(0)
ดินวิเศษแห่งย่านฝั่งธน หลวงพ่อพ่วง วัดกก พ.ศ.๒๔๗๓ -เนื้อดินผสมมวลสาร เผาด้วยไฟกสิน - พิมพ์ ๗ ชั้น ( พิมพ์เล็ก )








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต





ชื่อพระเครื่อง ดินวิเศษแห่งย่านฝั่งธน หลวงพ่อพ่วง วัดกก พ.ศ.๒๔๗๓ -เนื้อดินผสมมวลสาร เผาด้วยไฟกสิน - พิมพ์ ๗ ชั้น ( พิมพ์เล็ก )
รายละเอียด ดินวิเศษแห่งฝั่งธนฯ
หลวงพ่อพ่วง วัดกก พ.ศ.๒๔๗๓
-เนื้อดินผสมมวลสาร เผาด้วยไฟกสิน
- พิมพ์ ๗ ชั้น ( พิมพ์เล็ก )
-ประกันแท้
-เก๊คืนเงินเต็มจำนวน



หลวงพ่อพ่วง อดีตเจ้าอาวาสวัดกก บางขุนเทียน
พระเถราจารย์ร่วมยุคสมัยเดียวกับ ท่านเจ้าคุณเฒ่า(เอี่ยม) วัดหนัง และ หลวงปู่ไหล่ วัดกำแพง

ท่านเป็นพระเถราจารย์ทรงคุณวิเศษเป็นอย่างมาก
มีศีลาจารวัตรที่งดงาม เคร่งครัดในพระธรรมวินัย เชี่ยวชาญด้านวิปัสนาธุระ และเป็นผู้ทรงเวทวิทยาคมอันแก่กล้าไม่เป็นสองรองไครในยุคนั้นเลยทีเดียว

นอกจากนี้ ท่านยังเป็นพระอุปัชฌาย์จารย์ เช่นเดียวกับ หลวงปู่เจ้าคุณเฒ่า(เอี่ยม) วัดหนัง
ซึ่งในยุคนั้น ย่านฝั่งธนบุรี มีพระอุปัชฌาย์ เพียงแค่ ๒ รูปนี้เท่านั้น จึงกล่าวได้ว่า หลวงพ่อพ่วง ท่านเป็นพระอาจารย์องค์สำคัญอีกหนึ่งรูปเลยทีเดียว



การจัดสร้าง
หลวงพ่อพ่วงได้นำดินเหนียวจากบางบัวทองจังหวัดนนทบุรี เอามาผสมกับผงวิเศษซึ่งท่านจารสูตรสนธิขึ้นอันมี ผงอิทธิเจ ผงตรีนิสิงเห ผงปถมัง ผงมหาราช และผงพุทธคุณ ซึ่งหลวงพ่อพ่วงท่านชำนิชำนาญทางจารสูตรต่างๆ เหล่านี้มาก
นอกจากนี้ยังผสมด้วยสมุนไพรและว่านต่าง ๆ แร่บด ตลอดจน ปากเหยี่ยว ปากกา เขี้ยวเสือ เล็บเสือ งาช้าง (เป็นของจริงๆ) นำมาบดผสมลงไปด้วย
จำนวนการจัดสร้างนั้น
ท่านตั้งใจจะสร้างให้ได้ 84000 องค์

.. เมื่อกดพิมพ์เสร็จแล้วท่านได้นำเข้าเผาโดยสุมแกลบที่ลานวัด
ขณะเผาท่านจะไปเฝ้าบริกรรมปลุกเสก แสดงว่าท่านต้องการแผ่พลังจิตลงไปขณะพระได้รับความร้อน เป็นการหนุนเตโชธาตุ ซึ่งเป็นวิธีเดียวกับหลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน สุพรรณบุรี ซึ่งปลุกเสกขณะพระกำลังเผาเช่นกัน หลังจากเผาแล้ว จึงได้นำเข้าปลุกเสกภายในอุโบสถวัดกก เป็นเวลานานหลายพรรษา ท่านปลุกเสกอยู่ตลอดแทบทุกวันหลังจากทำวัตรสวดมนต์ในพระอุโบสถตั้งแต่ปี พ.ศ.2473 จนถึง ปี พ.ศ.2479 รวมแล้วได้ 6 ปีเต็ม




..เนื่องด้วย มีผู้รับพระเนื้อดินที่ท่านแจกเป็นลองยิง แล้วปรากฎว่ายิงไม่ออก จึงเป็นเหตุให้ผู้อยากรู้อยากลองกระทำกันเป็นวงกว้าง หลวงพ่อพ่วงท่านทราบข่าว เห็นไม่เป็นการอันควร จึงให้เก็บพระเนื้อดินที่ยังไม่แจกทั้งหมด ขึ้นเป็นเพดานโบถส์



