูสุนทรธรรมมานุศานส์ (หลวงพ่อรวย วัดท่าเรือ)
๑๐ พระครูสุทธิวัตรธรรมสุนทร(หลวงพ่อบุญ วัดบ้านนา)
๑๑ พระมงคลศีลาจารย์ (หลวงพ่อคร่ำ วัดวังหว้า)
๑๒ หลวงพ่อนิด วัดทับมา
๑๓ พระครูวิจิตรธรรมานุวัต(หลวงพ่อลัด วัดหนองกระบอก)
◎พระเกจิอาจารย์ยุคใหม่เมืองระยอง◎
๑. พระครูมนูญธรรมวัตร(หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ)
๒. พระครูสุภัททาจารคุณ(หลวงพ่อสิน วัดละหารใหญ่)
๓. หลวงพ่อภา วัดตาขัน
๔. หลวงพ่อใย วัดปากป่า
๕. หลวงพ่อเสริฐ วัดโอภาสี
๖. หลวงพ่อโต่ง วัดเภฯ
๗. หลวงพ่อแจ่ม วัดเขาสำเภาทอง
๘. อาจารย์ป๋อง วัดเขาโบสถ์
ราคาเปิดประมูล 50 บาท
ราคาปัจจุบัน 1,550 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ 50 บาท
วันเปิดประมูล อ. - 19 พ.ย. 2567 - 18:34:53 น.
วันปิดประมูล พ. - 20 พ.ย. 2567 - 18:38:26 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูล Jeab_Sirin (2.5K)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 อ. - 19 พ.ย. 2567 - 18:35:35 น.



เหรียญหลวงปู่หินรุ่น 2วัดหนองสนมจังหวัดระยอง 2498 สายเหนียวไม่ควรพลาดสภาพใช้ พุทธคุณ ยังอยู่คงเดิม
หลวงปู่หิน ถาวโร วัดหนองสนม
"ถ้ามีวัตถุมงคลของหลวงปู่หินอยู่กับตัวแล้ว ก็ไม่ต้องไปแสวงหาสิ่งใดอีก"
คำกล่าวของศิษยานุศิษย์รุ่นแล้วรุ่นเล่าของหลวงปู่หิน หรือพระครูวิจารณ์ธรรมกิติ
พระเกจิชื่อดังแห่งเมืองระยองและภาคตะวันออก

ถึงแม้ว่า หลวงปู่หิน ได้ละสังขารจากไปอย่างสงบ มานานกว่า 40 ปีแล้ว
แต่ความเลื่อมใสศรัทธาจากชาวเมืองระยอง ยังคงมิรู้เสื่อมคลาย

และยังคงยึดถือในหลักคำสอนที่หลวงปู่หิน ได้พร่ำสอนญาติโยมว่า "อย่าตั้งตนไว้บนความประมาท"

อัตโนประวัติ พระครูวิจารณ์ธรรมกิติ หรือ หลวงปู่หิน มีนามเดิมว่า หิน หอมหวาน เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 3
ธันวาคม 2424 ตรงกับขึ้น 12 ค่ำ เดือน 1 ที่ ต.ทับมา อ.เมือง จ.ระยอง โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายปล่อง
และนางทบ หอมหวาน มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 5 คน หลวงปู่หินเป็นบุตรคนที่ 3

ในช่วงเยาว์วัย ด.ช.หิน อายุ 12-13 ปี ได้ไปอยู่ศึกษาเล่าเรียนหนังสือกับพระภิกษุที่วัดทับ
พออ่านเขียนได้เล็กน้อย ก่อนย้ายกลับมาอยู่กับครอบครัว ช่วยเหลือบิดามารดา ประกอบอาชีพทำนา

ครั้นอายุครบ 18 ปี นายหินได้เข้ารับราชการทหาร อยู่ประจำการในกรมกองนานถึง 5 ปี พออายุ 22 ปี
นายหินได้ออกจากราชการทหาร กลับมาอยู่กับครอบครัว ช่วยเหลือบิดามารดาประกอบอาชีพเช่นเดิม

เมื่ออายุได้ 24 ปี นายหิน ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดจันทอุดม
(วัดเก๋งที่ตั้งโรงพยาบาลระยองในปัจจุบัน) โดยมีพระครูสงฆ์ วัดจันทอุดม เป็นพระอุปัชฌาย์, พระปลัดแอ่ว
วัดป่าประดู่ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการเชิง วัดหนองสนม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อวันที่ 3
กรกฎาคม 2477 ได้รับฉายาว่า "ถาวโร"

พระหินได้อยู่จำพรรษาเล่าเรียนอักขระสมัยกับอาจารย์ที่วัดหนองสนมเรื่อยมาจนถึง พ.ศ.2454 พรรษาที่ 8
ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองสนมและเป็นพระกรรมวาจาสวดนาค

พ.ศ.2466 ได้เป็นพระวินัยธรรม ฐานานุกรมในตำแหน่งของพระครูสมุทรสมานคุณ เจ้าคณะจังหวัดระยอง พ.ศ. 2468
ได้เป็นเจ้าคณะตำบลเนินพระ พ.ศ.2470 ท่านได้ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าคณะตำบลเนินพระ

พ.ศ.2481 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ในราชทินนาม
"พระครูวิจารณ์ธรรมกิติ" พ.ศ.2487 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2489
ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลทับ

หลวงปู่หิน เป็นพระสงฆ์อีกรูปหนึ่งที่มีเถระประวัติอันควรค่าแก่การศึกษา สำหรับชนรุ่นหลังเป็นอย่างยิ่ง
ตลอดชีวิตของการครองสมณเพศของท่าน ล้วนแต่มั่นคงอยู่ในศีลในธรรม

หลวงปู่หิน เป็นพระผู้ทรงธุดงคคุณ ชอบจาริกไปอยู่ตามขุนเขาป่าดงดิบเขตประเทศพม่า
โดยไม่เกรงกลัวต่อภัยอันตรายใดๆ จนมีกิตติศัพท์เลื่องลือ เป็นที่ยอมรับในทางเมตตา คงกระพันชาตรี
และคาถาอาคมขลัง

นอกจากนี้ หลวงปู่หิน ยังแตกฉานในภาษาบาลี ขอม จนได้รับการยกย่องจากฝ่ายบ้านเมืองในสมัยนั้น
โดยแต่งตั้งให้ท่านเป็นกรรมการศึกษาอำเภอ วางแผนจัดการศึกษาและสร้างโรงเรียนไว้หลายแห่ง ทำให้วัดหนองสนม
เต็มไปด้วยชาวพุทธที่เลื่อมใสศรัทธาในหลวงปู่หิน

จนกระทั่ง วัดหนองสนม เจริญรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2505 หลวงปู่หิน ได้ละสังขารไปอย่างสงบ ณ กุฏิเจ้าอาวาสวัดหนองสนม
อันเป็นกุฏิที่ท่านสร้างและอยู่จำพรรษา จนถึงวาระสุดท้าย สิริอายุ 80 พรรษา 56 มีสัทธิวิหาริก
(ลูกศิษย์ที่ท่านบวช) รวมทั้งสิ้น 1,538 รูป
สำหรับวัตถุมงคล ของ หลวงปู่หิน นั้นท่านสร้างหลายแบบด้วยกัน ทั้ง รูปหล่อ มี ๒ รุ่น เหรียญมี ๓ รุ่น ผ้ายันต์ขาวแดง อันโด่งดัง และ ผ้ายันต์พัดโบก ทางด้านค้าขาย ท่านก็มี แต่วัตถุมงคลของท่าน นั้นทำน้อยมาก และ ปัจจุบัน หาพบเจอได้ยากยิ่ง
******************************************************************
......มีพระรูปหนึ่งที่ หลวงปู่ทิม มักเล่าให้ผมฟังอยู่เสมอว่า มีวัดหนึ่งซึ่งเรียกว่า “วัดหนองสนม” มี “ท่านพ่อหิน” เป็นเจ้าอาวาส ท่านเล่าว่า...หลวงพ่อหิน เป็นพระที่หลวงพ่อสังข์เฒ่า บวชให้ โดยมี หลวงพ่อแอ่ววัดป่าประดู่เป็นพระกรรมวาจาจารย์ได้รับฉายาว่า “ถาวโร” หลังจากที่บวชแล้ว ท่านได้จำพรรษาอยู่ที่วัดทับมาประมาณ พ.ศ. 2449