++ #ข้อความต่อจากนี้คัดลอกมาจากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์เมื่อหลายปีมาแล้ว++


เรื่องความศักดิ์สิทธิ์ในวัตถุมงคลของ หลวงปู่พ่วง นั้นเป็นที่กล่าวขานกันมากในสมัยนั้นถึงเรื่องมหาอุดคงกระพัน และโดยเฉพาะทางด้านเมตตามหานิยม หลวงพ่อพ่วงวัดกกท่านนี้ยังเป็นพระกรรมวาจาจารย์ของหลวงพ่อไปล่ วัดกำแพง และหลวงพ่อไปล่ยังได้ไปเรียนวิชาจากหลวงพ่อพ่วงอีกด้วย ขนาดหลวงปู่เอี่ยม วัดหนังยังยกย่องว่า "พระอุปัชฌาย์พ่วง วัดกก องค์นี้แหละท่านเก่งจริงๆ"
นายเยื้อน บุญฟัก อายุ ๘๑ ปี เล่าให้ผู้เขียนฟังว่า คราวหนึ่งคุณแม่ของแกเองชื่อนางแปลก ป่วยหนักจึงนำตัวไปรักษาที่ “บ้านหมอไหม” ย่านบางมดนานหลายวันอาการกลับ “ทรุดลง” ไม่ดีขึ้นเลยวันหนึ่ง “นายเยื้อน” เดินผ่านกุฏิ “หลวงปู่พ่วง” ท่านเห็นจึงเรียกให้ขึ้นไปหาแล้วบอกว่า “ต้องเปลี่ยนหมอที่รักษาคุณแม่ใหม่แล้วจะหาย ไม่เช่นนั้นแม่แกตายแน่” เมื่อได้ยินเช่นนั้น “นายเยื้อน” รีบไปรับ “คุณแม่” จากบ้าน “หมอไหม” โดยอุ้มลงเรือพาไปหา “หมออ่ำ ปากคลองบางกระแนะ” ซึ่งพอไปถึง “หมออ่ำ” ก็ทำการรักษาไม่นานอาการก็ “ดีขึ้น” กระทั่งหายเป็นปกติตั้งแต่นั้นมา “นายเยื้อน” จึงเพิ่มความเคารพนับถือ “หลวงพ่อพ่วง” มากขึ้นมักบอกใครต่อใครว่า “หลวงพ่อพ่วงท่านแน่จริงไม่ต้องถามอะไรเลย ท่านก็ล่วงรู้ได้แจ่มแจ้งเหมือนตาเห็นแสดงว่าญาณของท่านสูงยิ่งนัก” ต่อมาทางคณะสงฆ์พิจารณาเห็นว่า “หลวงพ่อพ่วง” เป็นพระเถระที่ชาวบ้านเคารพนับถือและมีศีลาจารวัตรดียิ่ง สามารถปกครองพระให้มีระเบียบเรียบร้อย จึงแต่งตั้งให้เป็น “พระอุปัชฌาย์พ่วง” เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๔๐ ซึ่ง ขณะนั้นท่านมีพรรษาได้เพียง ๒๐ พรรษาเท่านั้นเพราะสมัยนั้นพระอุปัชฌาย์ มิใช่จะตั้งกันได้ง่าย ๆ เพราะช่วงนั้นบางขุนเทียน มีเพียงรูปเดียวคือ “หลวงปู่เอี่ยม” หรือ “เจ้าคุณเฒ่าวัดหนัง” ต่อมาจึงมี “หลวงพ่อพ่วง” เพิ่มอีกเป็น ๒ รูป ดังนั้นสมัยที่ “หลวงพ่อไปล่ วัดกำแพง” ทำการบวชก็มี “หลวงพ่อ” เป็นพระกรรมวาจาจารย์และหลังบวชแล้ว ก็ได้ศึกษาทางด้านวิปัสสนาและพุทธาคมจาก “หลวงพ่อพ่วง วัดกก”
อีกเรื่องที่ต้องเล่าให้ฟังคือ “พระอรุณ อรุโณ” สมัยเด็กก็บวชอยู่ที่ “วัดกก” จึงได้เป็น “ลูกศิษย์” ของ “หลวงพ่อพ่วง” เล่าว่า “หลวงพ่อพ่วงเป็นพระที่เคร่งมาก ไม่เคยจับเงินเลย ใครถวายท่านก็ให้ศิษย์เก็บเอาไว้ไม่แตะต้องทั้งสิ้น มีอยู่ครั้งหนึ่งท่านไปสวดมนต์ฉันเพลที่บ้านญาติโยมซึ่งเอาเรือมารับ พอท่านลงจากกุฏิไปแล้วลูกศิษย์ก็ออกจากกุฏิใส่กุญแจ ซึ่งกุญแจนั้นสามารถกดเข้าไปก็ล็อกได้แต่วันนั้นเมื่อล็อกแล้ว ปรากฏว่าลืมลูกกุญแจไว้ในกุฏิ ดังนั้นเมื่อ “หลวงพ่อพ่วง” กลับจากกิจนิมนต์จึงเข้ากุฏิไม่ได้แต่ท่านก็มิได้ว่ากล่าวใด ๆ สั่งให้ลูกศิษย์ไปหิ้วของที่ท่าน้ำครั้นลูกศิษย์กลับมาก็พบว่า “หลวงพ่อ” เข้าไปอยู่ในกุฏิแล้วโดยที่ประตูกุฏิยังคงปิดอยู่เช่นเดิม ซึ่งเรื่องนี้สร้างความสงสัยให้กับ “พระอรุณ อรุโณ” เป็นอย่างยิ่งแต่ก็ไม่กล้าถามเพราะทราบดีอยู่ก่อนแล้วว่า “หลวงพ่อ” มีวิชาอาคมเข้มขลัง อีกเรื่อง “หลวงพ่อน้อม” อดีตเจ้าอาวาสวัดกกเล่าให้ผู้คนฟังขณะ หลวงพ่อพ่วง สร้าง “พระเนื้อดิน” ในปี พ.ศ. ๒๔๗๓ นั้น “นายจง พึ่งพรหม” ซึ่งเป็นช่างแกะแม่พิมพ์เดินผ่านมาหลวงพ่อจึงเรียกแล้วบอกว่า “ให้ไปดู นายตู้ พึ่งพรหม น้องชายที่บ้านซิว่ายังอยู่ดีหรือ” นายจงได้ยินจึงรีบไปดูปรากฏว่า “นายตู้” ผู้น้องชายกำลังเจ็บไข้ไม่สบายจึงกลับมาบอกหลวงพ่อซึ่งท่านก็ไม่ว่ากระไรแต่ พอวันรุ่งขึ้น “นายตู้” ก็เสียชีวิต “หลวงพ่อ” จึงได้แต่บอกว่า “เขาหมดอายุแล้ว” ซึ่งเรื่องนี้ “หลวงพ่อน้อม” เล่าว่าได้ยินมากับหูของท่านเองจึงแสดงว่า “หลวงพ่อพ่วง” มีญาณวิเศษหยั่งรู้กาลชะตาของคนอื่นได้เหมือนตาเห็นนอกจากนี้ “พระอรุณ อรุโณ” ยังพูดถึงมงคลวัตถุของหลวงพ่อพ่วงว่า “พระเนื้อดินเผา” ของ หลวงพ่อพ่วง วัดกก มีพุทธคุณเยี่ยมมีคนได้รับประสบการณ์กันมากมายนับไม่ถ้วน
“คุณปู่เยื้อน บุญฟัก” เป็นอีกผู้หนึ่งที่รู้เห็นเรื่องอภินิหารของ “หลวงพ่อพ่วง วัดกก” โดยได้เล่าให้ผู้ใกล้ชิดฟังว่า “คราวหนึ่งหลวงพ่อพ่วง” ไปงานสวดสดับปกรณ์ครั้นสวดจบในหลวง “รัชกาลที่ ๕” ทรงถวายเงินที่ห่อด้วยผ้าให้ท่านโดยที่ หลวงพ่อพ่วง ไม่รู้ว่าในห่อผ้านั้นเป็นเงินจึงไปหยิบ แต่เมื่อมารู้ภายหลังท่านรีบยกเงินห่อนั้นให้ “ปู่เยื้อน” ซึ่งขณะนั้นยังเป็นเด็กและคอยติดตามหลวงพ่อไปในทุกงานรับกิจนิมนต์ พร้อมทั้งยกย่องหลวงพ่อว่าเป็นผู้ไม่ติดในโทสะ เพราะท่านไม่เคยโกรธหรือดุด่าว่าใครแต่ท่านมีตบะแรงกล้าคนเห็นจึงเกรงกลัว แม้แต่รสอาหารท่านก็ไม่หลงเพราะตลอดชีวิตสมณะของท่านเอาแต่ “ฉันเจ” กระทั่งมรณภาพเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๐ ทิ้งไว้แต่อนุสรณ์แห่งคุณงามความดีและพระเครื่องอันเข้มขลังไว้ช่วยเหลือผู้ เลื่อมใสศรัทธาต่อไป จึงนับเป็นโอกาสอันดียิ่งของท่านผู้อ่านที่สนใจมี “ของดี” ขณะที่ยังไม่มีใครสนใจราคาก็ไม่สูงแค่หลักร้อยเท่านั้น แต่วันข้างหน้าหลังจาก “เหนือลิขิต ประกาศิตฟ้าดิน” ตรงนี้นำเสนอแล้วราคาจะเป็นอย่างไรก็ไม่ทราบได้เช่นกัน.
ขอขอบคุณข้อมูลที่มา...เดลินิวส์
ราคาเปิดประมูล 100 บาท
ราคาปัจจุบัน 360 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ 10 บาท
วันเปิดประมูล จ. - 21 เม.ย. 2568 - 01:17:22 น.
วันปิดประมูล อ. - 22 เม.ย. 2568 - 16:01:07 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูล เทพพระเสาร์ (1.5K)(1)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 จ. - 21 เม.ย. 2568 - 01:32:25 น.