.......หลวงพ่อหิน ท่านได้เล่าเรียนวิชาอาคมต่างๆ จาก หลวงพ่อสังข์เฒ่า เนื่องจากอุปนิสัยของหลวงพ่อหินนั้นท่านเป็นคนดื้อและแข็งกร้าว เป็นคนอยากลองดี โดยเหตุที่พระอุปัชฌาย์ ของท่านเป็นพระที่ดุมาก มีระเบียบวินัยจัด ใครทำผิดวินัยแล้ว หลวงพ่อสังข์เฒ่าจะต่อว่าและดุด่าทีนที คนไหนที่ท่านดุด่าแล้วไม่รู้จักจำ ท่านจะไล่ออกจากนอกวัดทันทีแต่หลวงพ่อหินท่านไม่กลัวหลวงพ่อสังข์เฒ่า ดุก็ดุไปถ้าท่านไม่ทำผิดวินัยซะอย่าง

.......เวลาวัดมีงานท่านก็ออกมาช่วยอะไรที่ไม่ดี ท่านก็ทำให้ดีขึ้น คาถาอาคมที่ตนเองเล่าเรียนมา ถ้าไม่รู้ท่านจะรีบถาม “หลวงพ่อสังข์เฒ่า” ทันทีจึงทำให้หลวงพ่อสังข์เฒ่าท่านรักหลวงพ่อหินมาก และก็ได้ถ่ายทอดวิชาต่างๆ ให้หลวงพ่อหินจนหมด

.......หลวงปู่ทิม ได้เล่าว่า หลวงพ่อหินมีวิชาคงกระพันสูง สามารถปลุกเสกผ้าและหมากพลูให้เป็นสัตว์ต่างๆได้สมัยที่ท่านไปกราบหลวงพ่อหินที่วัดหนองสนม ได้สนทนาธรรมกับหลวงพ่อเคยเอ่ยถามหลวงพ่อหินว่า “เรื่องคาถาอาคมนั้นมีจริงหรือไม่? และท่านพ่อมีความเชื่อในด้านคาถาที่เกี่ยวกับเสกของให้เป็นสัตว์นั้นเป็นจริงหรือ?”

.......หลวงพ่อหิน ได้ฟังเช่นนั้นท่านก็ไม่ตอบได้แต่ยิ้ม สักพักหนึ่งท่านก็กวักมือทำเป็นเรียกตัวอะไรให้ออกมาจากใต้โต๊ะ ปรากฏว่าเป็นลูกหนูตัวหนึ่ง ซึ่งท่านเอามือเคาะที่พื้นเบาๆ ลูกหนูตัวนั้นก็วิ่งไปที่มือของท่านหลวงปู่ทิมเห็นเช่นนั้นก็มองดู สักพักหนึ่งปรากฏว่าลูกหนูที่อยู่ในมือหลวงพ่อหินกลายเป็นเส้นด้ายขดหนึ่ง

.......ท่านมองหลวงปู่ทิมและพูดว่า “คาถาอาคมที่เราถืออยู่ทุกวันนี้ ถ้าคิดว่าเป็นจริงมันก็จริง แต่คนที่จะทำถึงขั้นนี้ได้ ต้องฝึกจิตมาเป็นอย่างดี” ซึ่งครั้งหนึ่ง “หลวงปู่ทิม” ก็เคยเสกผ้าให้เป็น “กระต่าย” กระโดดโลดเต้นให้ลูกศิษย์เห็นต่อหน้า “หลวงปู่แก้ว” มาแล้ว ซึ่งผมและโยมสาย แก้วสว่าง ก็อยู่ในเกตุการณ์วันนั้นด้วย

.......หลวงพ่อหิน ท่านสร้างวัตถุมงคลได้ขลังมาก เหรียญของท่านเยี่ยมยอดในด้านคงกระพัน ส่วนรูปหล่อของท่านก็หนักไปในด้านคงกระพันเช่นกัน จนคนในระยองต่างพูดเป็นเสียงเดียวว่า “ใครมีรูปหล่อของหลวงพ่อหินไม่มีวันหรอกที่จะเสียเลือดให้แก่ใคร” แสดงถึงว่า ถ้าใครคล้องเหรียญหรือรูปหล่อของท่านเชื่อขนมกินได้เลยว่า “แมลงวันไม่มีโอกาสได้ตอมเลือดอย่างแน่นอน”