คลิ๊ก..รูปฆ้อน....
หรือ
พระเครื่องทั้งหมดของผู้ตั้งประมูล
+
+
.เพื่อชมรายการประมูลอื่นๆ
..
..
..
..
..
..
..คลิ๊ก..รูปฆ้อน....
หรือ
พระเครื่องทั้งหมดของผู้ตั้งประมูล
+
+
.เพื่อชมรายการประมูลอื่นๆ
..
..
..
..
..
..
..
คลิ๊ก..รูปฆ้อน....
หรือ
พระเครื่องทั้งหมดของผู้ตั้งประมูล
+
+
.เพื่อชมรายการประมูลอื่นๆ
..
..
..
..
..
..
..
คลิ๊ก..รูปฆ้อน....
หรือ
พระเครื่องทั้งหมดของผู้ตั้งประมูล
+
+
.เพื่อชมรายการประมูลอื่นๆ
..
..
..
..
..
..
..
คลิ๊ก..รูปฆ้อน....
หรือ
พระเครื่องทั้งหมดของผู้ตั้งประมูล
+
+
.เพื่อชมรายการประมูลอื่นๆ
..
..
..
..
..
..
..
คลิ๊ก..รูปฆ้อน....
หรือ
พระเครื่องทั้งหมดของผู้ตั้งประมูล
+
+
.เพื่อชมรายการประมูลอื่นๆ
..
..
..
..
..
..
..
คลิ๊ก..รูปฆ้อน....
หรือ
พระเครื่องทั้งหมดของผู้ตั้งประมูล
+
+
.เพื่อชมรายการประมูลอื่นๆ
..
..
..
..
..
..
..
คลิ๊ก..รูปฆ้อน....
หรือ
พระเครื่องทั้งหมดของผู้ตั้งประมูล
+
+
.เพื่อชมรายการประมูลอื่นๆ
..
..
..
..
..
..
..

คลิ๊ก..รูปฆ้อน....
หรือ
พระเครื่องทั้งหมดของผู้ตั้งประมูล
+
+
.เพื่อชมรายการประมูลอื่นๆ
..
..
..
..
..
..
..
คลิ๊ก..รูปฆ้อน....
หรือ
พระเครื่องทั้งหมดของผู้ตั้งประมูล
+
+
.เพื่อชมรายการประมูลอื่นๆ
..


 
ราคาปัจจุบัน :     360 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     10 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    SupotCh (872)

 
(0)
  ประวัติการเสนอราคา
 ผู้เสนอราคาราคาเวลา
  Nut2326 (767)(1) 200 บาท จ. - 21 เม.ย. 2568 - 02:01:58 น.
  BankAM (15)(3) 210 บาท จ. - 21 เม.ย. 2568 - 07:09:14 น.
  จอยเมืองลพ (1.3K)(1) 300 บาท จ. - 21 เม.ย. 2568 - 16:01:07 น. (ถึงราคาขั้นต่ำแล้ว)
  SupotCh (872) 310 บาท จ. - 21 เม.ย. 2568 - 22:11:04 น.
  จอยเมืองลพ (1.3K)(1) 320 บาท อ. - 22 เม.ย. 2568 - 15:41:17 น.
  SupotCh (872) 330 บาท อ. - 22 เม.ย. 2568 - 15:41:17 น. (Auto bid)
  จอยเมืองลพ (1.3K)(1) 350 บาท อ. - 22 เม.ย. 2568 - 15:41:39 น.
  SupotCh (872) 360 บาท อ. - 22 เม.ย. 2568 - 15:41:39 น. (Auto bid)

Copyright ©G-PRA.COM
www1