.......อีกวิชาหนึ่งที่ หลวงปู่ทิม” เคยไปเรียนกับ “หลวงพ่อหิน” นั้นคือวิชาทำสีผึ้งเมตตา และหลังจากนั้นหลวงปู่ฯ ก็ได้ศึกษาเพิ่มเติมในสมุดโบราณที่จารึกโดย “หลวงพ่อสังข์เฒ่า” สีผึ้งของหลวงปู่ทิม ท่านทำได้ขลังและวิเศษมาก ผมเองทุกวันนี้ก็ใช้ติดตัวอยู่เสมอ เรื่องเมตตาไม่ต้องถามถึง เพราะตนเองใช้แล้วรู้สึกดี จึงใส่ตลับห้อยคอไว้ แต่ก็ได้ถูกเพื่อนๆ ที่รักใคร่พากันขอแบ่งไปนิดแบ่งไปหน่อยจนเวลานี้แทบจะไม่มีเหลืออีกเลยก็สมบัติผลัดกันชม จึงไม่คิดอะไรตัวเองตอนนี้ก็อายุมากขึ้นทุกวัน เรื่องเสน่ห์เห็นทีจำเป็นจะต้อง “หยุด” เสียทีถ้าไม่หยุดอนาคตคงจะไม่เหลืออะไรเป็นแน่ เพราะที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ก็ปวดหัวเต็มทนอยู่แล้ว เรียนผูกไม่ได้เรียนแก้ ก็เป็นเช่นนี้แหละ ผมพึ่งคิดได้ว่าคำพูดที่หลวงพ่อนิด วัดทับมา เคยพูดกับผมอยู่ประโยคหนึ่งที่ว่า “ถ้าเอ็งมัวแต่เรียนเรื่องเสน่ห์ สักวันหนึ่งเอ็งจะรู้ว่า “นรก” มันมีจริง
◎ พระเกจิย์ยุคเก่าเมืองระยอง◎
๑. หลวงปู่สังข์เฒ่า วัดละหารใหญ่
๒. พระวินัยธร( หลวงปู่ทอง วัดน้ำคอก)
๓. หลวงพ่อกราด วัดชากก่อไผ่
๔. พระครูวิจิตรธรรมานุวัต(หลวงพ่อวงศ์ วัดบ้านค่าย)
๕. พระเทพสิทธิการ(หลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก)
๖. พระครูสังฆการบุรพทิศ(หลวงปู่ปั้น วัดราชบัลลังค์)
๗. พระครูนิวาสธรรมสาร(หลวงพ่อโต วัดเขาบ่อทอง)
๘. หลวงพ่อหนิด วัดท่ากง
๙. พระครูพิบูลธรรมาภรณ์(หลวงพ่อหันต์ วัดปากน้ำพังราด)
๑๐. หลวงพ่อสอด วัดปากน้ำระยอง
๑๑. หลวงพ่อยอด วัดกรอกยายชา
๑๒. พระครูวิจารณ์ธัมกิตติ(หลวงพ่อหิน วัดหนองสนม)
๑๓. พระสมุทรสมานคุณ(หลวงพ่อแอ่ว วัดป่าประดู่)
๑๔. พระครูนิพัทธธรรมขันธ์ (หลวงพ่อทัด วัดห้วงหิน)
๑๕. พระครูสุจิตวิชชากร (หลวงพ่อเอม วัดบ้านเก่า)
พระเกจิอาจารย์ยุคกลางเมืองระยอง
๑. พระครูภาวนาภิรัต(หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่)
๒. พระครูอรรถโกศล(หลวงพ่อทาบ วัดกะบกขึ้นผึ้ง)
๓. หลวงพ่อเพ่ง วัดละหารใหญ่
๔. พระภาวนานุโยค (หลวงพ่อหอม วัดชากหมาก)
๕. พระครูพิพิธวรญาณ (หลวงพ่อชื่น วัดมาบข่า)
๖. พระครูจันทรวุฒิคุณ(หลวงพ่อจันทร์ วัดตะพงนอก)
๗. พระครูพิทักษ์บุรเขต(หลวงพ่อเพาะ วัดตะพงใน)
๘. หลวงพ่อแพรว วัดยายดา
๙. พระครูสุนทรธรรมมานุศานส์ (หลวงพ่อรวย วัดท่าเรือ)
๑๐ พระครูสุทธิวัตรธรรมสุนทร(หลวงพ่อบุญ วัดบ้านนา)
๑๑ พระมงคลศีลาจารย์ (หลวงพ่อคร่ำ วัดวังหว้า)
๑๒ หลวงพ่อนิด วัดทับมา
๑๓ พระครูวิจิตรธรรมานุวัต(หลวงพ่อลัด วัดหนองกระบอก)
◎พระเกจิอาจารย์ยุคใหม่เมืองระยอง◎
๑. พระครูมนูญธรรมวัตร(หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ)
๒. พระครูสุภัททาจารคุณ(หลวงพ่อสิน วัดละหารใหญ่)
๓. หลวงพ่อภา วัดตาขัน
๔. หลวงพ่อใย วัดปากป่า
๕. หลวงพ่อเสริฐ วัดโอภาสี
๖. หลวงพ่อโต่ง วัดเภฯ
๗. หลวงพ่อแจ่ม วัดเขาสำเภาทอง
๘. อาจารย์ป๋อง วัดเขาโบสถ์


ข้อมูลเพิ่มเติม 2 อ. - 19 พ.ย. 2567 - 18:36:31 น.



เหรียญหลวงปู่หินรุ่น 2วัดหนองสนมจังหวัดระยอง 2498 สายเหนียวไม่ควรพลาดสภาพใช้ พุทธคุณ ยังอยู่คงเดิม


ข้อมูลเพิ่มเติม 3 อ. - 19 พ.ย. 2567 - 18:36:46 น.



เหรียญหลวงปู่หินรุ่น 2วัดหนองสนมจังหวัดระยอง 2498 สายเหนียวไม่ควรพลาดสภาพใช้ พุทธคุณ ยังอยู่คงเดิม


 
ราคาปัจจุบัน :     1,550 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     50 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    พรบูรพา (792)

 
(0)
  ประวัติการเสนอราคา
 ผู้เสนอราคาราคาเวลา
  อ้วนดำเด้ง (929) 100 บาท อ. - 19 พ.ย. 2567 - 18:38:26 น. (ถึงราคาขั้นต่ำแล้ว)
  Bowii-mini (68)(2) 150 บาท อ. - 19 พ.ย. 2567 - 18:42:59 น.
  amnuay2499 (762) 200 บาท อ. - 19 พ.ย. 2567 - 18:43:56 น.
  Toon1905 (222) 800 บาท อ. - 19 พ.ย. 2567 - 19:05:46 น.
  amnuay2499 (762) 850 บาท อ. - 19 พ.ย. 2567 - 19:05:46 น. (Auto bid)
  Toon1905 (222) 1,000 บาท อ. - 19 พ.ย. 2567 - 19:06:35 น.
  amnuay2499 (762) 1,050 บาท อ. - 19 พ.ย. 2567 - 19:06:35 น. (Auto bid)
  Toon1905 (222) 1,100 บาท อ. - 19 พ.ย. 2567 - 19:06:47 น.
  amnuay2499 (762) 1,150 บาท อ. - 19 พ.ย. 2567 - 19:06:47 น. (Auto bid)
  Toon1905 (222) 1,200 บาท อ. - 19 พ.ย. 2567 - 19:06:59 น.
  amnuay2499 (762) 1,250 บาท อ. - 19 พ.ย. 2567 - 19:06:59 น. (Auto bid)
  makluayka (3.1K)(1) 1,300 บาท อ. - 19 พ.ย. 2567 - 20:54:17 น.
  Toon1905 (222) 1,350 บาท พ. - 20 พ.ย. 2567 - 07:55:41 น.
  makluayka (3.1K)(1) 1,400 บาท พ. - 20 พ.ย. 2567 - 07:55:41 น. (Auto bid)
  Toon1905 (222) 1,450 บาท พ. - 20 พ.ย. 2567 - 07:55:59 น.
  makluayka (3.1K)(1) 1,450 บาท พ. - 20 พ.ย. 2567 - 07:55:59 น. (Auto bid)
  Toon1905 (222) 1,500 บาท พ. - 20 พ.ย. 2567 - 08:01:52 น.
  พรบูรพา (792) 1,550 บาท พ. - 20 พ.ย. 2567 - 15:42:57 น.

Copyright ©G-PRA.COM
www1